คุรุการแพทย์ – บทที่ 154 ตบหน้า! โดนตบหน้าเต็ม ๆ!

คุรุการแพทย์

บทที่ 154 ตบหน้า! โดนตบหน้าเต็ม ๆ!

บทที่ 154 ตบหน้า! โดนตบหน้าเต็ม ๆ!

เจียงไห่ยังคงแนะนำต่อไป

“คนต่อไป หานอวี่เซวียน”

“เขาเป็นหมอออร์โธปิดิกส์ ศิษย์ของปรมาจารย์เว่ยฉี!”

เพียงประโยคเดียวก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

เว่ยฉี!

เป็นหนึ่งในแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่เพียงห้าสิบคนในประเทศจีน และหนึ่งในแพทย์ออร์โธปิดิกส์ที่ยิ่งใหญ่มีเพียงไม่กี่คนในบรรดาแพทย์ห้าสิบคนนั้นด้วย

และหานอวี่เซวียนก็เป็นศิษย์ของปรมาจารย์เว่ยฉี คนอื่น ๆ จะไม่ตกใจและอิจฉาได้อย่างไร?

ใครกันคาดคิด เป็นเพียงนักศึกษาใหม่แท้ ๆ!

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน เจียงไห่ก็วาดมือออกพร้อมชี้ไปยังชายหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย

ทุกคนหันมองตาม จึงเห็นว่าคนคนนี้มีใบหน้าเรียบเฉย แต่กลับมีความเย่อหยิ่งปรากฏอยู่ระหว่างคิ้วของเขา

นักศึกษาคนอื่น ๆ จะเริ่มยืนขึ้นเมื่อพวกเขาถูกแนะนำ แต่หานอวี่เซวียนคนนี้รอจนกระทั่งเจียงไห่แนะนำเขาเสร็จและชี้มายังเขาแล้วค่อยยืนขึ้น

ชายผู้นี้หยิ่งยโสจริง ๆ

ต่อจากนั้น เจียงไห่ยังคงแนะนำต่อไป

เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ให้ตกหล่น เจียงไห่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อแนะนำนักศึกษาแต่ละคนอย่างสมบูรณ์แบบ

เพียงครู่เดียว การแนะนำตัวของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยก็เสร็จสิ้นลง

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยคนต่อไปลุกขึ้นพร้อมแนะนำตัวเอง

อาจเป็นเพราะมีนักศึกษาที่มีฐานะและความสามารถมากเกินไป เมื่อแนะนำตัวมาเรื่อย ๆ ทุกคนก็ขี้เกียจเกินกว่าจะประหลาดใจ อย่างไรชื่อของคนที่ออกจากปากของผู้บริหารมหาวิทยาลัยเหล่านี้ล้วนเป็นคนโปรดของสวรรค์กันหมดนั่นแหละ

ในตอนท้าย ทุกคนในห้องประชุมล้วนไม่เก็บมาใส่ใจ และไม่รู้สึกกดดันอีกต่อไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา การแนะนำตัวของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งก็สิ้นสุดลง

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ยังมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงซึ่งนั่งอยู่ทางด้านซ้าย

ตอนนี้ถึงเวลาของพวกเขาแล้ว เฉินอินเซิงลุกขึ้นยืนขึ้นพร้อมเอ่ยคำทันที “สวัสดีทุกคนครับ ผมรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง เฉินอินเซิง”

“ต่อไป ผมขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับตัวแทนนักศึกษาเก้าคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงของเรา”

“อันดับหนึ่ง ฟางชิว”

เฉินอินเซิงมองไปยังฟางชิว ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืน

สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังฟางชิวอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ใช่แล้ว เขาคือคนที่เสนอเรื่องโครงการฝึกงาน!”

“ผมแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว ดังนั้นผมจะไม่ลงรายละเอียดมากเกินไป แต่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบว่าในการทดสอบนี้ ฟางชิวทำคะแนนได้สมบูรณ์แบบ”

เมื่อพูดตรงนี้ เฉินอินเซิงหยุดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ “อีกอย่างหนึ่ง…”

เขาลากเสียง ทำให้ความสงสัยถูกกระตุ้นขึ้นโดยพลัน

“อะไรอีก”

“ฉันจำผู้ชายคนนี้ได้ เหมือนว่าเขาจะมีตัวตนอื่นอีกไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ นอกเหนือจากเรื่องโครงการฝึกงานแล้ว เขาก็ไม่มีน่าสนใจแล้วใช่ไหม?”

นักศึกษาและผู้บริหารต่างพึมพำ

ทุกคนล้วนสงสัยว่า ฟางชิวมีความสามารถใดอีกบ้าง

ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของทุกคน เฉินอินเซิงก็ยิ้มแล้วพูดต่อ “นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ช่วยแพทย์แผนกกระดูกและข้อ ได้รับการว่าจ้างเป็นกรณีพิเศษที่โรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของมหาวิทยาลัยของเรา”

ว้าว!

พูดจบ ทุกคนในห้องก็ตาโตเท่าไข่ห่าน

“ล้อเล่นกันใช่ไหม?”

“เหล่าเฉิน เรื่องนี้จะมาล้อเล่นกันไม่ได้นะ”

“ใช่ เขายังเป็นแค่นักศึกษา เป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่ง จะมาเป็นหมอได้ยังไง?”

นักศึกษาล้วนตกใจ ส่วนผู้บริหารเองก็เต็มไปด้วยคำถาม

“เป็นความจริงทั้งนั้นครับ”

เมื่อเผชิญกับความสงสัย เฉินอินเซิงก็อธิบายต่อ “ฟางชิวไม่เพียงเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษเท่านั้น เขายังได้รับป้ายยกย่องจากผู้ป่วยด้วย!”

ทั้งห้องตะลึงงัน ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก

ป้ายยกย่อง?

เขาไม่เพียงแค่เป็นแพทย์เท่านั้น แต่เขายังได้รับป้ายยกย่องจากคนไข้ด้วย? สำหรับนักศึกษาจำนวนหนึ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ในสายตาของครอบครัวแพทย์แผนจีน ลูกศิษย์แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ รวมถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย นี่เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นักศึกษาใหม่ที่ไม่เพียงเป็นผู้ช่วยแพทย์ แต่ยังได้รับป้ายยกย่องจากผู้ป่วยด้วย

ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ใครเล่าจะเชื่อลง

“ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าฟางชิวเก่งขนาดนี้?”

เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเองตกใจเช่นกัน

ในทางกลับกัน ชายที่ชื่อหานอวี่เซวียนซึ่งนั่งถัดจากเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยหันมองไปยังฟางชิวทันทีหลังจากได้ยินการแนะนำตัวของเขา

เขาเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เว่ยฉี ตามหลักแล้วเขาพูดได้ว่าตนเองผู้เชี่ยวชาญการจัดกระดูก

แต่หลังจากได้ยินว่าฟางชิวได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ช่วยแพทย์เป็นกรณีพิเศษ ทั้งที่ยังเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง แล้วยังได้รับป้ายยกย่อง ในใจของเขาสะดุดอย่างบอกไม่ถูก

เขาแอบเปรียบเทียบตัวเองกับฟางชิว

“อันดับสอง เจียงเหมี่ยวอวี๋”

เฉินอินเซิงกล่าวแนะนำต่อ “เธอเป็นทายาทของตระกูลการฝังเข็ม ตระกูลเจียง ได้คะแนนเต็มในการทดสอบนี้เช่นกัน ที่สำคัญเธอได้รับการฝึกฝนจากปรมาจารย์ด้านการฝังเข็ม เจิ้งกั๋วชิ่ง”

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างประหลาดใจ

พวกเขาเคยได้ยินชื่อตระกูลการฝังเข็มอย่างตระกูลเจียงมาก่อน แต่พอได้ยินชื่อของปรมาจารย์ฝังเข็ม เจิ้งกั๋วชิ่ง พวกเขาก็ประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม

ใครกันจะคาดคิดว่าในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะมีนักศึกษาที่มีทั้งภูมิหลังและจุดแข็งที่โดดเด่นเช่นนี้

“อันดับสาม จ้าวเหยียนเฉิง”

เฉินอินเซิงผายมือไปยังจ้าวเหยียนเฉิงก่อนเอ่ยต่อ “นี่คือทายาทของตระกูลการแพทย์แผนจีน ตระกูลจ้าว ได้คะแนนเต็มในการทดสอบครั้งนี้เช่นกัน”

ทุกสายตาพลันจับจ้องไปยังทั้งสามคน

คะแนนเต็มทุกคน!

ฟังดูเหมือนเยอะ แต่ในบรรดานักศึกษาที่เข้าร่วมแข่งขันความรู้ มีน้อยคนนักที่จะได้คะแนนเต็ม

คะแนนเต็มแปลว่ามีความสามารถ!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในสายตาของนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัย ฟางชิว เจียงเหมี่ยวอวี๋ และจ้าวเหยียนเฉิงเป็นศัตรูที่น่ากลัวเพียงใด

เฉินอินเซิงยังคงแนะนำต่อไป

ไม่นานนัก หลังจากแนะนำจูเปิ่นเจิ้งเสร็จ นักศึกษาทั้งเก้าคนยืนยันว่าได้รับการแนะนำทั้งหมดแล้ว

แต่เฉินอินเซิงกลับยังไม่นั่งลง เขากล่าวต่อว่า “การประชุมก็มีเท่านี้แหละครับ ทุกคนได้รู้จักกันแล้ว ดังนั้น ผมในฐานะเจ้าภาพขอแนะนำทุกท่านเกี่ยวกับขั้นตอนการแข่งขันในวันพรุ่งนี้”

หลังจากกล่าวจบ เจียงไห่ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยก็ยืนขึ้นแล้วขัดจังหวะ “เดี๋ยวก่อนครับ”

เฉินอินเซิงงุนงง

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยและนักศึกษาคนอื่นต่างงุนงงเช่นกัน

“ท่านรองเฉิน เราเตรียมการแสดงความสามารถมาด้วย จะได้สร้างความบันเทิง ให้กำลังใจทุกคนก่อนแข่งขัน ท่านรองเฉินเองก็ส่งเด็กมาแสดงด้วยสิครับ” เจียงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินดังนั้น นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนที่ทุกคนจะมองไปยังฟางชิว

ความสามารถพิเศษ?

แข่งขันกับความสามารถกับพวกเรา?

ฟางชิวเป็นเด็กเทพที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ระวังเถอะ เดี๋ยวก็ช็อกตาตั้งหรอก

เมื่อได้ยินคำขออย่างกะทันหันของเจียงไห่ เฉินอินเซิงก็ขมวดคิ้ว เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงพยักหน้าเบา ๆ “ตกลง”

เมื่อเสียงเงียบลง ทุกคนก็ปรบมืออย่างพร้อมเพรียงกันเพื่อรับชมการแสดงความสามารถของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ย

ในตอนนั้นเอง นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยทุกคนก็ลุกขึ้น

ภายใต้การกำกับของเจียงไห่ เสียงขับขานเพลงดังขึ้น

“การแพทย์แผนจีนที่ยิ่งใหญ่ มีประวัติอันยาวนาน

เราเดินไปตามทางแห่งการแสวงหา

สายลมโบราณที่ทอดยาวปะทะกับอกอันอบอุ่น ผืนน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นเจิดจรัสราวกับดวงดารา

วันนี้เราต่อสู้และแสวงหาอย่างขยันขันแข็ง พรุ่งนี้เราจะเขียนบทใหม่ในโลกแห่งพลังและความคิด

อา… ดูสิ ดูสิ เนินเขาเขียวขจีอธิษฐานเผื่อเรา

ฟังสิ ฟังสิ สายน้ำที่ทอดยาวร้องเพลงเพื่อเรา

เพื่อที่จะเป็นธรรมิกชนต่อไป เป็นการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อช่วยให้มีสุขภาพสมบูรณ์ เพื่อตอบรับการเรียกร้องของเวลา เรามีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องก้าวไป และเราจะพยายามพัฒนาตนเอง”

เสียงเพลงดังฟังชัดเพราะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยร้องเพลงด้วยความฮึกเหิม

ใบหน้าของเฉินอินเซิงพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวครึ้ม

เพลงนี้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย การร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยของพวกเขาเองนั้นถือเป็นการยั่วยุ

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่างยกยิ้ม

ตบหน้า นี่มันเป็นการตบหน้าเต็ม ๆ!

ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเสนอขอแสดงความสามารถพิเศษ ที่แท้พวกเขาก็กะจะยั่วยุเช่นนี้เอง!

ร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยถือเป็นการแสดงความสามารถตรงไหนกัน?

เมื่อเพลงประจำมหาวิทยาลัยจบลง นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยก็โพสท่าร่วมกัน ดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้อย่างดี

“ดี!”

นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่างปรบมือให้แล้วมองไปยังมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงพลางโห่ร้อง

ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยต่างก็ยืนขึ้น ค้อมศีรษะเล็กน้อย พร้อมยกยิ้มในขณะที่มองไปยังมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง

ใบหน้าของเฉินอินเซิงยิ่งทวีความน่าเกลียดน่ากลัว

ใครกันคาดคิดว่ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยจะใช้กลอุบายนี้?

นี่ไม่ใช่การพยายามทำให้เขาขายหน้าหรอกหรือ?

ทำอย่างไรได้? ทุกคนต่างมีเหตุผลในการกระทำของตนเอง

เป็นเรื่องปกติที่จะมีการแสดงเพื่อเรียกขวัญกำลังใจก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ร้องเพลงมหาวิทยาลัยแล้วอย่างไร?

พวกเขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ย ถ้าไม่ร้องเพลงประจำของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ย จะให้พวกเขาร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงหรือ?

เฉินอินเซิงหัวเสีย!

เขารู้ว่าทุกคนกำลังรอให้เขาแสดงจุดยืน ถ้าเขาปรบมือพร้อมกับคนอื่น ๆ ก็ถือว่าเขายอมรับความพ่ายแพ้ เป็นการยอมรับความพ่ายแพ้บนอาณาเขตของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย!

แน่นอนว่า เฉินอินเซิงจะไม่ปรบมือหรือยกย่องนักศึกษามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยสำหรับการร้องเพลงที่ดีของพวกเขาได้ แต่หากไม่มีคำชมหรือปรบมือก็ต้องมีเหตุผลใช่ไหม?

อย่างน้อยก็ต้องแสดงให้เห็นว่าเราดีกว่าคนอื่น!

ในขณะที่หัวใจกำลังเต้นรัว เฉินอินเซิงก็มองไปที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยตัวเอง

นักศึกษาที่เหลืออีกทั้งเจ็ดคนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงล้วนมองไปยังฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋อย่างพร้อมเพรียงกัน

แม้ว่าการพบปะครั้งนี้จะดูสงบและรื่นเริงมาก แต่เราทุกคนรู้ดีว่า การแข่งขันอย่างเงียบ ๆ ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ตอนนี้ ฝั่งมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับฝ่ายของเขาว่าจะทำมันหรือไม่?

จะสวนกลับด้วยการร้องเพลงเหรอ?

ในสายตาของทั้งเจ็ดคน การแข่งขันความสามารถนี้ง่ายเกินไป

เพราะอะไรน่ะหรือ?

แค่นึกถึงความสามารถของฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋แล้วยังต้องกล่าวอะไรอีก

เมื่อพูดถึงการร้องเพลง สองคนนี้เป็นนักร้องที่เก่งที่สุดอย่างไร้ข้อกังขา

พวกเขาเชื่อว่าตราบใดที่ฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋ก้าวไปข้างหน้า พวกเขาจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน

ใช่!

เมื่อเห็นทุกคนมุ่งความสนใจไปยังฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋ ดวงตาของเฉินอินเซิงก็พลันเปล่งประกาย

ในใจของเขาผุดความคิดหนึ่งขึ้น

ทำไมคิดไม่ถึงนะ ฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋มีความสามารถในการร้องเพลงไม่น้อย ทั้งคู่ร้องเพลงบนเวทีในพิธีเปิดครั้งก่อน ด้วยทักษะการร้องเพลงของพวกเขา แน่นอนว่าต้องสามารถเอาชนะด้านการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยได้

อย่างไรปกติแล้วทุกคนก็รู้จักเพลงประจำมหาวิทยาลัย งั้นก็ไม่น่ามีปัญหา!

คิดได้ดังนี้ เฉินอินเซิงก็ยิ้มจาง ๆ แล้วเอ่ยคำ “ท่านรองฯ เจียง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของคุณร้องเพลงได้ดีไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเรา ผมเกรงว่าพวกเขาจะค่อนข้างด้อยกว่า”

เจียงไห่ตื่นตะลึง

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยคนอื่น ๆ เองก็ถึงกับตัวแข็งค้าง

หรือว่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงเองก็ได้เตรียมการแสดงความสามารถมา ทั้งยังบังเอิญเป็นร้องเพลงเช่นกัน?

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน