คุรุการแพทย์ – บทที่ 167 แผนสาวงามใช้ไม่ได้ผล!

คุรุการแพทย์

บทที่ 167 แผนสาวงามใช้ไม่ได้ผล!

บทที่ 167 แผนสาวงามใช้ไม่ได้ผล!

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงทันที

“อดีตเพื่อนร่วมชั้น?”

“ฟางชิวกับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยรู้จักกันเหรอ?”

“พวกเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน?”

เหล่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างเวทีที่หลงใหลในความสวยของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยต่างก็ตกใจ เทพธิดาที่พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าไปพูดคุยด้วย กลับกลายเป็นคนรู้จักฟางชิวซะอย่างนั้น

ทำไมทุกอย่างถึงต้องเชื่อมโยงกับฟางชิวด้วยเลยล่ะ?

“บ้าเอ๊ย เจ้าห้ามันซ่อนผู้หญิงคนนี้ไว้ซะลึกเชียว จิ๊ ๆ เดี๋ยวเจ้าห้าจะต้องกลายเป็นศัตรูของผู้ชายทุกคนแน่นอน!” แม้ว่าซุนฮ่าวจะประหลาดใจ แต่ก็ยังคงยอมรับฟางชิวในระดับหนึ่ง

“เจ้าห้ามันได้โชคขี้หมาอะไรนักหนา ชาติที่แล้วมันเหยียบขี้หมาทุกวันเลยหรือไงวะ!” โจวเสี่ยวเทียนพูดด้วยความอิจฉา

หลังจากผ่านไปนาน แม้จะประหลาดใจ แต่ผู้คนจำนวนมากก็อยากรู้ว่าฟางชิวจะเลือกอะไร

ฟางชิวจะเลือกมหาวิทยาลัยหรือสาวสวยกันแน่? แต่ไม่ว่าฟางชิวจะเลือกอะไร มันก็ให้ผลลัพธ์ที่แย่ทั้งคู่

ทางด้านของเจียงเหมี่ยวอวี๋นั้นก็ยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอะไร เอาแต่เล่นปากกาในมืออย่างเดียว

ฟางชิวมองหน้าของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยด้วยความประหลาดใจ เขานึกไม่ถึงว่าอดีตเพื่อนร่วมชั้นของเขาจะโหดเหี้ยมขนาดนี้

ถึงยัยเจ้าเล่ห์คนนี้จะเป็นเพื่อนที่ดีตลอดมา แต่นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นการบังคับให้เขาเข้าสู่ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหรืออย่างไร?

ในเมื่อเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยมีกลยุทธ์ของเธอ ฟางชิวก็มีวิธีแก้ปัญหาของเขาเหมือนกัน!

ฟางชิวหันไปชี้ที่ผู้ชมทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีแล้วกล่าวว่า “เธอควรถามพวกเขาว่า พวกเขายินยอมที่จะปล่อยให้ฉันแพ้ไหม?” การปัดความรับผิดชอบนี้ ทำให้ฟางชิวหลุดพ้นจากสภาวะความอึดอัดทันที

“เห็นด้วย!” เมื่อฟางชิวพูดจบ จู่ ๆ เสียงตะโกนก็ดังขึ้น เป็นเหตุให้บรรยากาศอึมครึมปกคลุมไปทั่วห้องโถงที่เงียบสงัด

ทุกคนจึงมองไปยังทิศทางของเสียงตะโกนด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนพูด แล้วก็พบว่าคนที่ตะโกนนั่งอยู่ในบริเวณของนักศึกษาที่จากมหาวิทยาลัยอื่น เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอื่นก็พากันโล่งอก

“ทำไมนายต้องตื่นเต้นด้วย นายไม่ใช่นักศึกษาของที่นี่สักหน่อย ฟางชิวถามนายหรือไง”

“ใช่ ถึงนายจะเห็นด้วย แต่พวกเราก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะ”

“พวกเราไม่เห็นด้วย!”

“ไม่เห็นด้วย!”

“พวกเราอยากจะเป็นที่หนึ่งมากกว่าการเป็นสุภาพบุรุษ! พวกเราชอบที่หนึ่งมากกว่าสาวสวย!”

ทุกคนพากันตะโกนออกมา ทำให้เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วห้องโถง

แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเป็นเทพธิดา แต่พวกเขาก็รู้ว่าศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยสำคัญกว่า ใครที่กล้าเห็นด้วยกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่นจะต้องถูกมองว่าเป็นคนทรยศอย่างแน่นอน แล้วคนที่เห็นด้วยก็ยากที่จะอยู่รอดในมหาวิทยาลัยได้

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ถึงพวกเขาจะช่วยเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย แต่เธอก็แทบไม่สนใจพวกเขาเลย

เทพธิดาก็คือเทพธิดา เฝ้าดูได้แค่ไกล ๆ เท่านั้น

ถ้าพวกเขาไม่สามารถมีช่วยเหลือเทพธิดาได้ ฟางชิวก็ต้องรักษาระยะห่างจากเทพธิดาด้วย!

แล้วพวกเขาก็จะเห็นด้วยไม่ได้เด็ดขาด!

“ได้ยินไหม” ฟางชิวที่อยู่บนเวทีมองไปที่เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยขณะที่เขายิ้มอย่างไร้เดียงสา เขาก็พูดว่า “นี่คือเสียงของทุกคน”

“บางทีฉันอาจจะโชคดีชนะนายก็ได้นะ” เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยตะคอกด้วยความโกรธพลางมองไปที่อดีตเพื่อนร่วมชั้น ระหว่างนั้นเธอก็คิดว่า ทำไมฟางชิวถึงไม่ยอมติดกับ?

“ดูเหมือนว่าความมั่นใจของเธอจะมีไม่เท่าความฉลาดนะ!” ฟางชิวกล่าว

“ปากร้าย!” เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกล่าว

พิธีกรที่อยู่ด้านข้างรีบโบกมือให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เมื่อเสียงของผู้ชมค่อย ๆ เบาลงแล้ว เธอจึงพูดว่า “เอาล่ะ การต่อสู้ครั้งสุดท้าย สาม สอง หนึ่ง!”

เมื่อพิธีกรสาวพูดจบ ฟางชิวกับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยก็ออกพร้อมกัน

‘ค้อน?’

ในขณะที่ฟางชิวกำลังจะออกท่า เขาก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกำลังจะออกค้อน ฟางชิวจึงออกกระดาษทันที

ขออภัยด้วยนะ คุณอดีตเพื่อนร่วมชั้น เพราะนี่คือการแข่งขัน

“ฟางชิวชนะ!” พิธีกรประกาศทันทีว่า “มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้สิทธิ์ในการเลือกคำถาม”

เมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้ เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราว

เฉินอินเซิงกับฉีไคเหวินก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข ทว่าสีหน้าของผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ดูไม่ค่อยดีนัก และพวกเขาก็ทำได้แค่สาปแช่งในใจตัวเองเท่านั้น

ฟางชิวได้ที่หนึ่งตั้งสองครั้งไม่พอ ยังจะชนะเป่ายิ้งฉุบอีกหรือ

แผนสาวงามมันใช้ไม่ได้ผล! ยอมอ่อนข้อให้หน่อยก็ไม่ได้

ไม่มีใครว่านายหรอก! แค่ออมมือให้มันเรื่องใหญ่หรือไง?

ในรอบที่สาม ฟางชิวก็ได้คว้าสิทธิ์ในการเลือกคำถามอีกครั้ง เหล่าผู้เข้าแข่งขันเริ่มกังวลกันว่าพวกเขาจะแพ้ฟางชิวในรอบที่สามอีกรอบ

ด้านบนเวที ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทุกมหาวิทยาลัยต่างดูเศร้าสลดอย่างเห็นได้ชัด

ฟางชิวทำให้พวกเขารู้สึกว่าพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะได้เลย ราวกับว่าทุกคนอยู่ในกำมือของเขาอย่างนั้นแหละ

ดูเหมือนว่าการแข่งขันนี้ไม่ใช่การแข่งขันความรู้พื้นฐานของการแพทย์แผนจีน แต่เป็นการแข่งขันด้านความเร็วและโชคมากกว่า!

สิ่งที่ทำให้พวกเขาผิดหวังที่สุดก็คือการเปลี่ยนกฎที่เหมือนไม่เปลี่ยนกฎนี่แหละ

ก่อนเปลี่ยนกฎ ผู้ชนะก็คือฟางชิว หลังจากเปลี่ยนกฎ ผู้ชนะก็ยังคงเป็นฟางชิวเหมือนเดิม

โชคดีที่พวกเขาร่วมกันต่อต้านกฎเดิมและเรียกร้องให้เปลี่ยนกฎใหม่

“นายชนะแล้ว” บนเวที เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยส่งยิ้มให้ฟางชิวอย่างอ่อนหวานแล้วค่อยเดินไปที่ที่นั่งของเธอ

ฟางชิวกลับไปยังที่นั่งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงและหารือกับตัวแทนคนอื่น ๆ ทันทีว่าควรเลือกคำถามที่มีความยากระดับใด

ทุกคนตกลงเลือกคำถามระดับ A ซึ่งเป็นระดับที่ยากที่สุด

“นักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง พวกเธอตัดสินใจแล้วหรือยังคะว่าจะเลือกความยากระดับไหน?” พิธีกรถามในเวลาที่กำหนดเอาไว้แล้ว

“พวกเราตัดสินใจแล้วครับ” ฟางชิวพยักหน้าและพูดว่า “พวกเราเลือกระดับ A ครับ!”

จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายที่ด้านล่างเวทีทันที

“คำถามระดับ A? ไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยเหรอ?”

“เวลานี้ควรเลือกระดับ B หรือ C ต่างหาก ถ้าเลือกระดับนี้ยังไงก็ทำคะแนนได้แน่ ๆ ยังไงซะคะแนนของพวกเขาก็มากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ มาก พวกเขาต้องรักษามันไว้สิ”

“ใช่ ระดับ A คือระดับที่ยากที่สุดไม่ใช่เหรอ ถึงจะได้คะแนนสูง แต่กฎก็คือถ้าตอบผิดเกินหนึ่งในสามจะถือว่าผิดทั้งหมด! แบบนั้นจะไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียวเลยนะ!”

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่กำลังดูการแข่งขันต่างกระซิบกระซาบกันอย่างงงงวย

สิ่งที่เหล่าผู้ชมไม่รู้ก็คือ ทุกคนบนเวที ไม่ว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะมาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงหรือไม่ก็ตาม พวกเขาล้วนมีความเย่อหยิ่ง

พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องคะแนนหรอก พวกเขาอยากได้อันดับหนึ่งอย่างตรงไปตรงมามากกว่า

นี่จึงเป็นเหตุผลที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเลือกคำถามที่มีระดับความยากสูงสุด ดังนั้นมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็จะเลือกระดับที่ยากที่สุดเช่นกัน

เมื่อได้ยินคำตอบของฟางชิว พิธีกรก็พยักหน้าและพูดว่า “งั้นนักศึกษาโปรดดูที่หน้าจอ คำถามระดับ A มีคำถามสามประเภท นั่นก็คือ คำถามเกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิม คำถามเกี่ยวกับสมุนไพร และคำถามเชิงทฤษฎี แต่ละประเภทจะมีสองชุด ดังนั้นจึงมีคำถามทั้งหมดหกชุด”

“พวกเธอต้องการเลือกคำถามประเภทไหน” พิธีกรถามพลางมองไปที่ทีมมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

ฟางชิวกับเหล่าตัวแทนคุยกันอย่างเร่งรีบ ก่อนจะตัดสินใจเลือกคำถามเกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิม

พวกเขารู้ดีว่าคำถามที่ยากที่สุดต้องไม่ธรรมดา

สำหรับคำถามเกี่ยวกับสมุนไพร ทั้งเก้าคนไม่มีใครเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเลย และพวกเขาก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นคำถามเกี่ยวกับสมุนไพรจึงไม่ได้อยู่ในตัวเลือก

ส่วนคำถามเชิงทฤษฎีนั้นก็เป็นคำถามที่พวกเขาเชี่ยวชาญมากที่สุด แต่ก็อาจเป็นคำถามที่ยากที่สุดได้เช่นกัน และอาจจะยากกว่าที่คิดด้วย ดังนั้นคำถามเชิงทฤษฎีจึงต้องตัดทิ้งไป

หลังจากที่คิดอย่างรอบคอบแล้ว พวกเขาก็มีความมั่นใจในคำถามที่เกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิมมากกว่าคำถามประเภทอื่น ๆ

เนื่องจากพวกเขาจะมีความรู้พื้นฐานเรื่องใบสั่งยาแบบดั้งเดิมค่อนข้างดี อย่างไรก็คงจะไม่ยากเกินไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิงต่างก็เป็นทายาทของตระกูลการแพทย์แผนจีน แม้ว่าจะมีความรู้เกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิมไม่มากนัก แต่ก็ไม่น่าจะน้อยเกินไป

“โอเค” พิธีกรพยักหน้าแล้วพูดว่า “อ่านคำถามได้ เริ่มนับถอยหลังหนึ่งร้อยวินาที ณ บัดนี้!”

บนหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏคำถามขึ้น

“คำถามแรก…” ก่อนที่พิธีกรจะอ่านจบ เหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ได้ให้คำตอบแล้ว

พวกเขาตอบคำถามถูกต้องทั้งหมดหกข้อติดต่อกัน เจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิงได้ทำตามความคาดหวังทุกคนสำเร็จ

การที่ตอบคำถามทั้งหกข้อได้นั้น ทำให้เกิดเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มขึ้นมา

“คำถามที่เจ็ด…” พิธีกรรีบอ่านต่อ ขณะที่เธออ่าน ทุกคนก็ดูที่หน้าจอขนาดใหญ่ทันที

“หากแผลในช่องปากที่มีอาการระคายเคืองเป็นสีแดงตรงขอบแผล และส่วนกลางพบฝ้าสีขาวเคลือบอยู่ ควรใช้ใบสั่งยาแบบดั้งเดิมใด”

“A. ตำรับยากานเช่าเซี่ยเซย่ซิน B. ตำรับยาป้านเซี่ยเซย่ซิน C. ตำรับยาจงทั่งที่เกี่ยวกับไตและชี่ D. ตำรับยาจู่เย่สือเกา”

หลังจากอ่านคำถามแล้ว เหล่าตัวแทนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ต่างมองไปที่เจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิง เพราะพวกเขาไม่เข้าใจในคำถามเลย มีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีความรู้เรื่องใบสั่งยาแบบดั้งเดิม

“คำถามนี้…” เจียงเหมี่ยวอวี๋ลังเลเล็กน้อย “ยากเหมือนกันนะเนี่ย”

จ้าวเหยียนเฉิงขมวดคิ้วและดูลังเลอยู่พักหนึ่ง “คำถามบอกว่าแผลเป็นสีแดง มีฝ้าขาวเคลือบอยู่ แสดงว่าน่าจะเกิดจากอาการม้ามเย็นและหัวใจมีความร้อนสูง ฉันเลือก B”

ในขณะที่จ้าวเหยียนเฉิงกำลังจะยกมือขึ้นเพื่อตอบคำถาม แต่จู่ ๆ ฟางชิวที่เอาแต่เงียบมาตลอดก็พูดว่า “ไม่ใช่ คำตอบของคำถามนี้ควรเป็น C”

ทุกคนในทีมชะงัก

มีสองคำตอบ?

ฟางชิวที่ไม่ได้พูดอะไรตอนหกคำถามแรก แต่ทำไมจู่ ๆ เขาถึงพูดขึ้นมาตอนนี้ล่ะ?

เป็นไปได้ไหมว่าฟางชิวก็เข้าใจใบสั่งยาแบบดั้งเดิมด้วย

ขณะที่ทุกคนกำลังงงงวย ฟางชิวก็พูดว่า “คำถามบอกว่ามีฝ้าสีขาวเคลือบอยู่ตรงกลางของแผล แปลว่าม้ามและไตพร่อง แต่ถ้าแผลมีฝ้าสีเทากับสีขาวเคลือบอยู่ แปลว่าม้ามเย็นและหัวใจร้อน” ฟางชิวพูดชัดเจนมาก แต่คนอื่นก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

เพราะนี่มันนอกเหนือความรู้ของพวกเขา!

พวกเขาเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรจะฟังใครดี

“เหลือเวลาอีกสามสิบวินาที กรุณาตอบโดยเร็วที่สุดนะคะ” พิธีกรที่เพิ่งอ่านคำถามเสร็จเอ่ยเตือนขึ้นมา

เหลือเวลาอีกสามสิบวินาที?

นอกจากคำถามนี้ ยังมีอีกสามคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ ในเวลานี้เหล่าตัวแทนจึงรู้สึกร้อนรน

“ฉันเชื่อความคิดตนเอง ฉันเลือก B” จ้าวเหยียนเฉิงกล่าวออกมาทันที เพราะเขาเชื่อมั่นว่าเขาถูกต้อง

“เลือก C” ฟางชิวคัดค้านอย่างใจเย็น ไม่ยอมแพ้แต่อย่างใด

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว เหล่าตัวแทนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงทุกคนก็ปรากฏเหงื่อตรงหน้าผาก

เวลาบนหน้าจอกำลังถูกนับไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็เหลืออีกเพียง 26 วินาที

“ควรเลือกข้อไหนดี?” ตัวแทนคนหนึ่งพูดอย่างกระวนกระวายว่า “เวลาเหลือน้อยแล้ว ยังมีคำถามอีกสามข้อนะ!”

“มาโหวตด้วยการลงคะแนนกันเถอะ!”

จูเปิ่นเจิ้งกล่าวว่า “ฉันโหวตฟางชิว”

“ฉันก็ด้วย” เจียงเหมี่ยวอวี๋เอ่ยตาม

แต่ทว่า ตัวแทนคนอื่น ๆ หลายคนกลับบอกว่าพวกเขาเชื่อจ้าวเหยียนเฉิงที่เกิดในตระกูลแพทย์แผนจีนมากกว่า

ท้ายที่สุด จ้าวเหยียนเฉิงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าฟางชิว เพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินว่าฟางชิวมีความรู้เกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิม

เมื่อเห็นหลายคนสนับสนุนตนเอง จ้าวเหยียนเฉิงก็ยืนขึ้นทันทีด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “คำตอบของพวกเราคือ B”

“ผิด” พิธีกรไม่กล้ารอช้าและพูดทันทีว่า “คำตอบที่ถูกต้องคือ C!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าจ้าวเหยียนเฉิงก็แข็งค้างทันที ตัวแทนคนอื่น ๆ ก็ตกใจเช่นกัน

ฟางชิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยิ้มอย่างขมขื่น

ผู้ชมที่ด้านล่างเวทีก็พากันอุทานออกมาด้วยความเสียดาย

ตอบผิด! ห้าคะแนนหายไปแล้ว

“โปรดอ่านคำถามต่อไป!” พิธีกรไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้คิดทบทวนหรือลังเลใจ เธอกดปุ่มควบคุมหน้าจอทันที

บนหน้าจอขนาดใหญ่ คำถามที่แปดก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ถ้าตำรับยาหยินเฉียวได้รับการยืนยันว่าทำให้เลือดกำเดาไหล แล้วสูตรยาคืออะไร”

“A. ใช้จิงเจี้ยะซุ่ย ไป๋เหมาเกิน ผงเช่อไป๋ ผงจือจื่อ และผงหมู่ตันผี”

“B. ใช้จิงเจี้ยะซุ่ย ตั้นโต้วฉื่อ ไป๋เหมาเกิน ผงเช่อไป๋ และผงจือจื่อ”

“C. ใช้จิงเจี้ยะซุ่ย เจี๋ยเกิง ไป๋เหมาเกิน ผงเช่อไป๋ และผงจือจื่อ”

“D. ใช้จิงเจี้ยะซุ่ย ไป๋เหมาเกิน ผงเช่อไป๋ และผงหมู่ตันผี”

นี่…

ทุกคนตกตะลึงทันทีเมื่อเห็นคำถาม

ใครมันจะตอบได้วะ!

จำสูตรได้ก็ดีอยู่หรอก แต่ทำไมมีเรื่องบวกลบนู่นนี่นั่นอีกด้วยล่ะ

ใครจะรู้ครอบคลุมขนาดนั้น!

แต่ทว่าเวลายังคงผ่านไปเรื่อย ๆ ทำให้ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงสิบห้าวินาทีเท่านั้น

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน