คุรุการแพทย์ – บทที่ 185 ผู้อาวุโสโปรดต่อสู้กับฉัน!

คุรุการแพทย์

บทที่ 185 ผู้อาวุโสโปรดต่อสู้กับฉัน!

บทที่ 185 ผู้อาวุโสโปรดต่อสู้กับฉัน!

คำพูดของฟางชิวเรียกเสียงอื้ออึงจากทุกคนและทำให้รอบข้างเงียบสงัดลงไปทันตา

ทุกคนต่างขมวดคิ้วครุ่นคิด

พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะเห็นเส้นทางสว่างที่มุ่งตรงไปยังขั้นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งผ่านคำพูดของฟางชิว ดูเหมือนว่าการก้าวไปสู่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งจะเป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ แต่หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาก็ตระหนักก็ได้ว่า แม้ว่าวิธีการจะฟังดูดี แต่พวกเขาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยตัวเองทั้งหมด

แต่ใครจะรับประกันได้ว่าการทำเช่นนี้จะได้ผลลัพธ์ที่ดี?

ขณะนั้นก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

และอีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสอี้ยังคงตกตะลึงกับคำพูดของชายหนุ่ม

หากมีใครสักคนในที่นี้ที่สามารถเข้าใจสิ่งที่ฟางชิวพูดได้อย่างถ่องแท้ …ก็คงมีเพียงเขาเท่านั้น

ดังที่ฟางชิวกล่าว

ในตอนนั้น เขาเหน็ดเหนื่อยกับชีวิต เอาแต่ลากสังขารและวิญญาณที่อ่อนล้าไปฝึกฝน แต่ผลที่ตามมาคือไม่สามารถทะลวงผ่านได้ จนกระทั่งวันนั้นที่ตระหนักได้ถึงบางอย่างและปล่อยวางเรื่องหนักใจลง นั่นจึงนำเขาไปสู่การทะลวงผ่าน

ฟู่ว…

เมื่อนึกถึงความยากลำบากในปีที่ผ่านมา ผู้อาวุโสอี้ก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นจึงลุกขึ้นก่อนจะปรบมือเสียงดัง

หืม?

ทุกสายตาหันมองไปยังผู้อาวุโสอี้โดยพลัน

พวกเขาต่างสงสัยว่าผู้อาวุโสอี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบางสิ่งหรือไม่?

ฟางชิวเองก็มองไปยังอีกฝ่ายเช่นกัน

“การฟังคำพูดของผู้อาวุโสดีกว่าการพยายามอย่างหนักมาตลอดสิบปี! เป็นความจริงที่ว่าการเดินเป็นหมื่นลี้ดีกว่าการฟังคำพูดของคนดัง”

ผู้อาวุโสอี้กับฟางชิงมองหน้ากันด้วยความมุ่งมั่นและทั้งสองโค้งคำนับให้กัน “ขอบคุณผู้อาวุโสสำหรับการชี้แนะ”

หลังพูดจบแล้ว เขาก็ค่อย ๆ หันกลับมาและกวาดสายตามองฝูงชน “สิ่งที่ผู้อาวุโสนิรนามพูดเป็นคำพูดที่สมเหตุสมผลที่สุด ตราบใดที่เชื่อฟังเขา ฉันรับประกันว่าทุกคนจะทะลวงผ่านไปได้”

คำกล่าวนี้สร้างความตกใจให้กับทุกคนไม่น้อย

ใครจะคาดคิดว่าผู้อาวุโสอี้จะยืนหยัดสนับสนุนผู้อาวุโสนิรนามในเวลานี้

ก่อนหน้านี้ ทุกคนยังไม่อาจไว้วางใจฟางชิวได้อย่างเต็มที่ พวกเขาล้วนสงสัยและไม่เชื่อในคำพูดสวยหรูของเขา

แต่วันนี้…

ทันทีที่ผู้อาวุโสอี้เอ่ยปาก ความสงสัยในใจของพวกเขาพลันสลายหายไป

ผู้อาวุโสอี้คือใคร?

ผู้อาวุโสอี้เป็นหนึ่งในบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในแวดวงศิลปะการต่อสู้เจียงจิง และเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ ทั้งยังเป็นผู้จัดการแข่งขันในครั้งนี้อีกด้วย

ผู้อาวุโสอี้เป็นใคร?

ผู้ที่ก้าวผ่านไปสู่ขั้นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง!

ในเมื่อเขากล่าวว่าคำพูดของฟางชิวนั้นยอดเยี่ยมที่สุด นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

เมื่อเป็นดังนี้ทุกคนก็สั่นระริกด้วยความตื่นเต้น

“จริงเหรอ จริง ๆ น่ะเหรอ?”

“ใครจะคิดกันล่ะว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสนิรนามพูดจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”

“การเลื่อนขั้นสู่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ในที่สุดก็มีโอกาสสินะ ว้ากกกก!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันต้องทะลวงผ่านไปได้แน่นอน!”

เสียงพูดคุยจอแจดังขึ้นไม่หยุดจนทั่วพื้นที่ปกคลุมไปด้วยเสียงอึกทึก

“ผู้อาวุโส”

ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นและพูดคุยกันอย่างออกรส ผู้อาวุโสอี้ก็คารวะฟางชิวอีกครั้งก่อนเอ่ยคำ “ไม่ทราบว่าผมขอประลองกับผู้อาวุโสได้ไหมครับ?”

เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาทุกคนพลันเงียบปากทันทีพร้อมมองไปยังผู้อาวุโสอี้และชายหนุ่ม

ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสนิรนามผู้นี้ต่อสู้กับผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นไม่ค่อยน่าชมเท่าไรนัก แต่ทุกครั้งที่สิ้นสุดการแข่งขัน ผู้อาวุโสจะแสดงความกล้าหาญในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะต่อกรกลับไปยังคู่ต่อสู้จนอยู่หมัด

สิ่งนี้ยังนำไปสู่ความจริงที่ว่าแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าผู้อาวุโสทรงพลังเพียงใด กระนั้นก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับไหน

ถ้าผู้อาวุโสอี้ลงสนาม…

ผู้อาวุโสนิรนามคนนี้จะยังทำตัวสบาย ๆ และไม่แยแสหมือนเมื่อก่อนได้หรือไม่?

ต่อหน้าผู้อาวุโสอี้ ชายลึกลับจะยังคงแสดงอำนาจในการชี้นำได้หรือไม่?

ทุกคนล้วนอยากรู้

แต่อีกด้านหนึ่ง เหอเกาหมิงผู้หมดหวังที่จะขึ้นสังเวียนรู้สึกกระวนกระวายใจทันที

สายตาที่มองผู้อาวุโสอี้ไม่มีเคารพเหมือนเก่าก่อน แต่กลับกลายเป็นคำตำหนิ

เพื่ออะไร?

นี่มันอะไร?

ตัดหน้าเขาได้อย่างไร!

ฉันรอมานานนะเฟ้ย แม้ว่าท่านจะเป็นชายชรา แม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของท่าน แต่จะแซงคิวแบบนี้ไม่ได้! เงินก็จ่าย อย่างนี้ที่จ่ายไปไม่สูญเปล่าหรอกหรือ?

“สหายท่านนี้…”

ผู้อาวุโสอี้คารวะไปทางเหอเกาหมิงผู้ที่เต็มไปคำตำหนิ พลางเอ่ยถาม “ขออนุญาตร่วมทีมด้วยได้หรือไม่?”

เหอเกาหมิงพลันตะลึงงัน

ในใจเขายืนกรานว่าจะไม่อนุญาต

แต่ใครจะรู้ว่าผู้อาวุโสนิรนามกำลังจะจากไปเมื่อใด?

หลังจากต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า หากเขาจากไปในการแข่งขันครั้งต่อไปจะทำอย่างไร?

แต่ผู้อาวุโสอี้เองก็เป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าไม่อนุญาตจะไม่กลายเป็นการหักหน้าเขาหรือไม่?

ภายใต้การจ้องมองของผู้อาวุโสอี้และทุกคน

ชั่วขณะหนึ่ง เหอเกาหมิงก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

เมื่อเห็นดังนี้ ฟางชิวที่อยู่บนเวทีจึงยกยิ้มจาง ๆ ก่อนเอ่ยคำ “ปล่อยให้เพื่อนนักต่อสู้คนนี้ไปก่อน อย่างไรเสียพวกที่รอคิวอยู่นี่ก็ล้วนจ่ายเงินกันไปแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหอเกาหมิงก็มีความสุขขึ้นโดยพลัน

หลังจากชำเลืองมองผู้อาวุโสอี้ เขาก็รีบคารวะและโค้งคำนับทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปยังสังเวียน

เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว ผู้อาวุโสอี้ก็ตะลึงงัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น “เป็นผมเองที่รีบร้อน ในกรณีนี้ผมจะขอคำแนะนำจากผู้อาวุโสในภายหลังแล้วกันนะครับ”

ฟางชิวพยักหน้าเบา ๆ

บนสังเวียน

“ผมชื่อเหอเกาหมิง ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะด้วย”

เหอเกาหมิงยืนอยู่ตรงข้ามกับฟางชิวที่คารวะโค้งคำนับ

“เชิญ!”

ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงคารวะตอบ

ร่างของเหอเกาหมิงขยับพุ่งเข้าโจมตีฟางชิวโดยไม่รั้งรอ

เวลานั้นชายหนุ่มยังคงไม่ขยับเท้า และรอให้เหอเกาหมิงโจมตีก่อนที่ถึงออกกระบวนท่า

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันในเวลาเดียวกัน

เขาเฝ้าดูข้อบกพร่องทั้งหมดของเหอเกาหมิงอย่างระมัดระวัง

สามนาทีต่อมาปราณภายในของฟางชิวก็พุ่งสูงขึ้น ก่อนที่ร่างของเหอเกาหมิงจะกระเด็นกระดอนออกไป

“ผะ… ผู้อาวุโส”

เหอเกาหมิงรีบลดมือลงและรีบทำท่าคารวะเพื่อออกปากถามด้วยความเคารพ “โปรดชี้แนะผมด้วยครับ!!”

ชายหนุ่มมองไปยังเหอเกาหมิงแน่นิ่ง “จิตใจละเอียดถี่ถ้วนและมีไหวพริบ จงทำต่อไป ความก้าวหน้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม”

สิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นความจริง …เหอเกาหมิงทำผลงานโดยรวมได้ดีไม่น้อย

ปราศจากการปิดกั้นของหัวใจ ทั้งยังไม่มีข้อเสียด้านกำลังภายใน

“จริง ๆ เหรอครับ?”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เหอเกาหมิงก็ยกยิ้มด้วยความปีติที่เอ่อล้นหัวใจ

แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวลงจากสังเวียน จิตใจของเขาพลันคิดถึงบางอย่าง

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ฉันใช้เงินไปหนึ่งหมื่นสองพันหยวน แต่กลับได้รับคำชี้แนะเพียงเท่านี้เนี่ยนะ?

คุ้มไหม?

ไม่ใช่ว่าควรมีสิ่งที่ต้องชี้แนะมากกว่านี้หรอกหรือ?

คิดได้ดังนั้นเขาก็หยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมองฟางชิว “ผู้อาวุโส ผมใช้เงินไปมากเพื่อมาที่นี่ ได้โปรดชี้แนะให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ อย่างไรเสียวันนี้ผมก็ไม่มีธุระต้องไปทำต่อ ไม่มีอะไรต้องรีบร้อน”

ผู้คนด้านล่างสังเวียนต่างพากันพูดไม่ออก

นายมีเวลาเหลือเฟือ แต่ฉันไม่มี!

นายไม่รีบอย่างนั้นหรือ แต่ฉันรีบโว้ยยยยย!

จ่ายเงินเพื่อมาเรียนอย่างนั้นหรือ? เหอะ!

คนอื่น ๆ ฟังเพียงหนึ่งหรือสองประโยคก็รีบรุดออกไปง่วนกับการฝึกฝน แล้วนายมัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้?

ออกปากชมก็แล้ว ทำไมยังไม่พอใจอีก?

ฟางชิวมองไปยังเหอเกาหมิงนิ่งงันโดยไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

อืม …ลึก ๆ ก็กลัวว่าเงินของเหอเกาหมิงจะสูญเปล่า เขาจึงเอ่ยเสริมเพิ่มออกมา

ทว่ามีความลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมาในที่สุด “ภายในหนึ่งปี นายจะสามารถทะลวงผ่านได้อย่างแน่นอน!”

“ถ้ามีโอกาสก็สามารถทะลวงผ่านได้ภายในหกเดือน!”

“แต่ถ้าได้รับโอกาสที่ดีมาก ๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ทะลวงผ่านได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไม่ใช่แค่เหอเกาหมิงที่ตะลึงงัน แต่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณ!

“ให้ตายเถอะ! บอกเวลาได้ด้วย? นี่มันจะเจาะจงไปหน่อยไหม?”

“ผู้อาวุโสนิรนามสามารถบอกเวลาของการเลื่อนระดับได้อย่างนั้นหรือ?”

“บ้าไปแล้ว ฉันเชื่อว่าสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้เป็นความจริงมากกว่าที่จะลงรายละเอียด!”

“เหอเกาหมิงคนนี้เป็นคนมีความสามารถขนาดที่จะก้าวหน้าได้เร็วขนาดนี้เลย?”

ทุกคนตกใจไม่น้อย

เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้!

ไม่เคยได้ยินเลยว่าคนคนหนึ่งจะสามารถบอกวันเวลาในการเลื่อนระดับได้

นี่มันไม่เพ้อฝันไปหน่อยหรือ ผู้ที่ฟังรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในห้วงความฝัน…

“พูดจริงเหรอครับ?”

เหอเกาหมิงเพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอ จากนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยความดีใจ “โอกาสนั้นที่ท่านพูดถึงคืออะไรและโอกาสที่ดีคืออะไรครับ?”

“โอกาสคือเมื่อมีคนต่อสู้กับนายจนนายโกรธ”

ฟางชิวกล่าว “และโอกาสที่ดีคือการมีคนที่เหนือกว่ามานำทางให้นาย”

อันที่จริง… ฟางชิวมีอีกอย่างที่จะพูดที่ยังไม่ได้พูด เพราะกลัวว่าคำพูดนั้นจะทำให้คนตรงหน้าตกใจกลัว

นั่นคือหากได้รับคำแนะนำจากสุดยอดปรมาจารย์เช่นเขา ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ เหอเกาหมิงจะสามารถทะลวงผ่านเข้าสู่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งได้

แต่จะหาสุดยอดปรมาจารย์จากที่ไหนเพื่อมาชี้แนะให้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์!

“เข้าใจแล้วครับ”

เหอเกาหมิงโค้งคำนับพร้อมคารวะ ก่อนเอ่ยคำ “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ให้โอกาสผม”

หลังจากกล่าวจบ น่าประหลาดใจที่เขาไม่ได้ก้าวลงจากสังเวียน

แต่กลับขยับร่างพุ่งทะยานโจมตีชายหนุ่มด้วยความเร็วอีกครั้ง!!

เขาสร้างโอกาสนี้ด้วยตัวเอง

อย่างไรเสียเขาก็ยังไม่ได้ลงจากสังเวียนนี่น่า

ฟางชิวหมดคำจะพูด …ผู้ชายคนนี้!

เนื่องจากเห็นเหอเกาหมิงปรารถนาที่จะสู้อย่างแรงกล้า ฟางชิวจึงไม่ได้ออมมือ

โดยไม่ต้องรอให้เหอเกาหมิงโจมตีก่อน เขาก็เป็นฝ่ายรุกพุ่งตรงไปยังอีกฝ่ายพร้อมกับมือสองข้างที่เริ่มเคลื่อนไหวทันที

มันเป็นการปะทะอย่างรุนแรงที่ไม่ได้ใช้พลังปราณแม้แต่น้อย!

และเหอเกาหมิงยังไม่ทันเริ่ม

“โอ้ โอ้ย…”

“อ่า…”

“เจ็บ พอก่อนครับ ๆ เจ็บ!!!”

เสียงร้องโอดโอยราวกับหมูที่ถูกเชือดดังก้องไปทั่วคฤหาสน์

จากที่เห็น เหอเกาหมิงไม่มีโอกาสแม้จะสู้กลับ ทั้งยังเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำในเวลาเพียงครู่เดียว

หลังจากโจมตีไปพอสมควร

ฟางชิวจึงหยุดมือ

“โอ้ย”

“หึ ๆๆ…”

เหอเกาหมิงทรุดตัวลงบนสังเวียนพร้อมส่งเสียงร้องโอดโอย แต่เขากลับหัวเราะอย่างร่าเริงราวกับว่ามีอาการทางสมอง

และด้วยการสลับระหว่างเสียงครวญครางและเสียงหัวเราะ เหอเกาหมิงจึงก้าวลงมาจากสังเวียน

“ยอดเลย!”

ทันทีที่ก้าวออกมาจากสังเวียน เหอเกาหมิงพลันเงยหน้าตะโกนพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น “นั่นคือหนึ่งหมื่นสองพันพยวนที่เสียไปอย่างคุ้มค่า! วู้ววว คุ้มค่าจริง ๆ!”

หลังจากเห็นว่าเหอเกาหมิงถูกโจมตีกลายเป็นเรื่องดีไม่น้อย

ในตอนแรกผู้คนพากันตกตะลึงก่อนจะส่งเสียงเอะอะโวยวาย

“ผู้อาวุโส เอาชนะฉันด้วย!”

“ผู้อาวุโส ฉันหนังหนาดังเหล็กกล้า ดังนั้นท่านต้องสู้กับฉัน!”

“พวกเขามีแต่หนังหุ้มกระดูก ต่อยฉันดีกว่า ผู้อาวุโส ต่อยฉัน!”

ในชั่วขณะนั้น คำอ้อนวอนแปลก ๆ ในการขอรับการถูกต่อยทุกประเภทดังไปทั่วทั้งบริเวณ

เมื่อเห็นดังนั้น ชายหนุ่มจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก หัวเราะก็ไม่ได้

“เงียบ ทุกคนจงเงียบ!”

อีกด้าน ผู้อาวุโสอี้รีบลุกขึ้นก่อนเอ่ยบอกให้ทุกคนเงียบ แล้วจึงทำท่าคารวะฟางชิวอีกครั้งพร้อมเอ่ยคำ “ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ”

อีกแล้ว?

ฟางชิวมองไปยังผู้อาวุโสอี้และเอ่ย “มันเป็นการไม่เหมาะสมที่คุณจะแซงคิวเช่นนี้”

“ผู้อาวุโสอย่าได้กังวล”

ผู้อาวุโสอี้ยิ้มแล้วเอ่ยต่อ “…หลังจากการแข่งขันจบลง ผมจะให้ค่าตอบแทนแก่พวกเขาแน่นอน”

ฟางชิวพยักหน้าเข้าใจ “ถ้าเช่นนั้นก็มาเถอะ”

ผู้อาวุโสอี้ก้าวเข้าสู่สังเวียน

“ผู้อาวุโสครับ มีบางอย่างที่ผมไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่”

ผู้อาวุโสอี้กล่าว

“พูดมาเถอะ”

ฟางชิวเอ่ยตอบ

“ผมสังเกตเห็นการประมือก่อนหน้านี้ คุณไม่ได้ใช้พลังปราณภายใน แต่แน่นอนว่าเพราะคู่ต่อสู้สองสามคนก่อนหน้านี้ไม่มีใครทะลวงผ่านเข้าไปสู่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งได้เลย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสอี้จึงเอ่ยต่อว่า “แต่ถึงอย่างนั้น ในการประมือกับผม…”

“คุณใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีออกมาได้เลย ผมจะใช้เพียงความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งเพื่อสู้กับคุณ”

ฟางชิวกล่าวอย่างสบาย ๆ

ทั่วทั้งบริเวณพลันตกตะลึง

ใช้ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งเท่านั้น?

นี่ไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของชายลึกลับสูงกว่านั้นหรอกหรือ?

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน