บทที่ 213 ยินดีด้วย นี่คือชีพจรตั้งครรภ์!
บทที่ 213 ยินดีด้วย นี่คือชีพจรตั้งครรภ์!
ด้านนี้ หลังจากดูเงินเรียบร้อยแล้ว หลี่เหวินป๋อก็เอ่ยกับฟางชิวอีกครั้ง “แปดในสิบส่วนนี้หมายถึงจากทั้งหมดยี่สิบคน หากนายสามารถหาหญิงตั้งครรภ์แปดในสิบส่วนได้จะถือว่าเป็นผู้ชนะ ว่าไง?”
“ได้”
ฟางชิวหัวเราะเบา ๆ พลางพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยต่อ “เงินนี้เก็บไว้ก่อน อย่าลืมให้ฉันในภายหลังล่ะ”
ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของหลี่เหวินป๋อพลันครึ้มลง ขณะที่ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นในใจ
และด้านนี้ ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดต่างพูดไม่ออก
“มาเริ่มกันเลย”
ภายใต้การล้อเล่นอย่างไม่อายของฟางชิว หลี่เหวินป๋อก็กล่าวตัดบท
…เหอะ ฉันจะให้นายดีใจไปสักสองสามทีก่อน ยิ่งดีใจมากเท่าไร เมื่อตกลงมาจะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น
เมื่อกล่าวจบ ประตูห้องประชุมก็เปิดออก
เป็นเจ้าหน้าที่พาผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้หญิงคนนั้นสวมหน้ากากอนามัย อายุราวสามสิบกลาง ๆ รูปร่างไม่อ้วนหรือผอม
เมื่อเข้ามาในห้องประชุม ผู้หญิงคนนั้นไร้ซึ่งความลังเลเดินตรงไปยังโต๊ะน้ำชา ก่อนจะนั่งระหว่างทนายความและฟางชิว
“คนแรกมาแล้ว”
หลี่เหวินป๋อชำเลืองมองฟางชิวด้วยความดูถูกเหยียดหยามพลางเอ่ยถาม “สหายฟางชิวพร้อมไหม?”
ตอนนี้มาถึงเหตุการณ์สำคัญ
ทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดกลั้นหายใจ ทั้งยังอดรู้สึกประหม่าไม่ได้
เป็นเวลาหลายวันแล้ว นี่คือเวลาที่เรารอคอยไม่ใช่หรือ?
ทุกคนล้วนรอคอยและจับตามอง
ฟางชิว… นายจะจับชีพจรได้หรือไม่?
และหลี่เหวินป๋อผู้ริเริ่มให้ละครเรื่องนี้ดำเนินต่อไปจะชนะได้หรือไม่?
ในเวลานี้ ผู้ชมแอบคาดเดากันอยู่ในใจ
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าฟางชิวจะแพ้อย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครกล้าแสดงความมั่นใจออกมามากไปจนกว่าจะทราบผล
“มาเริ่มกันเลย”
เมื่อเจอกับการเยาะเย้ยของหลี่เหวินป๋อ ฟางชิวจึงเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ดี!”
หลี่เหวินป๋อพยักหน้า เมื่อเห็นว่าฟางชิวกำลังจะจับชีพจร เขาก็หัวเราะพร้อมเอ่ยถามอย่างหยอกล้อ “สหายฟางชิว ทำไมไม่ลองจับชีพจรของฉันก่อนล่ะ เผื่อว่าฉันจะมีชีพจรที่ว่า?”
“พูดมากจริง… นายท้องได้หรือไง”
ชายหนุ่มชำเลืองมองหลี่เหวินป๋อด้วยใบหน้าเรียบเฉย จากนั้นเอื้อมมือชี้ไปยังหัวของเขาพร้อมเอ่ยคำ “ตรงนี้ของนายไม่ได้พัฒนาเลยหรือไง นายตั้งครรภ์ไม่ได้ ไม่รู้หรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหลี่เหวินป๋อก็แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที
เขาต้องการฉวยโอกาสเล่นงานฟางชิว แต่ที่น่าแปลกใจคือกลับโดนสวนกลับซะงั้น ทั้งยังไม่มีคำหยาบใดแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นทำให้เขาอารมณ์เสีย อยากจะโกรธแต่ยากที่จะทำได้เพราะการถ่ายทอดสด อยากจะด่ากลับแต่ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไป
ทำได้เพียงรับความพ่ายแพ้
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดต่างเบิกบานใจ
ฝีปากของฟางชิวมีพิษสงจริง ๆ !
สมองด้อยพัฒนา? นี่ไม่ใช่เป็นการด่าว่าหลี่เหวินป๋อพิการทางสมองหรอกหรือ!
“เลิกพูดไร้สาระแล้วเริ่มสักทีเถอะ”
เมื่อเห็นความคิดเห็นที่ระเบิดเต็มหน้าจอถ่ายทอดสด ใบหน้าของหลี่เหวินป๋อพลันเรียบเฉยพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฟางชิวไร้ซึ่งความลังเลเช่นกัน วางมือบนข้อมือของผู้หญิงคนแรกที่อยู่ห่างออกไปราวหนึ่งนิ้ว ก่อนเริ่มจับชีพจร
ไม่ใช่แค่ผู้ชมที่เข้าร่วมเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดเองต่างก็กลั้นหายใจ ไม่มีใครกล้าทำเสียงรบกวนใดราวกับว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นด้วย
เช่นเดียวกับหลี่เหวินป๋อ เขามองตรงไปยังฟางชิวโดยไม่พูดอะไร
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มจับมือขวาเสร็จก็ย้ายไปมือซ้าย
ครึ่งนาทีต่อมา
“คุณไม่ได้ท้อง” ฟางชิวหยุดมือพร้อมเอ่ยคำ
เขาไม่รู้สึกถึงชีพจรตั้งครรภ์ แม้ว่าจะใช้การสัมผัสแบบสัมบูรณ์ แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการเต้นของชีพจร ดังนั้นจึงตัดตัวเลือกการตั้งครรภ์ด้วยความมั่นใจ
ในห้องถ่ายทอดสด ไม่มีใครคิดว่าฟางชิวจะใช้เวลาน้อยเพียงนี้
ใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีก็สรุปได้ …ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ?
ผู้ชมที่ไม่ได้มองฟางชิวในแง่ดีแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้จึงเริ่มสงสัยในตัวเขามากขึ้น
ถ้าสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ในเวลาเพียงหนึ่งนาที …แล้วการทดสอบทางการแพทย์แบบตะวันตกมีประโยชน์อย่างไร?
ไม่เสียเวลาไปเฉย ๆ หรอกหรือ?
ท่ามกลางผู้คนที่เต็มไปด้วยคำถาม
ฟางชิวหันมองไปยังทนายความ “เชิญประกาศผลครับ”
หลี่เหวินป๋อยังมองไปยังทนายความด้วยความลุ้นระทึก
ได้ยินเช่นนั้น
พนักงานรับรองเอกสาร หลิวอี้เฟิน ให้ผู้หญิงคนแรกถอดหน้ากากออกโดยหันหลังให้กล้อง แล้วจึงค้นหารายงานการตรวจร่างกายของหญิงสาวจากสำเนาทั้งยี่สิบฉบับที่มาจากโรงพยาบาล เปรียบเทียบบัตรประจำตัวประชาชนกับรายงานการตรวจของโรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาอยู่ที่เดิม
“เอกสารรายงานผลการตรวจของโรงพยาบาลได้ตรวจสอบแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ตั้งครรภ์จริง”
หลังเสียงประกาศ
อู้ว…
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แพทย์แผนจีนทุกคนที่ให้ความสนใจกับการแข่งขันครั้งนี้และผู้ที่สนับสนุนพลันรู้สึกโล่งอก
ยังดี! ยังดี!
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายอย่างที่คิด
ตอบถูกแล้วหนึ่งข้อ ตั้งหนึ่งข้อ!
เมื่อเทียบกับอารมณ์ของผู้สนับสนุนการแพทย์แผนจีน บรรดาผู้ที่เป็นแพทย์แผนตะวันตกเอง รวมถึงผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนตะวันตกล้วนพากันส่ายหน้าทีละคน ๆ
เด็กคนนี้ เล่นเล่ห์กลโกงใช่ไหม?
ฉันสามารถบอกได้จากการดูลักษณะร่างกาย ไม่ต้องพูดถึงการจับชีพจร ถ้าฉันอยู่ตรงนั้น ฉันก็จับแล้วบอกได้ถูกสักสองสามข้อแน่นอน
น่าจะเป็นกลโกง
ในห้องประชุม
ฮะ?
เมื่อเห็นว่าฟางชิวสามารถตอบข้อแรกได้ถูกต้อง หลี่เหวินป๋อก็แอบประหลาดใจอยู่เช่นกัน
ตอบถูกอย่างนั้นหรือ?
คงไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กคนนี้จะโชคดีเพียงนี้สินะ
การหาชีพจรตั้งครรภ์รู้ว่าไม่ท้องนั่นอาจเป็นกลโกง
ให้ฉันได้ลองถามนายดูก่อน ถ้ามีผู้หญิงที่ท้องมาจริง ๆ ฉันไม่คิดว่านายจะเล่นเล่ห์ได้อีก
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลี่เหวินป๋อก็รีบเอ่ย “เชิญคนต่อไป”
เมื่อกล่าวจบ
ผู้หญิงรูปร่างค่อนข้างท้วมก็เดินเข้ามาจากนอกห้องประชุม
ทุกคนเห็นท้องของหญิงสาวได้จากบนหน้าจอโทรศัพท์ว่ามันนูนออกมาเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าจะไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กเช่นกัน ซึ่งทำให้เธอดูเหมือนคนท้องไม่น้อย
ทันทีที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวก็มีการสนทนาในการถ่ายทอดสดทันใด
บางคนบอกว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังท้อง ในขณะที่บางคนบอกว่าเป็นของปลอม เธอไม่ได้ท้อง
แน่นอนว่าฟางชิวมองไม่เห็นความคิดเห็น
เช่นเดียวกับคนก่อนหน้า ทันทีที่ผู้หญิงคนที่สองเข้ามา เธอก็นั่งทันที
ฟางชิวเริ่มจับชีพจร
หนึ่งนาทีต่อมา หลังจับชีพจรแล้ว
ชายหนุ่มก็ยกยิ้ม ก่อนเอ่ยกับผู้หญิงคนนั้น “ม้ามของคุณค่อนข้างอ่อนแอ ขอให้หมั่นออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ทีนี้ก็ไม่ต้องห่วงแล้ว”
ผู้หญิงคนนั้นมองไปยังฟางชิวด้วยความสงสัย
“และคุณไม่ได้ท้อง”
ฟางชิวเอ่ยยืนยัน
ผู้หญิงคนนั้นตะลึงงัน
ในตอนนี้
“คุณพนักงานรับรองเชิญครับ”
หลี่เหวินป๋อเอ่ยออกมา พนักงานรับรองจึงตรวจสอบผู้หญิงคนที่สองทันที
เพียงครู่เดียว “ตรวจสอบแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ท้องจริง ๆ”
พนักงานรับรองเอกสารประกาศ
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย …ฟางชิวตอบถูกสองครั้งติด!
นี่เป็นการหลอกหลวงจริง ๆ เหรอ?
แม้ว่าจะยังคงเชื่อมั่นอยู่ในใจว่าฟางชิวจะแพ้ แต่ในตอนนี้รู้สึกว่าการแข่งขันนี้เริ่มน่าสนใจขึ้นมา
อย่างน้อยสถานการณ์ก็ไม่ได้ลำเอียงอย่างที่ทุกคนคิดตั้งแต่ต้น!
อย่างน้อย ฟางชิวยังตอบถูกเกี่ยวกับทั้งสองคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนที่สองนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มองเพียงแค่รูปร่างหน้าตา แต่ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงชีพจรของเธอ ทั้งยังมีอาการอื่นด้วย?
ถึงอย่างนั้น หลี่เหวินป๋อยังคงไม่คิดเช่นนั้น
ในความคิดของเขา เด็กคนนี้ยังคงหลอกลวงอยู่
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะดูเหมือนกำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่น้อย แต่ใครก็ตามที่ไม่โง่ย่อมรู้ว่าเขาคงไม่มองหาคนที่ถูกตัดสินว่าท้องอย่างง่ายดายสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าฟางชิวน่าจะมีจิตวิทยาบางอย่าง
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นฟางชิวย่อมต้องตอบผิด
“ต่อเถอะ คนต่อไป”
หลี่เหวินป๋อหัวเราะน้อย ๆ ก่อนเอ่ยเรียกเสียงดัง
ได้ยินดังนั้น ผู้หญิงคนที่สามก็เดินเข้ามาทางประตู
ทันทีที่หญิงคนนี้ปรากฏตัว ผู้ชมการถ่ายทอดสดพลันรู้สึกตื่นเต้น
ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นออกมา เพราะแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะสวมหน้ากาก แต่เห็นได้ชัดในแวบแรกว่าเป็นคนสวย ทั้งยังแต่งตัวยั่วยวน เข้ากับความงามแบบจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ชั่วขณะหนึ่ง
ผู้ชายหลายคนในห้องถ่ายทอดสดตื่นเต้นระริก ทั้งยังเห็นพ้องต้องกันว่าการถ่ายทอดสดนี้คุ้มค่าที่จะมาดู
แม้ว่าสองคนแรกจะไม่เข้าตา แต่เมื่อผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เธอก็ทำให้รู้สึกทันทีว่าสนามแข่งขันกลายเป็นรันเวย์
ช่างสะดุดตา
เช่นเดียวกับผู้ชม
ฟางชิวและหลี่เหวินป๋อมองไปยังผู้หญิงคนนี้ในเวลาเดียวกัน
จากหัวจรดเท้า ฟางชิวสังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้มีหน้าท้องแบนราบ ดูเหมือนว่าไม่มีสัญญาณของการตั้งครรภ์เลยแม้แต่น้อย
หลี่เหวินป๋อไม่ได้แสดงอารมณ์อื่นใดนอกจากความชื่นชมที่แสดงต่อผู้หญิงคนนี้ ราวกับกลัวว่าฟางชิวจะเห็นอะไรบางอย่างจากการแสดงออกของเขา
ผู้หญิงคนนี้สวยจริง ๆ เขาเคยเห็นมาแล้ว
เธอสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ขายาวเรียวเดินตรงไปยังโต๊ะน้ำชาแล้วนั่งลง ก่อนจะยื่นมือที่ขาวราวกับหยกให้ชายหนุ่ม
ฟางชิวก็ยื่นไปจับชีพจรพร้อมขมวดคิ้วเล็ก ๆ
“เป็นชีพจรลื่น”
เมื่อจับชีพจรได้ ฟางชิวจึงเอ่ยขึ้น “เป็นชีพจรตั้งครรภ์ หรือชีพจรลื่น”
เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกมา
ผู้ชมในการถ่ายทอดสดต่างคำถาม
ชีพจรตั้งครรภ์ต้องเป็นชีพจรลื่น?
แน่ใจว่าเป็นชีพจรตั้งครรภ์? ผู้หญิงคนนี้หุ่นดีขนาดนี้คงไม่ท้องจริง ๆ หรอกใช่ไหม?
หลี่เหวินป๋อมองฟางชิวด้วยแววตาเหยียดหยามอย่างเงียบ ๆ
หนึ่งนาทีต่อมา
“ชีพจรเต้นปกติ ไม่มีโรคอะไร”
ฟางชิวดึงมือออก ก่อยเอ่ยถาม “คุณมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ?”
“เมื่อสองเดือนก่อนค่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยตอบ
“อืม ประจำเดือนมาปกติในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาหรือเปล่าครับ?” ฟางชิวยังคงถามต่อ
“ค่อนข้างปกติค่ะ” เธอเอ่ยตอบกลับมา
“แล้ว… ช่วงนี้ประจำเดือนมาหรือเปล่าครับ?” ฟางชิวถามอีกครั้ง
“ไม่ค่ะ” เธอตอบหนักแน่น
“งั้นก็ถูกแล้ว” ฟางชิวยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ย “ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณกำลังตั้งครรภ์ เป็นชีพจรตั้งครรภ์”
ในตอนนี้เอง
“เดี๋ยวก่อน!” หลี่เหวินป๋อเลิกคิ้วจ้องมองฟางชิว “นายเพิ่งถามคำถามไปไม่กี่ครั้ง จะพิสูจน์ได้ยังไงว่าแพทย์แผนจีนสามารถจับชีพจรตั้งครรภ์ได้ถ้านายทำแบบนี้”
“อะไรคือการแพทย์แผนจีน?”
ฟางชิวมองไปยังหลี่เหวินป๋อ โดยปราศจากความกลัวพลางเอ่ยต่อ “ในทางการแพทย์แผนจีน การวินิจฉัยทั้งสี่คือการดู การดม การถาม และการตรวจชีพจร ซึ่งเป็นรากฐานของการแพทย์แผนจีน เหตุผลที่ฉันถามคือบนพื้นฐานของการรู้สึกถึงชีพจร นายไม่ได้ยินเหรอ?”
“ได้ยินอะไร” หลี่เหวินป๋อตื่นตระหนก
“ในเบื้องต้น ฉันรู้สึกถึงชีพจรตั้งครรภ์แล้ว สิ่งนี้พิสูจน์ไม่ได้เหรอว่าฉันจับชีพจรได้? การซักถามเป็นเพียงการยืนยันผลโดยการตั้งคำถามบนสมมติฐานจากการที่ฉันจับชีพจรตั้งครรภ์ได้แล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฟางชิวก็มองไปยังหลี่เหวินป๋อ ก่อนเอ่ยต่อ “ฉันไม่ได้ถามโดยตรง หากนายจะปฏิเสธชีพจรตั้งครรภ์ นายลองถามตัวเองดูว่าสามารถปกปิดการตั้งครรภ์ได้หรือไม่”
หลี่เหวินป๋อตะลึงงันและพยายามจะโต้กลับแต่ไม่รู้จะพูดอะไร
วิธีการของฟางชิวแตกต่างจากที่คาดไว้ แต่ฟางชิวก็พูดถูกเช่นกัน เขารู้สึกถึงชีพจรตั้งครรภ์ก่อนจึงตัดสินผลลัพธ์ผ่านการซักถาม
นี่คงไม่เรียกว่าหลอกลวงกระมัง?
ชัดเจนว่าไม่!
เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ หลี่เหวินป๋อจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ยังไงก็เป็นวิทยาศาสตร์เทียม ฉันไม่เชื่อ นายจะถามได้อีกสักกี่คนเชียว!”
