ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยชาวสวน[农家小财主] – ตอนที่ 78 ดูหน้าเจ้าสิ

ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยชาวสวน[农家小财主]

ตอนที่ 78 ดูหน้าเจ้าสิ

หัวใจของแม่นางจ้าวอัดแน่นไปด้วยความเศร้าโศก ทว่าไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้ แม้ต้องจับจ่ายเงินโดยไม่พอใจก็ตาม เรื่องนี้ต้องโทษความโลภของหยุนชิ่วเอ๋อ!

นางยืนอยู่กลางลานบ้านพร้อมสูดหายใจเข้าลึก

อดทน

อดทนจนถึงวันที่หยุนลี่จงประสบความสำเร็จ และเมื่อถึงวันนั้น สิ่งแรกที่นางจะทำคือเฉดหัวน้องสาวผู้หยิ่งยโสของสามีออกจากบ้าน!

“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?” หยุนเชวี่ยเอ่ยถามพลางมองสีหน้าไม่สู้ดีของแม่นางจ้าว

“โอ้ ไม่มีอะไรหรอก” แม่นางจ้าวยกยิ้มพลางรวบผมขึ้น “วันนี้อากาศร้อนน่ะ ข้าเลยรู้สึกวิงเวียนนิดหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักผ่อนเถิด อย่าหักโหมจนป่วยเหมือนท่านแม่ของข้าเลย”

“เชวี่ยเอ๋อเป็นเด็กที่ฉลาดจริง ๆ”

แม่นางจ้าวแสร้งทำตัวปกติตลอดทาง จนกระทั่งเดินเข้าไปในห้องปีกตะวันตกและปิดประตู ทันใดนั้นสีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไปขณะกัดฟันและกำผ้าเช็ดหน้าแน่น

ห้องในปีกตะวันออกมีขนาดใหญ่ หยุนโม่นั่งสัปหงกอ่านหนังสือที่โต๊ะข้างหน้าต่าง เขาหันมองทางประตูทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าและต้องตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของแม่นางจ้าว

“ท่านแม่…”

แม่นางจ้าวไม่สนใจลูกชาย นางเดินปรี่ไปที่เตียงและดึงแขนของหยุนลี่จงให้ลุกขึ้นทันที “นอน ๆ ๆ ไม่กินก็นอนทั้งวัน ข้าบอกให้ตื่น!”

“เจ้าเป็นอะไร? เอะอะโวยวายทันทีที่เข้ามาในห้อง” หยุนลี่จงรู้สึกเจ็บจึงสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมด้วยความโมโห “เจ้าไม่มีคุณสมบัติของเมียบัณฑิตเลยแม้แต่น้อย!”

เท้าเล็ก ๆ ของแม่นางจ้าวไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง นางเสียหลักเซไปข้างหลังเล็กน้อย ความโกรธพลันแล่นขึ้นสู่หน้าผากก่อนเดินไปทำร้ายร่างกายสามี

“ใครจะอยากเป็นเมียบัณฑิตจน ๆ กัน? ลุกขึ้นซะ! ลุกไปอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้!”

เสื้อผ้าของหยุนลี่จงถูกแม่นางจ้าวฉีกจนขาดวิ่น เขาอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้าน “เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เจ้าเข้าไปในเมือง?”

“นอนทั้งวันจนกองหนังสือขึ้นรา แล้วท่านจะเอาอะไรไปสู้คนอื่น?”

“ข้าจำเนื้อหาในตำราได้หมดแล้ว ให้ท่องย้อนหลังยังได้” หยุนลี่จงกล่าวอย่างเฉยเมย

“เหตุใดท่านถึงไม่ผ่านการทดสอบนานหลายปีเพียงนี้?”

“มันก็แค่โชคร้าย”

หยุนลี่จงรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อถูกแทงใจดำ “ในการสอบครานี้มีกรรมการบอกว่าหากจ่ายเงินภายในสองวัน เขาจะจัดอันดับให้ตามความเหมาะสม จากนั้นเราก็นั่งเฉย ๆ รอความสำเร็จได้เลย”

“หึ…” แม่นางจ้าวแค่นเสียงหัวเราะอย่างประชดประชัน “ข้าได้ยินมาว่าเฟิงซิ่วไฉเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้ด้วย หากเขาสอบได้อันดับหนึ่งขึ้นมา การสอบครั้งนี้ของท่านก็จะล้มเหลวอีก เมื่อถึงตอนนั้นท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

คำพูดเหล่านั้นทำให้หยุนลี่จงรู้สึกโมโหอย่างมาก

เมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนที่อายุเท่ากับเฟิงสือยวิน เขาเป็นชายหนุ่มที่สง่าผ่าเผยและประสบความสำเร็จอย่างมาก!

นอกจากนี้ตระกูลจ้าวยังจ้างแม่สื่อให้มาพูดคุยเรื่องแต่งงานกับเขาโดยที่ไม่เรียกร้องสินสอดแม้แต่เหรียญเดียว อีกทั้งผู้เฒ่าจ้าวยังมอบเงินก้อนหนึ่งเพื่อให้หยุนลี่จงแต่งงานกับลูกสาวของเขา

ในตอนนี้ แม้แต่หญิงสาวผู้นั้นยังหัวเราะเยาะเขา

หยุนลี่จงจ้องมองแม่นางจ้าวด้วยสายตาจริงจังพลางเย้ยหยัน “ถ้าเจ้ารู้สึกว่าการแต่งงานกับข้าเป็นเรื่องน่าอาย ถ้าอย่างนั้นข้าจะเขียนใบหย่าให้เจ้าเอง”

เมื่อพูดจบ เขาจึงเดินไปนั่งหน้าโต๊ะหนังสือก่อนกางกระดาษซวน พับแขนเสื้อ หยิบพู่กันขึ้นมา และ ‘ฝนหมึกบนจานฝน’

“ท่านพ่อ?” หยุนโม่ยืนงงอยู่ด้านข้าง

“ฝนหมึกสิ!” หยุนลี่จงเผยสีหน้าถมึงทึงขณะกล่าวเสียงทุ้ม

แม่นางจ้าวผงะไปครู่หนึ่งก่อนส่งสายตาให้หยุนโม่ “เจ้าออกไปก่อน”

เขียนใบหย่ารึ?

หยุนลี่จง… เจ้าอยากเสวยสุขกับผู้หญิงคนใหม่จนต้องพยายามหาทางกำจัดข้าเลยรึ? หึ ฝันไปเถอะ!

“ดูเจ้าสิ ข้าเพียงบ่นด้วยความโมโหเอง” แม่นางจ้าวระบายยิ้มพลางหยิบพู่กันออกจากมือของสามีก่อนตัดพ้อ “ท่านรำคาญข้าหรือ?”

“ไม่ลองฟังสิ่งที่เจ้าพ่นออกมาล่ะ!” หยุนลี่จงยังคงโมโห

“ข้าไม่ดีเอง” แม่นางจ้าวเลื่อนมือไปแตะบ่าของเขาและบีบเบา ๆ “ท่านต้องใจเย็นก่อน อย่าใช้อารมณ์เป็นใหญ่เหมือนผู้หญิงเช่นข้าเลย”

หยุนลี่จงเป็นบุรุษ อีกทั้งยังเป็นบัณฑิต หากหย่าร้าง เขายังสามารถแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ได้

ทว่านางแตกต่างออกไป

หากหย่าร้าง นางต้องกลายเป็นแม่ม่ายและความฝันที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายของนางก็ต้องจบลงด้วยเช่นกัน

แม่นางจ้าวเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางต้องเกาะตำแหน่งนายหญิงของบ้านให้มั่น!

หยุนลี่จงนั่งตัวตรงพลางพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

“ข้าไม่ได้โกรธชิ่วเอ๋อ แต่ปิ่นทองอันนั้น แม่ของข้าเก็บไว้ให้เป็นสินเดิม…” แม่นางจ้าวร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“ข้าเอามันไปจำนำและได้เงินมาสองตำลึงเงินครึ่ง และคิดว่านำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อรองเท้าให้ท่านด้วย…”

“ท่านบอกว่าการสอบจะถูกจัดขึ้นภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้ และท่านต้องแต่งตัวให้สมกับที่เป็นบัณฑิตใช่หรือไม่? แต่ชิ่วเอ๋อ…”

“นางอยากได้ผงชาดและพัดถวนซ่าน หากข้าปฏิเสธ นางก็จะไม่พอใจ และตอนนี้เงินนั้นก็ไม่เหลือเลยสักเหรียญเดียว ท่านจะไม่ให้ข้าโมโหได้อย่างไร…”

แม่นางจ้าวร้องไห้คร่ำครวญพลางปาดน้ำตาตรงหางตา

หลังจากแม่นางจ้าวร้องไห้อยู่ครู่ใหญ่ หยุนลี่จงจึงยอมใจอ่อน “อืม เรากำลังพูดถึงใบหย่าอยู่ไม่ใช่หรือ?”

“ข้าซื้อเหล้าหมักสองไหพร้อมเครื่องเคียงมาให้ท่านพ่อด้วยเจ้าค่ะ”

“อืม ไปล้างหน้าก่อนเถอะ”

แม่นางจ้าวรีบพยักหน้าเบา ๆ และเดินออกไปทันที

ภายในปีกตะวันตก มารดาและลูกสาวนั่งพูดคุยกันอยู่บนเตียง

หยุนเชวี่ย “พี่สาวเห็นหน้าของหยุนชิ่วเอ๋อหรือยัง? ผัดแป้งเหมือนกำลังจะไปเล่นงิ้วเลย”

หยุนเยี่ยน “หากนางได้ยินเข้า นางต้องใช้ไม้ปัดขนไก่ไล่ตีเจ้าอีกครั้งแน่”

หยุนเชวี่ย “ฮ่าฮ่า ข้าแค่แสร้งพูดเยินยอ แต่นางกลับภูมิใจมาก”

แม่นางเหลียนหัวเราะออกมาขณะเย็บผ้า “อาชิ่วเอ๋อชอบแต่งตัวตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นนางจึงมีความสุขมากเมื่อได้ยินคำชมของเจ้า”

หยุนเชวี่ย “ถ้าอย่างนั้นข้าจะเยินยอให้มากที่สุดเพื่อให้นางภูมิใจ”

แม่นางเหลียนมองลูกสาว “สาวน้อยอย่าสร้างปัญหาล่ะ”

หยุนเยี่ยนรีบกล่าวคำ “ข้าไม่คิดว่าป้าสะใภ้ใหญ่จะมีความสุขนะ”

หยุนเชวี่ยโต้กลับทันที “หยุนชิ่วเอ๋อซื้อผงชาดราคาแปดสิบห้าเหรียญและรองเท้าสองสามร้อยเหรียญมาจากในเมือง ซึ่งนางต้องใช้เงินของป้าสะใภ้ใหญ่จ่ายแน่นอน”

แม่นางเหลียนตกตะลึงจนเข็มเกือบทิ่มมือ “สองสามร้อยรึ? รองเท้าอะไรแพงหูฉี่?”

“ข้าไม่รู้” หยุนเชวี่ยส่ายศีรษะ

ในชีวิตนี้นางไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เลยด้วยซ้ำ

“ข้าว่านางคงอยากเทียบตนเองกับพี่เหอเซียงเอ๋อน่ะ” หยุนเยี่ยนกล่าว

แม่นางเหลียนถอนหายใจ “เซียงเอ๋อน่ะ…”

หยุนเชวี่ยโพล่งขึ้น “สำหรับหญิงสาวแล้วไม่มีคำว่าพี่น้องหรอก!”

“พูดจาไร้สาระอีกแล้ว” แม่นางเหลียนดีดหน้าผากของลูกสาวด้วยความโกรธเคือง “มาเถอะ แม่จะสอนวิธีปักกระเป๋าให้ เจ้าไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว อย่าทำตัวเงอะงะให้ผู้คนหัวเราะได้ล่ะ”

“ท่านแม่…” หยุนเชวี่ยกล่าวอย่างสลดใจ

นี่คือสิ่งที่หยุนเชวี่ยกลัวที่สุด นางไม่รู้ว่าคนอื่นสามารถใช้เข็มหนึ่งเล่มและด้ายหลากสีหลายเส้นสามารถปักรูปดอกไม้ที่ซับซ้อนโดยไม่วาดลวดลายบนผ้าได้อย่างไร

และนาง… คงไม่มีวันเป็นภรรยาและแม่ที่ดีแน่…

หยุนเยี่ยนมองดูท่าทีการปักที่เงอะงะและฝีเข็มที่คดเคี้ยวของน้องสาวก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “เชวี่ยเอ๋อของเราอยากตัดชุดที่มีกระโปรงอยู่ใต้คอเสื้อ”

หยุนเชวี่ย “โอ๊ย ๆ ๆ ท่านแม่ มือของข้ามีเลือดออก…”

ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยชาวสวน[农家小财主]

ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยชาวสวน[农家小财主]

Status: Ongoing
หยุนเชวี่ย เสียชีวิต แล้วมาอยู่ในร่างของ เด็กสาว เธอมาอยู่ในยุคที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ใดๆ แต่ด้วยความฉลาดของเธอ ทำให้เธอมองหาช่องทางต่างๆที่จะทำให้ชีวิตของเธอกับครอบครัวดีขึ้น ส่วนเรื่องความรักนั้น ได้มีชายหนุ่มปริศนาที่ตั้งปณิธานว่าจะตอบแทนน้ำใจด้วยทั้งชีวิตของเขากับเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท