อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 217 ให้นางเป็นแพะรับบาป

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

“เฟยเฟย? ทำไมถึงเป็นเจ้า? !”

หยุนหว่านหนิงพุ่งตัวเข้าไป คว้าปกเสื้อของโม่เฟยเฟยเอาไว้อย่างรวดเร็ว

โม่เฟยเฟยเกือบจะหายใจไม่ออก ตาเหลือกขึ้นมา “พี่สะใภ้เจ็ด ท่านปล่อยข้าก่อน! ข้า ข้ากำลังจะถูกท่านรัดคอจนตายแล้ว!”

หยุนหว่านหนิงถึงได้รีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว

เห็นท่าไม่ดี ซุนตาอิ้งหันหลังก็วิ่งเลย

หยุนหว่านหนิงหยิบก้อนหินที่อยู่บนพื้นขึ้นมา โยนไปทางน่องของนางอย่างแรง

ซุนตาอิ้งเข่าอ่อน โงนเงนโซเซล้มลงไปบนพื้น

ที่นี่คือประตูหลังของตำหนักเย็น

หยุนหว่านหนิงส่งสัญญาณให้หลี่หมัวมัวพุ่งเข้าไป จับซุนตาอิ้งมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ถึงได้หันหน้ามองไปที่โม่เฟยเฟย ขมวดคิ้วแน่น “เฟยเฟย ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่ได้?”

หรือว่า นางเป็นคนสั่งให้ซุนตาอิ้งวางยาพิษเต๋อเฟย? !

นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เต๋อเฟยคือเสด็จแม่ของนางนะ!

แต่ว่าเรื่องราวต่างๆยังไม่ชัดเจน หยุนหว่านหนิงก็ไม่อยากจะสงสัยโม่เฟยเฟย

นางจ้องมองนางด้วยสายตาที่เคร่งขรึม

“พี่สะใภ้เจ็ดท่านฟังข้าอธิบายก่อน!”

เห็นสีหน้านางไม่น่าดู โม่เฟยเฟยก็รู้แล้วว่านางต้องสงสัยนางแน่นอน……โม่เฟยเฟยอธิบายอย่างรีบร้อน “คืนนี้ในตำหนักเว่ยหยาง จู่ๆก็มีกระดาษข้อความเพิ่มขึ้นมาใบหนึ่ง”

“บอกว่าให้ข้ามาที่นี่ตอนยามซวีคืนนี้ มีเรื่องสำคัญจะบอกกับข้า”

“ใครจะรู้ว่าข้าเพิ่งจะเดินเข้าใกล้ ซุนตาอิ้งก็ไม่รู้ว่าพุ่งออกมาจากที่ไหน”

โม่เฟยเฟยกระทืบเท้าอย่างกระวนกระวาย “ข้ายังไม่ทันได้ถามนางเลย พี่สะใภ้เจ็ดพวกท่านก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว”

“งั้นหรือ?”

หยุนหว่านหนิงมองไปทางซุนตาอิ้งอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ที่เฟยเฟยพูดมาเป็นความจริงหรือไม่?”

ซุนตาอิ้งรีบร้อนส่ายหน้า “ไม่จริง องค์หญิงเก้า ท่านจะมาปฏิเสธเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ท่านเป็นคนส่งข่าวให้ข้าเอง ให้ข้ามาพบท่านที่นี่ในเวลานี้ไม่ใช่หรือ?”

“ท่านบอกว่า จะหารือว่าจะขจัดความสงสัยของพวกพระชายาหมิงอย่างไรไม่ใช่หรือ? !”

ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ โม่เฟยเฟยก็โมโหขึ้นมาทันที!

“นังสารเลวคนนี้ เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอะไรของเจ้าอยู่? ! ข้าจะฉีกปากของเจ้าซะ!”

โม่เฟยเฟยพุ่งเข้าไป ทำท่าทางจะฉีกปากของซุนตาอิ้ง

บนใบหน้าของซุนตาอิ้งแสดงความหวาดกลัว ปากยังคงส่งเสียงเอะอะโวยวาย “องค์หญิงเก้า ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เราเป็นพวกเดียวกันไม่ใช่หรือ?”

“เจ้ายังจะพูดอีก? ยังจะพูดอีกหรือ? !”

โม่เฟยเฟยโกรธจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัว

เห็นว่านางโกรธมาก หยุนหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

นางตบไปที่ไหล่ของโม่เฟยเฟยเบาๆ “เรื่องนี้ ข้าจะตรวจสอบให้ชัดเจนเอง”

“พี่สะใภ้เจ็ด ท่านสงสัยข้าจริงๆหรือ?”

โม่เฟยเฟยมองดูนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

หรือว่า นางไม่เชื่อใจนางเลยแม้แต่น้อยจริงๆ? !

ความรักมันจะหายไปได้ใช่ไหม? !

โม่เฟยเฟยทั้งโกรธทั้งวิตกกังวล ทั้งผิดหวังและเศร้าเสียใจ ยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเล็กน้อย ในดวงตาของนางมีหมอกน้ำแผ่ปกคลุมอย่างหนาทึบ เบะปากมองดูหยุนหว่านหนิง

หยุนหว่านหนิงจนใจ “ข้าสงสัยใครก็ไม่สงสัยเจ้าหรอก!”

นางส่ายหน้า เมื่อครู่นี้ยังทำหน้าจนใจ พริบตาเดียวสีหน้าท่าทางก็เย็นยะเยือกขึ้นมา

“ส่งตัวซุนตาอิ้งไปให้เสด็จพ่อจัดการ!”

โม่จงหรานไม่มีความอดทนใดๆต่อซุนตาอิ้งแล้ว เชื่อว่าส่งนางไปให้โม่จงหรานจัดการ ถึงแม้ปากของนางจะเป็นปากทองคำก็สามารถแงะมันออกมาได้!”

หลังจากที่ซุนตาอิ้งถูกพาตัวไปแล้ว โม่เฟยเฟยก็รีบจับแขนของหยุนหว่านหนิงเอาไว้แน่น

“พี่สะใภ้เจ็ด ท่านเชื่อข้าหรือ?”

นางจ้องมองหยุนหว่านหนิงอย่างไม่ละสายตา สายตาตื่นตระหนกและน่าสงสาร ราวกับลูกสุนัขน้อยที่กลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง

หยุนหว่านหนิงรู้ว่า

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อสี่ปีที่แล้ว โม่เฟยเฟยก็ยากที่จะเกิดความรู้สึกหวังพึ่งพาและไว้ใจต่อใครทั้งนั้น แต่ว่าช่วงนี้ นางรู้สึกได้ถึง ความหวังพึ่งพาที่โม่เฟยเฟยมีต่อนาง

ครั้งนี้ถ้าหากนางสงสัยในตัวนาง……

เกรงว่าสำหรับโม่เฟยเฟยแล้ว คือการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว!

“ข้าเชื่อเจ้า”

หยุนหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย ตบไปที่หลังมือของนางเบาๆ “ข้ารู้ ซุนตาอิ้งนี่คือทำทีจะบุกโจมตีทางทิศตะวันออกแต่กลับบุกโจมตีทิศตะวันตก ต้องการจะลากเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”

ขอเพียงแค่โยนความผิดไปที่โม่เฟยเฟย นางคิดว่าโม่จงหราน ก็จะไม่เอาความเรื่องนี้อีก?

อย่างไรเสีย โม่เฟยเฟยก็เป็นลูกสาวแท้ๆของเต๋อเฟย ที่ผ่านมาก็พูดไม่เก่งอีกด้วย

ถึงแม้จะลากนางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เกรงว่าโม่เฟยเฟยมีเป็นร้อยปากก็ไม่อาจแก้ตัวได้

แต่ซุนตาอิ้งกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่า ยังมีนางหยุนหว่านหนิงอยู่อีกคน!

“เจ้าวางใจ ขอเพียงมีข้าอยู่ ก็จะไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาออกอุบายอะไรในตัวเจ้า”

นางมองดูนางด้วยท่าทีจริงจัง

โม่เฟยเฟยน้ำตานองหน้าทันที น้ำตาบทจะไหลก็ไหลออกมาเลย นางกอดแขนของหยุนหว่านหนิงเอาไว้แน่น ซบหน้าลงไป “ฮือๆๆพี่สะใภ้ ท่านคือพี่สะใภ้ที่ข้าใกล้ชิด และรักมากที่สุดแล้ว…..”

เมื่อเห็นน้ำตาทั้งหมดเปรอะอยู่บนแขนเสื้อของนาง หยุนหว่านหนิงทำหน้ารังเกียจ “ไปๆๆ”

“น้ำตาน้ำมูกเปรอะแขนเสื้อข้าหมดแล้ว น่าขยะแขยงไหมเนี่ย”

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ นางก็ยังโอบไหล่ของโม่เฟยเฟยด้วยรอยยิ้ม “เราไม่คาดหวังในตัวเสด็จแม่แล้ว ตัวนางเองยังเอาตัวไม่รอดเลย”

“ส่วนพี่เจ็ดของเจ้า ก็เป็นคนที่ทำการใหญ่ ต้องมุ่งเน้นไปที่ค่ายเสินจีและงานในราชสำนัก”

“หากข้าไม่ปกป้องเจ้าอีก เกรงว่าเจ้าคงจะถูกคนพวกนี้รุมแทะจนไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูกแล้วมั้ง?”

นี่คือคำพูดที่เป็นความจริง

โม่เฟยเฟยเช็ดน้ำตา

เมื่อครู่นี้ยังเต็มไปด้วยความซาบซึ้งอยู่เลย ถูกคำพูด “ไปๆๆๆ” ของหยุนหว่านหนิง ทำลายบรรยากาศในทันที

นางร้องไห้ไม่ออกแล้ว

“ถึงแม้พี่สะใภ้เจ็ดท่านจะปากเสียไปหน่อย แต่ข้ารู้ว่าท่านหวังดีต่อข้าจริงๆ! ข้าตัดสินใจแล้วว่าวันหน้าจะปฏิบัติต่อท่านเหมือนพี่สาวแท้ๆ พี่เจ็ดของข้าต่างหากที่เป็นพี่เขย!”

นางมองดูนางน้ำตาคลอ

หยุนหว่านหนิงกลอกตามองบน “ข้าต้องขอขอบคุณที่เจ้าชมข้าขนาดนี้!”

“ไปกันเถอะ ไปที่ห้องทรงพระอักษรกัน! ข้าอยากจะดูว่าซุนตาอิ้งจะตายอย่างไร”

ไม่ช้า ทั้งสองก็เข้าไปในห้องทรงพระอักษร

ซุนตาอิ้งถูกเฆี่ยนตีไปรอบหนึ่งแล้ว นอนอยู่บนพื้นอย่างจะตายมิตายแหล่ แต่ก็ยังไม่ยอมสารภาพว่าใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลัง

ทันทีที่เข้าประตูไปโม่เฟยเฟยก็คุกเข่าลงไป กอดขาของโม่จงหรานเอาไว้แล้วเริ่มร้องไห้ขึ้นมา “ฮือๆๆเสด็จพ่อ พระองค์ต้องออกหน้าแทนลูกด้วย!”

ภาพนี้ ทำไมถึงได้คุ้นเคยขนาดนี้เนี่ย

โม่จงหรานเอียงศีรษะคิดอย่างละเอียดรอบคอบครู่หนึ่ง

นี่คือไม้ตายที่หยุนหว่านหนิงเชี่ยวชาญไม่ใช่หรือ? !

ทันทีที่เข้ามาในห้องทรงพระอักษรก็กอดขาร้องไห้

เจ้าตัวดี ตอนนี้แม้แต่เฟยเฟยก็เรียนรู้ไม้นี้แล้ว……ดูท่าวันหน้า เขาอย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบเลย!

โม่จงหรานปวดหัว “เรื่องในคืนนี้ข้ารู้หมดแล้ว”

“ข้ารู้ว่า เจ้าไม่มีทางวางแผนประทุษร้ายเสด็จแม่ของเจ้าอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเรื่องที่เจ้าถูกคนใส่ร้าย ข้าย่อมจะสอบสวนให้ชัดเจนอยู่แล้ว รีบลุกขึ้นมา”

“ไม่เอา!”

โม่เฟยเฟยกอดแน่นมากยิ่งขึ้น “เสด็จพ่อ สมองหมูอย่างซุนตาอิ้ง จะคิดแผนการเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?”

“เห็นได้ชัดว่านี่คือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ ต้นหลี่ตายแทนต้นท้อรับโทษแทนผู้อื่นชัดๆ!”

นางกล่าวออกมาเป็นชุดๆ “ซุนตาอิ้งกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางอยากจะให้ลูกรับผิดแทน เป็นแพะรับบาปคนนั้น! ถ้าหากไม่รีบจับตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นออกมาโดยเร็ว ลูกไม่เต็มใจ!”

โม่จงหราน: “……จู่ๆข้าก็ปวดหัวขึ้นมา”

เขาเงยหน้ามองไปทางหยุนหว่านหนิงที่ทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง “คำพูดพวกนี้ เจ้าเป็นคนสอนใช่ไหม?”

จู่ๆก็ถูกเอ่ยชื่อ หยุนหว่านหนิงทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่นะ เสด็จพ่อ”

“เฟยเฟยจะสามารถพูดเช่นนี้ออกมาได้หรือ?”

โม่จงหรานแสดงออกว่าไม่เชื่อ

เมื่อครู่นี้เขานับดูแล้ว ในประโยคคำพูดของนาง มีสำนวนสี่ตัวอักษรหลายคำเลย!

ลูกสาวของตนเองเป็นอย่างไร โม่จงหรานไม่ใช่ไม่รู้……

เขากำลังจะพูดอะไร โม่เยว่ก็เข้ามาในห้องทรงพระอักษร

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท