อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 377 ท่านพ่อร้อนตัว

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 377 ท่านพ่อร้อนตัว

หนานกงเยว่รู้ถึงการดำรงอยู่ของคนหน้าตาอัปลักษณ์สองสามคนนี้แล้ว

นางยังไม่หายดี นอนป่วยอยู่บนเตียง

“ทำไมเพียงแค่ส่งตัวจื่อซูไปที่เซินซิงซีเท่านั้น? เสด็จพ่อไม่ได้ออกหน้าแทนข้า กุมขังฉินซื่อเสวียเพื่อสอบสวนหรอกหรือ?”

หนานกงเยว่ขมวดคิ้วแน่น

สาวใช้ปี้อวี้ส่ายหน้าเบาๆ “พระชายาสามยืนกรานหนักแน่น เรื่องนี้เป็นการกระทำของจื่อซู นางไม่ได้รู้เห็นด้วย”

“บวกกับนางได้รับบาดเจ็บที่ขา ช่วงเวลานี้พักฟื้นอยู่ในจวน ดังนั้นฝ่าบาทจึงไม่ได้ทำอะไรนาง”

“ข้าไม่ยอมรับ!”

หนานกงเยว่จับผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น “เห็นได้ชัดว่าเสด็จพ่อเห็นแก่หน้าของจวนเฉิงเซี่ยง ทำอะไรฉินซื่อเสวียได้ยาก ถึงได้ให้สาวใช้อย่างจื่อซู ออกมารับโทษแทน!”

ครั้งนี้นางยอมดื่มยาพิษอย่างไม่ลังเล ก็เพื่อจะโค่นล้มฉินซื่อเสวีย

เพียงเพราะว่าโม่หุยเฟิงไม่มีวันที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว จะทำลายจวนอ๋องสามไปอย่างสิ้นเชิง ก็ต้องเริ่มลงมือจากฉินซื่อเสวีย!

ไม่มีฉินซื่อเสวียแล้ว จวนเฉิงเซี่ยงก็จะไม่สนับสนุนโม่หุยเฟิงอีก

ถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่มีวันได้พลิกสถานการณ์กลับมาได้ตลอดกาล!

ในสายตาของหนานกงเยว่และโม่หุยเหยียน นอกจากโม่เยว่แล้ว……โม่หุยเฟิงถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในการชิงบัลลังก์

ขอเพียงโม่หุยเฟิงยังอยู่ ฮองเฮาจ้าวก็จะไม่อนุญาตให้โม่หุยเหยียนขึ้นครองบัลลังก์!

ครั้งนี้ไม่เพียงแต่แค่ฉินซื่อเสวียคิดคำนวณหนานกงเยว่เท่านั้น ยิ่งเป็นหนานกงเยว่ที่ใช้กลยุทธ์ทุกข์กาย วางแผนใส่ร้ายฉินซื่อเสวีย พี่สะใภ้น้องสะใภ้ทั้งสองลงมือใส่กันและกัน!

หลังจากโค่นฉินซื่อเสวียลงแล้ว นางถึงจะต่อกรกับหยุนหว่านหนิงได้อย่างไม่ว่อกแว่ก!

ใครจะรู้ว่าทั้งสองคนจะมีฝีมือไล่เลี่ยกัน สู้กันอย่างไม่รู้แพ้รู้ชนะ

ฉินซื่อเสวียสูญเสียจื่อซูไป หนานกงเยว่เกือบจะทำร้ายลูกในครรภ์เพราะตัวเองกินยาพิษเข้าไป

เวลานี้สาวใช้เข้ามารายงาน บอกว่าเต๋อเฟยเหนียงเหนียงส่งคนมาปรนนิบัติท่านอ๋อง

“ใครกัน?”

หนานกงเยว่รู้ตัวในภายหลัง “ผู้หญิง?”

“เพราะอะไร?”

หลายวันมานี้นางนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง แผนการของโม่หุยเหยียนและฮองเฮาจ้าวไม่ได้บอกนาง ดังนั้นหนานกงเยว่ก็ไม่รู้ว่า สองวันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

ปี้อวี้ถึงได้กระซิบเล่าเรื่องราวทั้งหมด

“อะไรนะ? ! เรื่องใหญ่ขนาดนี้เหตุใดถึงไม่บอกข้า?”

หนานกงเยว่มองดูนางอย่างทั้งประหลาดใจทั้งโกรธ

“คือ คือว่าท่านอ๋องไม่ให้บอกท่าน! บอกว่าระยะนี้พระชายาสุขภาพไม่ค่อยดี จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนอย่างดี”

ปี้อวี้ก้มหน้าเอาไว้

หนานกงเยว่โกรธมาก พลิกตัวลงมาบนพื้นจะไปซักถามโม่หุยเหยียนทันที

ไหนเลยจะรู้ว่าเพิ่งลงมาบนพื้น ก็ล้มตัวหมดสติอยู่บนเตียง

สถานการณ์ของจวนอ๋องสามก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่

ที่ส่งไปยังจวนอ๋องสาม ก็เป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์สองสามคนเช่นกัน หน้าตาของแต่ละคนดูน่าเกลียดกว่าอีกคน ฉินซื่อเสวียที่นอนอยู่บนเตียง ได้ยินว่าสองสามคนนี้หน้าตาเหมือนนาง……

นางก็หมดสติไปด้วยความโกรธแล้ว

เวลาแค่หนึ่งก้านธูป ก็ทำให้โกรธจนหมดสติไปหลายคนแล้ว

……

จวนอ๋องหมิง

โจวหยิงหยิงมาอาศัยกินข้าวอีกแล้ว

เห็นหยุนหว่านหนิงยกเก้าอี้มานั่งอยู่หน้าประตู ล่ายซื่อกับจางหมัวมัวเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งสองคนยืนกันอย่างไม่เป็นสุข มองซ้ายมองขวา

“โอ๊ะ! นี่ยังมีคนหน้าด้านไร้ยางอายมาที่จวนอ๋องหมิงจริงหรือเนี่ย?”

โจวหยิงหยิงมองดูล่ายซื่ออย่างร่าเริง “แม่นาง อายุน้อยๆทำอะไรไม่ดี เที่ยวไปหลอกลวงต้มตุ๋น? ข้าว่าเจ้าไม่ได้ชื่อล่ายซื่อ เปลี่ยนชื่อเป็นหน้าด้านเถอะ? แน่นอนว่าชื่ออุจจาระก็ไม่เลวเช่นกัน……”

หยุนหว่านหนิงรู้สึกหนาวสั่น “คุณสมบัติ เรามีสมบัติผู้ดี”

“ใช่ คุณสมบัติ!”

โจวหยิงหยิงกอดอกเอาไว้ เดินรอบล่ายซื่อสองสามรอบ “หน้าตาก็ดูไม่เลว! รูปร่างก็ดูดีใช้ได้”

สายตาที่ไม่! ปิด! บัง! นั่น มองจนล่ายซื่อรู้สึกอึดอัดไปหมดทั้งตัว

จู่ๆโจวหยิงหยิงก็ยื่นมือออกไป ตบไปที่บั้นท้ายของนางเหมือนกับกลั่นแกล้ง “ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นอยู่ หนาพอๆกับหนังหน้าของเจ้าเลย”

ใบหน้าของล่ายซื่อ แดงก่ำขึ้นมาทันที!

จางหมัวมัวหดหัวยืนอยู่ที่ฐานกำแพง ไม่กล้าพูดอะไรจะได้ไม่นำพาเภทภัยมาสู่ตนเอง

หยุนหว่านหนิงคนเดียวก็รับมือได้ยากอยู่แล้ว ไหนเลยจะรู้ว่ายังมีโจวหยิงหยิงที่ไม่ยึดตามเหตุผลทั่วไปโผล่มาอีกคน

“หนิงเอ๋อร์ ข้าว่าวันนี้เจ้าคงรอให้เสด็จแม่ออกจากวังมาไถ่คนไม่ได้แล้ว! ถ้าอย่างไรข้าส่งตัวจางหมัวมัวกับล่ายซื่อคืนกลับไปให้เสด็จแม่แทนเจ้าดีไหม?”

“ส่งคืนอะไรกัน?”

หยุนหว่านหนิงฮึเสียงเย็นชา “คำพูดของข้าได้ส่งไปให้เสด็จแม่แล้ว”

“นางไม่มาไถ่คนด้วยตัวเอง ข้าก็ฆ่าทิ้งทำเป็นปุ๋ยไปเลยโดยตรง คืนๆๆอะไรคืน?”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา จางหมัวมัวตกใจจนเข่าอ่อน ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นโดยตรง

ดีร้ายล่ายซื่อก็ยังอายุน้อย ยังฝืนยืนหยัดได้อยู่

แต่สีหน้าก็ตกใจกลัวจนซีดขาวเช่นกัน

“เจ้าจะฆ่าทิ้งจริงหรือ?”

โจวหยิงหยิงพยุงไหล่ของนาง สายตามองพิจารณาล่ายซื่อและจางหมัวมัว “ล่ายซื่อผู้นี้หน้าตาไม่เลว เจ้าไม่เอาก็ให้ข้าเถอะ?”

หยุนหว่านหนิง: “……ให้เจ้าทำไม? เจ้าไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย”

“รับสนมให้อ๋องฮั่นของเจ้าหรือ?”

“รับสนมอะไรกัน! เอามาให้ข้าเล่นต่างหาก”

โจวหยิงหยิงมือเท้าคาง สายตาที่มองไปทางล่ายซื่อก็เปลี่ยนไปเป็น “มันเยิ้ม”

สายตานั่นสุดจะพรรณนาได้เล็กน้อย ล่ายซื่อตกใจจนทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นเช่นกัน

“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ข้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจะสามารถทำอะไรเจ้าได้?”

เห็นล่ายซื่อตกใจแทบแย่แล้ว โจวหยิงหยิงยิ้มเย้ยหยันออกมา หรี่ตาเอาไว้ข้างหนึ่งแล้วยื่นมือออกไปเล็งหน้าผากของนาง “ข้าต้องการใช้เจ้ามาฝึกยิงธนู แบบที่ใช้แอปเปิลวางไว้บนหัวแบบนั้น”

เห็นจางหมัวมัวตาเหลือกหมดสติแสร้งทำเป็นตายทันที ล่ายซื่อกัดฟันตัดสินใจ ทำตาเหลือกและหมดสติไปเช่นกัน

“ชิ มีความกล้าแค่นี้ยังเลียนแบบคนอื่นหลอกลวงต้มตุ๋นอีก!”

โจวหยิงหยิงทำหน้าเหยียดหยาม “แต่ว่าหนิงเอ๋อร์ เจ้าคิดจะจัดการล่ายซื่อผู้นี้อย่างไร?”

“ข้าย่อมมีที่ที่ต้องใช้ประโยชน์”

หยุนหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย สั่งให้คนนำล่ายซื่อไปขังไว้ที่ห้องเก็บฟืน

ท้องฟ้าก็ไม่เช้าแล้ว

นางทำอาหารเย็นให้กับหยวนเป่า แม่ลูกสองคนกำลังกินอย่างมีความสุข จู่ๆหยวนเป่าก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง “ท่านแม่ ได้ยินว่าวันนี้มีผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอาย มาแอบอ้างตัวเป็นแม่ข้า”

“นี่ไม่ใช่การหลอกเด็กหรอกหรือ?”

“ท่านจะลงโทษนางอย่างไร?”

“เด็กน้อยอย่างเจ้าจะสนใจเรื่องนี้ทำไมกัน?”

หยุนหว่านหนิงคีบตีนไก่ตุ๋นน้ำแดงให้เขาข้างหนึ่ง

“ข้าเป็นห่วงแทนท่านแม่”

หยวนเป่าทำท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยๆ ขณะที่แคะตีนไก่ก็มองนางไปด้วย “มีคนที่หนึ่ง ก็ต้องยังมีคนที่สอง มาสร้างสถานการณ์หลอกลวงที่จวนอ๋องเราอย่างไม่ขาดสายแน่นอน”

“ข้าเป็นห่วงว่าท่านพ่อ มีคนอยู่ข้างนอกจริงๆใช่หรือไม่!”

หยุนหว่านหนิงวางตะเกียบลง “ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนี้?”

“ในเวลาปกติท่านพ่อกลับจวนอ๋องมานานแล้ว คืนนี้เวลานี้แล้วยังไม่กลับมาอีก! แสดงให้เห็นว่ากำลังร้อนตัว”

หยวนเป่าวิเคราะห์อย่างมีระเบียบแบบแผน

หยุนหว่านหนิงทำท่าเหมือนกำลังครุ่นคิด “มีเหตุผล!”

สองแม่ลูกกำลังพูดคุยกันอยู่ หรูอวี้ที่หมอบตัวตรงสันกำแพงก็ชะเง้อหน้าชะเง้อคอมองเข้าไป

หยุนหว่านหนิงยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เห็นเพียงหยวนเป่าคว้ากระดูกไก่ที่อยู่ในมือขึ้นมา ตีไปทางหน้าผากของหรูอวี้อย่างแม่นยำ……เจ้าเด็กน้อยคนนี้ฝึกวรยุทธกับโม่เยว่จนถึงตอนนี้ อายุน้อยๆพลังวัตรกลับไม่ธรรมดา

หรูอวี้คิดไม่ถึงว่าเขาจะลงมือกะทันหัน

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ระวังตัว ถูกตีโดนจนเกือบจะล้มลงไป!

“คุณชายน้อย!”

เขารีบร้อนส่งเสียง “อย่าตี ข้าเอง!”

หยวนเป่าฮึออกมาเบาๆ “ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า”

มิเช่นนั้นเขาคงจะไม่ออมมือหรอก จะตีไปทางดวงตาของเขาโดยตรงเลย!

เขาหันไปมองดูหรูอวี้ “มีประตูให้เดินดีๆไม่เดิน เจ้าปีนกำแพงทำไมกัน?”

หรูอวี้นวดหน้าผากแล้วลงมาบนพื้น สีหน้าลำบากใจ “ข้าน้อยก็มีเรื่องในใจที่พูดยากเช่นกันนี่นา……”

หยุนหว่านหนิงก็เลิกคิ้วมองดูเขาเช่นกัน สีหน้าท่าทางการเลิกคิ้วของสองแม่ลูกเหมือนกันทุกประการจริงๆ “เจ้ามีเรื่องในใจที่พูดยากอะไร?”

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท