อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 430 คุณลุงซ่ง

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 430 คุณลุงซ่ง

เห็นว่าใกล้จะถึงเมืองเซียงแล้ว ชายร่างใหญ่เพิ่งจะลดหย่อนความระมัดระวังตัวลง ไหนเลยจะรู้ว่าจะถูกคนขวางเอาไว้

มองดูผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเงียบๆ ชายร่างใหญ่รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที มองดูเขาอย่างระมัดระวัง “ใครกัน? กล้ามาขวางทางท่านเฮยอย่างข้า!”

ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะอ่อนแอ

แต่เมื่อครู่นี้เขาสามารถปรากฏตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ……

ก็ยังทำให้ชายร่างใหญ่ยกระดับความระมัดระวังตัวขึ้นมา

ผู้ชายสวมชุดสีขาวทั้งชุด ลมภูเขาพัดหวีดหวิวผ่านไป เสื้อแขนยาวพลิ้วไสว ชุดสีขาวราบเรียบธรรมดา

สีหน้าของเขาเย็นชา ใบหน้าสดใสงดงาม ดวงตาทั้งคู่เฉยเมย

ราวกับเซียนที่ไม่กินอาหารเหมือนมนุษย์เดินดิน!

หยวนเป่าเห็นเขาปรากฏตัว บนหน้าเล็กเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำว่า “คุณลุงซ่ง” ออกมาถึงปากแล้ว แต่กลับเห็นซ่งจื่ออวี๋ส่งสัญญาณให้เขาอย่างสงบเยือกเย็น เขารีบร้อนกลืนคำพูดที่มาถึงปากกลับเข้าไป

ซ่งจื่ออวี๋มาแล้ว!

เห็นเขาไม่ตอบคำถาม ชายร่างใหญ่ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น

สัญชาตญาณบอกเขาว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้ง่ายๆ!

ถึงแม้ซ่งจื่ออวี๋จะไม่ได้ลงมือ แต่ลักษณะท่าทางที่กดดันรอบๆตัวนั่น……ยังคงทำให้ชายร่างใหญ่ไม่กล้าละเลย!

ในมือของซ่งจื่ออวี๋ถือกระบี่ยาวเอาไว้เล่มหนึ่ง นิ้วมือที่เรียวยาวจับฝักกระบี่เอาไว้ สายตาที่มองไปทางชายร่างใหญ่ก็ยิ่งเย็นยะเยือกมากขึ้น

ตอนนี้มีเรื่องยิ่งน้อยก็ยิ่งดี!

ชายร่างใหญ่ถอยหลัง หันกลับเส้นทางเก่าทันที

เขาตะโกนอย่างเย็นชา “เจ้าเด็กน้อย จับให้แน่นๆนะ!”

ทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา หยวนเป่าก็จับผมของเขาเอาไว้แน่นทันที แต่กลับเป็นเพราะใช้แรงดึงมากเกินไปหนังศีรษะของชายร่างใหญ่จึงปวดแสบปวดร้อนขึ้นมา!

เขาคำรามออกมา “ข้าให้เจ้าจับเอาไว้ให้แน่นๆ ไม่ได้ให้เจ้าดึงหนังศีรษะของข้าลงมา!”

“อ้อ”

หยวนเป่าตอบรับคำหนึ่ง รีบร้อนหมอบไปบนศีรษะของเขา สองมือปิด……ดวงตาทั้งคู่ของเขาเอาไว้แน่น

ชายร่างใหญ่หน้ามืดเสียหลัก เกือบจะล้มหัวคะมำ!

“เจ้าลงมาเลย!”

เขาคว้าตัวหยวนเป่าลงมาแล้วยัดเข้าไปในอ้อมแขน กระโดดตัวหนีไป

หากให้หยวนเป่าก่อกวนต่อไป เกรงว่าวันนี้เขาคงจะไม่สามารถรอดชีวิตแน่!

ซ่งจื่ออวี๋ไม่ได้ไล่ตามไป

เขายืนอยู่ที่เดิม มองดูชายร่างใหญ่อุ้มหยวนเป่าหนีไปเงียบๆ ทิศทางที่เขาหนีไป เป็นทางน้ำคดเคี้ยวลงไป ถึงประตูเมืองของเมืองเซียง

ที่นั่น หรูโม่นำกำลังคนดักซุ่มในที่ลับนานแล้ว รอคอยให้พวกเขาขึ้นท่าเรือ

หยวนเป่าจับคอของชายร่างใหญ่เอาไว้แน่น จ้องมองดูซ่งจื่ออวี๋อย่างไม่ละสายตา

ขอเพียงสามารถเห็นเงาร่างของเขาได้ เขาก็รู้สึกสบายใจแล้ว

ตอนนี้หยวนเป่าเข้าใจแล้ว

ทำไมชายร่างใหญ่ผู้นี้ถึงเปลี่ยนแปลงเส้นทางมาตลอดทาง

ประการแรก เป็นเพราะเดิมทีเขาก็ระมัดระวังตัวอยู่แล้ว;

ประการที่สอง คิดว่าเป็นเพราะสงสัยว่ามีคนแอบตามพวกเขาอย่างลับๆ อาจจะรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของซ่งจื่ออวี๋ แต่ก็ไม่มั่นใจว่า ซ่งจื่ออวี๋ติดตามพวกเขาหรือไม่

ดังนั้นชายร่างใหญ่จึงเปลี่ยนเส้นทางอยู่ตลอด

ตอนนี้ซ่งจื่ออวี๋ปรากฏตัวขึ้นมา……

ชายร่างใหญ่เข้าใจเจตนาการมาของเขาทันที ดังนั้นจึงไม่กล้าประมือกับเขาตามอำเภอใจ ได้แต่วิ่งหนีอย่างทุลักทุเล!

รู้ว่าซ่งจื่ออวี๋แอบติดตามปกป้องเขาอย่างลับๆ หยวนเป่าก็ไม่เป็นกังวลอีก!

ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะหนีออกไปจากสายตาของซ่งจื่ออวี๋ เขารู้ว่าเขาก็จะแอบติดตาม รับประกันความปลอดภัยของเขาอย่างลับๆ!

หยวนเป่ารู้สึกโล่งใจ จู่ๆก็เผยรอยยิ้มที่สดใสให้กับซ่งจื่ออวี๋

เขาขยับริมฝีปาก เรียกออกมาอย่างไม่มีเสียง: “คุณลุงซ่ง!”

สายตาของซ่งจื่ออวี๋ตะลึงงันเล็กน้อย

เจ้าเด็กน้อยคนนี้ ตอนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนแม่ของเขาแล้วจริงๆ……

มองเห็นรอยยิ้มที่สดใสนี้ สายตาของซ่งจื่ออวี๋อ่อนโยนลงอย่างหมดทางเยียวยา

เห็นว่าชายร่างใหญ่พาหยวนเป่าหนีไปไกลแล้ว เขาถึงได้ตามไปเงียบๆ ก็ไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดมากเกินไป เพียงแต่ให้แน่ใจว่าหยวนเป่าอยู่ภายในรัศมีการมองเห็นของเขา

ชายร่างใหญ่ถูกบีบให้ลงไปตามทางน้ำ หนีไปถึงบริเวณท่าเรืออย่างทุลักทุเล

เขาหันมองกลับไปครู่หนึ่ง เห็นว่าไม่มีเงาร่างของซ่งจื่ออวี๋แล้ว ถึงได้ด่าพำพึมและถ่มน้ำลายลงพื้น

“แม่งเอ๊ย! นี่มันคนหรือผีกันแน่เนี่ย? !”

เขาวางหยวนเป่าลงแล้วก็ปาดเหงื่อ “ดูเหมือนคนคนนี้จะตามข้ามาตลอดทาง……เฮ้ เจ้าเด็กน้อย เจ้าสารภาพมาตามตรง รู้จักคนคนนี้ไหม?”

เขาก้มหน้ามองดูหยวนเป่า กล่าวถามอย่างดุร้าย

“ไม่รู้จัก”

หยวนเป่าส่ายหน้าซื่อๆ “พ่อ ท่านอาคนนี้หล่อเหลามากเลย! ไอเทพลอยละล่อง ดูเหมือนเซียนเลยเนาะ!”

ชายร่างใหญ่: “……”

เขาเงยหน้ามองไปที่ท่าเรือครู่หนึ่ง

เวลานี้เพิ่งจะผ่านยามซื่อไป เป็นช่วงเวลาที่กำลังยุ่งพอดี

บนท่าเรือมีคนงาน คนเดินเรือ คนสัญจรไปมา รวมไปถึงคนขายปลาของท่าเรือทั้งสองฝั่งที่หลั่งไหลไปมาอย่างไม่ขาดสาย

มองดูฝูงชนที่กำลังจอแจ สายตาของชายร่างใหญ่ซับซ้อน

เขาก้มหน้ามองดูหยวนเป่าครู่หนึ่ง ดึงเขาไปที่ใต้ต้นไม้ แล้วก็หยิบขวดเครื่องเคลือบใบหนึ่งออกมาจากอก แล้วก็ทาสิ่งที่มันเยิ้มไปบนใบหน้าของเขาอีกหนึ่งชั้น

มองดูฝ่ามือของเขา ครั้งนี้ไม่ใช่สีเหลืองแล้ว

สีค่อนข้างดำเล็กน้อย มองแวบแรกสีผิวของเขามืดตึ๊ดตื๋อ เหมือนกับไข่ดำ!

หยวนเป่าตำหนิ “ตกลงท่านจะให้ข้าเปลี่ยนเป็นอะไรกันแน่? ครั้งหน้าจะทาสีสันหลากสีให้ข้าเลยใช่ไหม เปลี่ยนให้ข้ากลายเป็นหน้าสีรุ้ง?”

ชายร่างใหญ่ไม่พูดอะไร

หลังจากที่ทาให้หยวนเป่าเสร็จแล้ว เขาก็ทาให้กับตัวเอง

หยวนเป่าเดินไปส่องดูที่ริมน้ำ แล้วก็หันกลับมามองชายร่างใหญ่ “ว้าว พวกเราดูเหมือนคนแอฟริกาสองคนเลย!”

“คนแอฟริกา?”

ชายร่างใหญ่ไม่เข้าใจ

“ท่านแม่ของข้าบอกว่า……”

ทันทีที่พูดออกมา อาจจะเป็นเพราะคำข่มขู่ก่อนหน้านี้ของชายร่างใหญ่ หยวนเป่ากัดริมฝีปากเอาไว้ “ถูกแสงแดดแผดเผาจนดำปิ๊ดปี๋ ก็จะกลายเป็นเด็กแอฟริกา!”

“ตอนนี้ข้ากลายเป็นเด็กแอฟริกาแล้ว!”

มองดูใบหน้าที่ดำมืดของเขา เหลือเพียงดวงตากลมโตที่สดใสคู่หนึ่งกำลังกะพริบอยู่

ทันทีที่เปิดปาก ฟันที่ขาวจะชัดเจนมากเป็นพิเศษ ตรงกันข้ามกับหน้าดำอย่างชัดเจน

ชายร่างใหญ่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ หัวเราะออกมาเบาๆเช่นกัน

หยวนเป่าหันไปมองดูผิวน้ำ

คิดในใจว่าเวลานี้คนเยอะ หากเขากระโดดลงไปในน้ำ……ถึงแม้เขาจะลอยน้ำไม่เป็น อย่างน้อยก็สามารถสร้างความวุ่นวายได้ อย่างไรก็ต้องมีคนช่วยเขาออกมาจากเงื้อมมือของชายร่างใหญ่ได้ใช่ไหม? !

ช่างเถอะช่างเถอะ

ชั่วพริบตาเดียวเขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป

คนพวกนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธ หากชายร่างใหญ่แผลงฤทธิ์ขึ้นมา เกรงว่าจะบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วน

เขาไม่สามารถทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบ เพราะตัวเองได้

ท่านแม่ยังเคยบอกอีกว่า เขาคือพระนัดดาองค์โต มีหน้าที่และความรับผิดชอบบนบ่า

เขาต้องปกป้องผู้คนในใต้หล้า ไม่ใช่ผลักไสพวกเขาเข้าไปในกองเพลิง

ดังนั้น ท่านแม่ไม่อยากให้เขาเป็นพระนัดดาองค์โต เป็นหยวนเป่าที่ไร้กังวลก็ดีอยู่แล้ว……

เขาหันหลังกลับมา สายตามองหาไปในฝูงชน หวังว่าจะเห็นซ่งจื่ออวี๋

เพื่อไม่ให้ชายร่างใหญ่เกิดความสงสัย เขากล่าวด้วยเสียงอู้อี้ “ไหนท่านบอกว่าไม่เดินทางนี้ไง? ทำไมถึงมาที่นี่อีก? กลัวว่าท่านอาสุดหล่อที่สวมชุดขาวเมื่อครู่คนนั้นจะไล่ตามมาใช่ไหม?”

“ท่านอาสุดหล่อคนนั้นคือใครกัน? เป็นศัตรูของท่านใช่ไหม?”

ชายร่างใหญ่: “……เจ้าจะสนใจมากมายขนาดนั้นไปทำไม?”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นใคร?”

เขาท่องอยู่ในยุทธภพมาหลายสิบปี มีศัตรูนับไม่ถ้วน

ในเมื่อหยวนเป่าไม่รู้จัก ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นศัตรูของเขาจริงๆก็ได้……

ชายร่างใหญ่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่ผลักหยวนเป่าเบาๆครู่หนึ่ง “รีบไปเถอะ”

“รู้แล้ว ท่านอย่าผลักข้าได้ไหม! อีกเดี๋ยวถูกคนเห็นเข้า ก็จะสงสัยขึ้นมาอีกว่าท่านเป็นพ่อข้าหรือไม่กันแน่! ดุร้ายต่อข้าเช่นนี้!”

หยวนเป่าบ่นพึมพำ

ชายร่างใหญ่ปวดหัว พยักหน้ารับอย่างจนใจ “ได้ๆๆ ข้าไม่ดุเจ้าแล้ว”

หยวนเป่าไม่ได้ละทิ้งการมองหา สายตาค้นหาไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว

คุณลุงซ่งมีลักษณะท่าทางพิเศษ ยังสวมชุดสีขาวทั้งชุด น่าจะหาง่ายมากถึงจะถูก!

แต่เขายังมองไม่เห็นซ่งจื่ออวี๋ กลับเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยของอีกคนหนึ่ง——

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท