ตัวตนของโอ๊คการ์ด คือเทพารักษ์แห่งพรไพรศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าเอลฟ์เคยอาศัยอยู่
ในยุคสมัยที่อารยธรรมเอลฟ์รุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อหลายพันปีก่อน โอ๊คการ์ดคือสัญลักษณ์ของเทพพิทักษ์แห่งธรรมชาติ ซึ่งกองทัพอันเกรียงไกรของอาณาจักรเอลฟ์มีโอ๊คการ์ดนับแสน ๆ คอยอารักขา
แม้จะเป็นโอ๊คการ์ดตนที่อ่อนแอที่สุด ก็มีพลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระดับเงิน!
ศิลามองตัวตนที่ประดุจมังกรเบื้องหน้า หัวใจของมันเต้นรัวราวกับจะระเบิด
“พลัง … ระดับเงิน …”
หัวของมันว่างเปล่าลงทุกขณะเมื่อเผจิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล
เป็นไปได้อย่างไร?
ไม่ใช่ว่าพวกโอ๊คการ์ดตายไปหมดแล้วเหรอ?
ข้าตาฝาดหรือเปล่า?
มือหนาขยี้ตาด้วยความหวาดหวั่นแกมไม่เชื่อสายตา แต่ภาพเบื้องหน้ายังคงเหมือนเดิมทุกประการ ร่างของมันสั่นเทาราวกับลูกนก …
ไม่ … ข้าไม่มีทางเข้าใจผิด ข้าเห็นภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับมันนับครั้งไม่ถ้วน ข้าไม่มีทางมองผิดไป!
เจ้ายักษ์นี่คือโอ๊คการ์ดไม่ผิดแน่! องครักษ์ของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ!
เป็นไปได้อย่างไร?!
สมองทึบ ๆ ของมันทำงานอย่างหนัก แต่จะเค้นอย่างไรก็ปะติปะต่อเรื่องราวไม่ได้ … แต่ความคิดหนึ่งที่แจ่มชัดคืออสูรกายเบื้องหน้าไม่ได้มาดีแน่
มันจะฆ่าพวกเรา!
สัญชาตญาณเอาตัวรอดของมันส่งสัญญาณเตือนอย่างแรงกล้า
“หนี ….”
ศิลาพูดแผ่วเบา ก่อนที่จะคืนสติแล้วเปลี่ยนโทนเสียงเป็นตะโกนลั่น
“หนีไป!”
เท้าของมันไวกว่าความคิด ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานไปทิศตรงข้ามโดยไม่ทันสิ้นเสียง
ราวกับเป็นเรื่องล้อเล่น! ต่อให้มีศิลาสิบตนก็ไม่สามารถสู้กับโอ๊คการ์ดระดับเงินตนเดียวได้ ต่อให้นักบวชประจำเผ่าออร์คเข้ามาขวางก็คงโดนสังหารในไม่กี่วินาที!
เหล่าออร์คที่ตื่นตะลึงมาพักใหญ่พากันโกยแน่บตามหัวหน้าของพวกมันไปโดยพร้อมเพรียงราวกับสัตว์ป่าในยามวิกฤติ ตอนนี้พวกมันลืมจุดประสงค์ของการออกล่า ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง ความคิดเดียวที่ยังแจ่มมชัดคือการหนีจากภยันตรายเบื้องหน้า …
ศิลาที่วิ่งนำไปก่อนยังคงคิดไม่ตกจนกลายเป็นความหวาดหวั่น …
ทำไมโอ๊คการ์ดยังเหลือรอดมาถึงสมัยนี้?
ต้นไม้โลกได้ตายไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่ใครในดินแดนซากัสก็รู้ ๆ กันอยู่
เมื่อไม่มีพลังจากเทพประจำเผ่า มันจะไปมีโอ๊คการ์ดได้อย่างไร?!
บ้าน่า …
ไม่ใช่มั้ง …
ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นกลางใจของมัน วินาทีนั้นมีภาพของต้นไม้โลกทอดเงาตระหง่านผ่านเข้ามาในมโนภาพของศิลา …
“ไม่ .. เป็นไปไม่ได้ …”
เสียงของมันแหบแห้ง พร้อมร่างกายที่เย็นเยียบจากเหงื่อกาฬ
ข้าต้องหนี!
ข้าต้องกลับไป! ข้าต้องเตือนทุกคนในเผ่า!
ท่านนักบวชต้องทราบสิ่งนี้! เผ่าออร์คกำลังตกอยู่ในอันตราย!
…
เสียงคำรามของเบอร์เซิร์กเกอร์ดังกึกก้อง
เมื่ออึดใจก่อน มันได้รับวิวรณ์จากพระมารดา การได้รับใช้องค์เทพธิดานับเป็นเกียรติอันสูงยิ่ง หัวใจของมันแทบระเบิดด้วยความตื่นเต้น
ทว่า เมื่อโอ๊คการ์ดเดินทางมาถึงสถานที่ในวิวรณ์จากพระมารดา มันกลับพบเหล่าออร์คโสมมที่มันเกลียดนักเกลียดหนา ซ้ำร้ายพวกออร์คกำลังไล่ล่าบุตรีแห่งธรรมชาติ
และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือการลบหลู่ดูหมิ่นพระมารดา การกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ทำให้สติของเบอร์เซิร์กเกอร์ขาดผึงลงทันควัน ในเวลาเดียวกันพลันบังเกิดสุรเสียงของเทพธิดาขึ้นในใจของโอ๊คการ์ด …
“จงสังหาร”
ราวกับพันธนาการสุดท้ายได้ถูกปลดออก โอ๊คการ์ดคลุ้มคลั่งขึ้นในบัดดล
“โอออออออ——-”
เสียงคำรามกึกก้องกระชากทุกสรรพชีวิตในป่าให้ตื่นขึ้น
“ไอ้พวกลบหลู่! ตาย!”
พลังเวทมนตร์มหาศาลเจือด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์กระจายเป็นวงกว้างโดยมีโอ๊คการ์ดเป็นศูนย์กลาง ร่างของมันที่เดิมทีสูงร่วมสามสิบเมตรพลันขยายขึ้นอีก ดวงตานิ่งสงบพลันเปล่งประกายแดงฉาน กิ่งหนาจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกี่ยวพันกันเป็นแขนยักษ์ถูกเหวี่ยงเข้าปะทะอย่างไม่ปราณี
“พลียุทธ!”
โอ๊คการ์ดร่ายมนต์เป็นทำนอง แขนของมันกลายเป็นเถาวัลย์จำนวนมหาศาลไล่ล่ากลุ่มออร์คที่แตกกระเจิงเป็นผึ้งแตกรัง …
เถาวัลย์พุ่งทะลวงด้วยความเร็วมหาศาล ออร์คบางตนสิ้นชีพไปในไม่กี่ก้าวเดิน
“นี่มันอะไรวะ? ปล่อยข้า! ปล่อย!”
“ท่านศิลาช่วยข้าด้วย!”
“ปีศาจ! ปีศาจ! มันกำลังสูบพลังชีวิตข้า อ๊ากกกก”
“ขาข้า โอ๊ย! ขาของข้า!”
“…”
ศิลารู้สึกหวาดหวั่นทั่วสรรพางค์เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนที่น่าเวทนาจากเบื้องหลัง
สัญชาตญาณของมันร้องเตือนอีกครั้ง ศิลาเอี้ยวตัวหลบซ่อนโดยทันที ในวินาทีนั้นเถาวัลย์เส้นเขื่องพุ่งผ่านไปตามทางที่มันเคยอยู่ ความสะพรึงสุดขีดผุดขึ้นบนใบหน้า
เถาวัลย์เส้นเดิมหักเลี้ยวเข้าหามันอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ศิลากัดฟัน มันคว้าพร้าคู่ใจออกจากฝักพร้อมฟันสวนเข้าอย่างเต็มเปา
เคล้ง!
สิ่งที่หักสะบั้นลงกลับเป็นใบมีดพร้าเล่มโต ในทางกลับกันเถาวัลย์ยังคงไร้รอยขีดข่วน
“ได้ไงวะ?!”
ท่ามกลางความงุนงงของมัน เถาวัลย์พุ่งเข้ารัดร่างศิลาไว้ราวกับจะบีบให้ตาย ที่สำคัญคือพลังลึกลับบางอย่างมาพร้อมกับพันธนาการที่ไร้ทางต้าน ศิลารู้สึกถึงพลังชีวิตทั่วร่างกายที่มันเคยภาคภูมิใจถูกสูบออกอย่างรวดเร็ว มันสูญเสียพลังราวกับชราลงเป็นสิบ ๆ ปีภายในไม่กี่วินาที …
“พลียุทธ …”
เสียงของมันแหบแห้งและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พลียุทธ คือทักษะระดับกลางของดรูอิด ผู้ใช้งานสามารถแปลงบางส่วนของร่างกายให้กลายเป็นรากไม้และเถาวัลย์ การโจมตีจะดูดพลังชีวิตของเป้าหมายเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังรบของตน อีกทั้งยังสังเวยพลังบางส่วนของเหยื่อแด่พระมารดาแห่งธรรมชาติ
ช่วงเวลาที่สติสัมปชัญญะของมันใกล้ดับสูญ ศิลานึกขึ้นมาได้ว่าทักษะนี้เป็นของดรูอิดผู้มีศรัทธาในระดับที่เรียกได้ว่าคลุ้มคลั่ง … เพียงชั่วพริบตาเดียวทหารของมันถูกกวาดล้างไปกว่ายี่สิบตน
เหตุการณ์ทั้งหมดพลิกผันในเวลาไม่ถึงสิบวินาที
อลิซที่นั่งทรุดอยู่กับผืนดินได้แต่จ้องด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“โอ๊คการ์ด … พลียุทธ …”
เอลฟ์สาวพึมพำบางอย่างเมื่อชำเลืองมองเหล่าออร์คที่ถูกดูดพลังชีวิตจนแทบจะกลายเป็นซากแห้งกรัง หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มของเธอช้า ๆ
อลิซเงยขึ้นมองไปในทิศทางที่มีต้นไม้โลกตั้งอยู่ด้วยความฉงนเจ็ดส่วน กับความหวั่นวิตกอีกสามส่วน ในใจของเธอพลันบังเกิดความละอายและหวาดหวั่น
“พระมารดา … ใช่ไหมคะ?”
ลมเย็นวูบหนึ่งพัดเข้าปะทะ …
กลุ่มแสงสีเขียวจำนวนมหาศาลโปรยปรายลงจากฟากฟ้า ส่องประกายที่ดูเยือกเย็นและศักดิ์สิทธิ์ไปในเวลาเดียวกัน แสงอันอ่อนโยนไหลเข้าสู่ร่างกายของอลิซและซามีร์ราวกับถูกชักจูงด้วยพลังบางอย่าง
บาดแผลของทั้งสองพลันมลายหายไปสิ้น พร้อมพละกำลังดั้งเดิมหวนคืนสู่ร่างกาย ซามีร์ฟื้นคืนสติช้า ๆ …
ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับปาฏิหาริย์
ร่างนักบวชชราสั่นเทิ้ม เขามองไปยังโอ๊คการ์ดด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความฉงน ซามีร์พิจารณาร่างที่เคยเต็มไปด้วยบาดแผลของตนด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาปะติปะต่อเรื่องราวบางอย่างได้ ร่างชราพลันทรุดลงบนพื้นอีกครั้ง
เขาอยากจะคาดหวัง แต่ก็กลัวที่จะผิดหวัง
เขาอยากจะเชื่อ แต่ก็กลัวจะไขว่คว้าได้เพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม?
ข้าจะยังคงเชื่อมั่นต่อไปได้ไหม?
ในวินาทีนั้น เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ผุดขึ้นในใจของเอลฟ์ทั้งสอง
“นามของเรา อีฟ อึกก์ดราซิลล์”
ทั้งคู่ตกอยู่ในสภาวะตะลึงสุดขีด
เอลฟ์ทั้งสองหันมามองหน้ากัน สิ่งที่สะท้อนในแววตาของทั้งคู่เริ่มจากความหวาดหวั่นพรั่นพรึง แต่เพียงชั่วพริบตาที่อารมณ์เหล่านั้นกลายมาเป็นความประหลาดใจ
พระมารดา!
ท่านคือพระมารดาจริง ๆ!
ท่านกลับมาแล้ว …
ในวินาทีนั้น อลิซรู้สึกว่าตนเองหมดสิ้นเรี่ยวแรง เธอสั่นเทาไม่หยุด ร่างเล็กล้มลงสู่ผืนดินพร้อมหยาดน้ำตาที่หลั่งไหล
ใบหน้าซามีร์ที่ได้ยินเสียงเมื่อครู่เริ่มบิดเบี้ยว น้ำตาเม็ดใหญ่หยดลงราวกับไข่มุก เอลฟ์ผู้สูงศักดิ์ในเวลานี้หลั่งน้ำตาไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย …
“พระมารดา … เป็นท่านใช่ไหม? เป็นท่านจริง ๆ ใช่ไหม!”
“พระมารดากลับมาแล้ว”
“ท่านกลับมาแล้ว!”
เพลิงแห่งศรัทธาของเอลฟ์ทั้งสองที่เคยมอดดับไป บัดนี้ได้ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .
T/N: เถาวัลย์ต้นไม้+ออร์คคุง = วัตถุดิบชั้นดี
ต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตา–
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทได้ที่ต้นทางนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .