ความหมองหม่นระลอกใหญ่ได้เข้าปกคลุมหัวใจของโอ๊คการ์ดเมื่อมันได้ยินแผนของเดมาเซีย ประกายแห่งความขุ่นเคืองผสมปนเปกับความผิดหวังปรากฏขึ้นในตาของมัน
“ผู้ถูกเลือก ข้าเคยคิดว่าเจ้าคือผู้เปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม ไม่คิดไม่ฝันว่าจะทำตัวน่ารังเกียจเยี่ยงนี้ เจ้านำความอัปยศมาสู่ฉายาผู้พิทักษ์แห่งมหาพฤกษา!”
อลิซมองเดมาเซียด้วยความเฉยเมย สายตาของเธอเย็นชาราวกับกำลังจ้องมองกองขยะเปียกริมทาง
ปุ่กิ๊ง—
[ค่าความสนิทของเบอร์เซิร์กเกอร์ลดลง 40 หน่วย ความสนิทสนมเข้าสู่สถานะ “ไม่ชอบ”]
ปุ่กิ๊ง—
[ค่าความสนิทของอลิซ เกลลดลง 40 หน่วย ความสนิทสนมคงสถานะ “ไม่ชอบ”]
เดมาเซียยืนตัวแข็งเมื่อชำเลืองมองข้อความจากระบบ
“ได้ไง? แต้มความสนิทลดลงเพราะคำแนะนำของตูเนี่ยนะ?”
ความลังเลลุกลามไปในหมู่ผู้เล่น
“แผนนี้ … ไม่เวิร์ค?”
“จะทำไงถ้ามันมีภัยที่เราคาดไม่ถึงล่ะ? ยิ่งเพราะเป็นเกมนี้นะ … เราไม่กล้าคิดผลที่จะตามมาเลยอ่ะ”
“ใช่ เกมนี้ไม่เหมือนเกมทั่ว ๆ ไปนะ มันสมจริงแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ …”
“พวกเราออฟไลน์ในสถานะกำลังต่อสู้ไม่ได้นะ ต่อให้เราบังคับล็อกเอาท์สักทางก็เถอะ ตัวเราก็ยังอยู่ที่เดิมอยู่ดี แถมจะเกิดอะไรถ้าเราบึ้มตัวตายไม่ได้ …”
“ในกรณีนั้นก็เชื่อเหอะค่ะ ว่าจะได้แผลใจกลับบ้านแน่นอน”
“ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดไงนะ แต่เค้าไม่เอาด้วยกับแนวคิดนี้อ่า พวกก็อบลินดูโรคจิตจะตาย”
“เราจะไม่เข้าร่วมภารกิจถ้านายยืนยันว่านั่นคือแผน ไม่เอาด้วย เด็ด ขาด”
“ชั้นก็ไม่”
“ไอ้หนุ่มซิงเดมาเซีย”
“คนอย่างเธอไม่มีทางหาแฟนได้อ่ะค่ะ”
เดมาเซีย “…”
หลี่มู่ยังคงเงียบกริบ ครุ่นคิด ก่อนจะผุดไอเดียหนึ่งขึ้นมา
“… ฮันนี่แทรป? … เอาเข้าจริงมันก็ใช้ได้อยู่นะ”
ทุกชีวิตพลันตกตะลึงเพราะความเห็นของหลี่มู่
“โคตรเอาอ่ะพี่มู่ คิดเหมือนกันชะ?”
“บ้าไปแล้ว!”
“พี่มู่ก็เป็นหนุ่มโสดชะ? ประเภทที่จะใส่กางเกงหลากสีกับรองเท้าแตะหนีบใหญ่ ๆ ที่วัน ๆ เอาแต่ซื้อขนมถุงกับนมถั่วเหลืองทุกเช้า ใช่ป่ะ? ”
หลี่มู่ “…”
เขากระแอมอยู่หลายครั้งและเริ่มอธิบายก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
“ไม่สิครับ คือถึงจะชื่อฮันนี่แทรปเหมือนกัน แต่เราไม่เห็นต้องให้สาว ๆ มารับความเสี่ยงพวกนี้เลย”
หลี่มู่ชำเลืองมองเดมาเซียหัวจรดเท้า ท่าทางของเขาดูราวกับกำลังพิจารณาบางอย่าง ก่อนจะกล่าวต่อ
“เราจำได้ว่าใครสักคนมีสกิลแปลงกาย”
ได้ยินดังว่า เดมาเซียถึงกับสั่นไปทั่วสรรพางค์ราวกับมีไอเย็นยะเยือกพุ่งขึ้นมาตามสันหลัง …
…
บรรยากาศโดยรอบคือป่าที่ไร้ผู้ใดเคยย่างกรายเข้ามา
ต้นไม้สูงแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมผืนฟ้า พร้อมกับพุ่มไม้นานาพรรณที่เพิ่มความซับซ้อนของการเดินทางขึ้นไปอีกหลายระดับ
ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับไม่มีผลใด ๆ ต่อโอ๊คการ์ด
เบอร์เซิร์กเกอร์ก้าวผ่านผืนป่าราวกับเป็นพื้นที่สวนหลังบ้านของตน บนบ่าของเขามีเอลฟ์สี่ชีวิตในชุดผ้าลินินและเกราะไม้ และเบื้องหลังคือเดมาเซีย … ที่วิ่งหน้าตั้งตามมาพร้อมเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นทั่วร่าง
ผู้เล่นทั้งห้าคือหน่วยจู่โจมพิเศษที่ได้รับการโหวตเลือกโดยเหล่าผู้เล่น
ถ้าไม่นับเดมาเซีย หน่วยจู่โจมพิเศษเป็นทีมที่ประกอบด้วยหลี่มู่ นกกาเหว่า พร้อมด้วยผู้เล่นอีกสองคนที่ชื่อ ข้าวกล่องและลูกเมี้ยวเค็ม
ในบรรดาผู้เล่นทั้งห้า หลี่มู่และลูกเมี้ยวเค็มเป็นผู้เล่นสายเวทมนตร์ ในขณะที่เดมาเซีย ข้าวกล่อง และนกกาเหว่าเป็นผู้เล่นสายกายภาพ
เดิมทีหลี่มู่วางแผนให้ทีมบุกทะลวงใช้สมาชิกที่มีจุดเด่นด้านการลอบเร้น ทว่า ผู้ที่มีทักษะในสายดังกล่าวมีเพียงหยิบมือเดียว ทีมบุกเบิกสำหรับภารกิจนี้จึงต้องถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะตามสถานการณ์ ด้วยแนวคิดที่จะเฟ้นหาผู้เล่นสายโจมตีระดับสูงพร้อมกับผู้เล่นที่มีทักษะซัพพอร์ทด้านอื่น ๆ มาเป็นกลุ่มหัวหอก
หลี่มู่มีทักษะฟื้นฟูระดับต่ำและควบคุมเถาวัลย์ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีทั้งในด้านการหยุดยั้งศัตรูและการฟื้นฟู นอกจากนี้เขาคือผู้บัญชาการของทีม
ลูกเมี้ยวน้อย เป็นเด็กสาวตัวเล็กที่มาพร้อมกับ แปลงกาย ทักษะลวงตาที่หาได้ยากยิ่ง สามารถใช้เปลี่ยนลักษณะภายนอกของเป้าหมายเป็นเวลา 20 นาที
นกกาเหว่า มีความถนัดศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระยะประชิดและมีจุดเด่นทางกายภาพที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีทักษะ ไวต่อเสียง ที่ทำให้การตรวจจับร่องรอยของการสิ่งต่าง ๆ ได้โดยง่าย
ข้าวกล่อง เป็นผู้เล่นชายมาดนิ่ง เขาไม่มีทักษะการลอบเร้นหรือตรวจจับใด ๆ แต่กลับมีฝีมือในการตรวจหาสิ่งผิดปกติที่ยอดเยี่ยม นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพบงูหลามยักษ์ตั้งแต่ต้นเกม
และสำหรับ เดมาเซีย ผู้มีทักษะ พายุดาบ และ ยืนหยัด เป็นผู้ที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้อย่างมากในขณะที่รับบทตัวชนประจำกลุ่ม
ผู้เล่นทุกคนได้หารือกันและตัดสินใจว่าเดมาเซียจะเป็นผู้รับบทเหยื่อล่อในครั้งนี้
สมาชิกทีมทั้งห้าคนล้วนมีเลเวลสิบ
เมื่อเริ่มดำเนินแผนการ พวกเขาได้ขึ้นมานั่งบนไหล่ของเบอร์เซิร์กเกอร์ ทว่าโอ๊คการ์ดกลับปฏิเสธที่จะให้เดมาเซียโดยสาร เขาจึงเป็นคนเดียวที่ต้องอาศัยเท้าทั้งสองข้างของตนในการเดินทาง
ผู้เล่นคนอื่นจึงเข้าสู่ช่วงรับชมไลฟ์สตรีม ขณะที่รอให้การติดตั้งวงเวทเคลื่อนย้ายบรรลุตามเป้า
ใช่ การไลฟ์สตรีม
แม้ว่าอัตราการไหลของเวลาระหว่างสองโลกจะแตกต่างกัน แต่ปัจจัยนี้ไม่มีผลระหว่างผู้เล่นที่อยู่ในฝั่งซากัสซึ่งกำลังใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบของเกม เหล่าผู้เล่นจึงสามารถรับชมไลฟ์สตรีมของหน่วยจู่โจมพิเศษผ่านหน้าต่างระบบ
วิธีนี้ถูกค้นพบโดยผู้เล่นเมื่อไม่นานมานี้ มันคล้ายกับการใช้โปรแกรมแชทด้วยเสียงขณะเล่นเกม ทว่าเป็นไปในรูปแบบวีดิโอแทน บางคนได้ประยุกต์ใช้กับการล่าสัตว์อสูรในอดีตเพื่อเป็นการลาดตระเวนไปในตัว
อีฟรู้สึกทึ่งในทักษะการพลิกแพลงของเหล่าผู้เล่น อีฟจึงเปิดระบบไลฟ์สตรีมในมิติปัจเจกของตนเพื่อร่วมเป็นหนึ่งในผู้ชม
“พวกเรามาถึงแล้ว”
โอ๊คการ์ดหยุดลง
มันย่อเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อให้สมาชิกทีมก้าวลงสู่พื้น ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มหนัก
“เราอยู่ห่างเพียงกิโลเมตรเดียวจากฟลอเรนซ์ ข้าจะไม่เข้าไปใกล้กว่านี้เพื่อป้องกันการค้นพบโดยนักบวชก็อบลิน โปรดดำเนินการด้วยดุลพินิจของพวกท่าน”
สิ้นประโยคดังกล่าว ร่างยักษ์พลันหันหลังและกลืนหายเข้าไปในผืนป่า
เดมาเซียผู้วิ่งสุดชีวิตตามหลังมาได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมหอบหายใจอย่างแรง เขายืนพิงต้นไม้ใหญ่พลางก้มลงนวดเข่าที่ปวดร้าวของตนพร้อมมองไปทางเบอร์เซิร์กเกอร์ด้วยสายตาเย็นชา
“ชั้นบอก .. แฮ่ก … ว่ามันไม่จำเป็นที่จะ … แฮ่ก … ก็แค่ไอเดียอ้ะ …จะมาเกลียดกันมากมายถึงขั้นไม่ให้ขี่หลัง”
“คือเธอไม่รู้ตัวว่ามันแย่แค่ไหน ว่างั้น?”
นกกาเหว่าจ้องเดมาเซียด้วยสายตาเย็นเยียบ พร้อม ๆ กับเหล่าผู้เล่นที่กำลังดูไลฟ์สตรีมพากันซ้ำเติมด้วยความสะใจ
“ออกกำลังกายหน่อยสหาย วิ่งดิเดมา! วิ่ง! ปั้มเปอร์ได้ซักหน่วยสองหน่วยเลยนะโว้ย”
“ฮ่าฮ่า เดมาเซีย เป็นไงล่ะแต้มติดลบไปเลย”
“หึ ชั้นยังจำได้ดีตอนที่ไอ้นี่มันเอาแต่อวดแต้มสนิทลุงบี เป็นไงล่ะ คืนเดียวหายเรียบ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เห็นชัดจะตายว่าพวก NPC เขามองก็อบลินเป็นแหล่งรวมความน่ารังเกียจขนาดไหน กล้าเสนอแผนที่ใช้สาว ๆ ไปเป็นเหยื่อล่องั้น จะโดน NPC เกลียดขี้หน้าก็สมควรแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ท่านโอ๊คการ์ดและเหล่าเอลฟ์เป็นผู้มีเกียรติ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! งานนี้ เหยื่อ คงต้องออกแรงหน่อยแล้ว”
“ชั้นจะรอดูนายกลายเป็นตัวล่อมอน!”
“เฝ้ารอ +1”
“รอด้วย +2”
หน้าของเดมาเซียดูบูดเบี้ยวในขณะที่ช่องแชทถูกข้อความถล่มอย่างต่อเนื่อง
นกกาเหว่าพักการล้อเลียนเดมาเซียไว้เพียงแค่นั้น เธอนิ่งสงบพลางตั้งใจฟังเสียงรอบตัวด้วยใบหูที่เอียงไปฝั่งหนึ่ง …
นั่นคือทักษะของนกกาเหว่า ไวต่อเสียง
“แถวนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่”
นกกาเหว่ากล่าว
ข้าวกล่องส่ายหัวเป็นเชิงสนับสนุนหลังจากออกสำรวจบริเวณโดยรอบมาเมื่อครู่ ผู้เล่นทุกคนพากันโล่งใจจากข้อมูลที่ได้รับ
หลี่มู่มองสำรวจรอบข้างพลางหยิบอุปกรณ์สร้างวงเวทเคลื่อนย้ายออกมาก่อนจะเอ่ย
“เราคิดว่าแถวนี้เป็นชัยภูมิที่ดี พวกเรามาเคลียร์พื้นที่แล้วติดตั้งวงเวทกันเถอะ ด้วยระยะห่างหนึ่งกิโลราว ๆ นี้ คงมั่นใจในความปลอดภัยได้ในระดับนึง … ถ้าพวกเราเข้าไปใกล้กว่านี้ก็คงจะเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงโดยใช่เหตุ”
เขาชำเลืองมองเดมาเซียด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ทันทีที่กล่าวจบประโยค
“เอาล่ะ พวกนายเตรียมตัวให้พร้อม ทำวงเวทเคลื่อนย้ายกันจบเมื่อไร ให้ไปล่อก็อบลินมาทดสอบพลังของพวกมันกัน”
ใจของเดมาเซียแป้วลงราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะ ชายหนุ่มเดินเลี่ยงไปข้าง ๆ ด้วยความหวาดกลัว ไอกระท่อนกระแท่นติด ๆ อยู่พักหนึ่งแล้วจึงกล่าว
“พะ … พี่มู่ … ไอ้เรื่องนั้น … ไม่เอาจริงได้ป่ะ?”
“ไม่ใช่ว่านายเสนอแผนนี้เองเหรอ เดมาเซีย?”
ลูกเมี้ยวน้อยคว้าเอาชุดเดรสสีเขียวอ่อนออกมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“รีบใส่ชุดนี้เร็ว น้องอลิซให้มาเลยน้า–”
หน้าของเดมาเซียซีดเป็นไก่ต้มเมื่อเห็นชุดเดรสไซซ์จิ๋วตัวนั้น
“บ้าบอ! พวกนายเอาจริงเดะ? จะให้ตูใส่ชุดผู้หญิงจริง ๆ เรอะ? ตูบอกว่าฮันนี่แทร็ป! ไม่ใช่รีเวิร์สฮันนี่แทร็ป! ตูเป็นชายทั้งแท่งว้อย!”
“ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เดี๋ยวทำสวยด้วยสกิลแปลงกายให้เอง”
ลูกเมี้ยวน้อยพูดต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เดมาเซีย: “…”
“ตัวเธอยังจำได้มั้ย เธอยังไม่มีบ้าน เสาหลักซักต้นก็ยังไม่มี”
นกกาเหว่าถามอย่างละมุนละไมในฐานะหัวหน้าทีมก่อสร้าง
เดมาเซีย: “…”
“นายอยากจะให้ผู้เล่นหญิงมารับความเสี่ยงพวกนี้จริงรึ?”
ข้าวกล่องปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวด
เดมาเซีย: “…”
ช่องแชท ณ เวลานี้ถูกบรรดาผู้เล่นถล่มด้วยความสะใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เดมาเซียผู้กล้าหาญ จงกลายร่างเป็นสาวถึกด้วยชุดกระโปรงตัวนั้นซะ!”
“จัดไปพวก! นายจะเป็นคนดีทันทีที่ใส่มัน!”
“ไอเดียแหล่ม ๆ เสนอโดยคนแจ่ม ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ใส่ให้ไว ถ้าไม่อยากให้บ้านในอนาคตของนายกลายเป็นกองขยะ ฮี่ฮี่ …”
เดมาเซีย: “…”
หลี่มู่กระแอมสองครั้งติด ๆ พลางตบบ่าเดมาเซีย
“เดมาเซีย ทำเถอะ ยังไงนายก็เกิดใหม่ได้มากกว่าชาวบ้าน รับเควสปุ๊บได้สามทีฟรีปั๊บ นายคือเดมาเซียแปดชีวิต แถมนายเป็นบุรุษผู้ไร้ความกลัวต่อทั้งความตายและการโดน-จับ-โดย-ก็อบ-ลิน … ความเสี่ยงย่อมต่ำกว่าปล่อยสุภาพสตรีทำงานนี้อยู่แล้ว อะแฮ่ม … ถ้าพลาดโดนจับก็แค่บึ้มตัวเอง ถ้าไม่เวิร์คก็ให้ลองออฟไลน์ไป”
เดมาเซีย: “…”
ตูก็มีเอกราชที่ต้องปกป้องนะโว้ย?!
เดมาเซียรับแรงกดดันจากเหล่าผู้เล่นไม่ไหว ได้แต่จำใจคว้าชุดเดรสด้วยสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทน
“เอาล่ะ … ชั้นจะทำ โอเค้?”
สิ้นประโยคดังกล่าว ชายหนุ่มพลันเริ่มเปลี่ยนชุดอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
“อย่าถอดตรงนี้ค่ะ ไม่อยากเห็นแสงศีลธรรมที่บังส่วนอุจาดค่ะ”
เดมาเซีย: “…”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
สภาพช่องแชทตอนนี้ราวกับถูกพายุลูกใหญ่พัดผ่าน
แม้แต่อีฟที่นั่งชมไลฟ์สตรีมมาตลอดก็ร่วมหัวเราะไปกับผู้เล่นด้วย ทว่าในใจของอีฟพลันปรากฏความเศร้าโศกขึ้นมาเล็กน้อย
“ดีจังเลยน้า …”
“อยากมีร่างกาย อยากเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระบ้างจัง …”
บางครั้งคนเราอาจจะลืมคุณค่าของสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่จะเริ่มตระหนักและโหยหามันเมื่อสูญเสียไป
หากปราศจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เพียงพอ อีฟจะไม่สามารถสร้างร่างจุติที่รองรับวิญญาณของตนได้
ในวินาทีนั้น อีฟรู้สึกว่าเสียงหัวเราะและความเพลิดเพลินของเหล่าผู้เล่น ช่างเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากตนเหลือเกิน …
มันเป็นความรู้สึกอันล้ำค่าที่แสนไกลห่าง
ราวกับสองภพที่ไม่บรรจบกัน
“สักวัน … มันต้องมีสักวัน …”
อีฟพึมพำออกมาเบา ๆ
ทว่าสิ่งนี้คือความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: Q – Q อีฟ ….
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _