ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 30 หญิงสาวที่จิตใจอำมหิต

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่30 หญิงสาวที่จิตใจอำมหิต

“ท่านราชาหมาป่าสวรรค์โปรดอภัยแก่นางด้วย! สาวน้อยคนนี้ยังเด็กนัก ย่อมไม่เข้าใจถึงกฎหมายบ้านเมืองและโทษต่อสิ่งที่กระทำลงไป!”

สีหน้าของเซี่ยอี้เฉินที่เพิ่งจะฟื้นตัวได้เพียงครู่หนึ่ง ยามนี้กลับต้องซีดเผือดอีกครั้ง เขารีบล้มตัวลงอยู่ในคุกเข่า ขอโทษขอขมาต่อแทบเท้าไป๋หลี่หานไม่หยุดหย่อน

อิ๋งเอ๋อร์เองก็หน้าถอดสีซีดขาวไปเช่นกัน รีบคุกเข่าขอความเมตตาไปอีกคน โทษของการลอบสังหารเชื้อพระวงศ์องค์เจ้านั้นรุนแรงเกินจินตนาการ ต่อให้มีสักสิบชีวิตก็เกรงว่าจะไม่เพียงพอ!

“ท่านราชาหมาป่าสวรรค์มีฝีมือฉกาจกว่าข้านับหลายสิบทวีเท่า ต่อให้อยากสังหารท่านเพียงใด ทว่าตัวข้ากลับยังไม่มีความกล้าถึงปานนั้น”

หันหน้าเข้าสบสายตาสีเย็นผ่านหน้ากากนั่น เซียถงเอ่ยตอบตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทั้งแอบกระตุกข้อมือกลับมาอย่างแรง

“หากกล้ากว่านี้คงลงมือแล้วกระมัง? นี่เจ้าทราบหรือไม่ว่า โทษของการลอบสังหารเชื้อพระวงศ์นั้นใหญ่หลวงปานใด? ถึงขั้นประหารเจ็ดชั่วโคตร ล้างบางสายเลือดตระกูลจนสูญสิ้นมิให้สืบต่อที่ใดอีกต่อไป”

ไป๋หลี่หานจับจ้องมองเซียถง สายตาไม่คลายอ่อนเลยเช่นกัน

อีกฝ่ายลอบสังหารตัวเขายังทำเนา แต่หากเมื่อสักครู่นี้ ไป๋หลี่หานออกมาห้ามปรามไม่ทัน คมมีดสั้นในมือของเซียถงคงปักทะลุขั้วหัวใจขององค์รัชทายาทเป็นแน่แท้ และเมื่อสถานการณ์พัฒนาไปถึงจุดนั้น ต่อให้นางมีสักสิบชีวิตก็ไม่พอ กลับหารู้ไม่เลยว่า ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำมันเป็นอย่างไร

นิ้วมือห้าประสานของไป๋หลี่หานเข้ากลัดกุมแน่น ไม่ว่าเซียถงจะพยายามชักมือกลับไปอย่างไร กลับเปล่าประโยชน์ ทั้งยังถูกจับไว้แน่นหนาเสมือนปราการเหล็กกล้า

“เรียนท่านราชาหมาป่าสวรรค์ เหตุไฉนท่านถึงชอบกล่าวหาผู้คนใส่ความเท็จ? บอกข้ามีเจตนาลอบสังหารเชื้อพระวงศ์ แล้วท่านเห็นมันกับตาตัวเองหรือไม่? หรือหากจะกล่าวว่า เห็นมีดสั้นเล่มนี้อยู่ในมือของข้า พึงทราบไว้ ก่อนหน้าข้ากำลังใช้มีดหั่นผลไม้ทานในยามดึก เห็นหน้าจวนเกิดเรื่องวุ่นวายจึงรีบออกมา จนเผลอหยิบมีดติดมือมาด้วยก็เท่านั้น”

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อีกฝ่ายมีอำนาจการต่อรองที่สูงกว่า ทั้งยังมีระดับฝีมือเหนือกว่ามาก เซียถงจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องยอมถอย ปล่อยให้ไป๋หลี่หานกุมมือขวาไปทั้งแบบนั้น นางเลิกคิ้วเล็กน้อย แสร้งกล่าวดั่งว่าตนเป็นผู้เสียหายว่า

“ยามนี้ท่านกำลังจับมือของข้า หากใครเห็นและนำเอาไปแพร่งพราย อาจทำให้ตัวข้าเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ หรือปรากฏว่าท่านราชาหมาป่าสวรรค์ แท้จริงแล้วมีรสนิยมชอบรังแกสตรีเพศ?”

แม้ไป๋หลี่หานจะช่วยนางไว้ครั้งหนึ่ง แต่ก็มิได้หมายความว่า อีกฝ่ายจะทำอะไรกับนางก็ได้ตามต้องการ

เสื่อมเสียชื่อเสียง? ไป๋หลี่หานยืนนิ่งตัวแข็งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง มุมปากกระตุกโค้งงอขึ้นทันที นี่เป็นเรื่องน่าขันที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา! น่าตลกขบขันอะไรปานนี้!

เมื่อจับจ้องไปที่ร่องรอยจุดด่างดำทั่วใบหน้าของเซี่ยถง สีหน้าท่าทีของเขาพลันมืดขรึมลงหลายส่วน เอ่ยน้ำเสียง ขับขานวาจาฟังดูค่อนข้างแรงว่า

“ใบหน้าของเจ้ามิได้งดงาม ไม่ว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ เจ้าก็ไม่มีทางแต่งงานได้อยู่ดี”

กล่าวออกไปเช่นนั้นแล้ว มือข้างหนึ่งที่กลัดกุมข้อมือของเซียถงก็ยิ่งกระชับบีบแน่นขึ้นเล็กน้อย

หญิงสาวนางนี้กล่าวราวกับว่า ข้ากำลังทำให้นางเสื่อมเสียเชื่อเสียงงั้นรึ? แล้วเจ้ามีชื่อเสียงอันใดให้ข้าทำให้เสื่อมเสียบ้างล่ะ?

เซียถงเริ่มมีน้ำโหเล็กน้อย ทันใดนั้นพลันยกเท้าขึ้น และเตะผ่าหมากหวดสวนขึ้นไปสุดแรงเกิด!

ข้าคือเสือที่ยังไม่ตื่นดี หาใช่แมวป่วยให้พวกเจ้ารังแกกัน!

เซียถงในคราวนี้หวดเตะออกไปเต็มแข้ง แรงฉีกอากาศผ่าสายลมเสียงดัง ‘หวืด!’ หวังเตะอัดรากเหง้า ทำลายจุดศูนย์รวมชีวิตของราชาหมาป่าสวรรค์ให้แตกกระจายในชั่วอึดใจ!

เซี่ยอี้เฉินที่อยู่ในท่าคุกเข่าอยู่กับพื้น จับจ้องภาพฉากตรงหน้าด้วยสีหน้าซีดเผือดถึงขีดสุด ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด โซเซไม่มั่นคงอยู่หลายครา ก่อนที่สุดท้ายจะล้มคะมำลงทั้งแบบนั้น ใจหายวูบแทบหยุดเต้น นังมารน้อยตัวนี้มีแผนที่จะฆ่าล้างบางเหล่าผู้คนในจวนเสนาบดีแห่งนี้อยู่รึไงกัน!

อิ๋งเอ๋อร์ดวงตาเบิกกว้าง ยกมือปิดปากแน่นราวกับกลัวว่า สุ้มเสียงกรีดร้องของตนจะเล็ดลอดหลุดออกมา

แต่ไป๋หลี่หานเคยเห็นลูกไม้เช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง จะเห็นอีกรอบคงไม่แปลก

เขาคำนวณไว้หมดแล้วว่า หญิงสาวนางนี้จะต้องหยิบใช้ท่วงท่าดังกล่าวออกมาแน่นอน ชั่วขณะต่อมาที่นางยกเท้าหวดเข้าใส่ ไป๋หลี่หานรีบเบี่ยงตัวหลบ ปล่อยให้ลูกเตะดังกล่าวหวดงัดขึ้นฟ้า พลาดเป้าคว้าน้ำเหลวไป

“เป็นหญิงสาวที่จิตใจอำมหิตนัก”

ข้อมือขวาของเซียถงยังคงถูกกลัดกุมไว้แน่น จับจ้องลูกเตะดังกล่าวที่อัดแน่นไปด้วยลมปราณจนล้นทะลัก ดูเหมือนว่า นางคนนี้กะเอาตายจริงๆ!

เซียถงกลับปิดปากเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ทว่าทันใดนั้น ท่วงท่าของนางกลับแปรเปลี่ยนไป พร้อมยกมือซ้ายกางนิ้วทั้งห้าขึ้นมา พุ่งเข้าตะปบลำคอของไป๋หลี่หานด้วยความเร็วสูงสุดประดุจสายฟ้า!

ไป๋หลี่หานผงะ รีบคลายข้อมือขวาของเซียถง เร่งเร้าลมปราณ ใช้ท่าเท้าร่นถอยออกมาทันที เพื่อเลี่ยงหลบกรงเล็บทั้งห้าเบื้องหน้า

บรรดาองครักษ์ยอดฝีมือที่อยู่เบื้องหลังไป๋หลี่หาน รีบชักดาบคมกระบี่ออกมาครบมือ ท่าเตรียมพร้อมโจมตีใส่เซียถงทุกเมื่อ

คล้อยหลังไป๋หลี่หานร่นถอยออกมาได้หลายก้าว เขาก็สาดสายตายิงใส่เซียถงเจือแววขุ่นเคืองเล็กน้อย โชคยังดีที่ปฏิกิริยาของเขายังค่อนข้างเฉียบคม มิเช่นนั้นแล้ว หากประมาทไปเสี้ยวพริบตา คงถูกกรงเล็บทั้งห้าของอีกฝ่ายตะปบถึงตายเป็นแน่

ข้าเองก็ช่วยนางมาหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายถึงขั้นลงมือลงไม้เช่นนี้ เกรงว่าจะมากเกินไปหน่อย

“เวลาจะจัดการกับพวกหยาบกร้าน ก็จำเป็นต้องใช้วิธีหยาบกร้านเช่นกัน”

หลังจากทำให้ไป๋หลี่หานคลายพันธนาการออกจากข้อมือขวาของตนได้สำเร็จ นางก็ชักมือเก็บกลับเข้าไปโดยไว ซ่อนคมมีดสั้นไว้ใต้แขนเสื้อดังเดิม พร้อมจับจ้องอีกฝ่าย ด้วยสีหน้าแสนภาคภูมิใจ

ทุกอากัปกิริยาของเซียถงก่อนหน้า ทำเอาเซี่ยอี้เฉินร่างกายเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ นั่งก้มจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นทั้งอย่างนั้น จับจ้องนางด้วยความหวาดหวั่น หัวใจเจียนจะหยุดเต้นไปโดยสมบูรณ์ ภาพฉากที่นังมารน้อยลงมือลงไม้กับท่านราชาหมาป่าสวรรค์ยังคงตราตรึงอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย ทำเอาเขากลัวแทบตาย!

เมื่อเห็นว่า ไป๋หลี่หานปลอดภัยดี ก็เสมือนว่า หัวใจของเซี่ยอี้เฉินเริ่มกลับมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง รีบตั้งสติคลานเข่าเข้าไปกราบแทบเท้าอีกฝ่ายโดยไว

“โปรดอภัยให้นางด้วย! โปรดอภัยให้นางด้วย! ทั้งหมดล้วนแต่เป็นความผิดของข้า ที่สั่งสอนนางมาไม่ดีพอ!”

จากนั้นเซี่ยอี้เฉินก็หันไปตวาดใส่เซียถง น้ำฟังโกรธเกรี้ยวสุดขีดสนั่นลั่นว่า

“นังเดรัจฉาน! ท่านราชาหมาป่าสวรรค์อุตส่าห์ช่วยชีวิตเจ้าไว้! แต่เจ้ากลับตอบแทนเช่นนี้รึ!?”

“เอาล่ะ เอาล่ะ พอแล้ว”

ไป๋หลี่หานโบกมือให้ปัด หันไปบอกให้องครักษ์ทั้งหมดเก็บอาวุธลง และมองกลับไปทางเซียถง

เซียถงก่นเสียงเย็นคำหนึ่งอยู่ในลำคอ คิดกับตัวเองไปว่า เพราะอีกฝ่ายเคยช่วยนางเอาไว้นั่นแหละ จึงเคลื่อนไหวออกไปแค่เท่านี้

“นังเดรัจฉาน!! ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษอีก!!”

เมื่อเห็นว่าเซียถงไม่มีแม้แต่เจตนาขอโทษเลย เซี่ยอี้เฉินก็โพล่งลุกขึ้นจากพื้น ย่ำเท้าตรงเข้ามา หวดฝ่ามือตบหน้าหวังจะสั่งสอนให้หลาบจำ

เซียถงยืนนิ่งมองฝ่ามือของอีกฝ่ายที่กำลังจะฟาดลงมา สีหน้าการแสดงออกของนางช่างเย็นชายิ่งกว่าอะไร และขณะที่ฝ่ามือนั่นกำลังจะลงมาถึง ก็กลับโดนไป๋หลี่หานคว้าจับเอาไว้ หยุดกลางอากาศค้างอยู่ท่านั้น

เซียถงเพียงเหลือบหางตามองไป๋หลี่หานที่ตรงเข้ามาหยุดการกระทำของอีกฝ่ายเอาไว้ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย บังเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า เจ้านี่คิดจะเล่นอะไรอีก?

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท