ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 58 สถานศึกษาเซิงหลิง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่58 สถานศึกษาเซิงหลิง

“เฉพาะเยาวชนที่มีพรสวรรค์ จึงมีการจำกัดอายุต่ำกว่ายี่สิบสองปี แต่ละจักรวรรดิสามารถส่งผู้เข้าประลองได้สี่คนเท่านั้น”

ใช่แล้ว งานประลองแห่งสี่จักรวรรดินับเป็นการประชันฝีมือครั้งใหญ่ ทั้งนี้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของแต่ละจักรวรรดิอีกด้วย

กล่าวคือ ผู้ใดได้สิทธิ์เข้าร่วม ย่อมมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรการฝึกปรือที่หายากกว่าคนอื่นๆ นี่ยังไม่รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมาย

เซียถงพยักหน้า คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความเคารพยิ่งว่า

“หม่อมฉันเต็มใจอย่างยิ่งที่จะได้ทำเพื่อจักรวรรดิตงหลี่!”

ฝ่าบาทพยักหน้าตอบ พลางชำเลืองมองเซียถงไปหนึ่งปราด กล่าวว่า

“ดีมาก จักรวรรดิตงหลี่ของข้าได้รับการจัดอันดับให้อยู่ท้ายตารางเสมอมา หวังว่าครั้งนี้เจ้าจะนำความสำเร็จมาสู่พวกเราได้”

น้ำเสียงฟังดูแล้วโศกเศร้ามิใช่น้อย

สำหรับอันดับสุดท้ายที่ได้รับมาตลอดทุกครั้ง ทำให้องค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิตงหลี่ผู้นี้แทบจะไม่มีหน้าไปพานพบกับบรรดาองค์จักรพรรดิของอีกสามจักรวรรดิที่เหลือเลย ทุกครั้งที่ห้าปีมาบรรจบและจัดงานประลองขึ้นมา ทั้งสามคนที่เหลือมักจะชอบหัวเราะเยาะเขาเสมอมา ซึ่งนี่เป็นความอัปยศตลอดมาที่ต้องเจอทุกๆ ห้าปี

“หม่อมฉันจะนำพาความสำเร็จกลับมายังจักรวรรดิตงหลี่ให้จงได้ ขอพยายามจนตัวตายเพื่อให้จักรวรรดิตงหลี่รุ่งโรจน์อีกครั้ง!”

เซียถงเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเปี่ยมแววแน่วแน่มั่นคง กล่าวปฏิญาณสัญญากับฝ่าบาท

“ดี ดีมาก ในเมื่อเจ้ามีความทะเยอทะยานและรักชาติบ้านเมืองปานนี้ เช่นนั้นแล้ว…ข้าจะส่งเจ้ากับคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งเข้าศึกษาในสถานศึกษาเซิงหลิงในวันพรุ่งนี้ จงพัฒนาความแข็งแกร่งของเจ้าให้สูงล้ำ ภายในระยะเวลาสามเดือนที่เหลือ เจ้าต้องแข็งแกร่งไร้เทียมทาน!”

ฝ่าบาทยกฝ่ามือตบโต๊ะดังปัง ท่าทางดูกระตือรือร้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง

“ขอบพระคุณสำหรับความกรุณาฝ่าบาท”

เซียถงลอบยิงแสงเร้นประกายอย่างลับๆ มุมปากเชิดสูงแสยะยิ้ม โค้งคำนับขอบคุณอีกครั้งด้วยความสุภาพ

ทุกอย่างเป็นไปดั่งกลอุบาย ช่างหอมหวานเสียจริง

สถานศึกษาเซิงหลิง ถือเป็นสถานศึกษาของผู้บำเพ็ญตบะชั้นนำแห่งจักรวรรดิตงหลี่ อาจารย์ภายในนั้นล้วนแต่เป็นยอดฝีมือระดับหัวแถวกันทั้งสิ้น เหล่าศิษย์สาวกล้วนแต่เป็นพวกบุตรหลานของเชื้อพระวงศ์ ไม่ก็คุณหนูคุณชายจากตระกูลมั่งคั่ง บางคนแม้จะมีพรสวรรค์ที่ไม่โดดเด่น แต่เบื้องหลังที่คอยช่วยเหลือกลับแข็งแกร่งเหนือคาด มิเช่นนั้นคงไม่มีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนในสถานศึกษาเซิงหลิงเช่นกัน และกล่าวกันตามตรง อาศัยเพียงแค่สถานะบุตรสาวของจวนเสนาบดีชั้นปลายแถว ถึงเซียถงจะมีพรสวรรค์ความสามารถ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะเข้าเรียนได้โดยลำพัง

ถึงแบบนั้น ในตอนนี้ภายใต้คำแนะนำของฝ่าบาท เซียถงสามารถเข้าศึกษาฝึกปรือที่นี่ได้อย่างไม่ยากเย็นอันใดเลย

“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ เดี๋ยวเจ้าเดินตามสาวรับใช้คนนั้นไปเพื่อเอาเห็ดหลินจือมรกต ข้ายังมีธุระสำคัญที่ต้องหารือกับอัครมหาเสนาบดีเย่ต่อ”

ฝ่าบาทโบกมือปัดส่งให้ทางเซียถง

หลังจากเซียถงกล่าวขอบคุณและขอตัวลาออกไป เป็นอีกครั้งที่เย่หลีเทียนเหลือบสายตามองนางขณะเดินติดตามสาวรับใช้ในวังคนนั้นออกไป สายตาดวงนั้นของเขาประดุจอสรพิษร้าย ที่ทั้งโหดเหี้ยมและเย็นชา ทำเอาเซียถงรู้สึกหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจไปชั่วขณะ จนอดเร่งฝีเท้าตีห่างออกไปมิได้

คล้อยหลังเดินตามสาวรับใช้ในวังนางนั้นไป ผ่านประตูวังไปหลายบาน ในที่สุดพวกนางก็มาถึงโถงพระคลังในท้ายที่สุด ขันทีผู้มีหน้าที่เฝ้ารักษาอยู่หน้าประตูโถงพระคลังขอให้เซียถงนั่งรออยู่ด้านนอกโถงสักครู่หนึ่ง ขอตัวเข้าไปหาเห็ดหลินจือมรกตก่อน

เซียถงเดินไปตามสาวรับใช้นางนั้นต่อไป เพื่อไปหาที่ว่างนั่งรออยู่ด้านนอกโถงพระคลัง ก่อนที่นางจะพบเข้ากับไป๋หลี่หานที่กำลั่งนั่งริมจิบชาอยู่มิใกล้มิไกล อีกฝ่ายเพียงเอียงศีรษะเหลือบหางตามองมาทางเซียถงเล็กน้อย จับฝาครอบถ้วยชาปาดเช็ดขอบแก้วไปมาอย่างแช่มช้า เซียถงเลิกคิ้วมองอยู่สักพัก จากนั้นค่อยถอนสายตาออกมา เลือกที่นั่งว่างๆ เอาให้ห่างไกลจากอีกฝ่ายที่สุด แล้วค่อยนั่งลง

หลังจากนั่งลงได้สักพัก สาวรับใช้นางนั้นก็นำชุดถ้วยชายกมาให้ถึงตรงหน้า นี่ก็อยู่ในวังเกิดเรื่องโน่นนี่อยู่พักใหญ่แล้ว นางเองก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างยิ่ง เซียถงยกมือจับการินน้ำชาด้วยตัวเองโดยไว ขณที่กำลังยกเข้าใกล้ริมฝีปากกำลังจะดื่ม จู่ๆ ก็มีฝาครอบถ้วยชาบินมาจากทิศทางด้ายขวา พุ่งเข้ากระแทกถ้วยชาในมือนางจนหลุดกระเด็น ร่วงกระแทกพื้นแตกออกเป็นเสี่ยงเล็กเสี่ยงน้อย ชาร้อนสาดกระเซ็นลวกทั้งตัวนาง

“นี่หมายความว่าอย่างไรรึท่าน?”

เซียถงลุกขึ้นมองไป๋หลี่หานที่กำลังนั่งจิมชาอารมณ์ดี สีหน้าแววตาหม่นลงหลายส่วน

“โอ้? พอดีมือข้ามันลื่น เผลอทำกระเด็นไปหาเจ้าจนได้”

ไป๋หลี่หานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหลียวมองนางพร้อมส่งมอบคำตอบสบายๆ กลับไปให้

“เป็นเช่นนั้นเอง”

เซียถงนั่งลงอีกครา เอี่ยวตัวลงไปหยิบเศษแก้วชาขึ้นมาชิ้นหนึ่ง และนำถ้วยชาอันใหม่ออกมามาพร้อมเริ่มรินชาอีกครั้งอย่างใจเย็น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นางหันไปกล่าวกับสาวรับใช้ที่กำลังยืนตื่นตระหนกอยู่เคียงข้างว่า

“ชาสีอ่อนไปเสียแล้ว นำใบชามาเพิ่มให้ที”

สาวรับใช้ในวังนางนั้นพยักหน้าตอบ และรีบคว้าชายกระโปรงถกขึ้นสูงและรีบวิ่งออกไป แทนที่จะเอากาเก่าไปเติมใบชา ทว่านางกลับวิ่งไปชงชากาใหม่ให้ทันที

เหม่อมองแผ่นหลังสาวรับใช้ที่เดินจากออกไป เซียถงปั้นหน้าฉายแววสงสัยออกมาในทันใด ไฉนสาวรับใช้นางนี้ถึงดูกระสับกระส่ายปานนี้ด้วย?

“กลับบ้านไปเถอะ ชาในวังหาใช่ของดีสักเท่าไหร่”

ไป๋หลี่หานเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เหลือบหางตามองสาวรับใช้นางนั้นที่รีบวิ่งออกไป

แก้วตาเซียถงส่องประกายวาบหนึ่ง คล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้แล้ว จึงค่อยหันกลับมามองไป๋หลี่หาน ทันทีทันใดก็มีเศษถ้วยแผ่นหนึ่งถูกดีดออกมาจากนิ้วมือขวาของนาง พุ่งเข้าใส่ถ้วยชาในมือของไป๋หลี่หานอย่างแม่นยำ

ไป๋หลี่หานปฏิกิริยารวดเร็วว่องไวยิ่งยวด กางสองนิ้วคีบเศษถ้วยแผ่นนั้นเอาไว้ได้ทันก่อนตกลงไปในถ้วยชา เงยหน้าขึ้นจับจ้องทางเซียถง

“โปรดอภัย ข้าเองก็มือลื่นเล็กน้อยเช่นกัน เผลอทำกระเด็นใส่ท่านจนได้”

เซียถงเหลือบสายตาสวนอีกฝ่ายกลับไป และเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเอื่อย

พอไป๋หลี่หานได้ยินเช่นนั้น มุมปากพลันกระตุกขึ้นทีหนึ่ง แววประกายแสงนุ่มนวลส่องสะท้อนผ่านแก้วตาคู่นั้น

คิดบัญชีไวโดยแท้ แต่โชคยังดีที่เขาเตรียมพร้อมเสมอ!

เซียถงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรต่อ ไป๋หลี่หานเองก็มิได้เอ่ยกล่าวอันใดออกอีกเช่นกัน เพียงทั้งสองต่างจับจ้องมองหน้ากันอยู่คนละฝากฝั่ง บรรยากาศเงียบฉี่รู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก

ทั้งสองต่างสบตากันและกันชนิดไม่มีใครยอมใคร

แผ่นหลังของหญิงสาวตั้งตรง เซียถงจ้องเขม็งมองสวนโต้กลับไปโดยไม่มีแววเกรงกลัว แก้วตาของนางใสบริสุทธิ์งดงาม แต่เร้นแฝงไปด้วยความเยียบเย็นระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของไป๋หลี่หานเองก็ไม่มียอมกัน ม่านตาดีดำขลับเข้มยิ่งทวีความลึกล้ำเข้มข้น เบื้องลึกในดวงตาคู่นั้นเปรียบเสมือนหุบเหวไร้ก้นบึ้งที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกเป็นชั้นหนา

ประดุจช่วงเวลาได้หยุดนิ่งลง ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัดจนน่าขนลุก

“คุณหนูเซี่ย กาน้ำชาใหม่มาแล้วเจ้าค่ะ รีบดื่มก่อนจะเย็นดีกว่าเจ้าค่ะ”

สาวรับใช้ในวังนางนี้ปรากฏตัวออกมาได้จังหวะเหมาะเจาะเสียเหลือเกิน หนึ่งประโยคคำพูดได้ทำลายบรรยายกาศอันเงียบงันลงในทันใด

เพียงสะบัดนิ้วทีหนึ่ง ไป๋หลี่หานก็ทิ้งเศษถ้วยที่คีบด้วยสองนิ้วลง ก้มหน้าก้มตาริมจิบชาในถ้วยต่อ

เซียถงเพ่งสายตา มุ่งความสนใจมองกาน้ำชาใหม่ในมือของสาวรับใช้ในวังนางนั้นด้วยความสงสัย

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท