ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 305 เซียนโอสถในตำนาน (3)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่305 เซียนโอสถในตำนาน (3)

ตอนที่305 เซียนโอสถในตำนาน (3)

“ยังมีสิ่งใดสำคัญไปกว่าการช่วยชีวิตจือหยวน? ทั้งท่านและหยุนซีต่างพยายามกันสุดชีวิตเพื่อฟื้นคืนเขากลับมา แล้วไฉนถึงไม่คิดจะร่วมมือกัน? หากมีบัญชีแค้นต่อกัน ก็รอจนกว่าโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าจะหลอมกลั่นได้สำเร็จ ค่อยว่ากันใหม่ไม่ดีกว่าหรอกรึ?”

สังเกตเห็นท่าทางการแสดงออกของไป๋ปิง เซียถงเอ่ยปากเสนอขึ้นทันที

“หยุดพูด เจ้าไม่มีสิทธิ์มาเรียกชื่อของจือหยวน!”

ประกายตาคู่นั้นของไป๋ปิงเบิกขึ้นกว้าง เน้นเสียงหนักคำรามสวนตอบกลับไป

ชั่วขณะอึดใจ เซียถงสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นยะเยือกที่ซัดกระโชกเข้าปะทะใบหน้า นางรีบกระโดดหนีจากเก้าอี้ที่เคยนั่ง ทันใดนั้นพลันปรากฏลิ่มน้ำแข็งแท่งคมประดุจหอกนับหลายสิบเล่ม ยิงกระหน่ำเข้าใส่ พุ่งทะลุเก้าอี้ตัวนั้นจนพรุน

ชิงเยวี่ยถึงกับหน้าเสียหนัก และรู้สึกละอายใจเหลือเกินกับการกระทำตามอารมณ์ของท่านอาจารย์เขา

เหลือบมองไปรูโบ๋บนเก้าอี้นับไม่ถ้วน สีหน้าการแสดงออกของเซียถงเปลี่ยนไปอย่างมาก หากเมื่อครู่นี้นางไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันท่วงที มีหวังอาจบังเกิดรูโบ๋บนร่างกายนางจนพรุน อีกฝ่ายที่นางหวังว่าจะนั่งพูดคุยเจรจากันอย่างเป็นมิตร กลับคิดจะฆ่าแกงกัน ทำเอาเซียถงแผดจิตสังหารออกมาฉาบชโลมร่างในทันใดอย่างช่วยไม่ได้นัก

แลเห็นรัศมีจิตสังหารที่ลุกโชนในแววตาของเซียถง ไป๋ปิงก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ระเบิดคลื่นพลังรังสีสังหารทะลักล้นออกมาจากร่างเช่นกัน ก่นเสียงคำรนเกรี้ยวกราดขึ้นว่า

“ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของนังหยุนซี เช่นนั้น ข้าจะสังหารเจ้าทิ้งเสีย และฉกชิงเพลิงพิภพเก้าดุษณีมาเป็นของตนบัดเดี๋ยวนี้!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิงเยวี่ยใจหายวาบร่วงไปยังตาตุ่ม เขาวิ่งไปกอดแขนไป๋ปิงแน่น เอ่ยปากเกลี้ยกล่อมขึ้นว่า

“ท่านอาจารย์! เซียถงเป็นแขกคนสำคัญของจักรวรรดิซีฉิน หากท่านสังหารนาง เกรงว่าฝ่าบาทต้องทรงติเตียนศิษย์คนนี้อย่างหนัก!”

“นั่นมันเรื่องของเจ้า!”

ไป๋ปิงสถบสวนอย่างมิอาจทน โบกสะบัดแขนเสื้อของนาง ก่อเกิดเกลียวพายุน้ำแข็งม้วนตลบซัดออกไป ส่วนแขนข้างที่ชิงเยวี่ยกอดไว้แน่นก็มีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือทันใด

เซียถงเห็นดังนั้นก็รีบยกมือเรียกกระบี่ทัณฑ์ฟ้าขึ้นมาโดยไว มวลพลังลมปราณขุมใหญ่ทั้งสองสายโหมทะลักล้นเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่งประหนึ่งน้ำป่าไหลหลาก สมุนไพรที่ระเกะระกะบนพื้นทั้งหลายสั่นกระเพื่อมรุนแรง

“หากสังหารเจ้าทิ้งและขโมยเพลิงพิภพเก้าดุษณีจากเจ้ามาได้ ข้าอยากจะรู้เสียจริงเชียว อีนังหยุนซีจะโกรธข้าจนอกแตกตายเลยหรือไม่!?”

ไป๋ปิงมองหน้าเซียถงพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะเยาะ ทันทีทันใด สีหน้าการแสดงออกของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่ง เจือผสมความเกลียดชังอยู่หนึ่งส่วน

เซียถงยืนตระหง่านหันกระบี่ปลายแหลมเข้าใส่อีกฝ่าย ปริปากกล่าวอย่างไม่แยแสขึ้นว่า

“ไม่เลย ข้ากับหยุนซีมิได้มีความเกี่ยวดองกันใดๆ ถึงจะสังหารข้าทิ้ง แต่นางคงไม่รู้สึกอันใด”

กล่าวตามสัตย์จริง เซียถงไม่อยากจะต่อสู้สัประยุทธ์กับไป๋ปิงเลยจริงๆ พินิจจากรัศมีแรงกดดันอันทรงพลังที่แผ่ซ่านออกมา มันสามารถเข้าข่มตัวนางไว้ได้หลายส่วน จนทำเอานางหายใจหายคอไม่ค่อยจะสะดวกแล้วเช่นกัน เพียงช่วงเวลานี้เท่านั้น นางตระหนักทราบได้ทันทีว่า ระดับพลังลมปราณของไป๋ปิงนางนี้เหนือชั้นกว่านาง และลำพังตัวนางที่เป็นแค่ยอดฝีมือขอบเขตราชันย์ม่วงชั้นต้น ไม่น่าจะทำอะไรอีกฝ่ายได้มากนัก

“ท่านอาจารย์หยุดเถิด! ศิษย์คนนี้ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!”

ชิงเยวี่ยในเวลานี้นอนพิงอยู่ข้างประตู สีหน้าซีดเซียวราวกับแผ่นกระดาษขาว เมื่อต้องเผชิญพบกับขุมพลังขอบเขตราชันย์ม่วงอันแกร่งกล้าที่ระเบิดทะลักเข้ากดขี่ซึ่งกันและกัน ตัวเขาที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่า กลับไม่สามารถทนอยู่ภายใต้สภาวะเช่นนี้ได้ไหว

ทั้งไป๋ปิงและเซียถงล้วนมีระดับความแข็งแกร่งอยู่ที่ขอบเขตราชันย์ม่วง ตัวเขาที่อยู่แค่ขอบเขตเสาหลักฟ้ากลับทานทนต่อมวลมหาแรงกดดันปริมาณมหาศาลขนาดนี้ได้ไม่นานนัก และนี่มันก็เกินขีดจำกัดที่เขาจะแบกรับได้ไหว ร่างกายจึงอ่อนยวบทรุดลงกับประตูอยู่แบบนี้

เมื่อได้ยินชิงเยวี่ยส่งเสียงร้องเตือนออกมา ไป๋ปิงก็เพิ่งจะนึกได้ว่า พลังลมปราณของเจ้าศิษย์คนนี้มันค่อนข้างอ่อนแอ วันๆ เอาแต่หลอมกลั่นโอสถ หาได้ฝึกปรือเรื่องความแข็งแกร่งใดๆ จึงไม่แปลกที่ชิงเยวี่ยจะทรุดฮวบลงกับพื้นแบบนี้ ปริมาณแรงกดดันบนร่างกายาของนางลดต่ำลงหนึ่งส่วน ขมวดคิ้วถักแน่นเอ่ยถามเซียถงขึ้นว่า

“หยุนซีตอนนี้อยู่ที่ไหน? เมื่อครู่เจ้าบอกสถานศึกษา? หมายถึงสถานศึกษาเซิงหลิงในตงหลี่กระมัง?”

“ตอนนี้นางจากที่นั่นมาแล้ว ส่วนที่ว่าอยู่แห่งหนใดกลับมิทราบ”

เมื่อเห็นท่าทีของไป๋ปิงที่เอาจริงเอาจังปานนี้ เซียถงย่อมตระหนักทราบดี อีกฝ่ายเตรียมจะไปเผด็จศึกกับหยุนซีเพื่อชำระบัญชีแค้น เพราะเป็นแบบนั้น นางจึงเลือกที่จะโกหกออกไป เพื่อเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ทั้งยังชำเลืองสายตามองไปทางชิงเยวี่ยที่นอนหอบหายใจถี่รัวอยู่กับพื้น สภาพราวกับสุนัขใกล้ตาย ดังนั้นจึงกล่าวต่อว่า

“ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก ทั้งที่มีศิษย์มากพรสวรรค์เฉกเช่นชิงเยวี่ย แต่กลับต้องมาตายแบบนี้!”

“ท่าสนอาจารย์ ศิษย์ขอร้องเถิด…อย่าสู้กันเลย! หากพวกท่านสู้กันจริงๆ เกรงว่าคนแรกที่จะตายคงเป็นศิษย์คนนี้ก่อน!”

ไป๋ปิงปรายหางตามองเล็กน้อย หัวคิ้วทั้งสองที่ขมวดแน่นแทบติดชน สุดท้ายทำอะไรอื่นไม่ได้ก็สบถด่า ‘บัดซบ’ ขึ้นคำหนึ่ง จากนั้นค่อยเคลื่อนสายตาจับจ้องไปที่เซียถงอีกครา ก่อนที่จะเก็บกระบี่ยาวในมือลงอย่างไม่เต็มใจนัก

ฆ่าคนของหยุนซีแต่เสียลูกศิษย์ตัวเอง นี่กลับไม่คุ้มกันเลย

แลเห็นว่าไป๋ปิงเริ่มสงบลงแล้ว เช่นนั้นเซียถงก็เก็บกระบี่ทัณฑ์ฟ้าในมือลงตามเช่นกัน และหมุนตัวกลับสืบเท้าเดินไปทางประตูในทันใด ในเมื่อไป๋ปิงไม่คิดที่จะร่วมมือกันเพื่อหลอมกลั่นโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้า เช่นนั้นคงไม่มีประโยชน์หากอยู่ที่นี่ต่อไป

ชิงเยีว่ยพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้น ชำเลืองมองไป๋ปิงตัดสลับกับเซียถงที่กำลังจะเดินผ่านประตูออกไป เหตุการณ์ที่พัฒนากลายเป็นเรื่องใหญ่โตจวบจนตอนนี้ เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้น จินตนาการเพียงภาพฉากที่ท่านอาจารย์ของเขาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันหลอมกลั่นโอสถวัฎจักรคืนชีพระดับเก้าขึ้นมา

เซียถงเพิ่งก้าวย่างออกจากธรณีประตู ทันใดนั้นไป๋ปิงก็ตะโกนเสียงดังไล่หลังมาว่า

“เจ้าจะจากไปทั้งแบบนี้รึ?”

เซียถงชะงักฝีเท้าหยุดลง เหลียวหลังกลับมามองไป๋ปิงอย่างเย็นชา ปริปากระบายคำกล่าวสั้นๆ เพียงว่า

“ยังต้องการอะไรอีก?”

“ท่านอาจารย์ อย่าทำเรื่องที่มันน่าอับอายไปมากกว่านี้เลย! ถึงท่านกับคนที่ชื่อหยุนซะเคยมีหนี้แค้นต่อกัน แต่นั่นกลับเป็นเรื่องของคนรุ่นท่าน หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับคนรุ่นเยาว์อย่างนางหรือกระทั่งศิษย์คนนี้”

สีหน้ายังแฝงร่องรอยความซีดเซียว ชิงเยวี่ยกล่าวขึ้น อุปลักษณ์นิสัยของท่านอาจารย์เขาค่อนข้างประหลาดและคาดเดาได้ยาก ทำเอาเป็นกังวลเหลือเกินว่า ในอนาคตนางจะคิดทำเรื่องแผงๆ กับเซียถงอะไรอีกหรือไม่?

ไป๋ปิมองหน้าเซียถงตัดสลับไปชิงเยวี่ยอยู่สักพัก ทันทีทันใด แววความโกรธเกรี้ยวในดวงตาของนางก็มลายหายไป สีหน้าท่าทางกลับกลายมาเป็นคนง่วงนอนไม่ตื่นดีดังเดิม

“อาเยวี่ยพูดถูก ถึงข้าจะมีบัญชีแค้นกับหยุนซี แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า เช่นนั้นแล้ว ข้ายินดีที่จะให้เจ้าใช้เพลิงพิภพเก้าดุษณีเพื่อช่วยข้าหลอมกลั่นโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้า”

ฟังดูแล้วน้ำเสียงและวาจาของนางค่อนข้างเย่อหยิ่งมาก

เซียถงเหล่หางตาปราดมองอย่างไม่ใส่ใจ กล่าวน้ำเสียงสงบนิ่งแค่ว่า

“แล้วข้าจะลองเก็บเรื่องนี้กลับไปพิจารณาดู”

คิดอยากลงมือก็ลงมือเลย พอคิดจะขอความร่วมมือก็ขอออกมาเฉยๆ เลย นี่ไม่เอาแต่ใจเกินไปหน่อยรึ?

“ถึงแม้เจ้าจะเป็นลูกศิษย์ของอีนังสารเลวนั่น แต่ข้าก็ยังใจกว้างยอมร่วมมือกับเจ้าเพื่อผลประโยชน์โดยรวม อย่างไรเสีย เจ้ากลับไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วสักวันเจ้าจะต้องเสียใจ”

ดวงตาคู่นั้นของไป๋ปิงที่จับจ้องเซียถงลุกโชนไปด้วยเพลิงโทสะอีกครั้ง

“พอดีข้าสะกดคำว่าเสียใจไม่เป็นน่ะ”

เซียถงส่งยิ้มตอบกลับไปเบาๆ และเหลียวหลังกลับมา เชิดหน้าสูงพร้อมจากออกไปโดยตรง

ชิงเยวี่ยเห็นว่าสีหน้าของไป๋ปิงยามนี้มืดทมิฬราวกับก้นหม้อไหม้ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับหดคอขวัญอ่อนโดยไม่รู้ตัว หันไปพบว่า เซียถงเดินห่างออกไปไกลแล้ว เขาจึงรีบวิ่งติดตามนางไปทันทีด้วยความรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ และต้องการจะไปขอโทษขอโผยกับนาง

ส่วนไป๋ปิงยืนกอดแผ่นอกเหม่อมองแผ่นหลังของเซียถงที่ลาจากไป ภายใต้ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง พลันปรากฏประกายแสงแปลกๆ ส่อกะพริบออกมาจากดวงตาคู่นั่น

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท