ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 606 สัตว์เทพแห่งท้องสมุทร (2)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่606 สัตว์เทพแห่งท้องสมุทร (2)

ตอนที่606 สัตว์เทพแห่งท้องสมุทร (2)

ผู้อาวุโสใหญ่ท่านนี้มิได้ดูแก่ชราดั่งอายุตัวเลขที่บ่งชี้ มองผิวเผินเหมือนชายวัยกลางคนตอนปลายประมาณห้าสิบต้นๆ และอาจจะเนื่องด้วยที่ผ่านมา เขามักจะหมกตัวอยู่แต่ในคอคอยดูดาวตลอดทั้งแรมปี ทุ่มแรงสมองไปกับศาสตร์แห่งพยากรณ์และวิธีการคำนวณกระจกเหลี่ยม ส่งผลให้ใบหน้าของเขาค่อนข้างตอบซีดเซียว ร่างกายผอมแห้งกว่าปกติ เขาในยามนี้สวมเสื้อคลุมสีเทาแขนยาว ปั้นใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลาราวกับรัศมีกลิ่นอายสูงส่งดุจเทพเซียนจริงๆ

เมื่อเห็นผู้อาวุโสใหญ่อยู่เบื้องหน้า เซียถงรีบโค้งศีรษะเล็กน้อยคำนับให้

“คารวะท่านผู้อาวุโสใหญ่!”

ผู้อาวุโสใหญ่ท่านนั้นพยักหน้าตอบเล็กน้อยด้วยความเคร่งขรึม กวาดแขนเสื้อชี้ไปที่เสื้อผ้าแพรพรรณที่เปียกชุ่มแนบติดเรือนร่างของเซียถง วันนี้ฝนลงเม็ดใหญ่ตกค่อนข้างหนัก ต่อให้รีบวิ่งขึ้นมาหลบฝันยังไงก็ยังไม่พ้นเสื้อผ้าเปียกอยู่ดี เขาม้วนคิ้วขมวดเล็กน้อย กล่าวน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า

“ฝนตกจนเปียกเสื้อผ้าหมดแล้ว จงเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน เป็นสาวเป็นแซ่แต่งตัวเช่นนี้นับว่าไม่เหมาะสม!”

“ผู้เยาว์ทราบแล้ว!”

เซียถงหาได้ใส่ใจกับคำพูดคำจาของอีกฝ่ายนัก เพียงขานตอบตามน้ำให้ผ่านๆไป นางรีบลุกขึ้นและลาจากทันที

ระหว่างทางเดินบนเรือ นางได้พบปะกับจวิ๋นเส้าอีกครั้ง เขาเองก็รีบถอดเสื้อคลุมห่มให้อย่างลวกๆ ห่อร่างเซียถงเอาไว้มิให้คนอื่นที่เดินผ่านไปมาเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมนัก กล่าวว่า

“ที่ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวไปเมื่อครู่หมายถึง ตัวเปียกเช่นนี้ไม่สมควรให้ผู้อื่นมาพบเห็นได้ ขึ้นไปบนเรือชั้นสี่นั่นเป็นห้องพักของเจ้า สวนห้องพักของผู้อาวุโสใหญ่อยู่ที่ชั้นสอง ยังไงก็ตาม เจ้าควรอยู่ให้ห่างจากเขาจะปลอดภัยที่สุด!”

บนห้องพักชั้นที่สี่ของเรือลำนี้แท้จริงแล้วมีแค่สองห้อง แต่จวิ๋นเส้าจัดเตรียมให้เซียถงอยู่ควบคนเดียวไปเลย

“มีเสื้อผ้าชุดใหม่จัดเตรียมไว้ให้หมดแล้ว เปลี่ยนเสร็จก็พักผ่อนก่อนสักครู่ เดี๋ยวจากนี้ จ้าจะให้หงอวี๋ขึ้นไปเรียกเจ้าอีกทีตอนทานข้าว คืนนี้มาหาข้าที่ห้องหนังสือ เหมือนว่าผู้อาวุโสใหญ่มีบางสิ่งอย่างที่อยากจะประกาศ พยายามทำตัวเป็นจุดสนใจให้น้อยที่สุดจำไว้ หลังจากคืนนี้ ก่อนมุ่งหน้าถึงเกาะเหล่ยเฟย เป็นไปได้ไม่ต้องออกไปเจอหน้าคนพวกนั้นเลยเป็นดีที่สุด!”

ดูเหมือนว่า จวิ๋นเส้าจะวางแผนจัดการเรื่องทั้งหมดให้แก่นางเป็นอย่างดีแล้ว อธิบายร่ายยาวชนิดที่ว่าไม่เว้นช่องไฟให้เซียถงปฏิเสธ!

เมื่อนางมาถึงห้องพักของตนก็ค้นพบว่า ห้องพักบนชั้นที่สี่แห่งนี้มีขนาดกว้างขวางอย่างมาก และการตกแต่งภายในนั้นหราหรู สถาปัตยกรรมสีทองคำช่างงดงามตระการตา แม้แต่เตียงที่ใช้นอนยังทำมาจากหยกเย็นแกะสลัก เหมาะสำหรับใช้นอนในฤดูร้อนเช่นนี้ ด้วยคุณสมบัติของหยกเย็นที่ปลดปล่อยไอหนาวออกมาตลอดเวลา ต่อให้อากาศจะอบอ้าวหรือร้อนตับแตกเพียงใด มีสิ่งนี้อยู่นับว่าหายห่วง!

เมื่อนางเปิดตู้เสื้อผ้าขึ้นมาก็ยิ่งต้องตกใจ ภายในนี้เต็มไปด้วยชุดแพรพรรณเนื้อไหมชั้นเยี่ยมซ้อนเรียงกันเป็นตับ! ต้องการแต่งตัวแบบไหนก็ไล่เฉดสีเลือกสรรได้ตามใจชอบ!

แต่ทันทีที่เห็นแบบนี้ เซียถงพลันขมวดคิ้วแน่น นางทราบดีจวิ๋นเส้าคนนี้มักจะใจดีต่อนางอยู่เสมอ แต่ไอ้ความใจดีที่มีมากเกินไปนั้น กลับทำให้คนอื่นยิ่งเพ่งเล็งมองนางเป็นจุดสนใจมากขึ้น

และที่สำคัญ นางยังมีอดีตที่คั่งค้างอยู่กับไป๋หลี่หาน และนางไม่ต้องการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ในขณะนี้ หรืออันที่จริงจะเรียกว่า…ชาตินี้ไม่คิดรักใครอีกแล้วจะดีกว่า!

เหม่อมองชุดแพรพรรณสีสันสวยสดเหล่านี้อยู่สักครู่ ก็ดูเหมือนว่าสีสันพวกมันจะฉูดฉาดเกินไปสำหรับนาง แต่ทันใดนั้น นางก็เหลือบหางตาไปเห็น ชุดแพรพรรณสีขาวอยู่ชุดหนึ่งที่อยู่หลังตู้ด้านในสุด รูปแบบการตัดเย็บค่อนข้างเรียบง่ายและสีก็ยังธรรมดาพื้นๆดี เพียงว่ามีบางจุดของชุดนี้มีฝุ่นเกาะเล็กน้อย ดูเหมือนกับว่าจะถูกแขวนไว้ในนี้นานมากแล้ว

แต่ไม่เป็นไร! อย่างน้อยก็ดูดีกว่าชุดสีสันแสบตาพวกนี้!

นั่งๆนอนๆพักสายตาได้สักครู่ หงอวี๋ก็เดินมาเคาะประตูเรียกพร้อมเปิดประตูเดินมาหา แต่ทันทีที่เห็นเซียถงอยู่ในชุดสีขาวชุดนั้น นางถึงกับยื่นตะลึงงันแข็งค้างอยู่เสียนาน! เซียถงเอ่ยขานเรียกชื่อนางอยู่หลายคราว กว่าจะรู้สึกฟื้นตัวจากภวังค์ความตกใจ หงอวี๋ถึงกับสะดุ้งเฮือก

เซียถงมุ่นคิ้วมองปั้นหน้าประหลาดใจ

“ชุดของข้ามีอะไรผิดแปลกไปงั้นรึ?”

หงอวี๋เร่งพยักหน้างึกงักแต่ก็รีบส่ายหัวสะบัดตอบเช่นกัน แววความแปลกใจยังคงฉายสะท้อนผ่านสายตาคู่นั้น นางเอ่ยขึ้นว่า

“ตอนนี้ข้าเพิ่งจะเข้าใจ ไฉนนายน้อยจวิ๋นถึงได้สนใจพี่ถงเป็นพิเศษ นี่ขนาดเขาเตรียมการคิดทุกอย่างมาเพื่อท่านแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังมิอาจรู้ใจท่านได้!”

คล้ายจะพอรู้สึกได้แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เซียถงจึงมองไปยังตู้เสื้อผ้าด้านข้าง

หงอวี๋เองก็มองติดตามไปทางตู้เสื้อผ้าเช่นกัน และยังกล่าวว่า

“เสื้อผ้าทั้งหมดในนั้นนายน้อยจวิ๋นล้วนเตรียมมาให้ท่านเผื่อเลือกใส่ ทั้งหมดทุกตัวยกเว้นชุดที่ท่านใส่นั่นแหละ!”

“ห่ะ? แล้วนี่เป็นชุดของใคร…”

ทว่าก่อนที่จะกล่าวจบ ก็มีคนเดินมาตามพวกนางให้รีบลงไปได้แล้ว โดยกล่าวเสริมอีกว่า ผู้อาวุโสใหญ่มีเรื่องจะพูดด้วยและให้รีบลงไปรวมตัวกันโดยด่วน

“หากชุดนี้ดูไม่เหมาะสมนัก ข้าจะรีบเปลี่ยนใหม่เดี๋ยวนี้แหละ”

“ไม่เป็นไรพี่ถง ไม่ต้องลำบากไปเปลี่ยนหรอก เดี๋ยวข้าจะเล่ารายละเอียดให้ฟังที่หลัง ตอนนี้พวกเรารีบลงกันไปก่อนเถอะ ผู้อาวุโสใหญ่เป็นพวกตรงเวลา หากเราไปสายมีหวังโดนตำหนิเอา!”

พวกนางทั้งคู่จึงรีบวิ่งลงด้านล่างทันที ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็ทยอยกันลงมาทีละคนสองคน

และเมื่อทุกคนเห็นเซียถงสวมชุดสีขาวชุดนี้มา สายตาของพวกเขาพลันชะงักหยุดลงชั่วขณะ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจวิ๋นเส้าที่เผยแววประหลาดใจที่ยากจะเห็นผ่านในดวงตาของเขา ยิ่งเห็นปฏิกิริยาของทุกคนเป็นเช่นนี้ เซียถงยิ่งไม่เข้าใจกันไปใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่ส่งเสียงกระแอมไอเบาๆอยู่ทีสองที ทุกคนต่างได้สติกลับเข้ามา จดจ่ออยู่กับการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

ผู้อาวุโสใหญ่ชำเลืองมองไปหาลูกศิษย์หนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้าง เห็นดังนั้นเขาก็รีบหยิบแผนที่ขนาดใหญ่กางขึ้นบนโต๊ะประชุมโดยไว และอาสากล่าวในนามของผู้อาวุโสใหญ่แทนว่า

“พวกท่านเห็นบริเวณช่องแคบระหว่างเกาะเหล่ยเฟยและเกาะฉีฉวนตรงนี้หรือไม่? ท่านอาจารย์ได้พยากรณ์ตามหลักการโคจรของหมู่ดาวบนฟ้า และได้ข้อสรุปว่า ด้วยกระแสลมหนุนจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มกำลังเข้ามาต่อเนื่อง มีแนวโน้มสูงมากที่ พญามัจฉาจ้าวปักษาคุนเผิงจะว่ายผ่านทางช่องแคบแห่งนี้ อย่างเร็วสุดภายในสามวัน อย่างช้าสุดประมาณครึ่งเดือน ซึ่งเราจะต้องทำทุกวิถีทางให้มันว่ายผ่านช่องแคบตรงนี้ให้ได้ เพราะพวกเราได้ติดตั้งกับดักทั้งหมดไว้ที่นั่น หากทำสำเร็จ เราจะสามารถจับพญามัจฉาจ้าวปักษาคุนเผิงได้อย่างแน่นอน!”

ทันทีที่ลูกศิษย์หนุ่มคนนี้กล่าวจบ จวิ๋นเส้าก็ยกมือขึ้นถามทันทีฃ

“แล้วจะเป็นอย่างไร หากพญามัจฉาจ้าวปักษาคุนเผิงฝ่าทำลายกับดักของเราได้หมด? คุนเผิงเป็นสัตว์เทพแห่งท้องสมุทรในตำนาน มีสติปัญญาหลักแหลม รวมไปถึงเล่ห์เหลี่ยมแกมโกงสารพัด เราคาดการณ์เอาไว้ว่า มันจะว่ายผ่านช่องแคบนี้ แต่ในกรณีที่เราต้อนไม่สำเร็จ แล้วมันมิได้ว่ายผ่านมาจุดนี้ล่ะ?”

ขณะที่ลูกศิษย์หนุ่มกำลังจะตอบคำถามเหล่านั้น แต่ทันทีทันใด พลันต้องถูกหยุดโดยผู้อาวุโสใหญ่ เจ้าตัวกล่าวตอบด้วยความมั่นใจว่า

“อย่าได้กังวล! พญามัจฉาจ้าวปักษาคุนเผิงจะต้องว่ายผ่านช่องแคบนี้แน่นอน!”

“เพราะเหตุใดกันรึท่านผู้อาวุโสใหญ่?”

ทุกคน ณ ที่ประชุมแห่งนี้ต่างประหลาดใจยิ่งยวดต่อความมั่นใจขั้นสุดของผู้อาวุโสใหญ่!

ผู้อาวุโสใหญ่กลับมิได้ให้คำตอบในทันที แต่จู่ๆก็ระบายยิ้มคลี่ออกมาราวกับทุกอย่างล้วนอยู่ในการคำนวณไว้หมดแล้ว เขากวาดสายตาแช่มมองไปยังทุกคนในที่แห่งนี้ ก่อนที่ท้ายที่สุดจะหยุดลงที่ตัวเซียถง!

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท