ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 630 จบบริบูรณ์

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่630 จบบริบูรณ์

ตอนที่630 จบบริบูรณ์

พวกเขาทั้งคู่ ไป๋หลี่หานและเย่หลีเทียนต่างออกใช้สำแดงพลังกันจนแห้งเหือด ดวงตาต่างฝ่ายต่างแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ อีกทั้งยังออกจากสมรภูมิสงคราม แยกกันต่อสู้อยู่อีกด้านหนึ่งซึ่งหายไปจากวิสัยทัศน์สายตาของทุกคนไปโดนสิ้นแล้ว! ในปัจจุบัน ไป๋หลี่หานผู้เป็นดั่งเสาหลักแห่งกองทัพจักรวรรดิเซียไม่อยู่ เซียถงที่ยังอยู่ในวงรัศมีสมรภูมิรบจึงกลายมาเป็นกระดูกสันหลังของทุกคนในทันใด!

แน่นอน ตัวเซียถงเองย่อมต้องการกระโดดเข้าไปช่วยไป๋หลี่หานต่อกรกับเย่หลีเทียนอีกแรงเช่นกัน แต่นางก็ตระหนักดี ยังมีบางเรื่องที่ควรปล่อยให้ไป๋หลี่หานต้องสะสางด้วยตัวเองเท่านั้น นางจึงกัดฟันกรอดมุ่งไปอีกทางหนึ่งตามโม่ซวน แต่ก็ยังไม่วาย วานให้ซุยอิ๋งแอบติดตามสนับสนุนอีกฝ่ายอย่างลับๆเช่นกัน

ซุยอิ๋งรับคำสั่งและรีบแหวกว่ายอากาศพุ่งไปหาไป๋หลี่หานที่ต่อสู้อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งทันที ซึ่งนั่นเป็นเวลาเดียวกันที่เย่หลีเทียนกำลังทิ่มแทงคมกระบี่ไล่บี้อย่างไม่ลดละ ทว่าเสี้ยวอึดใจต่อมานั่น เขาพลันสัมผัสได้ถึงรัศมีแรงกดดันมวลหนาที่ทับถมเข้าใส่ร่างกาย และเมื่อหันศีรษะกวาดมองก็พบมังกรฟ้าซุยอิ๋งที่กำลังพ่นลมหายใจรุนแรง ปรากฏกายขึ้นอยู่เบื้องหลังของไป๋หลี่หาน

และในทันใด จู่ๆมังกรฟ้าซุยอิ๋งก็แปรสภาพกลายเป็นสายวารีคราม พุ่งเข้าแทรกซึมสู่ทุกอณูร่างกายของไป๋หลี่ห่านอย่างรวดเร็ว ก็เพื่อช่วยกระตุ้นศักยภาพสูงสุดของเขาให้สำแดงใช้พลังได้เต็มพิกัด!

ในชั่วเวลานั้นเอง ไป๋หลี่หานก็ยังรู้สึกได้ถึงสุ้มเสียงของเซียถงที่ดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ

“อย่าวิตกไป! ปล่อยให้ข้าได้ช่วยท่าน! แล้วข้าจะรอท่ากลับมา…กลับมาพร้อมชัยชนะ!”

น้ำเสียงของนางช่างหนักแน่นและทรงพลังยิ่งยวด กระบี่ทองคำและกระบี่สีเงินในมือไป๋หลี่หานยามนี้ระเบิดคลื่นพลังแสงจรัสแพรวพราวเต็มพิกัดสว่างจ้าแสบตา! และในเวลาเดียวกัน จู่ๆกระบี่ทั้งสองเล่มนั้นก็เข้าหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว! ก่อกำเนิดกลายเป็นกระบี่สีทองเฉิดฉายที่มีลายคลื่นสีเงินตัด!

ก่อนที่มังกรฟ้าซุยอิ๋งจะลาจากไป มันยังพ่นลมหายใจอัดกระแทกใส่เย่หลีเทียนทิ้งท้ายจนตัวปลิวถอยหลังไปหลายสิบก้าว

เย่หลีเทียนยกมือไม้ขึ้นป้องแรงอัดอากาศจากลมหายใจมังกรที่โรมรันเข้าใส่ และเมื่อคลายมือลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง เขาถึงกับต้องประหลาดใจ พลังความแข็งแกร่งของไป๋หลี่หานถูกฟื้นฟูกลับสู่สภาวะสูงสุดอีกครั้ง!

เย่หลีเทียนรีบยกกระบี่เตรียมเข้าโจมตีฉับพลัน ทว่านั้นยังช้าเกินไป ไป๋หลี่หานเพียงสะบัดกระบี่สีทองเงินในมือฟันฉับลงมาทีหนึ่ง ก็บังเกิดคลื่นทำลายล้างทรงจันทร์เสี้ยวพุ่งใส่ด้วยความเร็วสูงสุด! เห็นดังนั้นถึงกับตาตื่นตกใจ เย่หลีเทียนรีบยกกระบี่ในมือขึ้นปัดป้องเป็นแนวนอน แต่กระนั้นเอง ใบกระบี่คมแหลมของเขาพลันเกิดรอยร้าวปริแตกเป็นเส้นตรงตัดสวย ดุจเส้นด้ายเส้นหนึ่งที่ตัดผ่าไข่ต้ม

แต่นั่นก็ยังไม่จบ เส้นตัดเป็นแนวตั้งสวยนี้ยังพุ่งผ่านร่างทั้งร่างของเย่หลีเทียนไปอย่างง่ายดาย

“เป็น…เป็นไปไม่ได้…”

เย่หลีเทียนค่อยๆกดสายตาแช่มมอง ก็พบว่าร่างทั้งร่างของตนโดนผ่าครึ่ง รอยตัดสีเลือดใจกลางร่างค่อยๆเผยให้เห็นชัดขึ้นและชัดขึ้น ยังไม่ทันได้กล่าวจบ เขาก็อ้าปากค้างพร้อมกับร่างกายที่โดนตัดแบ่งเป็นสองซีก…

เซียถงขึ้นคุมบังเหียน บัญชาเหล่ากองทหารแห่งจักรวรรดิเซียนับแสนว่า

“อย่าปล่อยให้พวกมันลุกล้ำอาณาเขตของพวกเราได้แม้แต่ปลายนิ้ว! ใครก็ตามที่บังอาจกล้า ก็จงฆ่ามันทิ้งให้หมด!”

“ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นใครหน้าไหน ก็จงสะบัดหัวมันทิ้งเสีย!!”

เซียถงออกคำสั่งบัญชาดังนั้น เหล่าทหารแห่งจักรวรรดิเซียทุกคนต่างขานรับด้วยความดุเดือดร้อนพล่านในกาย เมื่อเริ่มย่างเท้าก้าวออกไป ผืนปฐพีทั้งมวลก็เกิดคลื่นสั่นไหวรุนแรงดุจฟ้าดินถล่ม!

เซียถงเปลี่ยนไปสวมเสื้อเกราะทำศึกสีเงินสว่าง นั่งอยู่บนหลังกิเลนศักดิ์สิทธิ์เข้าเผชิญหน้ากับกองกำลังศัตรูทั้งปวงที่อยู่เบื้องหน้า นางชักกระบี่ทัณฑ์ฟ้าชูขึ้นมาโดยไม่มีเกรงกลัวใดๆ!

“เรียนองค์ราชินี! แย่แล้วขอรับ! จู่ๆก็มีฝูงอสูรหมาป่าจำนวนมหาศาลกำลังเคลื่อนตัวมาทางนี้!”

แม่ทัพนายหนึ่งรีบตรงเข้ามารายงาน

และในเสี้ยวอึดใจนั้นเอง ก็มีอสูรหมาป่าเหมันต์ขนสีขาวโพลนตนยักษ์โดดเด่นพุ่งตัวกระโจนออกมา และยังมีชายหนุ่มในชุดดำควบขี่อยู่บนหลังของมัน!

การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของกองทัพอสูรหมาป่าในคราวนี้ ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่เหล่าทหารของจักรวรรดิเซียเป็นอย่างยิ่ง!

เซียถงชำเลืองสายตาเลื่อนไปทางบุคคลผู้นั้น และพริบตาต่อมา นางก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นพลัน!

เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ สวมเสื้อคลุมและหน้ากากลายหมาป่าสีทมิฬ แต่สิ่งนี้มิอาจปิดบังตัวตนจากสายตาของเซียถงได้ เขาผู้นี้หาใช่ใครอื่นนอกจาก นายน้อยแห่งกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า และปัจจุบันยังควบตำแหน่ง องค์จักรวรรดิแห่งจักรวรรดิตะวันตกพระองค์ใหม่ เฉียนอวิ๋ง!

เขาหันมายิ้มและกล่าวกับเซียถงว่า

“แหม แหม แหม มีงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ปานนี้ กลับไม่เรียกข้ามาร่วมวงด้วยได้เยี่ยงไร!”

และในตอนนั้นเอง ก็เป็นเหล่าแม่ทัพแห่งจักรวรรดิเซียที่ตระหนักได้ทันทีว่า นายน้อยแห่งกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเหล่านี้คือ พันธมิตรของเซียถง ดังนั้นจึงรีบส่งเสียงบอกให้เหล่าทหารลดอาวุธลงทันที

ขณะเดียวกัน ทางทิศตะวันตกของสมรภูมิสงคราม ก็ยังมีกองทัพนักอัญเชิญอสูรจำนวนนับพันปรากฏตัวขึ้นมา นำโดยจวิ๋นเส้าที่กำลังนั่งอยู่บนไหล่ของอสูรเทวทูตเหมันต์ มันตีปีกสยายเดินทัพมาพร้อมกับเหล่าสัตว์วิญญาณอันแกร่งกล้า

จวิ๋นเส้าส่งยิ้มกว้างอันแจ่มใสแก่เซียถง กล่าวกับนางว่า

“ต้องศึกใหญ่เช่นนี้เท่านั้น ถึงจะตอบแทนบุญคุณแก่เจ้าได้เหมาะสม! มิทราบว่า เจ้า…อ๊ะไม่สิ…องค์ราชินีแห่งจักรวรรดิเซียจะพอพระทัยหรือไม่?”

พริบตาเดียวกัน จู่ๆก็มีเสียงกู่ร้องของฝูงอินทรีโลหิตนับร้อยเปล่งสนั่นกึกก้องทั่วน่านฟ้า ตามมาด้วยกลีบกุหลาบสีแดงที่โปรยปรายลงมาดุจสายพิรุธสวยงาม เห็นเพียงเท่านั้นก็ไม่จำเป็นต้องไม่มีเงยหน้ามองด้วยซ้ำ เซียถงก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร!

หลัวซียืนตระหง่านอยู่เบนศีรษะอินทรีโลหิตพร้อมกับกุหลาบเหล็กไหลเย็นในมือ โดยที่เบื้องหลังของเขายังมีฝูงอินทรีโลหิตและกลุ่มคนที่กำลังควบขี่อยู่อีกนับพันตัว! เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งจะขึ้นกลายมาเป็นประมุขนิกายที่ทรงพลังที่สุดในทวีปเทียนหลาง นิกายพิชิตฟ้า!

หลัวซีกดสายตาทอดหาเซียถง โบกมือตะโกนขึ้นเสียงดังว่า

“เซียถง! หากไป๋หลี่หานดูแลเจ้าไม่ดีพอ ก็อย่าได้กังวล! ข้าพร้อมแย่งเจ้าคืนจากหมอนั่นทุกเมื่อ!!”

แต่พริบตาที่สิ้นเสียง ก็มีเงาร่างหนึ่งไสววูบปรากฏขึ้นเคียงกายเซียถง ไป๋หลี่หานในชุดเสื้อคลุมสีดำ ผมยาวสลวยสีขาวดุจหิมะชี้กระบี่ทองประกายสีเงินสาดเข้าใส่หลัวซีที่อยู่บนฟากฟ้า ภาพฉากนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา ทำเอาหลัวซูสะดุ้งเฮือกแทบร่วงจากศีรษะอินทรีโลหิต

ไป๋หลี่หานระบายยิ้มสีเย็นชา กล่าวตอบไปเพียงว่า

“อย่าได้ห่วง! เรื่องพรรค์นั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น!”

เมื่อรู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับมหากองทัพที่ทรงพลังปานนี้ เหล่ากองกำลังจากแต่ละจักรวรรดิอื่นๆถึงกับครั่นคร้ามสั่นสะท้าน!

เซียถงโบกสะบัดคมกระบี่เชิดชูขึ้นตรงหน้า ตะโกนสุดเสียงเปล่งลั่นดุจกองศึกเปิดม่านโหมโรง

“ฆ่าอย่าให้เหลือ!!”

ทั้งกองทหารและม้าศึกจำนวนนับไม่ถ้วนควบทะยานเดินทัพปะทะชนโดยไม่มีกลัวเกรง! กลิ่นอายสังหารแห่งมหาศึกสงครามครั้งใหญ่ที่สุดแห่งประวัติการณ์ได้เริ่มปะทุขึ้นแล้ว!

มหาศึกสงครามในครั้งนี้กินเวลาถึงครึ่งปีเต็ม

และในอีกครึ่งปีต่อมา มหาจักรวรรดิที่สามารถควบรวมอำนาจทั้งหมดในทวีปเทียนหลงได้อย่างเบ็ดเสร็จก็ปรากฏขึ้นแล้ว

มหาจักรวรรดิเซีย!

กองกำลังของมหาจักรวรรดิแห่งนี้แกร่งกล้าอย่างยิ่งจนไม่มีใครกล้ารุกรานอีกต่อไป ทุกคนในทวีปเทียนหลางในปัจจุบัน ต่างรู้จักไป๋หลี่หานในนาม มหากษัตริย์แห่งทวีปเทียนหลาง ผู้สถาปนามหาจักรวรรดิเซียขึ้นมา เขาสามารถพิชิตจักรวรรดิตงหลี่, ซีฉิน, เป่ยฮั่นและหน่านเฟยได้ทั้งหมดในรวดเดียว พร้อมทั้งป่าวประกาศให้ทั่วทั้งใต้หล้าได้รับรู้ ในชีวิตของเขาผู้นี้จะมีเพียงมหาองค์ราชินีเซียถงเป็นคนรักแค่คนเดียวชั่วนิรันดร์ จะไม่ประกาศหาพระสนมองค์ให้เข้ามาอยู่ในรังรักนี้!

มหากษัตริย์ไป๋หลี่หานจะครองรักกับมหาองค์ราชินีเซียถงเพียงคนเดียว โดยไม่มีพระสนมหน้าไหนสักคนอยู่ในรังรักของเขา! เริ่องนี้ทำเอาผู้คนทั่วทั้งทวีปเทียนหลางตื่นตระหนกตกใจอย่างยิ่งยวด! และแน่นอน เจ้าเก่าคนเดิม…เหล่าคณะขุนนางทั้งหลายในมหาจักรวรรดิเซียต่างลุกขึ้นเถียงคอเป็นเอ็น!

ภายใน ท้องพระโรงองอาจไพศาล เซียถงนั่งไขว่ห้างอยู่บนบัลลังก์อยู่ข้างไป๋หลี่หาน โดยที่เบื้องหน้าเป็นเหล่าขุนนางที่กำลังคุกเข่าประท้วงอยู่!

นางกำลังนั่งลูบขนปุยสีขาวของจี้จี้อยู่ในอ้อมแขน ข้างซ้ายของนางคือกิเลนศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยวฮั่ว ส่วนข้างขวาคือมังกรฟ้า ซุยอิ๋ง

ส่วนเจ้าหลิวซูนั้น ตั้งแต่เข้าวังมาก็หายหัวไปไหนมิทราบ แต่ระยะหลังมานี้ ก็มักจะมีข่าวลือกระฉ่อนไปทั่วในพระราชวังเซียเช่นกันว่า ชอบมีคนโรคจิตแอบถ้ำมองบรรดาสาวรับใช้ในวังอาบน้ำแช่ตัว…

นางมุ่งสายตาเยียบเย็นจับจ้องไปยังเหล่าขุนนางที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า และเอ่ยขึ้นว่า

“ข้าได้ยินมาว่า พวกเจ้าแอบจัดตั้งงานคัดเลือกสนมให้ฝ่าบาทอย่างลับๆ? ทำไม? ข้าไม่สวยพอรึไง? ถึงต้องหาผู้หญิงมาเพิ่มให้ฝ่าบาท? ส่วนเจ้าพวกที่ชอบนำข้าไปนินทาหาว่า เป็นพวกขี้หึง ไหนลองพูดให้ฟังทีสิ ข้าขี้หึงตรงไหน? ห่ะ?!”

ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของนางยังคงแปดเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ ไอ้เรื่องจำพวกแกล้งเป็นหมูกินเสือ นางถนัดเป็นที่สุด!

“โฮกกก!!”

ทันใดนั้น กิเลนศักดิ์สิทธิ์ก็แผดเสียงคำรามโดยพลัน ทำเอาเหล่าขุนนางทั้งหลายใจหายวาบหงายหน้าคว่ำไปกับพื้นถ้วนหน้า!

แต่ละคนถึงกับรีบส่ายหน้าสะบัดอย่างแรง เร่งเอ่ยปากแก้ตัวกันแทบไม่ทัน ถึงแม้พวกเขาจะไม่ค่อยกินเส้นกับมหาองค์ราชินีเซียถงเท่าไหร่ ทว่าอย่างไร ทุกคนต่างก็ยอมรับในความเก่งกาจสามารถของนางจากใจจริง!

***จบบริบูรณ์***

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท