Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว – บทที่ 225 ห้ามตาย

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 225 ห้ามตาย

บทที่ 225 ห้ามตาย

หลี่จื้อเติมน้ำลงในจอกและส่งให้ฮั่วเสวียน “ดื่มสิ”

จอกน้ำที่หลี่จื้อเคยดื่ม…

ฮั่วเสวียนหลุบตาลง นางเทน้ำใส่มือแล้วจิบเพียงเล็กน้อย

ชุยดาบเดียวหันกลับมาและเห็นฉากนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “ท่านแม่ทัพขอรับ ท่านถูกขังอยู่ในหร่งตี๋เป็นเวลาสองวัน เหตุใดรูปลักษณ์ของท่านจึงดูเหมือนอิสตรีเช่นนี้”

“ชุยดาบเดียว” น้ำเสียงของฮั่วเสวียนแผ่วเบามาก

“ข้าอยู่นี่ขอรับ”

“หุบปาก”

ชุยดาบเดียวขมวดคิ้วหนา “ข้าน้อยผู้นี้เชื่อฟังคำสั่งท่านขอรับ”

พวกทหารพากันหัวเราะ

เมื่อออกเดินทางอีกครั้ง หลี่จื้อเอามือจับมือบังเหียนไว้หลวม ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจกอดฮั่วเสวียน

แต่กลิ่นของหญ้าสีเขียวบนร่างกายของนางยังคงโชยเข้าจมูกจากทุกทิศทุกทาง ฮั่วเสวียนพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้โดนแขนของหลี่จื้อ

“แม่ทัพใหญ่ไม่ต้องเกร็ง พึ่งพาอ๋องผู้นี้ให้สบายเถิด”

ฮั่วเสวียนไม่ตอบและก็ไม่ได้เอนตัวในอ้อมแขนของเขา

หลี่จื้อไม่รู้ว่านางเป็นหญิง แต่ว่านางจะแสร้งทำไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้

ระหว่างทาง มีการสับเปลี่ยนคน เมื่อฮั่วเสวียนได้นั่งกับชุยดาบเดียว นางจึงสลบไสลไปโดยไม่ต้องคอยระวังตัว

ในที่สุดเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของฮั่วเสวียนก็ได้ต้อนรับการกลับมาของผู้นำ!

หากแต่สภาพของฮั่วเสวียนนั้นย่ำแย่มาก มีกลิ่นเลือดโชยขึ้นมาเป็นครั้งคราว ตัวของนางก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

หมอทหารเห็นเช่นนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก

เหล่านายพลดูเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ พวกมันวางยาพิษอะไรท่าน”

ฮั่วเสวียนส่ายหัว หากแต่ชุยดาบเดียวเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “หากข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าจะจับอูซือม่านให้จงได้”

ระหว่างทาง พวกเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุข แต่ไม่คาดคิดว่าอูซือม่านจะทิ้งอันตรายที่ซ่อนเร้นไว้ที่ฮั่วเสวียน

ต่อมา ฮั่วเสวียนเริ่มอยู่ในอาการวิกฤติ นางตื่นขึ้นมาน้อยลงเรื่อย ๆ ในขณะนี้ พวกเขาได้แต่พึ่งพาโสมที่ดีที่สุดเพื่อรักษาชีวิตของนางเอาไว้

ส่วนแม่นมทำได้เพียงร้องไห้เงียบ ๆ กองทัพของตระกูลฮั่วดูสิ้นหวัง

หลี่จื้อออกประกาศในชายแดนให้ทุกคนค้นหาวิธีรักษา แต่ก็ไร้วี่แวว ผู้คนในเมืองชายแดนหลายสิบแห่งจัดการสวดมนต์ครั้งใหญ่ ซึ่งกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในเมือง

ที่จินหลวนเตี้ยน*[1] มีคนรายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พอได้ยินข่าวพระพักตร์ของท่านก็มืดมนและไม่แสดงความยินดีหรือความโกรธใด ๆ เขาโบกมือให้คนรายงานออกไป จากนั้นฮ่องเต้ทรงลุกขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างในความมืด

จากนั้นเสียงของชายชราเปล่งออกมาว่า “ฝนกำลังจะตก”

ในไม่ช้า หลี่จื้อก็ได้รับจดหมายที่พระบิดาที่รักยิ่งของเขาเขียน ในจดหมายมีเพียงไม่กี่คำ แต่มันก็เผยให้เห็นความไม่แยแสของท่านผู้นั้น

‘อย่าให้ตระกูลฮั่วรอด โอรสข้า จงหยุดการรักษาฮั่วเสวียนที่ชายแดนเสีย หากฮั่วเสวียนตาย…’

หลี่จื้อเผาจดหมายทิ้งทันทีหลังจากอ่าน ขณะที่กู้ชิงเฉิงรู้สึกหวาดกลัว

“อาจื้อ เหตุใดฮ่องเต้จึงถือตรัสเหมือนตระกูลฮั่วเป็นเหมือนหนามยอกอก”

“เมื่อเขาชราลง ความสงสัยของเขาก็รุนแรงมากขึ้น และตระกูลฮั่วก็กลายเป็นหนามยอกอกไปเสียแล้ว แต่ตระกูลฮั่วยังคงปกป้องครอบครัวของข้าและบ้านเมือง และเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วสารทิศ เขาคงต้องการยึดอำนาจทางทหารกลับคืนมา เพียงแต่ไม่มีเหตุผลอันชอบธรรม”

ตระกูลฮั่วมีทายาทไม่กี่คน ฮั่วเสวียนเป็นหลานคนเดียวที่เหลืออยู่ หากฮั่วเสวียนผู้เก่งกาจคนนั้นถูกกำจัด ตระกูลฮั่วก็จะไม่เหลืออะไร

นั่นทำให้หัวใจของข้าราชบริพารของต้าเซี่ยหนาวเหน็บ

กู้ชิงเฉิงกล่าวอย่างสงสาร “ท่านแม่ทัพอุทิศตนเพื่อรับใช้บ้านเมือง แต่สุดท้ายก็ลงเอยเช่นนี้ อาจื้อ เจ้าต้องการทำตามคำสั่งของฮ่องเต้จริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

หลี่จื้อนิ่งเงียบ

โอรสทั้งหกแข่งขันกันเพื่อชิงราชบัลลังก์อย่างดุเดือด เขามักจะทำตัวต่ำต้อยเสมอ ทำให้ฮ่องเต้ปล่อยมือและส่งเขาไปที่ชายแดนเพื่อปราบปรามสงคราม นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างบารมีและอำนาจ

หากทำได้ดี ฮ่องเต้จะมองเขาแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง หากทำไม่ได้ โอกาสเช่นนี้จะหาได้ยาก

เขาคิดว่าความยากลำบากครั้งนี้เกิดจากการรุกรานของศัตรูต่างถิ่น แต่เขาคิดไม่ถึงว่ามันจะจบลงด้วยการต่อสู้ภายใน

และฮั่วเสวียนกลายเป็นกุญแจสำคัญในการต่อรองงั้นหรือ!

หลี่จื้อกำลังสับสน เขาเดินเข้าไปในกระโจมช้า ๆ

ฮั่วเสวียนประจำการอยู่ที่ชายแดนเพื่อต่อต้านศัตรูต่างถิ่นตั้งแต่เขายังเด็ก และประสบความสำเร็จอย่างมาก

แต่ฮั่วเสวียนต้องถูกทรมานในหร่งตี๋ ต้องไปติดกับดักเพื่อช่วยเขา และตอนนี้เขากำลังจะเสียชีวิต

นี่คือสิ่งตอบแทนที่เขาได้รับงั้นหรือ!

ทำไมมันกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!

เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของหลี่จื้อก็สงบนิ่ง เผยให้เห็นถึงสายตาแห่งความสิ้นหวังต่อโลกใบนี้

กู้ชิงเฉิงรู้จักเขามานาน นางจึงรู้ว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว

หลี่จื้อจับมือของกู้ชิงเฉิงแน่น “เจ้ากลัวไหม”

“ข้าไม่กลัวเจ้าค่ะ เราจะอยู่ด้วยกันจนกว่าความตายจะแยกเราจากกัน”

มุมปากของหลี่จื้อโค้งขึ้นเล็กน้อย “เราทุกคนจะมีชีวิตที่ดี”

หลังจากนั้นหลี่จื้อก็ยุ่งมาก เขาถอนประกาศที่จะหาหมอที่มีชื่อเสียง แสร้งทำเป็นเลิกรักษา และส่งคนไปที่หร่งตี๋เพื่อขอยาอย่างลับ ๆ

หากแต่ยาแก้พิษหายไปพร้อมกับอูซือม่าน

ชีพจรของฮั่วเสวียนลดลงอย่างรวดเร็ว เขาผอมลงในเวลาเพียงไม่กี่วัน เสื้อผ้าหละหลวม นอนไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องตื่นมาอาเจียนเป็นเลือดเสียทุกครั้ง

ฮ่องเต้มีความสุขมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาฉลองทุกค่ำคืน

แต่มีคืนหนึ่ง มีคนโยนแจกันลายครามขนาดเล็กเข้าไปในกระโจมของฮั่วเสวียน มีข้อความผูกติดอยู่กับแจกัน

แม่นมเห็นเช่นนั้นก็หยิบมันขึ้นมาและรีบส่งมันให้หลี่จื้อ

หลี่จื้อเปิดสารนั่น ลายมือในสารถูกขีดเขียนอย่างฉวัดเฉวียน ‘ห้ามตาย รอข้าก่อน’

ใครเป็นคนส่งยาและข้อความนี้มาให้กัน?

มิตรหรือศัตรู?

ชุยดาบเดียวต้องการไล่ตามเจ้าของสารนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่หลี่จื้อห้ามไว้ “ข้าคิดว่าเขาคงไปไกลแล้ว เราคงตามไม่ทัน”

ส่วนแม่นมมองดูเม็ดยาด้วยความหวัง “นายท่าน เราจะให้นายน้อยใช้ยานี้หรือไม่เจ้าคะ”

“รอจนกว่าเขาจะตื่น”

บางทีเขาอาจจะรู้ว่าใครส่งมา

เป็นเวลาสองวันแล้วที่ฮั่วเสวียนตื่นขึ้นและอาเจียนออกมาทุกครั้ง ฮั่วเสวียนเลิกอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้ว นางยังมีสภาพจิตใจที่ดี และยังสามารถลุกขึ้นเดินได้สองสามก้าว

แต่นางรู้ว่าเวลานั้นมาถึงแล้ว

แม่นมร้องไห้ด้วยความดีใจ เพราะคิดว่านายน้อยจะหายดีในไม่ช้า

ฮั่วเสวียนเช็ดน้ำตาของแม่นม “อย่าร้องไห้ ท่านทำงานหนักมาหลายปีแล้ว ทั้งยังต้องทิ้งชีวิตและออกมาอยู่กับข้า”

“ทั้งชีวิตข้าไม่เคยได้รับความรักจากบิดามารดาเลย ความรักจากครอบครัวของข้าเพียงอย่างเดียวคือความรักจากท่าน หากข้าไม่อยู่แล้ว ท่านจะไปที่ใดก็ได้ ข้าทิ้งเงินไว้ให้ท่านแล้ว”

“ข้าได้ยินมาว่าอากาศในซูโจวและหางโจวดีมาก ทิวทัศน์ก็สวยงาม เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตบั้นปลาย…”

แม่นมชะงักและท้วงว่า “ข้าจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร ท่านคือทั้งชีวิตของข้านะเจ้าคะ”

ฮั่วเสวียนสะอึกกับคำพูดนั้น

ส่วนหลี่จื้อรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะเศร้าสร้อย เวลาของนางกำลังจะหมดลง เขาจะรอช้าไม่ได้

“ท่านแม่ทัพ ท่านอ่านลายมือนี้ได้หรือไม่” หลี่จื้อยื่นสารนั้นให้ฮั่วเสวียน

ฮั่วเสวียนตกตะลึงหลังจากอ่านข้อความนั้น

อูซือม่าน!

ฮั่วเสวียนอ่านตำราทางการทหารหลายเล่มในหร่งตี๋ อูซือม่านได้เขียนบันทึกความคิดของตนลงในตำราทุกเล่ม

ฮั่วเสวียนจึงจำลายมือของเขาได้อย่างรวดเร็ว

“สารนี้มาจากที่ใดกัน?”

แม่นมเช็ดน้ำตา “เมื่อคืนก่อนเจ้าค่ะ มีคนแอบโยนมันเข้ามาในกระโจม ในนั้นมีขวดยาอีกหนึ่งขวดเจ้าค่ะ”

หลี่จื้อสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของฮั่วเสวียนและรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าใครเป็นคนที่ส่งยามา

“ท่านแม่ทัพ ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่ายานี้เป็นของจริง”

ฮั่วเสวียนจ้องมองที่บันทึกและตอบหลังจากนั้นครู่หนึ่ง “ข้าไม่รู้ว่ามันจะรักษาได้ไหม แต่มันน่าจะฉุดรั้งข้าไม่ให้ตายได้”

“ดีเลยเจ้าค่ะ” แม่นมพูดด้วยความประหลาดใจ “นายท่าน โปรดนำยามาให้นายน้อยด้วย”

หลี่จื้อเทยาเม็ดสีดำออกมาจากขวดกระเบื้อง ฮั่วเสวียนกลืนมันโดยไม่ลังเล

มันไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ในตอนแรก แต่หลังจากนั้น ฮั่วเสวียนก็อาเจียนเป็นเลือดอย่างไม่สามารถอดกลั้นได้สลบไปในที่สุด!

[1] จินหลวนเตี้ยน เป็นห้องโถงด้านในพระราชวังต้าหมิง ปรากฎครั้งแรกในราชวงศ์ถัง

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Status: Ongoing
ซูโย๋วอี่เพิ่งถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่แล้วกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฏขึ้นตรงหน้า แถมบอกอีกว่าเธอจะต้องกลายเป็นดาราสุดฮอตได้แน่!‘ซูโย๋วอี่’ สาวอ้วนหนักกว่าแปดสิบแปดกิโลกรัม ถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่เมื่อเธออับจนหนทางกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฎขึ้นตรงหน้า แถมบอกว่าเธอต้องสวยขึ้นแล้วกลับไปแก้แค้นสามีที่กล้านอกใจ ด้วยเส้นทางสู่ดาราสุดฮอตเบอร์ต้นของประเทศ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน