สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! – ตอนที่ 205 ความทุกข์จากการพัดพราก (1) (รีไรท์)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ตอนที่ 205 ความทุกข์จากการพัดพราก (1) (รีไรท์)

“เอ่อ”

สำหรับข้อเสนอของเล่อเหยาเหยา เห็นชัดว่าทำให้ชายหนุ่มตะลึงงัน เห็นเช่นนั้นเล่อเหยาเหยาอดกัดลิ้นอย่างเก้อเขินไม่ได้ ก่อนหงุดหงิดในใจไม่หยุด

ความจริงหลังเธอเอ่ยจบ ก็ตกใจกับคำพูดของตนเช่นกัน

หลังได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของชายหนุ่ม เธอเอ่ยเช่นนี้ออกไปทันที ตอนนี้คิดกลับคำก็ทำไม่ได้แล้ว

อาจเพราะนี่คือคำพูดจากจิตใต้สำนึกของตน เธอไม่อยากแยกจากชายผู้นี้โดยไร้สาเหตุ

แม้เธอจะยับยั้งชั่งใจตนเองไม่หยุด ว่าไม่ควรใกล้ชิดชายผู้นี้มากเกินไป

เพราะเธอไม่รู้ที่มาที่ไปของเขา และเธอยังไม่แน่ใจจุดประสงค์ของอีกฝ่าย จุดสำคัญที่สุดคืออีกฝ่ายไม่ใช่อวี๋จริงๆ

เขาเพียงคล้ายคลึงกับอวี๋เท่านั้น

ตนไม่ควรเห็นแก่ตัวคิดว่าเขาคืออวี๋ เช่นนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อเขา

แต่เธอไม่อยากแยกห่างกับเขา

เธอโดดเดี่ยวมานานเกินไป คิดถึงอวี๋จนแทบเสียสติไปแล้ว

หากไม่คิดว่าเขาคืออวี๋ เธอคงเจ็บปวดอย่างยิ่ง และไร้พลังในการฝืนทนต่อไป ดังนั้นให้เธอเห็นแก่ตัวบ้างได้หรือไม่!

เล่อเหยาเหยาคิดในใจ และรู้ว่าตนบุ่มบ่ามร่วมเดินทางกับผู้อื่นเช่นนี้ ต้องทำให้เขาสงสัยแน่นอน และสงสัยว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นในใจ

ดังนั้นเล่อเหยาเหยาจึงขบคิด ก่อนเอ่ยขึ้น

“ท่านพี่ตูกู๋ คือเช่นนี้ เหล่าอันธพาลเมื่อคืนแม้จะถูกท่านจัดการจนแพ้ย่อยยับ แต่ข้าวรยุทธ์ยังอ่อนด้อย หากพบเจอพวกคนเลวอีกครั้ง ความจริง…”

พอเอ่ยถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาพลันหยุดชะงักลง ก่อนเอ่ยขึ้นต่อว่า

“ดังนั้น ข้าจึงอยากเดินทางร่วมไปกับท่านขึ้นมากะทันหัน ประการแรกคือมีเพื่อนร่วมทาง ประการที่สองคือความจริงข้าเห็นแก่ตัวอยากให้ท่านคุ้มครองพวกเรา แต่ข้าไม่ให้ท่านทำโดยไร้สิ่งตอบแทนแน่ ข้าสามารถมอบค่าตอบแทนให้แก่ท่าน ท่านยื่นข้อเสนอมาเถิด!”

เล่อเหยาเหยาเอ่ยอย่างกังวล จึงไม่ลังเลที่จะให้เงินทองล่อใจ

แต่เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าได้ยิน เห็นชัดว่าไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เพียงเอ่ยปากขึ้นว่า

“ไม่จำเป็น!”

คำพูดสั้นๆได้ใจความนี้ ทำให้ใจที่มีความหวังของเล่อเหยาเหยา พลันตกลงสู่คลื่นแห่งความผิดหวังทันที

เมื่อเศร้าใจ ดวงตาแวววาวสดใสดุจดวงดาวของเล่อเหยาเหยา ก็พลันปกคลุมด้วยชั้นความผิดหวังเสียใจ

เซวียนเอ๋อร์ด้านข้างเห็นเช่นนั้น รู้ว่ามารดาตนอยากให้ท่านลุงผู้นี้อยู่กับพวกเขา ดังนั้นจึงยื่นมือเล็กออกไปจับแขนเสื้อของชายชุดดำทันที ก่อนเงยใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความอ้อนวอน พร้อมเอ่ยอย่างน่าสงสารขึ้น

“ท่านลุง เซวียนเอ๋อร์ชอบท่านลุง ท่านลุงไปกับพวกเราดีหรือไม่”

แม้ด้านหนึ่งทำเพื่อมารดาของตน แต่ความจริงในใจของเซวียนเอ๋อร์ก็เริ่มรู้สึกชื่นชอบท่านลุงผู้นี้

นี่คือสิ่งที่ตั้งแต่เติบโตมา เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

แม้เขาจะไม่เข้าใจท่าทางของท่านลุงผู้นี้ และรู้สึกว่าท่านลุงผู้นี้ดูเย็นชาจนทำให้คนสั่นเทิ้ม แต่เมื่ออยู่ร่วมกับท่านลุงผู้นี้ เขากลับดีใจยิ่งนัก ดังนั้นท่ามกลางความเห็นแก่ตัว เขาก็อยากให้ท่านลุงผู้นี้อยู่กับพวกเขา

ขณะเซวียนเอ๋อร์คิดในใจ เดิมทีเขาไม่รู้ตัวว่าประโยคนี้ของตน ทำให้หัวใจชายหนุ่มสั่นไหวอย่างปลาบปลื้มใจ

อะไรนะ เซวียนเอ๋อร์เอ่ยว่าชอบเขา!

นี่คือความจริงหรือ!

หากเป็นเช่นนี้ ทำให้เขาดีใจมากจริงๆ

เพราะนี่คือคำพูดที่บุตรชายเอ่ยกับเขา

ก่อนหน้านี้เขาคิดเสมอว่าเขาไม่อยู่ข้างกายบุตรชายของตนเนิ่นนานขนาดนี้ บุตรชายจะเกลียดชังเขา ไม่ชื่นชอบเขาหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเขาคือ…บุตรชายของตน

เขาไม่ยินยอมพบหน้าพวกเขา เพราะเจ็บปวดเพียงครั้งเดียวก็มากพอแล้ว เขาไม่อยากให้เหยาเหยาต้องเจ็บปวดอีกครั้ง เช่นนี้ช่วงเวลาที่เหลือเขาจะสามารถคุ้มครองอยู่ข้างกายเธอได้ และมองใบหน้าน่าหลงใหลของเธอ ก่อนสลักใบหน้าของเธอลงในใจตน

เขาไม่กล้าคาดหวังมากเกินไป

แต่เวลานี้สามารถได้ยินจากปากของบุตรชายว่าชื่นชอบเขา แม้ความชื่นชอบประเภทนี้จะไม่ได้มีสำหรับบิดา แต่กลับเป็นเรื่องที่ทำให้เขาชื่นชอบที่สุดเมื่อได้ยิน

พอคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของชายหนุ่มที่ซ่อนอยู่ในหมวกคลุมหน้าสีดำ ยกมุมปากยิ้มอย่างอิ่มอกอิ่มใจ

จากนั้นภายใต้สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังของผู้ใหญ่และเด็กคู่นี้ เขาค่อยๆ โน้มตัวลงลูบไล้ใบหน้าเล็กอ่อนนุ่มนั้น จากนั้นเงยหน้ามองใบหน้าดุจหยกของเล่อเหยาเหยา แล้วเอ่ยเสียงแหบพร่าขึ้น

“เมื่อครู่ที่ข้าเอ่ยว่าไม่จำเป็น หมายถึงไม่จำเป็นต้องให้เงินทองแก่ข้า เพราะข้ายินยอมเดินทางไปกับพวกเจ้า”

“จริงหรือ เช่นนั้นดีเสียจริง!”

เล่อเหยาเหยาได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม พลันดีใจขึ้นมา

ทว่าต่อมาจึงรู้สึกว่าตนตื่นเต้นเกินไป ใบหน้าจิ้มลิ้มจึงเก้อเขิน และเพื่อปิดบังความตื่นเต้นเกินไปเมื่อครู่ จึงพลันก้มหน้าลงยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กของเซวียนเอ๋อร์ ก่อนเอ่ยเบาๆ ขึ้น

“เซวียนเอ๋อร์ รีบขอบคุณท่านลุงเร็ว ต่อไปมีท่านลุงอยู่ พวกเราไม่ต้องกลัวถูกคนเลวรังแกอีกแล้ว”

“ขอรับท่านพ่อ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งอวี้เซวียนแม้จะสงสัยในใจว่าถึงไม่มีท่านลุง ก็ไม่มีผู้ใดต่อกรกับมารดาได้ ทว่าเมื่อมารดาเอ่ยเช่นนี้ เขาจะทำเช่นไรได้ นอกจากเพียงทำให้มารดาสบายใจ

พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนพลันหันศีรษะเอ่ยอย่างอ่อนหวานกับชายหนุ่ม

“ขอบคุณท่านลุง”

“ฮ่า ๆ”

เมื่อเห็นท่าทีของผู้ใหญ่และเด็กตรงหน้า ชายหนุ่มไม่ได้เปิดโปงความขวยเขินของเล่อเหยาเหยา เพียงมองแววตาปิติยินดีของเธอและรอยยิ้มหวานของคนตัวเล็ก ในใจรู้สึกมีความสุขไม่เจ็บปวด

จากการเดินทางเพียงสองคนเปลี่ยนไปเป็นเดินทางสามคน แต่ทุกคนกลับไม่รู้สึกอึดอัดแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะเล่อเหยาเหยาที่รู้สึกการรวมตัวเช่นนี้ ช่างเป็นธรรมชาติยิ่งนัก

แม้ชายหนุ่มผู้นี้จะไม่ค่อยพูดจา เวลาส่วนใหญ่คือเธอซักถามเขาตอบ หรือบางเวลาเธอนั่งคุยกับเซวียนเอ๋อร์อยู่ด้านข้าง เขาจะนั่งฟังอยู่อีกด้าน

เขานิ่งเงียบอย่างมาก แต่กลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างยิ่ง

ความรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้ เธอได้รับเพียงจากบนกายอวี๋เท่านั้น

แม้เธอจะทราบว่าชายผู้นี้ไม่ใช่อวี๋ แต่เธอกลับควบคุมจิตใจไม่ได้ จิตใต้สำนึกเห็นว่าเขาคือตัวแทนของอวี๋ไม่หยุด

โดยเฉพาะช่วงหลายวันที่ได้ใกล้ชิดกับชายผู้นี้

แม้จะเป็นเพียงเวลาที่เล็กน้อย แต่กลับทำให้เล่อเหยาเหยาตกตะลึง ท่าทางจากจิตใต้สำนึกของชายผู้นี้คล้ายกับอวี๋ อย่างมาก บนโลกนี้มีคนสองคนที่คล้ายคลึงกันขนาดนี้จริงหรือ!

ไม่ได้ เธอต้องตรวจสอบให้กระจ่าง!

เวลานี้เป็นช่วงบ่ายแสงแดดสดใสลมพัดโชยเอื่อยๆ

ทิวทัศน์ต้าหลี่ช่างสวยงามมากเกินไปจริงๆ พวกเล่อเหยาเหยาสามคนท่องเที่ยวอยู่ในต้าหลี่ระยะหนึ่ง เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ขึ้นชื่อทั้งหมดของต้าหลี่

เวลานี้พวกเขามาถึงทะเลสาบเทพธิดา อันขึ้นชื่อที่สุดในต้าหลี่

เล่าลือกันว่าเมื่อมาถึงต้าหลี่ ต้องทานปลาในทะเลสาบเทพธิดา

เพราะทะเลสาบเทพธิดานี้ไม่เพียงเป็นทะเลสาบบริสุทธิ์สวยงามที่สุดของต้าหลี่และเทียนหยวน

กล่าวขานกันว่าก่อนหน้านี้มีเทพธิดาแอบลงมาบนโลกมนุษย์กลับพบเข้ากับเหล่าอันธพาลพอดี เหล่าอันธพาลเห็นเทพธิดารูปโฉมงดงามจึงต้องใจ หมายทำมิดีมิร้ายเทพธิดาผู้นั้น ต่อมากลับถูกจอมยุทธ์ที่ผ่านทางมาเห็นเข้า ก่อนจัดการสั่งสอนเหล่าอันธพาลพวกนั้น

จากนั้นเทพธิดาหลงรักจอมยุทธ์ผู้นั้น และจอมยุทธ์เองก็รักเทพธิดาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

ต่อมาทั้งสองจึงรักกันอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีวันเวลาอันหวานชื่นร่วมกัน ทว่าความสุขมักไม่นาน เรื่องเทพธิดาหลงรักมนุษย์ถูกเทพบนสวรรค์รู้เข้า จึงบังคับเทพธิดากลับสวรรค์ ทิ้งจอมยุทธ์ผู้นั้นให้โดดเดี่ยวอยู่ที่นั่น

จอมยุทธ์รู้ว่าคนที่ตนรักคือเทพธิดาทั้งตกใจและเสียใจ รออยู่ยังสถานที่ที่พวกเขาพบกันโดยตลอด หวังว่าความจริงใจของเขาจะทำให้สวรรค์เห็นใจ ช่วยพวกเขาสมหวัง

แต่จนกระทั่งจอมยุทธ์ผู้นั้นเสียชีวิตไป เทพธิดากลับไม่ได้ลงมาบนโลกมนุษย์ เพราะเทพธิดาถูกเทพบนสวรรค์ควบคุมไว้ ทว่าทุกวันต่างใช้กระจกมองจอมยุทธ์จากบนสวรรค์ มองเขารออย่างทุกข์ทรมานจนน้ำตาไหลกลายเป็นแม่น้ำ สุดท้ายจึงร้องไห้จนสถานที่แห้งแล้งนี้กลายเป็นทะเลสาบ

ทะเลสาบแห่งนี้ย่อมคือ ทะเลสาบเทพธิดาอันเลืองชื่อของต้าหลี่

แม้ไม่รู้เรื่องราวนี้คือคนรุ่นหลังแต่งขึ้นหรือเพราะเหตุใด ทว่าน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ใสแจ๋วยิ่งนัก

พวกเล่อเหยาเหยามาถึงที่นี่ช่วงตอนกลางวัน

เห็นเพียงรอบด้านของทะเลสาบเทพธิดา เรียงรายด้วยต้นไม้ บนพื้นปูด้วยหญ้าเขียวชอุ่ม

เห็นเพียงหญ้าบนพื้นนี้ สีสันเขียวชอุ่ม อ่อนนุ่มเขียวขจี มีกลุ่มดอกไม้ขนาดเล็กประดับอยู่ตรงกลาง

สายลมเย็นพัดเอื่อยจนยอดหลิวปลิวไหว ยอดไม้ส่งเสียง ‘ซ่าซ่าซ่า’ ออกมา ดอกไม้ใบหญ้าบนพื้นก็ปลิวไสวตามไปด้วย ราวกับกลุ่มเทพธิดาชุดเขียวตัวน้อยกำลังเต้นระบำด้วยท่าทางอันสะดุดตา มองแล้วทำให้ผู้คนสบายอกสบายใจ

ทว่าสิ่งที่น่าหลงใหลที่สุดคือทะเลสาบเทพธิดากว้างใหญ่มาก

เวลานี้เป็นยามบ่าย พระอาทิตย์ลอยเด่นบนท้องฟ้าสาดส่องเสน่ห์อันร้อนแรงที่สุดออกมา ทำให้ทะเลสาบเทพธิดาเปล่งประกายแวววาว คล้ายกับชุบไปด้วยชั้นทอง เรืองรองระยิบระยับ แพรวพราวเป็นที่สุด

เมื่อเดินใกล้เข้าไป มองเห็นทะเลสาบเทพธิดานี้สะอาดบริสุทธิ์ ใสแจ๋วจนมองเห็นก้นบึ้ง

เมื่อมองจากด้านบนทะเลสาบเทพธิดาสามารถเห็นฝูงปลารวมกลุ่มแหวกว่ายไปมาไม่หยุดอยู่ด้านล่าง

ใกล้กับทะเลสาบเทพธิดานี้ มีจำนวนคนที่มาท่องเที่ยวไม่น้อย และริมฝั่งมีเถ้าถ่านและท่อนไม้ที่ผู้คนทิ้งไว้จำนวนมาก เห็นชัดว่าทุกคนที่มาถึงที่นี่หลังจับปลา จะมาย่างมันทานอยู่บนริมฝั่ง

ดวงตาคู่งามของเล่อเหยาเหยากวาดไป เห็นไม่ไกลจากพวกเขามีผู้คนมากมายกำลังจับปลา และกำลังย่างปลาอยู่บนริมฝั่ง กลิ่นหอมของปลาย่างนั้นพัดลอยไปไกล แม้พวกเขาจะเพิ่งทานอาหารกลางวันมาก็อดน้ำลายไหลไม่ได้

หอมเสียจริง เมื่อทานเข้าไปต้องอร่อยมากแน่นอน!

เล่อเหยาเหยาเดิมทีคือนักกิน คนที่เป็นบุตรของเธอย่อมไม่ยกเว้นเช่นกัน

เมื่อเห็นปลามากมายในทะเลสาบ และผู้คนมากมายย่างปลาอยู่รอบด้าน กลิ่นหอมนั้นทำให้ท้องของเหลิ่งอวี้เซวียนส่งเสียงไม่หยุด

ดังนั้นเพื่อท้องของตน เหลิ่งอวี้เซวียนจึงพลันเดินไปที่ข้างกายชายหนุ่ม ก่อนยื่นมือเล็กขาวนุ่มดึงชายเสื้อของเขา ทำสีหน้าน่าสงสารออกมาพร้อมเอ่ยขึ้น

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Status: Ongoing
เมื่อเด็กสาวจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดข้ามเวลามายุคโบราณ อยู่ในร่างขันทีที่เป็นสตรีปลอมตัวมา ทว่าต้องปรนนิบัติพญายมผู้เกลียดชังผู้หญิงยิ่งกว่าสิ่งใด… งานนี้จะมี ‘รัก’ หรือมี ‘รอด’ กันนะ!นิยายแปลจีนโบราณ โรแมนติก-คอเมดี้ สุดฟิน จิกหมอนไปขำไป!จู่ๆ ‘เล่อเหยาเหยา’ เด็กสาวที่ข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดฟื้นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นขันที ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเทียนหยวนที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์แถมยังได้รับหน้าที่ปรนนิบัติ ‘เหลิ่งจวิ้นอวี๋’ ท่านอ๋องแห่งวังรุ๋ยอ๋องผู้ที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แย้มยิ้มสนทนาขณะสังหารคนโดยไม่กะพริบตา จนทุกคนต่างขนานว่า ‘พญายม’ทั้งยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า รุ่ยอ๋องคนนี้เกลียดชังผู้หญิง ชนิดที่ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เกินห้าก้าว!ทว่า วันหนึ่งพญายมเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมาเธอจะทำเช่นไร เพื่อรักษาชีวิต และความลับที่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ ‘ผู้หญิง’…รวมไปถึง เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงในร่างขันทีน้อยคนนี้เกิดตั้งครรภ์โดยไม่คาดคิดได้เสียนี่!สวรรค์! ได้โปรดให้ฟ้าผ่าแล้วพาเธอกลับไปโลกเดิมที!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน