คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 153 บอสใหญ่รวมตัว

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตงอวิ๋นไม่ได้ยินคำพูดที่เหลือแล้ว

หูของเธออื้อไปหมด สมองก็ว่างเปล่า

เรี่ยวแรงคล้ายถูกสูบออกไปหมด ร่างกายอ่อนยวบ รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้เท้าแทบจะถูกเหยียบจนหัก

ตงอวิ๋นจับรั้วกั้นที่อยู่ข้างๆ ไว้ได้ทันพอดี เธอสะบัดหน้า ยังคงสลัดอาการหน้ามืดเวียนหัวออกไปไม่ได้

ส่วนพวกนักข่าวที่ดูคลิปสั้นไลฟ์สดนี้จบต่างก็ฮือฮาขึ้นมาทันที

ทันใดนั้นสายตาที่พวกเขามองตงอวิ๋นกับผู้กำกับใหญ่ก็เปลี่ยนไป

คนที่อยู่ตรงนั้นต่างได้ยินกันหมด ซังเย่าจือบอกว่าเขาจะยกเลิกสัญญากับซิงเฉิน แถมยังจะให้ทนายส่งจดหมายไปหาทีมงานรายการ

ถ้าซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ผิดจริง ซังเย่าจือจะพูดแบบนี้เหรอ คนในวงการต่างยอมรับว่าราชาภาพยนตร์ชั้นแนวหน้าคนนี้นิสัยดี หลังจากสมองประมวลผล บรรดานักข่าวก็ไม่มีเวลามาสนใจว่าซังเย่าจือ ‘ฟื้นจากความตาย’ ได้อย่างไร ไมโครโฟนในมือต่างแย่งกันยื่นเข้าไปแล้วเริ่มตั้งคำถาม

“ประธานตงครับ ไม่ทราบว่าตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงไม่ปล่อยภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาล่ะครับ ในเมื่อเป็นรายการวาไรตี้จะไม่มีกล้องตามติดได้ยังไง”

“ประธานตงคะ ตอนนี้คุณก็เห็นแล้วว่าราชาภาพยนตร์ซังฟื้นแล้ว แต่ไม่เพียงแต่เขาจะไม่กล่าวขอบคุณ กลับยังจะยกเลิกสัญญากับซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ อยากทราบว่าตอนนั้นทีมงานกองถ่ายช่วยกู้ชีวิตไว้ได้ทันเวลาจริงเหรอคะ”

“ประธานตงครับ ฟังจากที่ราชาภาพยนตร์ซังเล่า พวกคุณยังลงไม้ลงมือกับแฟนคลับด้วยเหรอครับ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ”

“ประธานตงคะ ถ้าราชาภาพยนตร์ซังไม่ฟื้น จากไปจริงๆ พวกคุณใช้เขาโจมตีชูกวงมีเดีย แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการฉวยโอกาสเหรอคะ”

“ประธานตงครับ…”

ถูกยิงคำถามต่อเนื่องทำให้ตงอวิ๋นหน้ามืดยิ่งกว่าเดิม ในที่สุดสีหน้าเย็นชาของเธอก็พังทลาย บิดเบี้ยวดูไม่ได้ กรีดร้องถอยหลัง

“ไสหัวไป! ไสหัวออกไปให้หมด!”

บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ ช่วยคุ้มกันตงอวิ๋นเดินเข้าไป

เกิดความโกลาหลตรงทางเข้าตึกในชั่วขณะ บรรดานักข่าวอยากเบียดเข้าไป แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็พยายามขวางไว้ ผู้กำกับใหญ่ตกใจแน่นิ่ง ยืนพิงเสา แข้งขาอ่อนแรง

เดิมทีงานแถลงข่าวในวันนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ อีกทั้งจะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้ชูกวงมีเดีย

ด้วยเหตุนี้บรรดานักข่าวที่ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เชิญมาจึงเป็นสื่อใหญ่ชื่อดังทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างกระแส แต่ตงอวิ๋นนึกไม่ถึงเลยว่า แผนทั้งหมดของเธอ ถึงแม้จะวางไว้อย่างรัดกุม แต่ก็สู้ซังเย่าจือปรากฏตัวด้วยตัวเองไม่ได้

หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องทำงาน ยังคงมึนศีรษะอยู่ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนตายถึงฟื้นกลับมาได้อีกหรือโรงพยาบาลซินกั่งหลอกพวกเธอ!

แต่เอาเรื่องแบบนี้มาโกหกกันไม่เท่ากับสร้างข่าวลือเหรอ

โรงพยาบาลจะกล้าเอาเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตคนมาล้อเล่นได้ยังไง

ทางซิงเฉินเละเป็นโจ๊ก บรรดาแฟนคลับและคนที่ไม่ใช่แฟนคลับในเวยปั๋วต่างก็กำลังคลั่งเช่นกัน

[อ๊ากกก คุณพระคุณเจ้า! ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่ว่ามีคนศัลยกรรมมาแกล้งปลอมตัวเป็นพี่ชายฉันหรอกนะ]

[ไม่หรอกๆ เย่าจือจริงๆ เย่าจือยังมีชีวิตอยู่ เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!]

[เย่าจือฟื้นขึ้นมาแล้ว ในที่สุดก็พูดได้แล้ว เมื่อหลายวันก่อนพี่ผู้จัดการส่วนตัวบอกในกลุ่มวีแชทของพวกเราว่าเย่าจือไม่เป็นอะไร แต่เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นเลยห้ามพวกเราพูดออกไป]

[ไม่ไหว ขอสงบสติอารมณ์ ฉันกลัวว่านี่จะเป็นความฝัน แต่ได้โปรดอย่าให้ฉันตื่นเลย ขอบคุณพระเจ้าที่หลังจากดูหนังจบก็ส่งคนที่พวกเรารักกลับมา (อีโมชันร้องไห้)(อีโมชันร้องไห้)]

[ฉันโอเคแล้ว แปบเดียวก็โอเคแล้ว แชร์เวยปั๋วโพสต์นี้ สุ่มจับซิงซิงห้าสิบคน รับชานมคนละแก้ว]

ซิงซิงเป็นชื่อเรียกแฟนคลับของซังเย่าจือ

สำหรับบรรดาแฟนคลับ ช่วงเวลาสามวันมานี้มีทั้งสุขและทุกข์ เวลาช่างยาวนาน

เดิมทีพวกแฟนคลับได้ทำการรวมกลุ่มกันแล้ว เตรียมนำดอกไม้ไปไว้อาลัยที่ซินกั่ง

ต่างนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะพลิกผัน แต่ละคนยิ้มทั้งน้ำตา ดีใจจนเป็นบ้า

กลุ่มแฟนคลับในเวยปั๋วไม่มีแล้วอารมณ์ดิ่งโศกเศร้าในช่วงหลายวันมานี้ เต็มไปด้วยโพสต์อวยพร และสุ่มจับรางวัล

หลังจากที่ดีใจกันเสร็จเหล่าแฟนคลับก็ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญที่สุด

[ถาม แฮชแท็กซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ หน่อยสิ เจ็บหน้ามะ ถ้าชูกวงมีเดียทำจริง ทำไมเย่าจือต้องยกเลิกสัญญากับพวกคุณตอนนี้ด้วยล่ะ!]

[พี่ๆ น้องๆ ในเมื่อเย่าจือฟื้นแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องทนอีกต่อไป แฮชแท็กกองถ่ายรายการผจญภัยท้าตาย พวกคุณช่วยกู้ชีวิตเย่าจือในทันทีหรือเปล่า พวกเราต่างรู้กันอยู่แก่ใจ อย่ามาแสร้งทำตัวเป็นคนดี สวะ!]

[แฮชแท็กซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ แอทกองถ่ายรายการผจญภัยท้าตาย พวกคุณบอกว่าพี่ชายของพวกเราไม่มีคนหนุนหลัง พวกเราก็คือคนหนุนหลังของเขา พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา แต่จำนวนเยอะ ตอนนี้พี่ชายฟื้นแล้ว พวกคุณเตรียมเละได้เลย (อีโมชันยิ้ม)(อีโมชันยิ้ม)]

[ฉันจะเขียนจดหมายถึงหน่วยงานตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ขอให้พวกเขาตรวจสอบซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ ช่วงหลายปีมานี้พวกคุณก่อคดีร้ายแรงอยู่ไม่น้อย อย่าคิดหนีอีกล่ะ]

ณ โรงพยาบาลซินกั่ง

ภายในห้องพักผู้ป่วย

“ลูก กินโจ๊กหน่อยนะ” ซิวอวี่ถือชาม ตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งช้อน พูดด้วยความเป็นห่วง “ลูกเพิ่งฟื้นมาไม่นาน กินได้แต่อาหารเหลว อย่าเพิ่งคิดถึงเนื้อสัตว์เลยนะ”

ซังเย่าจือมองแม่ยกของเขาที่สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาคนนี้ “…” พูดไม่ออก

อยู่ๆ ก็เกิดความคิดอยากออกจากวงการมันเรื่องอะไรกัน พอนึกถึงว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของแฟนคลับเขาเป็นแม่ยก วันๆ เรียกเขาว่าลูก แค่นี้ซังเย่าจือก็ปวดหัวแล้ว

เจียงหรานที่อยู่ข้างๆ เหลือบมองเหตุการณ์นี้ “?”

ยัยนี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า ต้องป้อนคนอื่นกินด้วยเหรอ

ตอนนั้นที่ขาของเขาบาดเจ็บ แค่แอปเปิ้ลลูกเดียวยังไม่ปอกให้เขากินเลย

รู้จักกันมาตั้งสิบกว่าปี

เจียงหรานทำเสียงฮึดฮัด

เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนอีกคนแล้ว

“คุณซิวครับ ผมเองครับ” ผู้จัดการส่วนตัวกล้าใช้ซิวอวี่ที่ไหนกัน เขารีบวิ่งเข้ามา

“คุณไปพักหน่อยเถอะครับ”

เขารู้ว่าซิวอวี่เป็นเพื่อนของอิ๋งจื่อจิน

ไม่รู้ทำไม ผู้จัดการส่วนตัวรู้สึกว่าเพื่อนของหมอเทวดาไม่ธรรมดาทั้งนั้น

“อย่าเข้ามานะ” ซิวอวี่ชูชามขึ้นสูงด้วยความหวาดระแวง “อย่ามารบกวนแม่จะป้อนข้าวลูก”

ซังเย่าจือ “…”

ผู้จัดการส่วนตัว “…”

เจียงหราน “…”

โวะ ยัยนี่ตามดาราจนบ้าไปแล้ว

เจียงหรานทนดูต่อไปไม่ไหว ออกจากห้องผู้ป่วย

ที่ด้านนอกผู้เฒ่าจงก็อยู่ด้วย

เขาเคยไปที่ชิงจื้อหลายครั้ง จำเจียงหรานได้จึงทักทาย “เสี่ยวหราน ราชาภาพยนตร์ซังไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”

“ไม่เป็นไร” เดิมทีเจียงหรานยังทำหน้าบึ้งอยู่ อยู่ๆ ก็นึกได้ว่านี่คือคุณตาของอิ๋งจื่อจิน เขาจึงกระแอมหนึ่งทีแล้วทำตัวดีขึ้นมาทันที “กินโจ๊กอยู่ครับ”

“งั้นก็ดีแล้ว” ผู้เฒ่าจงพยักหน้าต่อเนื่อง “เด็กดีขนาดนี้ คนดีย่อมได้รับผลดีตอบแทน”

เจียงหรานไม่ตอบ มองไปข้างหลัง ไม่เห็นมีใคร

“หาจื่อจินเหรอ” ผู้เฒ่าจงเริ่มไม่พอใจขึ้นมา “หนีตามหมูไปแล้ว”

เจียงหราน “?”

ตูตูยังจะวิ่งหนีพ่ออิ๋งของพวกเขาได้อีกเหรอ

ไม่ใช่ว่าแค่มือเดียวก็จับยัดเข้ากระเป๋าได้แล้วเหรอ

“ก็ไอ้เด็กหน้าเหม็นตระกูลฟู่นั่นไงล่ะ” ผู้เฒ่าจงปวดใจ “เสี่ยวหราน เราว่าทำไมหมอนั่นถึงไม่ทำตัวเสเพลของตัวเองไป ทำไมต้องมายุ่งกับหลานสาวของตาด้วย มันเกินไปไหมล่ะ”

เจียงหรานไม่กล้าพูด ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าหมูในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหมูจริงๆ

เจียงฮว่าผิงเคยกำชับเขามาโดยเฉพาะว่าอย่าพูดเรื่องฟู่อวิ๋นเซินที่ฮู่เฉิง

ถึงแม้ตอนเขาอยู่ตี้ตูจะมองไม่ออกจริงๆ ว่าฟู่อวิ๋นเซินมีอะไรพิเศษ

แต่คำพูดของคุณนายเจียง ถ้าเขาไม่ฟังเดี๋ยวจะซวย

พ่อกับอาของเขาออกโรงพร้อมกันก็ยังช่วยปกป้องเขาไม่ได้

เจียงหรานจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองถูกเจียงฮว่าผิงจัดการไปกี่ครั้ง

“แต่ไอ้หมอนั่นก็หน้าตาใช้ได้นะ” ผู้เฒ่าจงพูดพึมพำกับตัวเอง “ต่อไปถ้ามีลูกสาวก็ต้องหน้าตาดีแน่นอน ไม่สิๆ เพ้อเจ้อ เพ้อเจ้อ”

เรื่องที่คนตายฟื้นคืนชีพฟังดูเหลวไหลมาก

ดังนั้นถึงแม้ซังเย่าจือจะออกมาไลฟ์สดยืนยันตัวตนแล้ว แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังมีท่าทีสงสัย

แต่วันต่อมาก็มีแฟนคลับมาที่โรงพยาบาลซินกั่ง พอได้เห็นตัวจริงถึงแน่ใจอย่างสิ้นเชิงว่าซังเย่าจือไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ

โรงพยาบาลซินกั่งก็รีบออกแถลงการณ์

บอกว่านี่เป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากในทางการแพทย์ แทบจะเป็นปาฏิหาริย์

อันที่จริงทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำอะไร พึ่งความตั้งใจของซังเย่าจือทั้งหมด

ส่วนหมอเทวดาที่ซังเย่าจือพูดถึง พวกเขาเองก็ไม่ทราบ และก็ตอบอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว

อันที่จริงหมอที่รักษาซังเย่าจือก็ไม่ได้คิดเรื่องหมอเทวดาสักเท่าไร

มีหมอเทวดาที่ไหนกันแค่เข้าไปไม่กี่นาทีก็รักษาหายแล้ว

คราวนี้ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์แกล้งตายอย่างสิ้นเชิง คอมเมนต์ใต้โพสต์ใหม่ในเวยปั๋วเกินล้านเข้าไปแล้ว นับตั้งแต่ซังเย่าจือฟื้นขึ้นมา ทุกวันจะมีคนมาปาไข่เน่าที่หน้าบริษัท ตงอวิ๋นถึงขั้นไม่กล้ากลับบ้านแล้ว

เธอเคยโทรติดต่อซังเย่าจือกับผู้จัดการส่วนตัวของเขา แต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธรับสายทั้งหมด

ตงอวิ๋นจำต้องให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทโพสต์เวยปั๋วอีกครั้ง

แอทซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ : [ราชาภาพยนตร์ซังกลับมาได้ ทางบริษัทก็ดีใจมากค่ะ ยินดีต้อนรับกลับมานะคะ]

แต่เมื่อเวยปั๋วโพสต์นี้ออกมาก็ถูกตบหน้ากลับอย่างรวดเร็ว

แอทซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ : [ได้ยินว่า แอทกองถ่ายรายการผจญภัยท้าตาย บอกว่าช่วยกู้ชีวิตให้คุณซังในทันที และในกองยังมีทีมแพทย์มืออาชีพอยู่ด้วย ถ้าอย่างนั้นนี่คืออะไรครับ]

นี่เป็นคลิปส่วนหนึ่งในตอนนั้นของรายการกับบันทึกการโอนเงินของผู้กำกับใหญ่ของกองถ่าย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท