คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 173 ตบหน้าทีเดียว เวรกรรมหมดกัน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

นี่เป็นเวยปั๋วโพสต์แรกหลังจากที่อิ๋งเย่ว์เซวียนลงทะเบียนเปิดบัญชีเวยปั๋ว

เนื่องจากเรื่องที่อิ๋งลู่เวยทำได้สร้างความโกรธให้กับผู้คน ถึงแม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว กระแสก็ยังคงไม่ลดลง โดยเฉพาะโพสต์ยืนยันของอิ๋งเย่ว์เซวียนที่เป็น ‘เหยื่อของอิ๋งลู่เวย’ ได้ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนจำนวนมากเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ พากันปลอบใจอิ๋งเย่ว์เซวียน

[กอดนะคะน้องสาว เป็นเรื่องไม่คาดคิดเลยจริงๆ ใครจะไปคิดว่าอาแท้ๆ ของตัวเองจะทำเรื่องแบบนี้ได้]

[โชคดีที่กลับมาได้ ถ้าหาไม่เจอนะ คงสมใจที่อิ๋งลู่เวยอยากให้ตายแล้วหรือเปล่า]

[แบบนี้ตระกูลอิ๋งก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยจริงๆ คุณหนูใหญ่หายตัวไป แถมยังต้องรับบาปแทนอิ๋งลู่เวย ฉันว่านะ ถ้าไม่มีอิ๋งลู่เวยใช้แผนสกปรกก็ไม่มีทางเกิดเรื่องที่น่าขยะแขยงอย่างคลังเลือดมีชีวิตหรอก]

[ตกเป็นเหยื่อกันทั้งนั้น คนที่น่าขยะแขยงคืออิ๋งลู่เวย คนที่สมควรตายก็คืออิ๋งลู่เวย เลิกต่อต้านอิ๋งซื่อกรุ๊ปดีกว่า ยังไงซะจอมแฉก็บอกว่าอิ๋งลู่เวยติดคุกแล้วไม่ใช่เหรอ เงินที่อิ๋งซื่อกรุ๊ปหามาได้ก็ใช้กับยัยนั่นไม่ได้หรอก]

ผ่านไปสักพักเวยปั๋วโพสต์ที่สองก็ปรากฏ

แอทอิ๋งเย่ว์เซวียน : [ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงค่ะ ฉันยังอยู่ต่างประเทศ ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฉันทำใจได้แล้วค่ะ ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ที่ให้ฉันเติบโตมาอย่างปลอดภัย พวกท่านก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน ฉันขอร้องทุกคนอย่าไปโทษคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะ]

ความใจกว้างขนาดนี้ได้รับคำชมจากชาวเน็ตอยู่ไม่น้อย

[เห็นหรือยัง นี่แหละความใจกว้างแบบที่คุณหนูที่แท้จริงถึงจะมี พอเทียบกับคุณหนูตัวปลอมบางคน รายนั้นเจ้าคิดเจ้าแค้นเกินไป]

[ดังนั้นของปลอมไม่มีทางเป็นของจริง แต่ตอนนี้อิ๋งลู่เวยติดคุกไปแล้ว ฉันว่าตระกูลอิ๋งคงไม่รับเลี้ยงเธอต่อหรอก]

[เข้าใจแล้ว คอมเมนต์บนๆ นี่เป็นแม่พระมาโปรดนี่เอง งั้นอีกหน่อยถ้าถูกเอาตัวไปเป็นคลังเลือดมีชีวิตก็อย่าต่อต้านนะจ๊ะ]

อิ๋งเจิ้นถิงไปบริษัทแล้ว พ่อบ้านกำลังรายงานสถานการณ์ในเวยปั๋วให้จงมั่นหวาฟัง

“จากที่คุณท่านสั่งไว้ หลังจากที่คุณหนูใหญ่โพสต์เวยปั๋วสองโพสต์นี้เสร็จ ทิศทางของเรื่องนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงครับ มีคนชื่นชมคุณหนูใหญ่ว่าจิตใจดีมากมายเลยครับ”

ช่วงหลายวันมานี้จงมั่นหวาใจคอไม่ดี ตอนนี้ถึงได้เบาใจลง

เธอยกถ้วยชาขึ้นมาเป่า ยิ้มพลางพูด “เดิมทีเสี่ยวเซวียนก็เป็นเด็กจิตใจดีอยู่แล้ว รู้ประสา”

“แต่ว่าคุณนายครับ…” พ่อบ้านลังเล “คนที่ถูกเอาไปทิ้งคือคุณหนูรอง พวกเราให้คุณหนูใหญ่ออกหน้าแทน ถ้าความจริงปรากฏจะทำยังไงครับ”

“ไม่มีทาง” จงมั่นหวาสีหน้าเย็นชา “พวกเขารับปากแล้วว่าจะไม่มีทางพูดออกไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน ตราบใดที่ฉันกับเจิ้นถิงไม่ออกหน้าก็ไม่มีทางตรวจดีเอ็นเอได้”

ผู้เฒ่าจงก็รู้เรื่อง แต่ตรวจดีเอ็นเอข้ามรุ่นไม่ได้ อย่างมากสุดก็แค่พิสูจน์ความเป็นสายเลือดเดียวกัน

แต่นั่นจะอธิบายอะไรได้

ก็แค่พูดได้ว่าตระกูลจงมีลูกลับๆ เพิ่มมาอีกคน

ไม่มีทางมีคนเชื่อมโยงไปถึงเรื่องคุณหนูตัวจริงของตระกูลอิ๋ง

พ่อบ้านคิดดูก็รู้สึกว่าใช่

“ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเสี่ยวเซวียนก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย” จงมั่นหวาส่ายหน้า “ตอนที่เธอถูกรับมาอยู่ตระกูลอิ๋งยังเป็นแค่เด็กที่ไม่ประสีประสาอยู่ๆ วันหนึ่งก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ เธอจะไม่เสียใจเหรอ”

เดือนเมษายนปีที่แล้วเจียงมั่วหย่วนรับอิ๋งจื่อจินกลับมาจากอำเภอชิงสุ่ย

อิ๋งเย่ว์เซวียนสมัครไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ยุโรปตอนเดือนมิถุนายน

เหตุผลคือเธอยึดตำแหน่งคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งมานานขนาดนี้ ถึงเวลาที่ต้องหลีกทางแล้ว

แต่อิ๋งเจิ้นถิงกับจงมั่นหวาจะยอมได้อย่างไร ยอมแค่ให้เธอไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ยุโรป เรียนเสร็จต้องกลับมา ตำแหน่งคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งจะยังคงเป็นของเธอ

เลี้ยงมาสิบห้าปี ความผูกพันบทจะตัดก็ตัดได้ที่ไหนกัน

เมื่อเทียบกับอิ๋งเทียนลี่ว์ ลูกสาวเอาใจใส่มากกว่า เธอผูกพันกับอิ๋งเย่ว์เซวียนยิ่งกว่า

จงมั่นหวาถอนหายใจขอบตาแดงเล็กน้อย “เสี่ยวเซวียนก็เหมือนฉัน จิตใจเข้มแข็ง ถึงแม้ตอนที่เธอลากกระเป๋าเดินทางไปจะมีรอยยิ้ม แต่ฉันรู้ว่าเสี่ยวเซวียนเสียใจยิ่งกว่าใครทั้งนั้น”

พ่อบ้านเงียบไป

ผ่านไปสักพักเขาถึงได้พูดขึ้นอย่างลังเล “แต่เกรงว่าคุณหนูรองจะไม่ยอมน่ะสิครับ”

“ไม่เป็นไร” จงมั่นหวาวางถ้วยลง เธอไม่คิดแบบนั้น “ตอนนี้อิ๋งลู่เวยถูกจับเข้าคุกแล้ว จื่อจินก็ไม่ต้องให้เลือดแล้ว”

“ตอนนั้นที่รับเธอกลับมาก็บอกไว้แล้วว่า ไม่มีทางยกตำแหน่งคุณหนูใหญ่ของเสี่ยวเซวียนให้เธอ เธอเป็นคุณหนูรอง แต่สิ่งที่ได้ก็เหมือนกัน”

จงมั่นหวาคิดชั่วครู่แล้วพูดต่อ “แต่สิ่งที่พ่อบ้านกังวลก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล รอเจิ้นถิงว่างพวกเราจะไปหาเธอด้วยกัน”

นักเรียนห้องสิบเก้าย่อมไม่รู้เรื่องของตระกูลอิ๋ง จึงรู้สึกสงสารอิ๋งเย่ว์เซวียนเหมือนกัน

อายุยังไม่ครบเดือนก็ถูกอิ๋งลู่เวยเอาไปโยนทิ้งแล้ว

“จึ๊ ที่แท้อิ๋งลู่เวยก็พวกทำเลวจนเป็นสันดาน” ซิวอวี่ลูบคาง “ตระกูลอิ๋งซวยจริงๆ เลยนะ แต่ทำไมฉันถึงมีความสุขขนาดนี้ล่ะ”

อิ๋งจื่อจินไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาของพวกเขา เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือออกมาปิดตาตัวเอง นิ้วเรียงชิด

จากนั้นเธอก็ขยับนิ้วกลางกับนิ้วนางออกเล็กน้อย เกิดเป็นช่องเล็กๆ

“พ่ออิ๋งดูอะไรอยู่เหรอ” ซิวอวี่มองท่าทางแบบนี้ของอิ๋งจื่อจินด้วยความอยากรู้

“ดูคนเล่นบาสในสนามเหรอ”

“เปล่า” ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลงเล็กน้อย เปล่งประกายวูบไหว เธอยิ้ม “กำลังดูเวรกรรม”

เวรกรรมจางลงจนมองไม่เห็นแล้ว

หากไม่เกิดอะไรที่เหนือความคาดหมายก็จะหมดลงอย่างสิ้นเชิงในสามวัน

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด

แต่ไหนแต่ไรนักพยากรณ์ทำนายให้คนอื่นไม่ทำนายให้ตัวเอง

โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโชคชะตาและอนาคต

อันที่จริงเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเวรกรรมของเธอกับตระกูลอิ๋งถึงได้จบลงเร็วขนาดนี้

หากว่ากันตามเหตุผล เวรรกรรมระหว่างพ่อแม่กับลูกไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่มีทางตัดกันได้ขาด

เพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดยังคงอยู่ เธอเดาว่าเป็นเพราะตระกูลอิ๋งให้อิ๋งเย่ว์เซวียนแทนที่ตำแหน่งของเธอในตระกูลอิ๋งอย่างสิ้นเชิง ถึงได้เป็นแบบนี้

ในที่สุดตระกูลอิ๋งก็ทำเรื่องที่สมใจเธอ

เธอไม่มีทางทำลาย

“เวรกรรมเหรอ” ซิวอวี่ค่อนข้างงง “มันคืออะไร”

“สิ่งงมงายน่ะ” อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น สีหน้าเหม่อลอย “เลิกเรียนแล้ว ฉันจะไปรับเสี่ยวหลานกลับบ้าน”

“รอเดี๋ยวๆ” ซิวอวี่เริ่มเก็บกระเป๋า “ฉันจะไปรับน้องชายด้วย”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาขณะเดิน เปิดแอปฯ แล้วแชร์เวยปั๋วโพสต์ที่สองของอิ๋งเย่ว์เซวียน

แอทเกษียณแล้วอย่ากวน : [ขอบคุณจากใจ]

พอเธอแชร์ออกไปชาวเน็ตก็งงมาก

แต่พวกเขาไม่ได้คิดไปในเชิงลึก แค่คิดว่าสองสาวที่ต่างตกเป็นเหยื่อของอิ๋งลู่เวยปลอบใจกันเอง

มุงดูเสร็จก็แยกย้าย

สองวันต่อมา

ผู้เฒ่าจงโทรหาอิ๋งจื่อจินตอนเที่ยง

ถามเรื่องสุขภาพของเธอก่อน จากนั้นถึงพูดเรื่องหนึ่ง

“จื่อจิน แม่ของหลาน…” ผู้เฒ่าจงเปลี่ยนวิธีการพูด น้ำเสียงเย็นชาลงมาก “ทางตระกูลอิ๋งอยากเจอหลาน หลานจะไปเจอหรือไม่”

เขาผิดหวังตระกูลอิ๋งอย่างสิ้นเชิงแล้ว

แน่นอนว่าเขาเองก็เห็นอิ๋งเย่ว์เซวียนมาจนโต คงใจดำทำเลือดเย็นใส่มากเกินไปไม่ได้ ทำได้เพียงเลี่ยง

“พวกเขาอยากเจอหนูเหรอคะ” อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ค่ะ เจอได้”

“วันนี้หลังเลิกเรียน” ผู้เฒ่าจงขมวดคิ้ว “ตาว่าหลานอย่าไปเจอดีกว่า ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรอีก”

ขนาดลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองยังไม่ยอมรับ เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรพูดอะไร

“วางใจได้ค่ะคุณตา” อิ๋งจื่อจินหาว “ถ้าพวกเขาทำหนูโมโห หนูจะอัดให้น่วมเลยค่ะ”

ผู้เฒ่าจง “…”

เขาลืมไปเสียสนิทว่าทักษะป้องกันตัวของหลานสาวยอดเยี่ยมขนาดไหน

ขนาดบอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่ก็ยังล้มได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอิ๋งเจิ้นถิงกับจงมั่นหวา

ไม่ถูกสิ ทำไมอยู่ๆ เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาล่ะ

“งั้นก็ได้” ผู้เฒ่าจงยังคงไม่วางใจ “ตาไปกับหลานด้วยดีกว่า มีตาอยู่ด้วยพวกเขาจะได้เกรงใจบ้าง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” อิ๋งจื่อจินปฏิเสธ “เกิดคุณตาโมโหจนไม่สบายมันจะไม่คุ้มกัน”

เพื่อป้องกันไม่ผู้เฒ่าจงแอบตามไปเอง เธอจงใจส่งวีแชทไปบอกให้ฟู่อวิ๋นเซินเรียกผู้เฒ่าฟู่ไปบ้านตระกูลจงแล้วชวนเดินหมาก

หลังเลิกเรียนอิ๋งจื่อจินก็ไปยังที่นัดหมายด้วยตัวเอง

อิ๋งเจิ้นถิงกับจงมั่นหวารออยู่ก่อนแล้ว

พอเห็นเด็กสาวมาจงมั่นหวาก็ดีใจนิดหน่อย อยากทำตัวใกล้ชิด แต่ถูกอิ๋งเจิ้นถิงเหลือบมองจึงชักมือกลับ

อิ๋งจื่อจินนั่งฝั่งตรงข้ามทั้งสองคน ไม่ได้วางมาดอะไร เธอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มีธุระเหรอคะ”

อิ๋งเจิ้นถิงขมวดคิ้ว ไม่พอใจทันที

ลูกสาวแท้ๆ กลับมาอยู่บ้านนานขนาดนี้แต่กลับไม่เคยเรียกพ่อสักคำ

“ที่ต้องการเจอเธอก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก” อิ๋งเจิ้นถิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ ก็แค่อยากบอกเธอว่า คนที่ถูกอาเล็กขโมยไปทิ้งคือพี่สาวของเธอ ทางที่ดีเธออย่าไปพูดเหลวไหลในเน็ต”

อิ๋งจื่อจินไม่ได้ยินคำพูดนี้ เธอได้ยินเสียงหนึ่งที่ชัดเจน

“ฉับ”

มีบางอย่างขาดลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว

หายไปหมดจด ไม่เหลือแม้แต่น้อย

แววตาของอิ๋งจื่อจินเหม่อลอย ร่างกายอ่อนยวบพิงเก้าอี้

เธอค่อยๆ เงยหน้า ดวงตาหงส์คู่งามถึงขนาดที่มีรอยยิ้มจางๆ

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ค่อยยิ้ม รอยยิ้มนี้สวยงามจนน่าตกใจ

มีมนต์สะกดในชั่วพริบตา ทำให้ทุกอย่างรอบตัวขาดสีสัน

แต่วินาทีถัดมารอยยิ้มของเด็กสาวก็หายไป แม้แต่เค้าโครงใบหน้าก็ยังเย็นชา

หัวใจของจงมั่นหวาหดเกร็ง ราวกับถูกมือขนาดใหญ่ขยำ หายใจไม่ทั่วท้อง

คล้ายกับมีบางอย่างเคลื่อนห่างเธอออกไป ครั้งนี้จับไว้ไม่อยู่แล้ว

จงมั่นหวาเริ่มลน หันไปมองอิ๋งเจิ้นถิงทันที อยากหยุดเขา

แต่อิ๋งเจิ้นถิงได้ทำบางอย่าง เขาหยิบเช็คออกมาหนึ่งใบแล้วยื่นไปตรงหน้าเด็กสาว “นี่คือเงินห้าล้าน”

“ฉลาดหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันกับแม่เธอจะส่งเธอกลับไป”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน