คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 333 เจียงมั่วหย่วนจบเห่ พิสูจน์สายเลือด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 333 เจียงมั่วหย่วนจบเห่ พิสูจน์สายเลือด

เจ้าของเวยปั๋วโพสต์นี้เป็นแอคเคาท์ทางการแอคเคาท์ใหญ่ ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของสตรี พิทักษ์สิทธิ์สตรีมาตลอด

โดยเฉพาะช่วงนี้เกิดเรื่องที่ผู้หญิงถูกทำร้ายบ่อยครั้ง แอคเคาท์ทางการก็เลยให้ความสำคัญต่อการพิทักษ์สิทธิ์ของสตรีมากขึ้น

พอเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าเจียงมั่วหย่วนงานเข้าครั้งใหญ่ ถูกทางการจับตามองแล้ว

ข่าวฉาวกับซูหร่วนแพร่ออกไป ขอเพียงแต่ตระกูลเจียงอ้างว่าเจียงมั่วหย่วนหมั้นหมายกับซูหร่วนไว้ ก็จะสามารถกู้หน้ากลับมาได้

ถึงแม้ชื่อเสียงของเจียงมั่วหย่วนจะเสียหายเพราะเรื่องนี้ แต่ไม่มีทางเกิดเรื่องใหญ่ เขายังคงเป็นซีอีโอของเจียงซื่อกรุ๊ปต่อไปได้

แต่ถ้าทางการโพสต์แบบนี้ก็เท่ากับแขวนเจียงมั่วหย่วนประจานแล้ว เละคาที่

ต่อให้ตระกูลเจียงจะมีอำนาจมากขนาดไหนก็ไม่มีทางงัดข้อกับทางการที่บังคับใช้กฎหมายได้

เยี่ยซู่เหออ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงคำว่าหน้ามืดตาลาย

[ก่อนหน้านี้ไม่นานมีเฝิงฮว่า ตอนนี้มีเจียงมั่วหย่วนอีกคนเหรอ ขอแนะนำให้ไปสืบพวกตระกูลเศรษฐีพวกนี้หน่อยนะ วันๆ ทำแต่เรื่องโสมม น่าขยะแขยง]

[ดูอย่างตระกูลเนี่ยกับตระกูลมู่บ้างสิ ทำไมไม่เห็นมีเรื่องอะไรเลย สรุปนะ คนบางคนทั้งชีวิตก็ประสบความสำเร็จได้แค่นั้นแหละ ตระกูลเจียงไม่มีทางได้กลายเป็นตระกูลเศรษฐีชั้นแนวหน้า สันดานไม่ดี พวกขยะ]

[ตราบใดที่เจียงซื่อกรุ๊ปยังไม่เปลี่ยนซีอีโอ ฉันก็จะเลิกซื้อสินค้าของเจียงซื่อกรุ๊ปไปเรื่อยๆ คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่มีอำนาจอะไร แต่ต่อกรได้ ลองดูแล้วกันว่าเจียงซื่อกรุ๊ปจะทนได้นานแค่ไหน(อีโมชันยิ้ม)]

มือของเยี่ยซู่เหอสั่นแรงยิ่งกว่าเดิม

ถึงแม้ตระกูลเจียงจะมีบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ธุรกิจหลักที่ทำเงินก็ยังคงเป็นการขายสินค้าหลากชนิด

เจียงซื่อกรุ๊ปไม่มีแบรนด์หรูในสังกัด มีแต่ของใช้สำหรับคนทั่วไป

ถ้าถูกคนส่วนใหญ่พากันแบน วันสองวันยังไม่เป็นไร แต่ในระยะยาวจะต้องเสียหายมหาศาลแน่นอน

แต่คอมเมนต์พวกนี้ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุด ประเด็นสำคัญคืออีกรูปหนึ่ง

ในรูปนั้นมีการจำแนกสมุนไพรที่อยู่ในถุงหอม รวมถึงสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด

แต่มีสมุนไพรหลายตัวที่ชาวเน็ตไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ด้วยเหตุนี้ไม่นานก็มีเภสัชกรสมุนไพรจีนที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือออกมาแชร์โพสต์นี้

[พวกเรายังจินตนาการไม่ถึงเลยว่าบนโลกนี้ยังมีสมุนไพรแบบนี้อยู่อีก แต่หลังจากที่ศูนย์ตรวจทำการวินิจฉัยแล้วก็ยืนยันได้ว่าสมุนไพรเหล่านี้เมื่อปะปนอยู่ด้วยกันจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทางศูนย์ตรวจได้เก็บถุงหอมนี้ไปแล้ว กำลังสืบว่าหลุดมาจากที่ไหนกันแน่ ถ้ามีปริมาณมากกว่านี้อีกนิด ไม่กล้านึกถึงผลที่จะตามมาเลยจริงๆ]

ผลที่ว่าคืออะไร ชาวเน็ตพอจะคาดเดากันได้

คราวนี้ยิ่งทำให้ผู้คนโมโหกันหนักกว่าเดิม

เยี่ยซู่เหอกำโทรศัพท์แน่น สีหน้าซีดแล้วซีดอีก

อันที่จริงเธอไม่ได้พูดความจริงกับเจียงมั่วหย่วน

เธอทำถุงหอมใบนี้ขึ้นมาเอง สมุนไพรก็ใช้ของที่เหลืออยู่ ประสิทธิภาพลดลงไปมาก

แต่ถ้าไม่เคยคลุกคลีกับแพทย์แผนโบราณก็ไม่มีทางรู้ชื่อสมุนไพรพวกนี้

แพทย์แผนโบราณเป็นระบบเอกเทศ ไม่มีทางเปิดเผยข้อมูลสู่ภายนอก

แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน

“คุณนายผู้เฒ่า เห็นหรือยังครับ” ผู้ถือหุ้นอาวุโสยืนขึ้น มองด้วยสายตาเย็นชา

“คุณเป็นคนอย่างไร ลูกที่คุณเลี้ยงมาก็เป็นคนแบบนั้น”

เขาโยนเอกสารในมือลงอย่างแรง

“ใช้ยากับเด็กสาวมอปลายงั้นเหรอ พวกคุณยังจะมีหน้าทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้!”

ผู้เฒ่าเจียงเป็นคนตรงไปตรงมา หลักแหลมเฉียบขาด

แต่พอแก่ก็เริ่มเลอะเลือน แต่งเยี่ยซู่เหอเข้าบ้าน

“รปภ. ไล่ออกไป!” ผู้ถือหุ้นอาวุโสกดกริ่งอีกครั้ง

“ในเมื่อเขาไม่ยอมเอาตราประทับออกมา งั้นก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว เข้าไปเอาที่ห้องทำงานซีอีโอ”

พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินขึ้นหน้า ควบคุมตัวเจียงมั่วหย่วนกับเยี่ยซู่เหอไว้

ถึงแม้เจียงมั่วหย่วนจะเป็นชายหนุ่มที่สุขภาพแข็งแรง แต่สองหมัดก็ยังสู้สี่มือไม่ได้

ครั้นแล้วพนักงานทั้งหมดของเจียงซื่อกรุ๊ปก็ได้เห็นเจียงมั่วหย่วนกับเยี่ยซู่เหอถูกไล่ออกจากตึกบริษัท

“มั่วหย่วน” เยี่ยซู่เหอริมฝีปากสั่น ฟันสั่น

“ถุงหอมที่แม่ให้ทำไมถึงไปอยู่ในมือคนอื่น”

ใครบ้างจะสนใจถุงหอมเล็กๆ ใบเดียว

แถมยังตั้งใจเอาไปตรวจสอบว่าในนั้นมีสมุนไพรอะไรบ้าง

“ผม…” สีหน้าของเจียงมั่วหย่วนเหม่อลอย พยายามนึก แต่กลับรู้สึกปวดหัวมาก

“ผมลืมไปแล้วครับแม่”

เขาจำได้แค่ว่าตัวเองสลบอยู่ในซอย พอได้สติอีกครั้งก็อยู่บนเตียง ประสาทสัมผัสของเขาปกติดี แต่ยังคงมึนศีรษะ

กว่าเขาจะมีสติอย่างสิ้นเชิงก็คือเช้าวันนี้

มีผู้หญิงหลายคนวางแผนจับเขา แต่ก็ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ

“เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็หมดหนทางแล้ว” อยู่ๆ เยี่ยซู่เหอก็ใจเย็นลง “รอดูไปเถอะ พวกเขาไล่ลูกออก เดี๋ยวก็ต้องมาขอให้กลับไป”

เจียงฮว่าผิงงั้นเหรอ

ถ้าเจียงฮว่าผิงมาเป็นซีอีโอของเจียงซื่อกรุ๊ป แบบนั้นมีแต่จะทำให้ตระกูลเจียงล่มจม

เจียงมั่วหย่วนขมวดคิ้ว “คุณแม่?”

เขาพบว่านับวันจะยิ่งไม่เข้าใจเยี่ยซู่เหอ

“กลับบ้านก่อน” เยี่ยซู่เหอเรียกคนขับรถมา “ไป”

ช่วงสายวันต่อมา เจียงฮว่าผิงก็ออกจากตี้ตูมายังฮู่เฉิง

แต่เธอไม่ได้มาเพราะเจียงซื่อกรุ๊ป แต่เป็นเพราะเธอได้ทราบว่าอิ๋งจื่อจินเกือบตกเป็นเหยื่อ

เจียงฮว่าผิงกับเจียงมั่วหย่วนเป็นพี่น้องกัน แต่คนละแม่ เคยเจอหน้ากันน้อยมาก ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า

เธอโทรชวนอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินมากินข้าว เธอเข้าครัวด้วยตัวเอง

เที่ยงวันนี้เจียงหรานกลับคอนโดพอดี พอเปิดประตูก็เจอหน้าผีอีกครั้ง

“แม่?” เจียงหรานตกใจวิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง เอามือทาบอก

“ต่อไปแม่เลิกมาร์คหน้าเดินไปเดินมาได้ไหม”

“ไม่ได้” เจียงฮว่าผิงเหลือบมองลูกชาย

“ขนาดพ่อแกยังไม่กล้าพูดกับแม่แบบนี้ แกคิดจะมาสั่งสอนแม่เหรอ”

เจียงหราน “…”

ที่แม่ของเขานิสัยแบบนี้เพราะพ่อตามใจจนเคยตัว

“อ้อจริงสิ” ดูเหมือนเจียงฮว่าผิงจะนึกอะไรขึ้นได้

“พ่อแกถามว่าช่วงนี้ละเลยการฝึกกับบทเรียนหรือเปล่า แกโทรกลับหาพ่อหน่อย”

ขณะพูดก็ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้

โทรศัพท์มือถือของเจียงหรานไม่มีทางติดต่อพ่อของตัวเองได้

วงการจอมยุทธ์คล้ายมหาวิทยาลัยนอร์ตันมาก สามารถปิดกั้นสัญญาณจากโลกภายนอกได้

เขากดโทรออก ทางนั้นรับทันที

เสียงอ่อนโยนของผู้ชาย “เสี่ยวฮว่า?”

เจียงหรานตัวสั่น บากหน้าตอบไป

“ผมเองครับพ่อ พ่อถามใช่ไหมว่าช่วงนี้ผมละเลยการฝึกกับบทเรียนหรือเปล่า ผมไม่ได้ละเลยทั้งสองอย่าง ช่วงนี้ผมยัง…”

ยังไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายก็ตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย

เจียงหราน “…”

เขาอาจเป็นแค่สิ่งไม่คาดคิดในชีวิตของพ่อแม่จริงๆ

เสียงกริ่งประตูดังขึ้นในเวลานี้

เจียงฮว่าผิงเตะเจียงหรานหนึ่งที

“ไปเปิดประตู”

เจียงหรานเดินไปอย่างไม่สบอารมณ์ พอเปิดประตูเสร็จก็ยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ “พ่ออิ๋งมาเหรอ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปข้างใน “คุณน้า”

“มาได้เวลาพอดี” เจียงฮว่าผิงดึงแผ่นมาร์คหน้าออก

“น้าเพิ่งทำกับข้าวเสร็จพอดี ไปยกกับข้าวมาสิ”

ประโยคหลังบอกเจียงหราน

เจียงหรานเดินไปในครัวด้วยความหงุดหงิด

“พี่…” ฟู่อวิ๋นเซินชะงัก ลังเลเรื่องคำเรียก

“เอาเถอะ เรียกคุณป้าแล้วกัน” เจียงฮว่าผิงยิ้ม

“ถ้านายเรียกฉันว่าพี่ หลิวอิ๋งได้เอาฉันตายพอดี”

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน

“ไม่หรอกครับ ไม่แน่แม่อาจอยากให้ผมเรียกว่าพี่สาวก็ได้”

เจียงฮว่าผิงกับฟู่หลิวอิ๋งเป็นเพื่อนสนิทกัน นิสัยก็คล้ายกัน

“โชคดีที่ไม่เป็นไร” เจียงฮว่าผิงลูบใบหน้าของอิ๋งจื่อจิน

“ไม่เจอกันไม่กี่วัน เสี่ยวจื่อจินสวยขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองฟู่อวิ๋นเซิน

“นั่นสิครับ” เขาเอามือวางบนศีรษะเธออย่างเป็นธรรมชาติ ยิ้มมุมปาก “บำรุงมานาน”

ทั้งสามคนนั่งลงที่โต๊ะ

“แม่” เจียงหรานชะโงกหน้าออกมาจากห้องครัว

“แม่หุงข้าวน้อยไป ผมตักได้แค่สามชาม”

“ไม่ได้หุงน้อยไปหรอก” เจียงฮว่าผิงตอบโดยไม่เงยหน้า

“แม่ไม่คิดว่าแกจะกลับมา สามชามไม่ได้มีส่วนของแก”

เจียงหรานช็อค

เขาก้มหน้า หางกระดิกไม่ขึ้นแล้ว

“ฉันไม่กินข้าวสวย” เป็นครั้งแรกที่อิ๋งจื่อจินรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร “นายกินเถอะ”

เจียงหรานซาบซึ้งใจ

นี่แหละพ่อของเขา

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น แบ่งข้าวของตัวเองให้อิ๋งจื่อจินครึ่งหนึ่ง

“กำลังโต ไม่กินอาหารหลักไม่ได้”

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ปฏิเสธ จากนั้นก็คีบปีกไก่ย่างให้เขา “แลกกัน”

ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง ยิ้มเล็กน้อย

เขากลับไม่ต้องการการแลกเปลี่ยนอะไรแบบนี้

เจียงหรานก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาต่างหากที่กำลังโตของแท้

“ป้าเจียง” ฟู่อวิ๋นเซินไม่ได้ลงมือกิน เขานั่งพิงเก้าอี้

“เคยคิดไหม มีความเป็นไปได้ว่าเจียงมั่วหย่วนจะไม่ใช่ลูกชายของผู้เฒ่าเจียง”

คำพูดนี้ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงในทันที

เจียงหรานลืมพุ้ยข้าวเสียสนิท เขาอึ้ง

“งั้นเหรอ” เจียงฮว่าผิงเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พึมพำ

“แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

ในตระกูลเศรษฐีมีผู้ชายมากมายที่เลี้ยงชู้รักเอาไว้

ผู้เฒ่าเจียงก็เหมือนกัน เธอรู้สึกผิดหวังมาก แต่อย่างไรเสียนั่นก็พ่อ

จนกระทั่งคุณนายผู้เฒ่าเจียงป่วยตาย เธอก็ไม่ได้กลับบ้านตระกูลเจียงอีกเลย

พ่อลูกตัดขาดกัน

เจียงฮว่าผิงอยู่โลกจอมยุทธ์ ตระกูลเจียงอยู่โลกปุถุชน ทั้งสองโลกนี้ไม่ข้องเกี่ยวกันและกัน

เจียงซื่อกรุ๊ปไม่ล้มลง เจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เจียงฮว่าผิงก็วางใจ

ไม่ว่าอย่างไรนั่นก็เป็นกิจการที่บรรพบุรุษตระกูลเจียงก่อตั้งมา

แต่ถ้าเจียงมั่วหย่วนไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของผู้เฒ่าเจียงล่ะ

นั่นไม่เท่ากับว่ายกเจียงซื่อกรุ๊ปให้คนนอกเลยเหรอ

เจียงฮว่าผิงนึกถึงท่าทีที่ผู้เฒ่าเจียงมีต่อเจียงมั่วหย่วน ไม่ใกล้ชิดแต่ก็ไม่ได้ห่างเหิน

ตอนแรกสุดเธอคิดว่าเป็นเพราะเจียงมั่วหย่วนเป็นลูกที่เกิดจากเยี่ยซู่เหอ

ฟู่อวิ๋นเซินพูด “ผมคิดว่าควรพิสูจน์สายเลือด”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน