คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 668 อิ๋งจื่อจิน ‘จะไปฆ่าเซี่ยเนี่ยน!’

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 668 อิ๋งจื่อจิน ‘จะไปฆ่าเซี่ยเนี่ยน!’

“เซี่ยเนี่ยน!” ผู้นำตระกูลหลิงแยกเขี้ยวยิงฟัน “อยากตายเหรอ!”

ความโกรธที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ลงมือกับเซี่ยเนี่ยน

เซี่ยเนี่ยนตกใจ ตื่นตระหนกไปชั่วขณะ

ต่อมาเธอก็ใจเย็นลง เหลือบมองพวกคนคุ้มกัน

พวกคนคุ้มกันจับดาบในมือแน่น กัดฟันกรอด

วันนี้พวกเขาตามเซี่ยเนี่ยนออกมาทำภารกิจ รู้อยู่แล้วว่ามีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่รอดกลับไป

ตระกูลเซี่ยมองคนคุ้มกันเป็นทาส

พวกเขาจำต้องยอมฟังคำสั่งของเซี่ยเนี่ยนเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว

พวกคนคุ้มกันมองหน้ากัน ทั้งหมดวิ่งเข้าไปล้อม

วรยุทธ์ของผู้นำตระกูลหลิงสูงกว่าพวกเขามาก พวกเขาเอาตัวเข้าแลกเพื่อประวิงเวลาให้เซี่ยเนี่ยนหนีไป

เจียงหรานได้แต่มองเซี่ยเนี่ยนเหาะหนีไป เขาตะโกนด้วยความโกรธ “เซี่ยเนี่ยน!”

เสียงหัวเราะสะใจของเซี่ยเนี่ยนลอยมาจากไกลๆ

“มาสิ ฉันจะรอแกมาฆ่าฉันที่บ้านตระกูลเซี่ย ขอแค่แกกล้า ขอแค่แกกล้าเอาเจ็ดร้อยสามสิบสี่ชีวิตของตระกูลหลิงมาเดิมพัน!”

คำพูดนี้ทำให้ฝีเท้าของผู้นำตระกูลหลิงหยุดชะงัก

เจียงหรานก็ตกใจ

ในโลกจอมยุทธ์มีคนเอาชนะเซี่ยฮ่วนหรานได้ด้วยเหรอ

“กลับไปก่อน” ผู้นำตระกูลหลิงสะบัดแขนเสื้ออุ้มหลิงเหมียนซีขึ้นมา เงียบอยู่สักพักแล้วพูดขึ้น “เรื่องด่วนตอนนี้คือช่วยเสี่ยวเหมียนก่อน ถ้าไม่ไหว ครอบครัวเราก็ย้ายออกจากโลกจอมยุทธ์เถอะ”

เจียงหรานเม้มริมฝีปาก กำหมัดแน่น

เขาคุ้มกันอยู่ข้างกายหลิงเหมียนซีด้วยความระมัดระวัง เหลือบไปมองแล้วก็อึ้ง

ในมือของหลิงเหมียนซีที่หมดสติไม่รู้สึกตัวมีของอย่างหนึ่งที่ถูกกำไว้แน่น

โทรศัพท์มือถือของเธอ

หน้าจอแตกร้าวเลอะคราบเลือด พอมองเห็นว่าเป็นหน้าวีแชท

บ้านตระกูลหลิง

แม่หลิงกำลังคุยเล่นกับหลิงฉงโหลวและเจียงฮว่าผิง ทั้งสามคนมีใบหน้ายิ้มแย้ม

จนกระทั่งผู้นำตระกูลหลิงอุ้มหลิงเหมียนซีกลับเข้ามาด้วยความรีบร้อน “รีบไปเชิญคุณชายฝูเฉินมาเร็ว”

เขาผนึกลมปราณของหลิงเหมียนซีไว้แล้ว แต่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด

ถ้าไม่รักษาให้ทันเวลา เกรงว่าอาจไม่รอด

แม่หลิงพอเห็นก็เป็นลมไปทันที

เจียงฮว่าผิงประคองไว้ได้ทัน เธอใจหายวาบ

หลิงเหมียนซีอาการสาหัสมาก

ใบหน้าซีดเซียว เหมือนตุ๊กตาผ้าที่ขาดเป็นชิ้นๆ

หลิงฉงโหลวหน้าเครียด “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“พ่อ ผม…” เจียงหรานพูดเสียงเบา “ผมถูกเซี่ยเนี่ยนทำร้าย”

หลิงฉงโหลวขมวดคิ้ว “เซี่ยเนี่ยนเหรอ”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย” เจียงฮว่าผิงส่ายหน้า “ช่วยเสี่ยวเหมียนก่อน”

คนรับใช้ในบ้านตระกูลหลิงต่างร้อนรน พ่อบ้านไปเชิญฝูเฉินทันที

ฝูเฉินประจำอยู่ที่บ้านตระกูลหลิงตลอด ช่วงไม่กี่เดือนมานี้ฝีมือการรักษากับวรยุทธ์ของเขาก้าวหน้าขึ้นมาก

แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนอาการสาหัสขนาดนี้

ฝูเฉินห้ามเลือดให้หลิงเหมียนซีก่อน จากนั้นก็พันศีรษะให้ เงียบไปชั่วครู่ “ขอโทษด้วยครับ ฝีมือผมไม่ถึง ในร่างกายของเธอมีกำลังภายในที่รุนแรงมาก วรยุทธ์ของผมต่ำ เค้นออกมาไม่ได้”

หลิงฉงโหลวพูดขึ้นทันที “ขอลองดูหน่อย”

“ลุงหลิง ไม่ได้นะครับ” ฝูเฉินส่ายหน้า “ต้องเป็นแพทย์แผนโบราณทำครับ กำลังภายในของจอมยุทธ์รุนแรงเกินไป จะทำให้ชีพจรของเธอเสียหายได้”

เจียงหรานหันมา “ผมจะไปหาผู้นำตระกูลฝู”

“ไปไม่ได้” ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลหลิงพูดเสียงขรึม “เมื่อกี้ฉันไปตรงทางเชื่อมระหว่างโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์มาแล้ว มีผู้นำตระกูลเซี่ยสองคนเฝ้าอยู่ตรงนั้น วรยุทธ์สามร้อยปีทั้งคู่ ผ่านไปไม่ได้หรอก”

เห็นได้ชัดว่าตระกูลเซี่ยวางแผนมานานแล้ว รอแค่วันนี้

ฝูเฉินร้อนใจ “แล้วคุณอิ๋งล่ะครับ”

“พ่ออิ๋ง เธอ เธอยังอยู่ข้างนอก” เจียงหรานเม้มริมฝีปากแน่น “เธอไปเขตสงครามแล้ว ต่อให้รีบมาก็ใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมง ยังจะทันเหรอ”

“…”

ทุกคนต่างเงียบกันหมด

ผู้นำตระกูลหลิงแทบยืนไม่อยู่ หน้าถอดสี

หรือจะต้องทนดูเสี่ยวเหมียน…

ประตูถูกเปิดออกในเวลานี้ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

น้ำเสียงเย็นชา แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ทำให้รู้สึกวางใจ

“ฝูเฉินอยู่ก่อน คนอื่นออกไปให้หมด”

เจียงหรานหันขวับ พูดด้วยความดีใจ “พ่ออิ๋ง!”

“คุณอิ๋ง!”

“จื่อจิน!”

อิ๋งจื่อจินเช็ดเหงื่อบนศีรษะ หายใจก่อนแล้วพูดขึ้น “เร็วเข้า ห้ามเสียเวลาแล้ว”

ผู้นำตระกูลหลิงตั้งสติได้ตัวเร็วสุด ใช้กำลังภายในพาทุกคนออกไปทันทีแล้วปิดประตู

อิ๋งจื่อจินนั่งลงข้างเตียงหลิงเหมียนซี

เธอมองหลิงเหมียนซีที่แม้แต่ริมฝีปากก็ไร้สีเลือด มือสั่น

วันนี้เช้าลางสังหรณ์ของเธอหนักหน่วงมาก มองเห็นภาพเหตุการณ์ใหม่

เป็นฉากในป่า จุดที่หลิงเหมียนซีเกิดเรื่องอยู่ในโลกจอมยุทธ์

เธอจึงไม่ได้ไปที่เขตสงคราม ระหว่างทางเปลี่ยนไปนั่งเครื่องบินอีกลำแล้วกลับประเทศจีน

แต่รีบเร่งอย่างไรก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว

อิ๋งจื่อจินผ่อนลมหายใจ สวมถุงมือแพทย์ ข่มความอาฆาตแค้นที่ไม่มีมานานแล้ว “กรรไกร”

ฝูเฉินยื่นกรรไกรให้ทันที

ภายในห้องที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงสั่งอย่างใจเย็นของอิ๋งจื่อจิน

“เข็มทอง”

“แหนบ”

“เข็มเงินเจ็ดนิ้ว”

ฝูเฉินยื่นให้ทีละอย่าง บนหน้าผากก็มีเหงื่อผุดเช่นกัน

เซี่ยเนี่ยนลงมือโหดเหี้ยมมาก

เธอทิ้งกำลังภายในของตัวเองไว้ในร่างกายของหลิงเหมียนซี กำลังภายในนี้ค่อยๆ ทำลายอวัยวะภายในของหลิงเหมียนซีตลอดเวลา

เห็นได้ชัดว่าอยากให้หลิงเหมียนซีนอนเป็นผัก

ฝูเฉินโล่งอก

โชคดีที่ปรมาจารย์ของเขาอยู่ ช่วยได้ทุกคนบนโลกนี้

พวกหลิงฉงโหลวรออยู่ด้านนอกตลอด ไม่กล้าแม้แต่จะนั่ง

ทุกวินาทีผ่านไปด้วยความทรมาน

สามชั่วโมงต่อมาประตูที่ปิดสนิทในที่สุดก็เปิดออก

อิ๋งจื่อจินเดินออกมา

แม่หลิงที่เพิ่งฟื้นได้ไม่นานรีบเข้าไปหา จับมือเธอไว้ พูดด้วยเสียงสะอื้น “คะ คุณอิ๋ง บอกมาได้เลย ป้ายังพอรับได้”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ หลีกทางให้ “คุณป้า เข้ามาได้ค่ะ”

แม่หลิงอึ้ง เดินเข้าไปอย่างทุลักทุเล

อิ๋งจื่อจินพูดแบบนี้ได้ก็แสดงว่าหลิงเหมียนซีปลอดภัยแล้ว

“พ่ออิ๋ง ด่าฉันเลย ซ้อมฉันก็ได้” เจียงหรานดวงตาแดงก่ำ ทรุดลงคุกเข่า พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ต้องโทษฉัน พี่ปกป้องฉันถึงได้…”

ถ้าไม่มีเขา ต่อให้หลิงเหมียนซีสู้เซี่ยเนี่ยนไม่ได้ แต่ก็หนีไปโดยไม่ได้รับบาดเจ็บได้สบาย

“เมื่อไรกันที่เหยื่อก็มีความผิดไปด้วย” อิ๋งจื่อจินสายตาเย็นชา “นายกำลังกดดันตัวเองอยู่เหรอ”

“นายเป็นแบบนี้ไม่เหมือนขาใหญ่ประจำโรงเรียนที่ฉันรู้จักเลยนะ อย่าให้ฉันต้องพูดรอบสอง ลุกขึ้น”

เจียงหรานขอบตาแดงหนักกว่าเดิม

เขาอยู่ชิงจื้อปกป้องพวกเพื่อนๆ ได้

แต่ในโลกจอมยุทธ์ เขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ไม่มีค่า

“อาหลิง น้าเจียงคะ” อิ๋งจื่อจินปิดประตู กระแอมหนึ่งที “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกทุกคนค่ะ”

หลิงฉงโหลวกับเจียงฮว่าผิงหน้าเครียดขึ้นมาทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่อิ๋งจื่อจินพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

“หนูขอให้พาทุกคนในตระกูลหลิงย้ายไปที่โลกปุถุชน” อิ๋งจื่อจินพูด “ตระกูลจี้มีบ้านหลายหลัง พอให้คนไม่กี่ร้อยอยู่ ไม่เดือดร้อนแน่นอนค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้สองสามีภรรยาก็อึ้ง

เจียงหรานก็ตกใจ “พ่ออิ๋ง?”

โลกปุถุชนไม่เหมาะให้จอมยุทธ์ฝึก

นี่เป็นสาเหตุที่หลายปีมานี้ตระกูลหลิงไม่ย้ายออกจากโลกจอมยุทธ์

ถ้าไปอยู่โลกปุถุชน ความเร็วในการฝึกก็ต้องลดลงอย่างน้อยสี่เท่า

ตระกูลหลิงมีความคิดอยากย้ายไปโลกปุถุชนมาตลอด ก็แค่ยังไม่เคยดำเนินการจริงจัง

“ไว้หนูจะอธิบายให้ฟัง” อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์

นี่เป็นเบอร์มือถือของคณะผู้อาวุโสศาลสถิตยุติธรรม

ไม่กี่วินาทีถัดมาปลายสายก็กดรับ เธอพูด “ผู้อาวุโสใหญ่ หนูเองค่ะ”

“อ้อ คุณอิ๋ง” ผู้อาวุโสใหญ่หน้าขรึม “จัดการเรื่องข้างนอกเสร็จแล้วเหรอครับ”

ตระกูลหลิงอยู่ห่างจากศาลสถิตยุติธรรมหลายร้อยลี้ ข่าวที่หลิงเหมียนซีถูกเซี่ยเนี่ยนทำร้ายอาการสาหัสยังแพร่ไปไม่ถึง

“ยังค่ะ” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย “มีธุระด่วน หนูอยากให้ผู้อาวุโสใหญ่ช่วยเตรียมการให้ทันทีค่ะ”

ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า “ว่ามาได้เลยครับ ขอแค่อยู่ในขอบเขตความสามารถของผม”

“อีกเจ็ดวันให้หลังรบกวนผู้อาวุโสใหญ่พาทุกคนในศาลสถิตยุติธรรมไปจากโลกจอมยุทธ์ ไปโลกแพทย์แผนโบราณก็ดี หรือจะไปโลกปุถุชนก็ได้ แต่ต้องปิดทางเข้าออกโลกจอมยุทธ์ทั้งหมด” อิ๋งจื่อจินพูด “จากนั้นถ้าไม่มีข่าวคราวจากหนูก็ให้พาทุกคนกลับมาที่โลกจอมยุทธ์อีกครั้งตอนปลายเดือนมิถุนายน เรื่องทุกอย่างน่าจะจัดการเสร็จหมดแล้วค่ะ”

เมื่อทางเข้าออกโลกจอมยุทธ์ถูกปิด ต่อให้เป็นเฟิงซิว หากไม่มีกุญแจก็เปิดไม่ได้

ถึงอย่างไรจอมยุทธ์ก็แค่ขุดขีดจำกัดของมนุษย์ออกมาใช้ให้สุด ไม่ใช่เซียนแบบในนิยายแฟนตาซีที่จะมีพลังวิเศษ

มนุษย์ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางทำลายแผ่นดินผืนใหญ่ได้ด้วยหมัดเดียว

คำพูดนี้ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ชะงักไปทันที

เขาสังหรณ์ใจไม่ดี ใจหายวาบ “คุณอิ๋งจะทำอะไรครับ”

การไปจากโลกจอมยุทธ์คือแผนสำรอง

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองไปยังทิศทางบ้านตระกูลเซี่ย

เธอลูบแขนเสื้อพลางพูด “จะไปฆ่าเซี่ยเนี่ยน”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท