คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 727 ตัดสินทั้งเมือง! ตรวจดีเอ็นเอ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 727 ตัดสินทั้งเมือง! ตรวจดีเอ็นเอ

เท้าของจูซาชะงัก

ลางสังหรณ์ไม่ดีได้ปกคลุมจิตใจเธอเป็นครั้งที่สาม

จูซาค่อยๆ หันไป แน่ใจแล้วว่าภายในคุกอิเล็กทรอนิกส์ยังคงมีแต่ความเงียบ

เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณว่าไงนะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน และก็ไม่ฟังฉันเกลี้ยกล่อม อีกเดี๋ยวฉันจะให้อาอวิ๋นมาคุยกับคุณ”

ขณะพูดก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้อีก ทันใดนั้นเธอก็ร้องอ๊า “ฉันลืมไป ปกติเวลานี้อาอวิ๋นอยู่กับเซ่าอิ่ง คงไม่มีเวลามาดูคุณหรอก”

ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ ยืดตัวขึ้น ไม่พูดอะไร

วินาทีถัดมากำแพงด้านหลังเขาก็เกิดประกายวาบ กลายเป็นหน้าจอขนาดมหึมา

หน้าจอขนาดใหญ่นี้เป็นแบบสองทิศทาง

จูซาเห็นกลุ่มคนแน่นขนัดยืนอยู่บนบันได ต่างกำลังมองเธอด้วยสีหน้าตกใจ

บ้างก็รู้สึกเหลือเชื่อ บ้างก็รังเกียจ

ตรงนั้นเป็นหน้าศาลตัดสิน

มีคนรุมล้อมอยู่อย่างน้อยห้าหมื่นคน

เดิมทีห้าหมื่นคนนี้ยินดีมาที่ศาลตัดสินเองเพื่อขอให้ผู้พิพากษาลงโทษฟู่อวิ๋นเซินขั้นสูงสุด ยังไงก็ต้องขับไล่เขาออกจากเมืองแห่งโลก

แต่ตอนที่พวกเขารออยู่หน้าศาลตัดสินก็มีหน้าจอสามมิติที่ลอยคว้างกลางอากาศลงมาจากบนปราการ

จากนั้นการไลฟ์สดแฉตัวเองก็เริ่มขึ้นต่อหน้าคนจำนวนห้าหมื่นคน

พวกเขาได้ยินได้เห็นคำพูดและการกระทำทุกอย่างของจูซาก่อนหน้านี้

คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ก็ไม่สู้ความจริงที่ได้เห็นกับตา

เป็นครั้งแรกที่จูซาเก็บอาการทางสีหน้าไม่อยู่ ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

“ศาลตัดสินมีการติดตั้งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร!”

เธอทำงานร่วมกับผู้พิพากษามาหลายปี และก็ติดต่อกันมาตลอด

หลายคนที่เป็นภัยคุกคามต่อเธอล้วนถูกเธอส่งเข้าศาลตัดสินอย่างง่ายดาย

เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าศาลตัดสินเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นในคุกให้สาธารณชนรับรู้ด้วย

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!

หน้าจอดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่บทสรุปก็เป็นที่แน่นอนแล้ว

ปกปิดและหลอกใช้ผู้คน ทั้งยังเป็นอดีตผู้บัญชาการหน่วยอัศวิน นี่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้

ยิ่งยืนสูงก็จะยิ่งล้มลงอย่างน่าเวทนา

และยังเป็นครั้งแรกที่จูซารู้สึกว่าแบบไหนที่เรียกลมเปลี่ยนทิศ

แต่เธอยังคงมีสติ เงยหน้าทันที ริมฝีปากขยับ “ไม่ ฉันไม่ควร…”

“อยากถามใช่ไหมว่า ทำไมแกถึงยอมพูดเรื่องที่เก็บซ่อนมาตั้งหลายปีได้ทั้งๆ ที่ฉันก็พูดแค่ไม่กี่ประโยค”

ฟู่อวิ๋นเซินหมุนข้อมือ เหลือบตาขึ้น

“ยังไงซะแกก็ระวังตัวมาตั้งนาน”

“คงไม่ถึงกับหายระแวงทั้งหมดเพราะฉันเข้าคุกศาลตัดสินแล้ว”

ในที่สุดจูซาก็เลิกเสแสร้ง เลิกสร้างภาพใจดีอ่อนโยน

เวลานี้ดวงตาของเธอฉายแววอาฆาตเหมือนฉางซานไม่มีผิด “ถูกต้อง”

พอใจเย็นลงหลังตกใจ จูซาก็แอบสงสัยว่าทำไมเธอถึงพูดความลับที่เก็บซ่อนมายี่สิบกว่าปีต่อหน้าฟู่อวิ๋นเซิน

แต่ก็มีเหตุผลส่วนหนึ่งที่ว่า เป็นเพราะฟู่อวิ๋นเซินเข้าคุกศาลตัดสินแล้ว เธอไม่รู้สึกว่าเขาเป็นภัยคุกคามอีก

ใช่ว่าฟู่อวิ๋นเซินจะมาเทียบอิทธิพลของเธอในเมืองแห่งโลกได้

แต่ยอมพูดความลับออกมาก่อนก็ไม่ใช่สไตล์ของเธอ

“ห้าวัน” ฟู่อวิ๋นเซินแสยะยิ้ม “ระบบประสาทส่วนกลางในสมองของแกถูกกัดกร่อนไปแล้ว”

เขาเปิดประตู เดินออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ฉันกำลังคิดอยู่ว่าเมื่อไรแกจะทนไม่ไหว นี่ก็เร็วกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้สามวัน”

วางยาใส่ในไวน์แดงของจูซาเมื่อสัปดาห์ก่อน เบื้องต้นจะทำลายระบบประสาทของเธอ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล ค่อยๆ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้

นี่เป็นแผนแรก

พฤติกรรมทุกอย่างของจูซาล้วนอยู่ในสายตาของฟู่อวิ๋นเซิน

บทสนทนาระหว่างเธอกับคุณนายผู้เฒ่าอวี้ย่อมไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเขาไปได้

ยืมอวี้เซ่าอวิ๋นยั่วโมโหคุณนายผู้เฒ่าอวี้ บีบให้จูซาร้อนใจ

นี่คือแผนที่สอง

เขายอมมาเข้าคุกของศาลตัดสิน ยอมถอยก่อนเพื่อให้แผนได้ไปต่อ

นี่คือแผนที่สาม

ข้อมูลผิดพลาดและไม่สอดคล้องกันทำให้จูซาไม่รู้จักฟู่อวิ๋นเซินกับอิ๋งจื่อจินดีพอ เชื่อมั่นในอิทธิพลของตัวเองอย่างสิ้นเชิง พิษแทรกซึมเร็วขึ้นเมื่อจูซากำลังได้ใจ

นี่คือแผนที่สี่!

รับมือกับคนฉลาด กลับกลายเป็นว่าไม่ต้องใช้แผนที่รัดกุมอะไรมากมาย

จูซาสีหน้าเปลี่ยน ต่อมาเธอก็เกิดอาการมองไม่เห็นไปหลายวินาที

เมื่อกลับมามองเห็นชัดอีกครั้ง เธอก็แสยะยิ้ม “วันนั้นสินะ…”

เซนส์ของเธอไม่ได้ผิดพลาด

เป็นเพราะในไวน์แดงแก้วนั้นมียาพิษจริงๆ!

แต่ทั้งๆ ที่ก่อนดื่มเธอได้ใช้เครื่องมือที่ล้ำสมัยที่สุดของเมืองแห่งโลกตรวจก่อนครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ

จูซาเดาออกในหนึ่งวินาที เธอแสยะยิ้มอีกครั้ง

“ฉันลืมไปว่าแกมาจากประเทศจีน…แพทย์แผนโบราณ!”

วิชาของแพทย์แผนโบราณกับแพทย์สมัยใหม่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แม้แต่สำนักผู้วิเศษก็กำลังสืบอยู่ว่าใครกันแน่ที่ริเริ่มวิชาแพทย์แผนโบราณที่วิเศษขนาดนี้

สืบไม่พบเธอก็ไม่สามารถอ้างว่าฟู่อวิ๋นเซินวางยาเธอด้วยเจตนาที่ไม่ดีจนทำให้สถานการณ์พลิกได้

จูซาไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคุกอิเล็กทรอนิกส์ห้องนี้มีแฮกเกอร์ระดับสูงจับตาดูอยู่

และแฮกเกอร์คนนี้ก็เป็นคนของฟู่อวิ๋นเซินด้วย

ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “ฉลาด”

“เก่ง เก่งมากจริงๆ” จูซายิ้ม ถอนหายใจยาว

“เก่งกว่าฟู่หลิวอิ๋งเยอะเลยนะ เด็กรุ่นหลังเก่งกว่าคนรุ่นก่อนจริงๆ”

“แพ้ให้กับแก ฉันไม่รู้สึกแย่หรอก”

ถึงแม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ในใจเธอไม่รู้สึกยอมเท่าไร

ในดวงตาอ่อนโยนคู่นั้น เวลานี้มีความเคียดแค้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

“แต่ฟู่อวิ๋นเซิน!” เสียงของจูซาสูงขึ้น

“แกคิดว่าแกชนะแล้วเหรอ อิทธิพลนั้นน่ะ แม้แต่ฉันที่อยู่ในเมืองแห่งโลกมานานก็ยังไม่พบร่องรอยเลยสักนิด แกคิดว่าตัวเองแน่นักเหรอ!”

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอถูกวางยา วันนี้ใครแพ้ใครชนะก็ยังไม่รู้

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่แกจะต้องกลุ้มใจ” ฟู่อวิ๋นเซินหันไป “เตรียมรับคำพิพากษาจากคนทั้งเมืองเถอะ”

ในเวลาเพียงสิบกว่านาทีได้สลับตัวคนที่อยู่ในห้องขังแล้ว

จูซาจับซี่กรงแน่น สายตาเคียดแค้น

“จริงสิ ฉันเป็นคนฆ่าฉางซานนะ” อยู่ๆ ฟู่อวิ๋นเซินก็หยุด ยิ้มมุมปาก “วันนั้นฉันเป็นคนรับสาย ฉันก็คือผู้บัญชาการคนที่เขาว่า”

แรงจูงใจในการฆ่าคนไม่มีมากไปกว่านี้แล้ว

จูซาเก็บอาการไม่อยู่อีกครั้ง ในที่สุดก็กรีดร้องออกมา “ฟู่อวิ๋นเซิน! ไม่กลัวฉันจะไปรายงานท่านจักรพรรดินีแล้วแกจะไม่รอดเหรอ!”

“จักรพรรดินีเหรอ ซาโรห์ วิคตอเรียน่ะเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้มเย็นชา “ดูสิเขามาช่วยแกหรือยัง”

เขาหันไป พูดอย่างสบายๆ “ฟ้องตามสบาย ไม่มีหลักฐาน ใครจะเชื่อแก”

ความทุกข์ระทมที่ฟู่หลิวอิ๋งเคยได้รับ เขาต้องการให้จูซาได้คืนกลับไปร้อยเท่าจนถึงหมื่นเท่า

เมืองแห่งโลกฮือฮาอีกครั้ง

กระแสในเว็บดับบลิวมีแต่จะรุนแรงขึ้น เป็นครั้งแรกที่อันดับคำค้นหาแทบระเบิด

[พลิกอย่างแรง นี่มันพลิกแบบสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน! จูซาต่างหากที่เป็นคนที่น่าขยะแขยงที่สุด!]

[โอ้โห นี่ถ้าเธอไม่ได้พูดออกมาเองฉันไม่กล้าเชื่อหรอก]

[น่าขยะแขยงสิ้นดี นี่คงคิดว่าคุณผู้หญิงแซ่ฟู่คนนั้นไม่อยู่แล้วไม่มีหลักฐานใช่หรือเปล่า]

แต่ไหนแต่ไรมาจูซามีภาพลักษณ์ใจดีไร้ที่ติในสายตาของชาวเมือง

เธอมักช่วยชีวิตสัตว์เล็กริมถนน ทั้งยังรู้จักปลอบใจพลเมืองชั้นสาม

ไม่มีใครคาดคิดว่าภายใต้โฉมหน้าที่งดงามบริสุทธิ์จะมีหัวใจที่สกปรกแบบนี้

ตระกูลอวี้ที่เป็นเจ้าของเรื่องยิ่งลือกันไปยกใหญ่

พ่อบ้านคุกเข่าบนพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น “ท่านหัวหน้าตระกูล ผมดูคนไม่ดี ได้โปรดลงโทษด้วยครับ!”

“ฉันกลับรู้สึกว่าไม่มีอะไรผิด” คุณนายผู้เฒ่าอวี้ดูเหตุการณ์ทั้งหมดจบ สีหน้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง “ฉันยังรู้สึกว่าถูกแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะซาเอ๋อร์แกคงแต่งงานกับฟู่หลิวอิ๋งไปแล้วรู้หรือเปล่า”

พอได้ยินแบบนี้เซ่าอวิ๋นก็เงยหน้าขึ้น “คุณแม่ชอบจูซาขนาดนั้นทำไมไม่แต่งเองเลยล่ะครับ”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้โมโห “อวี้เซ่าอวิ๋น แก…”

เธอยังไม่ทันพูดจบ

คุณชายห้ากับคุณชายสี่วิ่งลงมาจากชั้นบน ดีใจแบบที่ยากจะปิดบัง

“เร็วเข้าๆ พวกเราไปจับจองที่แถวหน้าของศาลตัดสินกัน ตัดสินทั้งเมืองเป็นครั้งแรก ห้ามพลาดเด็ดขาด”

“ตัดสินทั้งเมืองเหรอ” ในที่สุดสีหน้าของคุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็เปลี่ยนไป

“ไม่ได้! ฉันต้องไปบอกผู้พิพากษาว่าซาเอ๋อร์ไม่ผิด มีเรื่องอะไรก็มาลงที่ฉันนี่”

เธอพูดจบก็ลุกขึ้นรีบร้อนออกไป

พ่อบ้านอ้าปาก “ท่านหัวหน้าตระกูล คุณนายผู้เฒ่าเธอ…”

“ปล่อยไป” เซ่าอวิ๋นยกมือห้าม “เอาให้ขายหน้าจนหมดยิ่งดี”

พ่อบ้านตัวสั่น

“แล้วก็พ่อบ้าน ไม่ต้องอยู่ที่บ้านตระกูลอวี้แล้ว” เซ่าอวิ๋นพูด “ออกไปเถอะ”

พ่อบ้านทรุดลงกับพื้น มองอวี้เซ่าอวิ๋นเดินจากไป เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

แย่แล้ว เขาเองก็จบสิ้นแล้ว

ทางด้านศาลตัดสิน

ผู้พิพากษาก็ปวดหัวมาก

คุกอิเล็กทรอนิกส์ถูกบุกรุกเดิมทีก็เป็นความบกพร่องในหน้าที่ของศาลตัดสินอยู่แล้ว

แต่เขาไม่คาดคิดว่าจูซาจะแฉตัวเอง และเขาก็ตะลึงทุกอย่างที่เธอทำเหมือนกัน

เดิมทีใช่ว่าจะใช้อำนาจปิดเรื่องนี้ไม่ได้

แต่ปัญหาอยู่ที่ ผู้บัญชาการของหน่วยอัศวินทั้งสี่ต่างเรียกร้องให้ลงโทษอย่างหนัก

จูซาทำลายชื่อเสียงของหน่วยอัศวิน ยอมไม่ได้เด็ดขาด

“เรียนท่านผู้พิพากษา!” เจ้าหน้าที่ศาลคนหนึ่งเข้ามาจากประตูด้านข้าง

“พวกเราได้ทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอของคุณชายอวี้เซ่าอิ่งกับท่านหัวหน้าตระกูลอวี้ด้วยความระมัดระวังแล้วครับ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน