คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 736 อิ๋งจื่อจิน ถานถานของเธอ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 736 อิ๋งจื่อจิน ถานถานของเธอ

เดิมทีพอได้ผลตรวจดีเอ็นเอมาเธอต้องการโทรบอกซู่เวิ่นทันที ใครจะไปคาดคิดว่าจะถูกทำร้าย

ลูน่าก็รู้สึกโชคดี

โชคดีที่ตัวเองได้นำข่าวใหญ่ที่สุดนี้กลับมา

เกิดเสียง ‘ตูม’ ระเบิดสมองของซู่เวิ่นจนว่างเปล่า

คำพูดสะเปะสะปะดังอยู่ข้างหูเธอต่อเนื่อง

… ‘นี่ต้องเป็นคุณหนูใหญ่แน่ พอยืนกับคุณนายใหญ่เหมือนพี่น้องกันเลยครับ’

… ‘ตอนป้าเห็นเธอป้านึกถึงลูเอล’

… ‘หนูไม่มีพ่อแม่ค่ะ มีแค่พ่อบุญธรรมกับน้องชาย’

ซู่เวิ่นเอามือปิดปาก ความรู้สึกของเธอมันถูกต้องแล้ว

อิ๋งจื่อจิน ถานถานของเธอ

ไม่เพียงแต่จะยังไม่ตาย ยังมาเมืองแห่งโลกด้วย

พ่อบ้านตะลึงงัน อ้าปากค้าง “คุณอิ๋งก็คือคุณหนูใหญ่เหรอ”

นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว

“ข้อมูลของตระกูลอิ๋งล่ะ” ร่างกายของซู่เวิ่นสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอตวาด “เอามาให้ฉันอีกรอบ!”

พ่อบ้านยื่นให้ทันที “นี่ครับคุณนายใหญ่”

พอความจริงเปิดเผย ความสำคัญของข้อมูลชุดนี้ก็ยิ่งมากขึ้น

ฤดูหนาวปีสองพันยี่สิบ การที่อิ๋งจื่อจิ่นเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันก็ได้ถูกบันทึกไว้

ผลการเรียนของเธอดีขึ้นแบบไม่ธรรมดา ทั้งยังคว้าอันดับหนึ่งของโลกในการแข่งขันไอเอสซี

บนโลกนี้มีเรื่องอย่างจับพลัดจับผลูโชคดี แต่ไม่มีทางเกินความเป็นจริงได้ขนาดนี้

ตอนนี้ซู่เวิ่นรู้แล้ว นี่น่าจะเป็นเพราะตัวล็อกพันธุกรรมแหลกสลายไปแล้ว ถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้

แต่ตอนนั้นอิ๋งจื่อจินอายุยังไม่ถึงสิบเจ็ดปี

นี่ก็แสดงว่าตัวล็อกพันธุกรรมปกป้องชีวิตของเธอไว้ แหลกสลายไปก่อน

ถานถานของเธอตายไปแล้วครั้งหนึ่ง

ซู่เวิ่นจับที่วางแขนแน่นจนเส้นเลือดปูด “ตระกูลอิ๋ง อิ๋งลู่เวย ไหนจะจงมั่นหวา…”

ลูกสาวที่เธอไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตากลับถูกตระกูลนี้ทำเหมือนไม่มีค่า

ซู่เวิ่นหลับตาลง ลูบรูปถ่ายของอิ๋งจื่อจินครั้งแล้วครั้งเล่า

นี่เป็นรูปถ่ายตอนอิ๋งจื่อจินอยู่โรงพยาบาล เธอหน้าซีดเพราะให้เลือดไปหลายครั้ง

น้ำตาของซู่เวิ่นร่วงเผาะ พูดพึมพำ “ขอโทษ แม่ขอโทษนะลูก”

“คุณนายใหญ่ครับ พวกเราสืบมาแล้วครับ ในตระกูลอิ๋งมีแค่คุณชายใหญ่อย่างอิ๋งเทียนลี่ว์ที่ดีกับคุณหนูใหญ่ครับ” พ่อบ้านใจเย็นลง จากนั้นก็พูดต่อ “อีกอย่างตระกูลอิ๋งก็พังพินาศไปแล้ว อิ๋งเจิ้นถิงถูกเมียน้อยวางยา ตายไปเมื่อปีที่แล้วครับ”

“จงมั่นหวาสะเทือนใจจนเป็นบ้า ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลประสาท”

“ส่วนอิ๋งลู่เวยคนผิดโดยตรงก็อยู่ในคุกนักโทษอุกฉกรรจ์ของไอบีไอครับ”

พอเป็นแบบนี้พวกเขาทำอะไรตระกูลอิ๋งอีกก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ดูเหมือนจะทำให้อนาถไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

“เป็นบ้าเหรอ” ซู่เวิ่นแสยะยิ้มแบบที่เห็นได้ยาก “ฉันยังจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าไปตลอดชีวิตได้อีกเหรอ ประเทศจีนรักษาไม่ได้ หมอในเมืองแห่งโลกยังจะรักษาไม่ได้อีกเหรอ”

จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าถานถานของเธอไปอยู่ที่บ้านตระกูลอิ๋งได้อย่างไรกันแน่

อย่าว่าแต่จงมั่นหวาเป็นบ้าเลย ต่อให้นอนเป็นผักเธอก็ต้องทำให้ฟื้นขึ้นมา!

เธอไม่มีทางปล่อยใครหน้าไหนที่ทำร้ายอิ๋งจื่อจิน

เป็นบ้า มันจะสบายจงมั่นหวาไปหน่อยแล้ว

ซู่เวิ่นเพิ่งนึกออก “เยาเยายังอยู่ข้างนอก! ฉันจะออกไปหาเยาเยา!”

“ป้าสะใภ้ครับ พี่ใหญ่ฝีมือสูงมาก” ทันใดนั้นเซ่าอิ่งก็พูดขึ้น เขาใจเย็น “อย่าเป็นห่วงเกินไปเลยครับ ในเมื่อศัตรูปรากฏแล้ว ป้าสะใภ้ต้องเป็นหนึ่งในเป้าหมายแน่ครับ”

“ใช่ เธอพูดถูก” ซู่เวิ่นใจเย็นลง “ฉันต่อสู้ไม่เก่ง จะออกไปเป็นตัวถ่วงไม่ได้ กลายเป็นจุดอ่อนจะไม่ดี”

คนกลุ่มนั้นกล้าซุ่มโจมตีแม้กระทั่งลูเอล เธอออกไปยิ่งช่วยอะไรไม่ได้

ซู่เวิ่นนั่งลง มือสั่น “ฉันจะโทรหาเยาเยา”

รอสายอยู่นาน แสดงให้เห็นว่าไม่มีคนรับ

ซู่เวิ่นไม่ยอมแพ้ โทรต่อไปเรื่อยๆ

เวลาสี่ทุ่ม ชีวิตยามค่ำคืนของเมืองแห่งโลกเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

ด้านนอกแสงไฟสว่างไสว เสียงดนตรีดังไปทั่ว

ตรงบริเวณที่ราบแถวประตูเมือง

“ไม่ได้เรื่อง” ฟู่อวิ๋นเซินโน้มตัวเล็กน้อย เท้าเหยียบคนชุดดำคนสุดท้าย ผุดรอยยิ้มเย็นชา “บอกเจ้านายของพวกแกให้มาเอง เข้าใจ?”

คนชุดดำเบิกตาโพลง ลมหายใจเฮือกสุดท้ายหมดลง

แต่ไม่นานร่างกายก็สลายไป

เห็นได้ชัดว่ากินยาสลายศพแบบในละครเข้าไปก่อนแล้ว

ในบรรดาผู้วิเศษยี่สิบสองคน ผู้วิเศษที่ปรุงยาเป็นก็มีแค่นักมายากลกับนักบวชหญิง

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลงเล็กน้อย

แต่นักมายากลไม่ใช่ผู้วิเศษสายต่อสู้ ไม่ได้มีอิทธิพลมากมายขนาดนั้น

อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่ผู้มีส่วน แถมยังเป็นแค่ลูกน้อง

ทว่าแม้แต่ผู้วิเศษจักรพรรดินีกับผู้วิเศษสังฆราชก็ยังทำให้นักมายากลเป็นลูกน้องไม่ได้

จะต้องเป็นผู้วิเศษที่ยังไม่ได้เผยโฉมหน้าแน่นอน

อีกทั้งผู้วิเศษคนนี้ก็มีอำนาจมาก ต่อสู้ก็เก่ง

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเย็นชาลง เงยหน้ามองอาคารสูงใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

ท้องฟ้าเป็นสีขาว

คืนนี้ตระกูลไลน์เจอร์ไม่มีทางสงบสุข

“คุณพ่อ แย่แล้วครับ ลูน่ากลับไปได้ ผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็หนีไปแล้วครับ!” ไซคูกำหมัดแน่น “คราวนี้ซู่เวิ่นต้องรู้แน่ว่าลูกสาวยังไม่ตาย!”

แบบนั้นเขาไม่ต้องซวยแล้วเหรอ

“ใจเย็นก่อน” พาวเวลหมุนลูกประคำในมือแล้วพูดขึ้น “ไม่มีใครรู้เรื่องที่ทารกถูกสับเปลี่ยนตอนนั้น แกเป็นพี่ชาย ที่นี่เป็นครอบครัวของน้องแกเหมือนกัน เธอจะทำอะไรได้”

พาวเวลฟันธงได้ว่า ไม่ว่าจะชิงหลางหรือลูเอลต่างก็ตายไปแล้ว

พวกหมอในตอนนั้นก็ถูกฆ่าตายหมดแล้ว

ไม่มีทางมีใครรู้ความลับนี้

เขาไม่พูด ซู่เวิ่นก็จะถูกปิดบังไปตลอดกาล

ไซคูไม่รู้ว่ายังมีเรื่องแบบนี้ด้วย เขาตกใจ “คุณพ่อ ที่แท้คุณพ่อก็เตรียมการให้ไมเดนหรือสมาชิกสายตรงคนอื่นไปตระกูลเรนเกลนานแล้วเหรอครับ”

พาวเวลพยักหน้ายอมรับแล้ว เขาพูดอย่างใจเย็น “ผู้หญิงสูญเสียลูกย่อมสะเทือนใจหนัก หาเด็กอีกคนมาอยู่ด้วยทุกวันเดี๋ยวก็เลี้ยงจนชิน”

“ต่อให้เทียบกับลูกแท้ๆ ไม่ได้ แต่พอถึงตอนนั้นก็ดูแลไม่ต่างกันหรอก”

พาวเวลยอมรับว่าเขาพลาดไป ไม่คิดว่าซู่เวิ่นจะหมดสติไปนานขนาดนี้ แม้แต่ผู้วิเศษก็ทำอะไรไม่ได้

ช่วงสองสามปีแรกที่ซู่เวิ่นหมดสติ พาวเวลยังมีความหวังว่าเธอจะหายได้ จากนั้นค่อยทำตามแผน

ปรากฏว่าสิบกว่าปีผ่านไปซู่เวิ่นก็ยังไม่มีเค้าลางว่าจะฟื้น พาวเวลก็เลยยอมแพ้

แต่ใครจะรู้ เวลานี้ซู่เวิ่นฟื้นแล้ว คุณหนูใหญ่ตัวจริงก็กลับมาแล้วด้วย

แผนของเขาพ่ายแพ้ยับเยิน

ไซคูก็รู้สึกไม่ยอม เขากัดฟันกรอด “เมื่อวานน้องปาถ้วยชาใส่หน้าผม ใครจะไปรู้ว่าพรุ่งนี้จะเอามีดมาจ่อคอผมหรือเปล่า หลังจากเธอแต่งกับลูเอลก็เลิกสนความเป็นความตายของพวกเรานานแล้ว”

“พูดเรื่องพวกนี้จะมีประโยชน์อะไร กลับไปนอนเถอะ”

พาวเวลลุกขึ้น วางลูกประคำลงบนโต๊ะดัง ปึก

ในเมื่อช่องทางซู่เวิ่นไปไม่รอด งั้นพวกเขาก็ต้องหาทางอื่น

ลูเอลไม่อยู่ ตระกูลเรนเกลเสื่อมถอย ช้าเร็วก็ต้องถูกยึด

วันต่อมา

เวลาตีห้าครึ่ง

เวลานี้นักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ตื่น

อิ๋งจื่อจินเพิ่งเดินตากน้ำค้างกลับเข้าสำนักวิจัย ปลายนิ้วยังเลอะเลือดนิดหน่อย

ทีมคุ้มกันที่ตระกูลไลน์เจอร์ส่งมาถูกเธอกำจัดเรียบ

เธอเลยถือโอกาสสืบด้วยว่าตระกูลไลน์เจอร์มีความเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

เนื่องจากเยี่ยซือชิงพักอยู่ใกล้ห้องของอิ๋งจื่อจิน เธอตกใจตื่น “รุ่นน้องอิ๋ง กลับมาสักทีนะ เรียบร้อยดีใช่ไหม”

“รุ่นพี่เยี่ย” อิ๋งจื่อจินเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ทำให้รุ่นพี่เป็นห่วงแย่”

“เธอปลอดภัยก็ดีแล้ว แต่เมื่อวานเธอออกจากสำนักวิจัยไปอย่างไม่มีสาเหตุ แถมไม่กลับมาทั้งคืน มีคนไปฟ้องแล้ว” เยี่ยซือชิงขมวดคิ้ว “ก็ไม่รู้ทำไม อยู่ๆ เมื่อคืนสำนักวิจัยก็มีการค้นหอพักอย่างกะทันหัน คนที่ไม่ได้ลาไว้ถูกจดชื่อหมดเลย วันนี้คง…”

อิ๋งจื่อจินเปิดขวดน้ำผลไม้ ตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ไว้ค่อยหาวิธีรับมือ”

เยี่ยซือชิงชี้โทรศัพท์มือถือของอิ๋งจื่อจินที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ “รุ่นน้องอิ๋ง มือถือเธอไฟกะพริบตลอด”

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า มองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีสายไม่ได้รับ

มาจากซู่เวิ่น

ไม่ใช่แค่สายนี้ รวมถึงสายอื่นๆ ที่เธอไม่ได้รับก็มาจากซู่เวิ่นทั้งนั้น

ตั้งแต่สามทุ่มเมื่อวานจนถึงตีห้าครึ่งวันนี้ ซู่เวิ่นโทรมาทั้งหมดสองร้อยแปดสิบสี่สาย

น่าจะเพราะเรื่องเมื่อวาน

อิ๋งจื่อจินกำจัดทีมคุ้มกันตระกูลไลน์เจอร์ไปหมดห้าทีมแล้วถึงรู้ว่าเป็นคนของครอบครัวซู่เวิ่น

เรื่องเกี่ยวพันถึงสองตระกูลก็ยิ่งยากมากขึ้น

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเข้าร่วมการแก่งแย่งชิงดีของพวกตระกูลทั้งหลาย

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะโทรกลับ

มีเสียงร้องตกใจดังขึ้น

ตามมาด้วยเสียงแตรรถ รถแข่งหรูหราคันหนึ่งจอดกลางอากาศ

“โอ้โห!”

“นี่มันรถที่มีแค่ห้าคันบนเว็บดับบลิวไม่ใช่เหรอ ราคาตั้งพันแปดร้อยล้านเชียวนะ!”

รอบตัวมีเสียงฮือฮาดังขึ้นต่อเนื่อง พวกนักศึกษาที่อยู่กลุ่มเดียวกับอิ๋งจื่อจินต่างตะลึงงัน

แม้เยี่ยซือชิงจะไม่ได้เกิดในตระกูลใหญ่ ซื้อรถระดับนี้ไม่ได้

แต่เธอรอบรู้ เธอจำพวกสินค้าบนเว็บดับบลิวได้

คนที่ครอบครองรถแบบนี้ได้ นอกจากอธิบดีสำนักวิจัยแล้วก็มีแค่ตระกูลชั้นแนวหน้า

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น

ประตูรถเปิดออก ซู่เวิ่นเดินลงมา

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท