คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 817 กลับมาแล้ว! ความจริงทั้งหมด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 817 กลับมาแล้ว! ความจริงทั้งหมด

วันนั้นเป็นวันที่เขาไม่อยากนึกถึงไปตลอดกาล

ใครเป็นคนส่งพวกอัศวินที่ลอบโจมตีอิ๋งจื่อจินมา จนถึงตอนนี้ก็ยังสืบไม่ได้

เขาแน่ใจว่าเกิดการหักหลังในบรรดาผู้วิเศษด้วยกัน

เพราะความว่างเปล่าในปี 20XX แม้แต่วงล้อแห่งโชคชะตาก็ยังไม่เห็นว่าคนที่หักหลังคนนี้คือใคร

เดิมทีร่างกายของเธอก็อ่อนแออยู่แล้ว พอถูกลอบโจมตีสีหน้าก็ยิ่งซีดเซียว

เขาฆ่าอัศวินพวกนั้นแต่กลับช่วยชีวิตเธอไว้ไม่ได้

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นเธอก็ออกแรงจับมือเขาไว้ สายตาดุดันเล็กน้อย “รีบไป! ถ้ายังไม่ไปอีก พ้นคืนนี้ประตูก็จะปิดแล้ว”

เขากอดเธอ “คุณอิ๋งจะทำอะไรกันแน่”

พอได้ยินแบบนี้เธอก็ยิ้ม

เดิมทีเธอก็สวยมากอยู่แล้ว พอยิ้มยิ่งดูมีเสน่ห์

เธอพูด “ฉันแค่อยากให้นายมีชีวิตอยู่ต่อ”

คำพูดนี้คือความเจ็บปวดของเขาตลอดกาล

เขาย่อมไม่มีทางจากไปทั้งแบบนี้

เขาไปหาผู้วิเศษคู่รัก ขอให้ผู้วิเศษคู่รักช่วย

ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ยอม

สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ล้มเหลว เธอถูกเขาส่งไปอยู่อีกจักรวาลหนึ่ง

แต่เพราะตอนนั้นเดิมทีเธอตายไปแล้ว วิญญาณแหลกสลาย

พอไปถึงโลกบำเพ็ญเพียรเธอจึงสูญเสียความทรงจำ

เธอจำผู้วิเศษไม่ได้ จำดาวโลกไม่ได้ จำอดีตระหว่างเธอกับเขาไม่ได้

คิดไปเองว่ามีชีวิตอยู่มาแล้วหลายแสนปี และก็คิดว่าตัวเองอยู่ที่โลกบำเพ็ญเพียรมาตั้งแต่เกิด

ที่นั่นเหมือนที่เธอเคยพูดกับเขา

เธอฝึกฝนจนมีสุขภาพที่แข็งแรง มีความสามารถที่แข็งแกร่งขึ้น มีญาณพยากรณ์ที่ทรงพลังมากขึ้น

เธอกลับมาสู่ดาวโลกได้สำเร็จ ถ่ายทอดวิทยายุทธ์ แพทย์แผนโบราณ และการพยากรณ์

แม้จะไม่มีความทรงจำ รูปลักษณ์ก็เปลี่ยนไปหมด

แต่เธอก็ยังคงเป็นเพื่อนกับซิว ผู้วิเศษยุติธรรม และผู้วิเศษพลังได้ ปกป้องโลกต่อ

แต่ทว่าครั้งนั้นเธอกับเขาไม่ได้พบกัน คลาดกันอย่างสิ้นเชิง

ต่อมาเธอกลับไปที่โลกบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง และก็เพราะเจอเรื่องพัวพัน ทำให้เธอตายเพราะปกป้องคนอื่นอีกครั้ง

เธอยังคงสูญเสียวรยุทธ์ สิ้นชีวิต วิญญาณแหลกสลาย

เหลือเพียงญาณพยากรณ์ที่ยังอยู่

ภายในห้องนอน อิ๋งจื่อจินค่อยๆ ลืมตาขึ้น

เธอยกมือกดที่ดวงตา

น้ำตาซึมออกมาจากหว่างนิ้ว ค่อยๆ ไหลออกมาซึมเปียกเสื้อ

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงต้องกลับมา

ทำไมไปมาตั้งหลายที่ สุดท้ายก็ยังกลับมาที่นี่อย่างไม่รู้ตัว

เพราะ…

เขาคือความเหนี่ยวรั้งทั้งหมดที่ต่อให้เธอต้องข้ามจักรวาล ข้ามกาลเวลา ก็ต้องกลับมาหาให้ได้

“ครืน”

อยู่ๆ ก็เกิดเสียงฟ้าร้องกลางท้องฟ้า มีสายฟ้าผ่าลงมาที่สำนักผู้วิเศษ

หลังจากฟ้าผ่า ตรงขอบฟ้าก็ปรากฏเมฆสีแดง มีแสงเปล่งประกายเจิดจ้า

ชาวเมืองแห่งโลกทั้งหมดต่างเห็นแล้วร้องด้วยความตื่นตกใจ

“ลางบอกเหตุดี!”

“เกิดอะไรขึ้น”

“ต้องเป็นท่านวงล้อแห่งโชคชะตาแน่! ฉันเคยอ่านบันทึก ต้องเป็นท่านวงล้อแห่งโชคชะตาแน่นอน!”

ภายในสำนักผู้วิเศษ ดวงตาของซาโรห์เบิกโพลงอย่างรุนแรง

ปกติผู้วิเศษจะถือกำเนิดขึ้นอย่างเงียบๆ

แต่มีเพียงวันที่วงล้อแห่งโชคชะตาถือกำเนิดที่ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ผิดปกติ

นี่คือการแยกวงล้อแห่งโชคชะตาออกจากผู้วิเศษคนอื่นๆ

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ซาโรห์เกลียดวงล้อแห่งโชคชะตาเข้าไส้

แต่โชคดีที่วงล้อแห่งโชคชะตาร่างกายอ่อนแอ ไปไหนไกลไม่ได้

ส่วนปรากฏการณ์นี้ก็เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด

หรือว่ามีผู้วิเศษถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อย่างนั้นเหรอ!

ไม่ว่าจะซาโรห์ นักบวชหญิง หรือหลุยส์ ต่างก็ตะลึงสุดขีด

หลังจากผู้วิเศษดับสูญอย่างสิ้นเชิง ตำแหน่งของพวกเขาก็จะว่างลง

ยังจะมีผู้สืบทอดต่ออีกเหรอ

ตำแหน่งของผู้โง่เขลากับเทวทูตว่างอยู่ ทำไมวงล้อแห่งโชคชะตากลับมีผู้สืบทอดล่ะ

ถึงขั้นที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าผู้วิเศษถือกำเนิดได้อย่างไร

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

“ซาโรห์ ดูท่าแอสโตรแลบแหลกสลายไม่ใช่เพราะพลังหมดหรอก” นักบวชหญิงสีหน้าเคร่งขรึม “แต่เป็นเพราะวงล้อแห่งโชคชะตาคนใหม่ได้ถือกำเนิดแล้ว พลังส่วนนี้ก็เลยถูกเธอเอากลับคืนไป”

ซาโรห์สายตาดุดัน “ฉันรู้แล้ว”

ยังไม่ต้องไปสนวงล้อแห่งโชคชะตาคนใหม่

เรื่องสำคัญตอนนี้คือเธอต้องคิดว่าจะกำจัดอิ๋งจื่อจินยังไง

ทางด้านตระกูลเรนเกล

“อืม เยาเยาฟื้นแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินหันไปมองนอกหน้าต่างแล้วลุกขึ้น “เหมียนซี คุยกับเธอไปนะ ผมจะหลบไปก่อน”

หลิงเหมียนซีชี้ตัวเอง “ทำไมฉันต้องไปล่ะ”

ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิดพลางพูด “คุณต้องช่วยเธอสงบสติอารมณ์ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะซ้อมผมได้”

คำพูดเดียวทำลายบรรยากาศที่อึมครึม

ฉินหลิงอวี๋อยากหัวเราะ แต่กลับหัวเราะไม่ออก

ตอนนั้นพวกเขาต้องเจ็บปวดกันขนาดไหน

“กลัวถูกเธอซ้อมก็จะผลักฉันไปเป็นโล่กำบังไม่ได้นะ หน้าไม่อายจริงๆ” หลิงเหมียนซีพูดพึมพำ “เออๆๆ เป็นคนดีต้องไปให้สุด ครั้งนี้ฉันก็ต้องช่วยสองคนนี้อยู่ดี”

เธอหันหลังให้ อดขยี้ดวงตาที่แดงก่ำไม่ได้

จากนั้นก็ขึ้นชั้นบนไปที่หน้าห้องนอน

ประตูเปิดออกในเวลานี้พอดี

อิ๋งจื่อจินยืนเท้าเปล่า เห็นได้ชัดว่าแม้แต่รองเท้าก็ใส่ไม่ทัน เธอต้องการออกไป

“อะแฮ่ม” หลิงเหมียนซีปิดประตู “อาอิ๋ง ฉันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนหลังให้เธอฟังนะ”

มือของอิ๋งจื่อจินชะงัก สูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ “ว่ามา”

“ก่อนเธอจะตาย เขาอุ้มเธอมาหาฉัน ให้ฉันใช้พลังพิเศษร่วมชีวิตเพื่อรั้งเธอไว้” หลิงเหมียนซีพูด “แต่สถานการณ์ของเธอมันต่างจากปกติ พลังของฉันไม่มีประโยชน์”

หรือจะเรียกได้ว่าพลังที่วงล้อแห่งโชคชะตาปล่อยออกมาในตอนนั้นได้อยู่เหนือผู้วิเศษคนอื่นๆ ไปมาก

ทำให้ไม่มีใครสู้เธอได้

นี่ก็เป็นเรื่องปกติ

วงล้อแห่งโชคชะตาพยากรณ์ได้แม้กระทั่งเส้นทางไปอีกจักรวาลหนึ่ง พลังของเธอเกินผู้วิเศษคนอื่นไปนานแล้ว

อิ๋งจื่อจินหลับตาลง “ฉันรู้”

เรื่องอย่างเปิดเส้นทางของสองจักรวาล ต่อให้เป็นโลกบำเพ็ญเพียรที่เธอเคยอยู่ก็ต้องให้สุดยอดผู้แข็งแกร่งอุทิศชีวิตและวิญญาณเหมือนกัน

“เขาเลยอยากเอาชีวิตของตัวเองไปต่อให้เธอ” หลิงเหมียนซีเงยหน้า “การร่วมชีวิตแบบนี้ฉันก็เพิ่งเคยใช้ครั้งแรก และอาจเพราะพวกเธอสองคนแข็งแกร่งเกินไปด้วย ผลกระทบที่ฉันได้รับก็เลยหนักหนาเหมือนกัน”

หลังจากผ่านสงครามศักดิ์สิทธิ์ไปไม่นานเธอก็ดับสูญ

แววตาของอิ๋งจื่อจินเปลี่ยนไป เธอเข้าไปจับบ่าหลิงเหมียนซี “เสี่ยวเหมียน เธอ…”

“ไม่เป็นไร การดับสูญของฉันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีผลกระทบอย่างอื่นอีกนอกจากต้องกลับสำนักผู้วิเศษพร้อมพวกเธอถึงจะฟื้นความทรงจำกับพลังได้” หลิงเหมียนซีพูดอย่างจริงจัง “แต่ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้ช่วยพวกเธอ”

วงล้อแห่งโชคชะตากับเดวิลทำเพื่อทุกคน เธอเสียสละตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

อิ๋งจื่อจินค่อยๆ กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด

ดวงตาของเธอวูบไหว “สงครามศักดิ์สิทธิ์นั่น…”

“เขาจำได้ดีเรื่องที่เธอบอกว่ามีคนหักหลังในสำนักผู้วิเศษ กอปรกับมีพวกอัศวินมาลอบโจมตีเธอพอดี เขาเลยยิ่งแน่ใจความคิดนี้” หลิงเหมียนซีพูด “คนอื่นคิดว่าเขาโจมตีสำนักผู้วิเศษด้วยความโมโห แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่”

“เป็นเพราะหากต้องการใช้การร่วมชีวิตแบบพิเศษนี้ เขาต้องทำให้ตัวเองเจ็บเจียนตายก่อน เพื่อที่จะได้เอาชีวิตแลกชีวิตได้สำเร็จ”

และเนื่องจากมีคนทรยศที่ไม่รู้ว่าใครคนนี้ เขาจึงยอมกลายเป็นคนที่ถูกด่าดีกว่าให้ผู้วิเศษคนอื่นยกเว้นหลิงเหมียนซีรู้ว่าเขาส่งอิ๋งจื่อจินไปที่จักรวาลอื่นเพื่อให้เธอพัฒนาความสามารถ

สงครามศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้นก็จะไม่มีใครสนใจเรื่องที่เปิดเส้นทางจักรวาลอีก

แม้จะโมโหสุดขั้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ได้ทำร้ายใครแม้แต่คนเดียว

นี่ก็คือเบื้องลึกเบื้องหลังของการเกิดสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรก

“สุดท้ายก็ร่วมชีวิตได้สำเร็จ เธอไปอยู่โลกบำเพ็ญเพียร” หลิงเหมียนซีพูดด้วยเสียงเบามาก “แต่ตอนนั้นอันที่จริงเขาไม่อยากให้เธอกลับมาอีก”

“เขาอยากให้เธอมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ที่นั่น ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป”

อิ๋งจื่อจินหลับตาลง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ว่าแบบไหนที่เรียกเจ็บปวดหัวใจ

เธอถาม “แลกด้วยอะไร คงไม่ใช่แค่ชีวิตแลกด้วยชีวิตหรือเปล่า”

หลิงเหมียนซีเบือนหน้า ดวงตาเริ่มแดงอีกครั้ง “สิ่งที่ต้องแลกคือ ตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล”

ทุกครั้งที่เปลี่ยนภพเขาจะต้องถูกทรมานและถูกประณามสารพัดรูปแบบ

ไม่มีใครรักเขา ไม่มีใครเชื่อเขา

โดดเดี่ยว แก่ตายอย่างอ้างว้าง

เปลี่ยนภพครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกระทั่งได้มาเจอเธออีกครั้ง

แต่ถึงแม้จะตกอยู่ในความมืดมิดแล้ว แต่ละชาติของเขาก็ยังคงต้องต่อสู้กับอิทธิพลเลวร้าย

นี่คือสัญญาระหว่างเขากับเธอ

หลังจากเงียบไปนานมากอิ๋งจื่อจินถึงพูดขึ้น “โง่จริงๆ”

เธอไปพัฒนาความสามารถที่อีกจักรวาลหนึ่ง แต่ก็เนื่องจากตายอีกครั้งสิ่งที่ฝึกมาจึงหายไปหมด

จะรับมือกับอนาคตที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้หรือเปล่าก็ยังเป็นปริศนา

ถ้าตอนนั้นฟู่อวิ๋นเซินไปคงไม่มีทางเกิดเหตุการณ์แบบนี้

เขาสามารถมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเธอได้

อิ๋งจื่อจินหัวเราะเบาๆ เธอพูดอีกครั้ง “โง่จริงๆ”

“เอ่อคือ งั้นฉันไม่รบกวนพวกเธอแล้ว” หลิงเหมียนซีตบบ่าอิ๋งจื่อจิน ชี้ไปด้านหลังเธอ “เขามาแล้ว”

ร่างกายของอิ๋งจื่อจินหดเกร็ง ค่อยๆ หันไปช้าๆ

ฟู่อวิ๋นเซินยืนอยู่ตรงหัวบันได

ยังคงเหมือนตอนนั้น ดวงตาดอกท้อโค้งมน เดินเข้าไปจับมือเธอ

คำพูดคุ้นเคย โทนเสียงที่คุ้นเคย

“คุณอิ๋ง ครั้งนี้เธอชอบฉันมากขึ้นแล้วใช่ไหม”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท