คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 823 ทรมานซะ อิ๋งจื่อจิน ‘คิดว่าคู่ควรเหรอ’

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 823 ทรมานซะ อิ๋งจื่อจิน ‘คิดว่าคู่ควรเหรอ’

ผู้วิเศษจักรพรรดิไม่ได้ดับสูญในสงครามศักดิ์สิทธิ์

แต่เป็นเพราะออกไปต้านภัยพิบัติ

ตั้งแต่นั้นมาผู้วิเศษจักรพรรดิก็หายสาบสูญไปหลายสิบศตวรรษ ไม่เคยกลับมาที่สำนักผู้วิเศษอีก

ผู้วิเศษคนอื่นไม่มีความสนใจเรื่องกุมอำนาจ ซาโรห์ครองอำนาจสูงสุดมานาน นั่งคู่กับหลุยส์ ธีเซียส ผู้วิเศษสังฆราชในเมืองแห่งโลก จนเธอเกือบลืมการมีตัวตนของจักรพรรดิไปแล้ว

และเธอเองก็เกือบลืมไปแล้วว่าพลังพิเศษของผู้วิเศษจักรพรรดิเหมือนกับเธอ แต่แข็งแกร่งกว่าเธอมาก!

ทุกคนหันไป เห็นเงาของใครคนหนึ่งเดินมาจากขอบฟ้า แทบหยุดหายใจ

อิ๋งจื่อจินก็เงยหน้าขึ้น เลิกคิ้ว “กลับมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

ดูท่าความสามารถของตี้อู่เย่ว์จะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว

ตามคาด รับมือกับลูกศิษย์คนนี้ของเธอก็มีแค่บังคับให้ไปอ่านหนังสือเยอะๆ

ซีซาร์เดินเข้ามา ไม่ได้มองซาโรห์ แต่เดินผ่านไปหาอิ๋งจื่อจิน

เขาเรียกด้วยความนอบน้อมจากใจ “บอส”

สมองของซาโรห์ตื้อไปอีกรอบ

สีหน้าของเธอซีดลงทีละนิด แม้แต่ริมฝีปากก็ไร้สีเลือด

เพราะพลังพิเศษของเธอกับเขาเหมือนกัน ออกไปทำภารกิจร่วมกันมากที่สุด

ในระหว่างที่ทำภารกิจต้านภัยพิบัติ ผู้วิเศษจักรพรรดิก็มักดูแลเธอเสมอ

และซาโรห์ก็ย่อมคิดว่าผู้วิเศษจักรพรรดิชอบเธอ

แต่ตอนนี้เขาเรียกอิ๋งจื่อจินว่าอะไรนะ!

คำเรียกนี้ เห็นได้ชัดว่าวางตัวเองไว้ต่ำกว่า

ซาโรห์ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เธอเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก พูดด้วยความโมโห “คาซาร์!”

“โทษที ชาตินี้ฉันเปลี่ยนชื่อแล้ว” ซีซาร์ถึงได้หันไปมองสำรวจซาโรห์ที่ถูกบังคับให้คุกเข่า “รสนิยมยังแย่เหมือนเคยเลยนะ ทุกครั้งที่ออกทำภารกิจกับเธอฉันแทบไม่อยากมองเธอนาน”

“ไม่อย่างนั้นใครจะรีบไปบังหน้าเธอรีบๆ ทำภารกิจให้เสร็จล่ะ”

ซาโรห์หน้ามืด

เดิมทีอาการบาดเจ็บของเธอก็สาหัสอยู่แล้ว มาได้ยินคำพูดเสียดแทงใจแบบนี้อีกก็เริ่มรู้สึกลำคอมีกลิ่นคาวเลือด

เป็นเพราะแบบนั้นเองเหรอ

มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า เหลือบมองเขา “รสนิยมของนายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันหรอก”

พอซีซาร์นึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำไปในแต่ละครั้งที่เปลี่ยนภพอันยาวนาน “…”

เขาพูดขึ้นทันที “ทองเทิงอะไร ผมเกลียดที่สุดแล้ว เดี๋ยวผมจะเอาทองไปโยนทิ้งทะเลให้หมด ไม่เอาอีกแล้ว!”

คนที่อยู่ด้านล่างเงียบกันหมด พวกชาวเมืองทั้งตะลึงทั้งงง

ซีซาร์โด่งดังมากในเมืองแห่งโลกเช่นกันเพราะตลาดประมูลลอเรนท์

ทำไมก็กลายเป็นผู้วิเศษไปด้วย!

ต่อให้พวกเขาไม่รู้ว่าซีซาร์คือผู้วิเศษคนไหน แต่ก็ได้ยินชื่อนั้นที่ซาโรห์พูดออกมาแล้ว

ผู้วิเศษจักรพรรดิ คาซาร์!

อิ๋งจื่อจินพูดอย่างใจเย็น “ไม่เอาก็ได้ ให้ฉัน ฉันขอเก็บหมด”

ซีซาร์ “…ผมก็ยังตัดใจไม่ลงอยู่ดี”

เมื่อวานเขาเพิ่งเสียบัตรดำทองไป ตอนนี้ยังปวดใจอยู่

ซาโรห์ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เล็บจิกเข้าฝ่ามือจนเริ่มมีเลือดไหลซิบ

ทำไมแม้แต่ผู้วิเศษจักรพรรดิก็มีท่าทีนอบน้อมต่อวงล้อแห่งโชคชะตาคนนี้ด้วย!

“ในที่สุดจักรพรรดิของพวกเราก็กลับมาแล้ว” เวลานี้ฉินหลิงอวี๋เดินเข้าไปพูดถากถาง “ซาโรห์ ในเมื่อเธอชอบคุยประวัติศาสตร์ขนาดนี้ งั้นพวกเราก็มาคุยประวัติศาสตร์เมืองแห่งโลกในตอนแรกสุดกันเถอะ”

ซาโรห์ชะงัก ทันใดนั้นก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง “ไม่…”

แต่ฉินหลิงอวี๋หันหน้าเข้าหาชาวเมืองแล้ว “เป็นที่รู้กันว่าเมืองแห่งโลกก่อตั้งโดยผู้วิเศษยี่สิบสองคน ผู้วิเศษแต่ละคนสร้างคุณูปการไว้ไม่น้อย”

“โดยเฉพาะผู้วิเศษสี่คนแรกสุด”

ผู้วิเศษผู้โง่เขลา ผู้วิเศษเทวทูต ผู้วิเศษวันพิพากษา และผู้วิเศษเดอะเวิลด์

“แต่ถ้าจะบอกว่าใครที่ทำให้สภาพอากาศของเมืองแห่งโลกเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ ไม่ใช่จักรพรรดินีที่พวกคุณศรัทธากันหรอก” ฉินหลิงอวี๋พูดต่อ “แต่เป็นจักรพรรดิ และยังมีเทวทูตที่จากไปแล้วด้วย”

ผู้วิเศษเทวทูต พลังพิเศษคือ สร้างบริสุทธ์

“ซาโรห์ ทำไมถึงกวาดผลงานทั้งหมดเอาหน้าคนเดียวล่ะ” หลิงเหมียนซีก็เดินเข้ามา แสยะยิ้มใส่ “เธอคิดว่าหลายสิบศตวรรษเพียงพอให้ลบล้างผลงานของคนอื่นงั้นเหรอ”

ผู้วิเศษต่างเกิดมาเพื่อปกป้องโลก ส่วนเรื่องภายในระหว่างกัน ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ยิ้มแล้วปล่อยผ่าน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าภัยพิบัติใหญ่ในอนาคตจำเป็นต้องให้ผู้วิเศษทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้าน

แต่ซาโรห์กลับเห็นแก่ตัวไม่คำนึงถึงส่วนรวมครั้งแล้วครั้งเล่า

ร่างกายของซาโรห์สั่นอย่างรุนแรง เสียงก็แผ่วเบาลงเรื่อยๆ “ไม่ต้อง…พูดแล้ว!”

“เธอขโมยผลงานของผู้วิเศษคนอื่นมาเป็นของตัวเอง” อิ๋งจื่อจินพูด “ตอนนี้ยังจะมาบอกว่าหากเมืองแห่งโลกไม่มีเธอก็จะกลายเป็นยุคแห้งแล้งงั้นเหรอ”

ซาโรห์ยังไม่ตอบ บรรดาชาวเมืองที่อยู่ด้านล่างก็ทยอยคุกเข่าลง

“ท่านวงล้อแห่งโชคชะตาโปรดลงโทษคนบาป!”

“ท่านวงล้อแห่งโชคชะตาโปรดลงโทษคนบาป!”

ร้อยล้านคนร้องขอ บรรยากาศยิ่งใหญ่

อิ๋งจื่อจินหันไป “ต้องปิดคณะหนึ่งในสำนักวิจัยจริงๆ คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ เริ่มปิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครก็ตามที่ใช้ยาเล่นแร่แปรธาตุหรือเอาคนเป็นไปทำการทดลอง ทั้งหมดต้องขึ้นศาลตัดสิน!”

คำพูดนี้เหมือนทิ้งระเบิดกลางวง!

นักศึกษาคณะพันธุศาสตร์หลายคนที่มาดูเหตุการณ์ต่างหน้าถอดสี

“ไรอัน!” นักศึกษาคนก่อนหน้านี้หน้าซีด แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงไปบนพื้น “แย่แล้ว พวกเราแย่แล้ว!”

เขาก็แค่พูดส่งเดช ไม่ได้จริงจัง

ใครจะไปคาดคิดว่าอิ๋งจื่อจินเป็นผู้วิเศษจริงๆ

แถมยังเป็นวงล้อแห่งโชคชะตาที่น่ากลัวที่สุดด้วย!

คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ทำตัวอวดดีมาตลอด จับนักศึกษาธรรมดาไปเข้าห้องทดลอง เพราะมีผู้วิเศษหนุนหลัง

แต่นักมายากลตายไปแล้ว

ไรอันที่แต่ไหนแต่ไรเป็นคนสุขุมก็เริ่มสีหน้าเปลี่ยน

เขามองอิ๋งจื่อจินอย่างอึ้งๆ ผ่านไปสักพักถึงยิ้มเศร้า “นั่นสิ พวกเราแย่แล้ว”

ใครจะไปคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดาที่ตอนแรกสุดถูกทุกคนในคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ดูถูกจะกลายเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเรนเกล และต่อมาก็กลายเป็นผู้วิเศษที่พวกเขามิอาจล่วงเกิน

นี่คือของสูงที่พวกเขาอาจเอื้อมไม่ถึง

“หน่วยอัศวิน ไปจับตัวไว้” อิ๋งจื่อจินสั่ง “สมาพันธ์แฮกเกอร์จะให้ความร่วมมือกับปฏิบัติการของพวกคุณ ห้ามปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”

ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินทั้งสี่รับคำสั่งทันที “ครับ!”

อิ๋งจื่อจินสั่งเสร็จถึงหันไปมองซาโรห์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “พาออกไป เดี๋ยวฉันมา”

“คุณอิ๋ง ผมเองๆ” อวิ๋นซานผลักอัศวินออกไป “ผมทำเอง”

อวิ๋นอู้คนหน้าตาย แต่เห็นได้ชัดว่าก็ต้องการทำแบบนั้นเช่นกัน

ตอนนี้คนที่ติดตามคุณชายกับคุณผู้หญิงของพวกเขาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว พวกเขารู้สึกได้ถึงวิกฤติ

ต้องทำผลงานให้ดี

“เรียกมาหลายคนหน่อย” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ไปเถอะ”

ตระกูลเรนเกล

อิ๋งจื่อจินเอายามาให้ลูเอลเสร็จก็ลงไปชั้นล่าง เห็นฟู่อวิ๋นเซินนั่งอยู่ที่โซฟาจึงเดินเข้าไปหา “เพิ่งกลับมาเหรอ”

“อืม ให้เขากลับมาก่อน” ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “ฉันตรวจดูสภาพร่างกายให้ตี้อู่ชวน ยังอยู่ได้อีกสองสามปี”

“นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ตอนนี้ความสามารถในการพยากรณ์ของเย่ว์เย่ว์เหนือกว่าเซ่าเสียนไปมากแล้ว”

ตระกูลตี้อู่มีแต่คนเก่งจริงๆ

ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ตอนนั้นมองไม่ออกจริงๆ นะ”

“ฉันจะออกไปหน่อย”

“ไปไหน” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “อุตส่าห์ได้กลับมาพักผ่อนหน่อยจะไปอีกแล้วเหรอ”

อิ๋งจื่อจินสวมหมวก “ไประบายความแค้นให้นาย”

ฟู่อวิ๋นเซินอึ้ง จากนั้นก็ยิ้ม “ได้ น้อมทำตามคำสั่งของคุณอิ๋ง”

อีกด้านหนึ่ง

ภายในคุกไฟฟ้าของตระกูล

ซาโรห์ถูกตรึงไว้บนกำแพงโดยใช้โซ่เหล็กที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

ประตูถูกเปิดออกในเวลานี้

ซาโรห์เห็นคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด

ความผิดพลาดของเธอทั้งหมดในปีนี้ล้วนเป็นเพราะอิ๋งจื่อจิน

“เธอไม่รู้สินะ” ซาโรห์กลืนก้อนเลือดที่อยู่ตรงลำคอ อยู่ๆ ก็หัวเราะออกมา “เธอคงไม่รู้หรอกว่าวงล้อแห่งโชคชะตาคนก่อนหน้าเธอต่างหากที่ได้รับศรัทธาจากทุกคน”

“วงล้อแห่งโชคชะตาคนนั้นไม่เหมือนเธอ ร่างกายอ่อนแอ ออกไปไหนไม่ได้ แต่ก็เป็นที่รักของทุกคน รวมถึงคู่หมั้นของเธอด้วย”

ซาโรห์จงใจเน้นย้ำประโยคสุดท้าย

พูดเสียงเย็นชา “เธอเป็นแค่ตัวแทน เข้าใจหรือเปล่า”

“ที่แท้เธอก็มองออกแล้ว ดูท่าเธอจะชอบเขานะ” อิ๋งจื่อจินชักสนุก ไม่ได้โกรธ “ฉันเข้าใจแล้ว”

ซาโรห์ถูกพูดแทงใจดำก็โกรธมาก “ใช่ ฉันชอบเขา แล้วไง ฉันแค่จะบอกเธอว่า ต่อให้เธอพยายามยังไงก็สู้วงล้อแห่งโชคชะตาคนก่อนไม่ได้หรอก!”

“เมื่อก่อนฉันร่างกายอ่อนแอจริง ขนาดเดินไปไหนยังเดินไม่ได้นาน” อิ๋งจื่อจินโน้มตัวลง “แต่มีคนช่วยฉัน”

“เขาแบกฉันลงเขา ช่วยนวดขาให้ฉัน พาฉันออกไปชมวิว”

ซาโรห์ดวงตาเบิกโพลง “เธอ…เธอ!”

ทันใดนั้นซาโรห์ได้ร้องเหมือนจะขาดใจ “โอ๊ย!”

ก่อนหน้านี้ซาโรห์ถูกจับกรอกยาไปหลายเม็ด

เวลานี้ยาออกฤทธิ์อย่างรุนแรง ดวงตาทนฤทธิ์ยาไม่ไหว ตาบอดในทันที

ถึงขั้นที่น้ำตาเป็นสายเลือด

อิ๋งจื่อจินบีบคอซาโรห์ พูดเสียงเย็นชา “บอกชอบเขา คิดว่าคู่ควรเหรอ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท