ตอนที่ 407 เหรียญทองอินทนิลแลกกับข้าวต้มเป็นไง?
ตอนที่ 407 เหรียญทองอินทนิลแลกกับข้าวต้มเป็นไง?
กลิ่นกระตุ้นดังกล่าวทำให้พวกเขาเข้ามาห้อมล้อมพนักงานสาวประจำโรงแรมราวกับสัตว์ร้าย โดยขอให้เธอบอกว่ากลิ่นหอมนี้มาจากไหน!
หรือว่าเจ้าของโรงแรมกำลังดูหมิ่นพวกเขา ด้วยการไม่บริการอาหารเมนูนี้ให้กับพวกเขา?!
พวกเขามีเงิน! และมีคนจำนวนมากที่ควักเอาเหรียญทองอินทนิลออกมา!
อย่าทำเหมือนพวกเขาเป็นคนโง่สิ!
พี่สาวเอลฟ์รู้สึกเศร้าใจอย่างมาก!
เธออยากจะรู้ว่ามันมาจากไหน! กลิ่นหอมน่าอร่อยนี้กำลังพุ่งชนใส่เธอ ท้าทายความสามารถในการสงบปากสงบคำของเธอ!
“ต้องขออภัยด้วยนะคะ ดิฉันไม่รู้จริง ๆ! แต่รับประกันได้เลยว่ากลิ่นไม่ได้มาจากห้องครัวของเราแน่นอน!”
พี่สาวเอลฟ์พูดอธิบาย “คงจะมีแขกสักคนที่ทำอาหารทานเองน่ะค่ะ!”
“ทำอาหารทานเอง?! เป็นพ่อครัวคนไหนหรือเปล่า?” พ่อครัวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนห้วงดวงดาวนี้คือเผ่าพันธุ์เบิร์ดแมน!
เจ้าพวกนั้นหยิ่งยโส และหยาบคาย แต่ทุกคนกลับทำอาหารเก่ง ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน พวกเขาจะได้รับเกียรติให้เป็นแขกสูงส่งและมีหน้ามีตาอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ต่อให้ชาวเบิร์ดแมนจะจงใจสร้างความยากลำบากให้ผู้อื่นมากเท่าไหร่ แต่ทุกคนที่ต้องการกินอาหารของพวกเขาจะต้องปั้นหน้าทักทายด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้น จะไม่มีวันได้ลิ้มลองอาหารที่อร่อยที่สุดในห้วงดวงดาวแห่งนี้อีก!
หากเป็นเผ่าพันธุ์เบิร์ดแมน…พวกเขาก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย
ความหยิ่งทะนงของเผ่าพันธุ์เบิร์ดแมนเป็นเหมือนกับถุงเท้าที่ส่งกลิ่น ถึงคุณจะเกลียดพวกเขามาก แต่คุณจะต้องประนีประนอมฝีปาก
“โอ้ งั้นไม่ต้องห่วง! ถ้าเป็นพวกเบิร์ดแมนผมก็พอเข้าใจได้! ผมอยากกินจนทนไม่ไหวแล้ว!” แขกคนหนึ่งเกาหัว และควักเอาเหรียญทองอินทนิลสองเหรียญออกมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าแขกคนนี้ไม่ได้ขาดเงิน
“ทีนี้บอกมาสิว่ามันมาจากห้องไหน?! ส่วนที่เหลือก็ไม่ต้องรบกวนคุณแล้ว!”
หลังจากที่แขกคนดังกล่าวหยิบยื่นเงินออกไป แขกคนอื่นก็หยิบเงินของพวกเขาออกมาบ้าง และขอให้พี่สาวเอลฟ์อำนวยความสะดวกให้พวกเขาเช่นกัน
พี่สาวเอลฟ์รู้สึกลำบากใจมาก!
กฎระเบียบข้อหนึ่งของโรงแรมคือห้ามไม่ให้ข้อมูลของลูกค้ารั่วไหลเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะมีความน่าเชื่อถือได้ยังไง?!
“ขออภัยด้วยค่ะ! ดิฉันไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของแขกได้!” พี่สาวเอลฟ์ไคลินพูด “แต่ว่าฉันสอบถามแขกได้นะคะ ถ้าแขกเต็มใจ ฉันก็พอจะบอกพวกคุณได้ค่ะ”
คนอื่นทำได้เพียงพยักหน้า
โรงแรมมีกฎเกณฑ์เป็นของตัวเอง แขกพวกนี้จะต้องทำตามกฎระเบียบ และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการทำให้พี่สาวเอลฟ์รู้สึกลำบากใจ
นั่นอาจจะเป็นเพราะพวกเขาไม่กล้าขัดใจเอลฟ์ หากสถานที่แห่งนี้เป็นโรงแรมธรรมดาทั่วไป คาดว่าโต๊ะคงจะถูกพลิกคว่ำไปนานแล้ว และถูกบีบบังคับให้บอกข้อมูลกับพวกเขา!
หลังจากที่กลุ่มสวี่หลิงอวิ๋นกินข้าวต้มจนเหลือถ้วยสุดท้าย เสียงของหุ่นยนต์ก็ดังขึ้น!
“สวัสดีค่ะ แขกผู้มีเกียรติ ไม่ทราบว่าคุณกำลังใช้ฟังก์ชันครัวอยู่หรือเปล่าคะ?” น้ำเสียงอันแสนหวานของหญิงสาวดังขึ้น
สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินคำพูดดังกล่าวในทันที นี่ใช่เสียงของเอลฟ์ไคลินที่ชั้นล่างของโรมแรมหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ? ทำอาหารในโรงแรมไม่ได้เหรอคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว
ห้ามทำอาหารงั้นเหรอ? มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะ?!
“ไม่ใช่ค่ะ! คุณกำลังเข้าใจผิด!” ไคลินพูดออกไปอย่างสุภาพ “คือว่าอาหารที่คุณทำกลิ่นหอมมากเลยค่ะ และตอนนี้แขกทั้งโรงแรมอยากพบคุณ ไม่ทราบว่าคุณพอจะสะดวกไหมคะ?”
เอ๊ะ? จะมาอยากเห็นเธอทำไม?!
เสี่ยวอ้ายเลียข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่ามันจะชอบกินเนื้อมากกว่าข้าวต้มปลา แต่มันก็เต็มใจจะกินอาหารทุกอย่างที่เจ้านายมอบให้!
ชิงเย่กินหมดแล้ว และเหลือบมองข้าวต้มถ้วยสุดท้าย สงสัยว่าเขาจะได้รับมันมาหรือไม่?!
เมื่อไม่นานมานี้เขาใช้จ่ายไปจำนวนมาก! บัตรเครดิตถูกรูดออกไปหลายครั้ง แม้เขาจะรู้สึกกังวล แต่ตอนนี้ปล่อยวางแล้ว!
ฮึ่ม! การได้กินของอร่อยไปทุกวันก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือไง?!
ถ้าเกิดขาดเงิน เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนปลาหมึกกระป๋องที่สวี่หลิงอวิ๋นมอบให้เขาเป็นเงินสิบเหรียญทองอินทนิลได้!
แต่เขาทิ้งกระป๋องนี้ไม่ลงจริง ๆ!
โอคาซีบีบมือเธอ “อยากเจอไหม?!”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า ตอนนี้ตัวตนของเธอคือเอลฟ์ นอกจากนี้ผู้คนบอกว่ากลิ่นหอมของอาหารที่เธอทำลอยฟุ้งออกไปจนพวกเขาอยากจะพบเธอไม่ใช่เหรอ
“เอาล่ะ ไปดูกันเถอะ”
ไคลินที่อยู่อีกฟากมีความสุขอย่างมาก “ดีจังเลยค่ะ งั้นฉันจะบอกให้แขกคนอื่นขึ้นไปนะคะ”
แขกที่รอมาเนิ่นนานรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าจะได้พบสวี่หลิงอวิ๋น พวกเขารีบจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นก็ ‘เรียงลำดับ‘ กันตรงดิ่งไปที่ห้องของสวี่หลิงอวิ๋น
เมื่อหุ่นยนต์เปิดประตูออก สวี่หลิงอวิ๋นก็ถึงกับตกตะลึง
สุดยอดไปเลย มีแขกนับร้อยคนอยู่ด้านนอกประตูขนาดใหญ่งั้นเหรอ?!
ขณะนี้บริเวณหน้าประตูเต็มไปด้วยฝูงชนที่มีผมเผ้ายุ่งเหยิงและเสื้อผ้ามอมแมม คนพวกนี้ดูเหมือนเอลฟ์ตรงไหน?!
“แค่ก! ต้องขอโทษด้วยนะครับ! ที่พวกเรามารบกวนเวลาอาหาร!” ชนเผ่าเอลฟ์กระแอมออกมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาเปล่งประกายขณะจับจ้องข้าวต้มปลาที่กำลังร้อนระอุ!
กลิ่นนี้! มันคือกลิ่นที่พวกเขาได้กลิ่นลอยละล่องออกมาจากโรงแรม!
พวกเขามาไม่ผิดที่แน่นอน!
“มีอะไรกันเหรอคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นยืนกอดอกขณะมองดูเอลฟ์เหล่านั้น ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร
“เอ่อ…” เอลฟ์รู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาไม่เคยวิ่งมาที่หน้าห้องของคนอื่นเพื่อขออาหารแบบนี้มาก่อน!
มีเพียงชิงเย่เท่านั้นที่รู้ว่าเอลฟ์พวกนี้ต้องการจะทำอะไร ทุกอย่างเป็นเพราะข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้าเขา!
ฮึ่ม! อย่าได้แม้แต่จะคิดเชียว!
“ผมขอถามหน่อยสิ คุณพอจะขายอาหารเช้าอันนั้นได้ไหมครับ?!” เมื่อเห็นว่าความอดทนของสวี่หลิงอวิ๋นเริ่มลดน้อยลง เอลฟ์อีกตัวก็ปริปากพูด
“ขาย?” สวี่หลิงอวิ๋นตกใจ!
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมา เอลฟ์ตัวอื่นก็พากันดีใจ!
“ขายเหรอ? เยี่ยมมาก! ฉันจะเอาเหรียญทองอินทนิลให้!” เอลฟ์ตัวหนึ่งก้าวออกมา ควักเหรียญทองอินทนิลออกมา และพูดอย่างภาคภูมิใจ!
“หนึ่งเหรียญเองเหรอ? ฉันจะให้สองเหรียญเลย เฮอะ!” เอลฟ์ตัวหนึ่งเริ่มใจกล้ามากขึ้น!
“เฮ้อ! พวกเอลฟ์ปวกเปียก ปล่อยให้พวกตานหยางที่ใจกล้าเขากินกันเถอะ! ฉันให้ห้าเหรียญทองอินทนิล!”
เผ่าพันธุ์ตานหยางที่พูดออกมานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง และมีบางตัวที่คล้ายกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ดวงตาของพวกเขาจะค่อนข้างกลมโตกว่า และมีเขี้ยวสองอันบริเวณมุมปากที่ทำให้ดูก้าวร้าวกว่าเล็กน้อย
ชาวตานหยางคือชนชั้นสูงของจักรวรรดิเคทเลอร์ โดยปกติแล้วพวกเขาจะพึ่งพาการต่อสู้เพื่อสร้างรายได้ ชาวตานหยางเกือบทุกคนเป็นข้าราชการทหาร และนั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาร่ำรวย
“ห้าเหรียญ?! สมแล้วที่ชาวตานหยางจะเป็นเศรษฐียุคใหม่!”
ทันทีที่เหรียญทองอินทนิลทั้งห้าเหรียญปรากฏต่อสายตา เอลฟ์เหล่านั้นถึงกับตกตะลึงกับความใจกล้าของชาวตานหยาง! ทว่ายังไม่มีใครยอมแพ้!
เอลฟ์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดจัดแจงเสื้อผ้าของเขาจนเรียบร้อย แล้วจึงพูดว่า
“ผมมีสิบเหรียญ!”
ชาวตานหยางกัดฟันกรอด และมองดูเอลฟ์ตัวนี้ด้วยความแค้นใจ วันนี้เขาเร่งรีบและไม่ได้นำเงินติดตัวมามากนัก!
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เขาใช้เงินไปค่อนข้างเยอะ ฟุ่มเฟือยอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกดความหยิ่งทะนงของตัวเองลง