สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 506 ตอนพิเศษ หลังจากหนึ่งร้อยปี

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 506 ตอนพิเศษ หลังจากหนึ่งร้อยปี

ตอนที่ 506 ตอนพิเศษ หลังจากหนึ่งร้อยปี

“ทุกคนเปิดหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ไหนใครจะลุกขึ้นมาพูดเรื่องประวัติศาสตร์ของเผ่ามนุษย์?”

คุณครูที่ยืนอยู่บนแท่นถามเหล่านักเรียนที่อยู่ด้านล่าง “นักเรียนทุกคนรู้ไหมว่าเผ่ามนุษย์เราเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หนูรู้ค่ะ!” เด็กหญิงตัวน้อยอายุประมาณสิบขวบลุกขึ้นยืนและพูดตอบด้วยความภาคภูมิใจ “เผ่ามนุษย์ของเรามีความมั่นคงมากขึ้นตั้งแต่จักรพรรดินีหลิงค่ะ!”

“ตอบได้ดีมาก!” คุณครูพยักหน้าอย่างโล่งใจ “ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของเผ่ามนุษย์เริ่มขึ้นในสมัยจักรพรรดินีหลิง”

“ให้ทุกคนเปิดหนังสือและเริ่มอ่านประวัติของจักรพรรดินีหลิง”

“จักรพรรดินีหลิง เดิมมีชื่อว่าสวี่หลิงอวิ๋น เป็นองค์หญิงลำดับที่สามแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าโบราณ ในตอนนั้นพวกเราอาศัยอยู่ในร่างกายของเทพเจ้าเสี่ยวอวี๋ที่เป็นหนึ่งในเทพสามองค์ ตอนนั้นเหล่าเอเลี่ยนยังออกอาละวาด และความแข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์มีเพียงสิบดาวเท่านั้น”

“ในสมัยนั้นเผ่ามนุษย์แทบไม่เคยได้กินของหวานเลย เพราะว่าพวกเอเลี่ยนมีประสาทการรับกลิ่นที่อ่อนไหวและสามารถรับกลิ่นหวานได้ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันได้กลิ่นหวาน พวกมันจะพากองทัพไปสร้างความหายนะ กลืนกินสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่มันเห็น”

“คุณครูคะ ทำไมเผ่ามนุษย์ในตอนนั้นน่าสงสารจัง!” เด็กน้อยทั้งหลายรู้สึกตกใจ!

ขนมหวานจานโปรดของพวกเขาคือเค้ก! ทำไมเผ่ามนุษย์ในสมัยนั้นถึงกินของหวานกันไม่ได้?!

“ใช่แล้ว!” คุณครูสื่อถึงอารมณ์มากมาย “แต่การกินของหวานไม่ได้นั้นยังไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่สุด สิ่งเลวร้ายที่สุดคือเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ด้านนอกของเทพเจ้าเสี่ยวอวี๋!”

“อย่างที่นักเรียนทุกคนรู้กัน เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโอเป็นสองเทพที่จักรพรรดินีหลิงเป็นผู้ให้กำเนิด ตอนนั้นเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในร่างเทพเสี่ยวอวี๋มีความสุขกันมาก แต่สิ่งที่เลวร้ายคือเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในต่างดาว”

“พวกเขาต้องตกเป็นทาสของเผ่าพันธุ์อื่นมานับพันปี หรือจะพูดให้ถูกก็คือเผ่าพันธุ์อื่นไม่คิดว่าเผ่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา”

“ไม่คิดว่าเผ่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา? แต่ผมว่าพวกเขาดูโง่มากเลยฮะ!”

นักเรียนตัวน้อยจดจำภาพลักษณ์ของเผ่าพันธุ์อื่นในเกมออนไลน์ได้ดี เจ้าพวกนั้นทึ่มมาก และเล่นแพ้ตลอด!

“ยังไงซะตอนนั้นพลังดวงดาวกับพลังจิตของพวกเรายังไม่ได้ดีเท่ากับในตอนนี้ พวกเราเกิดมาพร้อมกับต้นไม้แห่งชีวิตสาขาย่อยที่คอยเพิ่มความแข็งแกร่งและปกป้องพวกเรา”

“ในตอนนั้นคนที่แข็งแกร่งที่สุดคือจักรพรรดิอวี๋ซิน หนึ่งในจักรพรรดิผู้เก่งกาจที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดินีหลิง!”

“อวี๋ซินเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของบอนาร์ อสุรกายเทพพิทักษ์ของพวกเรา ตลอดช่วงวัยหนุ่มเขาได้เห็นชะตากรรมที่น่าสังเวชของเผ่ามนุษย์มานับไม่ถ้วน เขาสาบานว่าจะปลดปล่อยเผ่ามนุษย์ให้เป็นอิสระ จึงแฝงตัวอยู่ในจักรวรรดิเคทเลอร์มานานหลายปี คอยมองหาโอกาสที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเผ่ามนุษย์”

“และเขาก็ได้พบกับจักรพรรดินีหลิงและจักรพรรดิโอคาซี”

“ระยะเวลาต่อมา เทพเจ้าเสี่ยวอวี๋ประสบกับปัญหาทางร่างกายร้ายแรง ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จักรพรรดิทั้งสองจึงเดินทางออกมายังต่างดาวและบังเอิญพบเข้ากับจักรพรรดิอวี๋ซิน ทั้งสองพระองค์จึงร่วมมือกันปลดปล่อยเผ่ามนุษย์ให้เป็นอิสระ”

“จากนั้นสงครามแห่งการปลดปล่อยเผ่ามนุษย์จึงได้เริ่มต้นขึ้น”

คุณครูขยับมือเล็กน้อยกลางอากาศ ก่อนที่ยานรบลำใหญ่จะปรากฏขึ้นต่อหน้านักเรียนทุกคน หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องบัญชาการด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ด้านข้างมีชายหนุ่มผมสีเงินนั่งอยู่ เขาเป็นชายที่ดูสง่างามเป็นอย่างมาก…

“นี่คือจักรพรรดินีหลิงกับจักรพรรดิโอคาซี!”

นักเรียนตัวน้อยชี้นิ้วไปทางยานรบที่ลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “ว้าว! หนูศรัทธาในจักรพรรดินีหลิงมากเลยค่ะ!”

“ผมชอบจักรพรรดิโอคาซี!” เสียงจากเด็กชาย! เขากำหมัดและทำท่าทางต่อสู้ “ผมอยากเป็นผู้ชายที่มีพละกำลังแข็งแกร่งเหมือนจักรพรรดิโอคาซี!”

“หนูอยากเป็นเหมือนจักรพรรดินีหลิง อยากเอาชนะทั้งโลกได้ด้วย!”

“ผมชอบไกอาฮะ! ไกอาเป็นนักวิจัยที่แข็งแกร่งที่สุด! ผมอยากเป็นแบบเขา อยากสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงพลังอย่างสุดยอดอาวุธ!”

นักเรียนตัวน้อยตื่นเต้นกันมาก!

สวี่หลิงอวิ๋น โอคาซี และผู้ติดตามของเธอเป็นดั่งดวงดาวเจิดจรัสมาหลายร้อยปี ส่องสว่างชี้ทางให้กับเผ่ามนุษย์ทั้งปวง

พวกเขายกระดับกฎข้อบัญญัติสถานภาพของเผ่ามนุษย์ ทำลายแผนการสมคิดคบจากจักรวรรดิต่างดาวจำนวนนับไม่ถ้วน และกวาดล้างเผ่าพันธุ์ต่างดาวออกไปจนเกือบหมด!

ทุกวันนี้นโยบายของเธอดูเลือดเย็นมาก ทว่านโยบายดังกล่าวกลับทำให้ชีวิตของเผ่ามนุษย์มั่นคง

เมื่อไหร่ที่ชื่อของสวี่หลิงอวิ๋นหลุดรอดออกมา มนุษย์ต่างดาวจะเปลี่ยนท่าทีในทันที ราวกับเด็กน้อยที่หยุดร้องไห้!

หากถามว่าสองจักรวรรดิไหนที่ไม่ถูกโจมตี คงจะมีแต่จักรวรรดิเอลฟ์กับจักรวรรดิเคทเลอร์!

“เอาล่ะนักเรียนทุกคน มาคุยเรื่องประวัติศาสตร์กันต่อเถอะ” คุณครูปรบมือเพื่อดึงสติของนักเรียนตัวน้อยกลับมา

“นอกจากจักรพรรดิโอคาซีแล้ว จักรพรรดินีหลิงมีผู้ช่วยกี่คน? ไหนใครรู้บ้าง?”

“หนูรู้ค่ะ!” เด็กน้อยคนหนึ่งลุกขึ้นยืน “ชิงเย่จากเผ่าเอลฟ์! เขาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลความมั่งคั่งภายใต้จักรพรรดินีหลิง เขาเป็นรัฐมนตรีการคลังที่แข็งแกร่ง!”

“แล้วก็ลุคด้วย! ลุคเป็นจอมพลที่ทรงพลัง! หนูรู้มาว่าถ้าครั้งไหนจักรพรรดินีหลิงไม่อยากออกไปรบเอง พระองค์จะส่งจอมพลลุคออกไปแทน!”

“และทหารระดับสูงคนนั้น ฉินหยวน! ฉินหยวนก็น่าทึ่งมากค่ะ!”

“แล้วก็…”

เหล่านักเรียนตัวน้อยแย่งกันตอบคำถาม แม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะตายไปเมื่อร้อยปีก่อนแล้ว ทว่าผลงานของพวกเขาเลื่องชื่อมากจนไม่มีใครสามารถเพิกเฉยได้!

คุณครูปรบมือ “ดีมาก! ขอบคุณสำหรับคำตอบของนักเรียนทุกคน! ครูจะเล่าให้ฟังถึงคนคนหนึ่งที่มีน้อยคนนักจะรู้เกี่ยวกับเขา!”

เธอจิ้มนิ้วเบา ๆ เพื่อขยายภาพไปยังพื้นที่ที่ใกล้เคียงสวี่หลิงอวิ๋น ชายหนุ่มที่ดูอ้วนเล็กน้อยยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับใบหน้าที่ดูอัปลักษณ์เล็กน้อย ทว่าดวงตาของเขากลับดูตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว

“เคยเห็นคนนี้กันไหม?” คุณครูชี้ไปที่ชายหนุ่มคนดังกล่าว “คนนี้แหละที่เป็นผู้จงรักภักดีที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรพรรดินีหลิง เขาคือเบนเน็ต!”

“จากที่ตรวจสอบข้อมูลดู พละกำลังของเบนเน็ตน่าจะแข็งแกร่งกว่าทหารระดับสูงฉินหยวน เขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ภายใต้จักรพรรดินีหลิงกับจักรพรรดิโอคาซี!”

“ว้าว! เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอฮะ? ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินใครพูดถึงชื่อเขาเลย?!”

“ใช่ ๆ!”

“หนูรู้ค่ะ ที่เพราะเขาไม่ค่อยมีชื่อเสียง เพราะเขาคอยอยู่เคียงข้างจักรพรรดินีหลิงตลอด!”

“ผิด! ทุกคนคิดผิด!” คุณครูส่ายหัว ยิ้มเล็กน้อย และทันใดนั้นชายในชุดดำก็ปรากฏกายขึ้นกลางอากาศต่อหน้าทุกคน!

ชายในชุดดำดูหล่อเหลาและเป็นที่รักของผู้คนมาก

“ว้าว! สุดยอดมือสังหารหน้ากากทมิฬนี่เอง! ผมชอบเขามากเลยฮะ! แม่ผมติดละครของหน้ากากทมิฬงอมแงมเลย!”

“หนูก็ชอบเขา! เท่มากเลยค่ะ!”

“แม่ของพวกเธอชอบดูกันสินะ! อ๊ะ! ผมยังไม่ได้ดูอภินิหารจักรพรรดินีหลิงสักตอนเลย!”

“ฮ่า ๆ! นักเรียน กลับเข้าบทเรียนกันต่อเถอะ!” คุณครูพูด “ความจริงแล้วเบนเน็ตคือหน้ากากทมิฬที่ทุกคนชอบกัน!”

เธอยิ้มเบา ๆ มองดูสีหน้าที่ตกใจของเหล่านักเรียน ก่อนจะหัวเราะ

มือสังหารในชุดหน้ากากทมิฬ คือสาวกผู้ภักดีของจักรพรรดินีหลิงผู้ไม่ธรรมดา!

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท