เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล – ตอนที่ 142 ลุกเป็นไฟ

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ฉัง​เคอ​ร้องไห้​จน​ตาบวม​ ​เอน​ตัว​นอน​อยู่​บน​เตียง​ไม่ยอม​พบ​ใคร

หวัง​ซี​ถอนหายใจ​ ​ให้​ไป๋​กั่ว​ไปริน​ชาร้อน​มาถ​้วย​หนึ่ง​ยื่น​ส่ง​ให้​ฉัง​เคอ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เสียใจ​เสร็จ​แล้วก็​ให้​มัน​จบ​ไป​เสีย​ ​ตอนนี้​เจ้า​ต้อง​ดึง​เรี่ยวแรง​ออกมา​จัดการ​เรื่อง​นี้​ถึง​จะ​ถูก​ ​คง​ไม่​อาจ​แม้แต่​หน้าตา​ก็​ไม่ต้องการ​แล้ว​กระมัง​”

ฉัง​เคอ​รับ​ถ้วยชามา​ ​ถาม​อย่างว่าง​เปล่า​ว่า​ ​“​หมายความว่า​อย่างไร​”

เห็นได้ชัด​ว่า​คนยัง​จม​จ่อม​อยู่​กับ​เรื่อง​งานแต่ง​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป​ ​จึง​ไม่ทัน​ได้​ตรึกตรอง​ถึง​ปัญหา​อื่นๆ

หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​ไม่​ชอบใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​พอใจ​ที่​ถูก​คนอื่น​หัวเราะเยาะ​เช่นนี้​หรือ​ ​เวลานี้​มิใช่​ว่า​เจ้า​ควร​มาคิด​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อไป​ดี​หรอก​หรือ​”

ฉัง​เคอ​ฟัง​แล้ว​ถึง​ได้​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​ดื่ม​ชา​ไป​ครึ่ง​ถ้วย​ ​ไม่รู้​ว่า​คิด​อะไร​ขึ้น​มา​อีก​ ​กลับ​ไป​หดหู่​อีกครั้ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​วิ่ง​ไป​กอด​ขา​แม่สื่อ​เอาไว้​แล้ว​บอกว่า​งานแต่ง​นี้​เป็น​ของ​ข้า​ได้​หรือ​ ​นั่น​มิ​เท่ากับ​ว่ายิ​่ง​ขายหน้า​หรอก​หรือ​!​”

หวัง​ซีจิ​้​มห​น้า​ผาก​ของ​นาง​อย่าง​ขุ่นเคือง​ ​กล่าวว่า​ ​“​แต่​ก็​ไม่​อาจ​เอาแต่​นั่ง​เสียใจ​กับ​ตัวเอง​อย่าง​หมดอาลัยตายอยาก​อยู่​ตรงนี้​นี่​นา​!​ ​คนที​่​รัก​เจ้า​ร้องไห้​จน​ไม่​เหลือ​สภาพ​ ​ส่วน​คนที​่​ไม่​รัก​เจ้า​ ​ผู้ใด​จะ​สนใจ​ว่า​เจ้า​จะ​ร้องไห้​หรือไม่​ร้องไห้​ ​หรือ​ร้องไห้​นาน​แค่ไหน​?​ ​แทนที่​เจ้า​จะ​นั่ง​เสียใจ​อยู่​ตรงนี้​ ​ไม่​สู้​จัดการ​แต่งตัว​ให้​เรียบร้อย​แล้วไป​ดู​นาย​หญิง​สาม​สักหน่อย​ ​นาง​ย่อม​เสียใจ​ยิ่งกว่า​เจ้า​อย่างแน่นอน​”

ฉัง​เคอ​ก็​แค่​รู้สึก​เสียหน้า​เท่านั้น​ ​ทว่า​นาย​หญิง​สาม​นั้น​เป็น​เพราะ​รัก​บุตรสาว​จึง​เป็นทุกข์​ ​และ​ระดับ​ของ​ความเจ็บปวด​ก็​ไม่​เหมือนกัน

“​นอกจากนี้​เรื่องราว​เป็น​เช่นนี้​ไป​แล้ว​ ​เรื่อง​ใน​อดีต​ก็​ไม่ต้อง​ไป​คิดถึง​มัน​อีกแล้ว​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ต่อไป​ว่า​ ​“​เจ้า​ควรคิด​ว่า​จะ​แก้ปัญหา​หลังจากนี้​อย่างไร​ดีมาก​กว่า​!​”

ฉัง​เคอ​น้ำตาไหล​พราก​ลงมา​อีก​สอง​สาม​ระลอก​ ​ถึง​ได้​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไปดู​มารดา​ของ​ข้า​สักหน่อย​”

ส่วน​เรื่อง​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดีนั​้น​ ​สมอง​ของ​นาง​ยัง​ว่างเปล่า

หวัง​ซีพอ​จะเข้า​ใจ​ได้

ไม่ว่า​ใคร​ได้​ประสบ​พบ​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​งานแต่ง​ของ​ตัวเอง​อีก​ ​ย่อม​ไม่รู้​จะ​เริ่ม​จาก​ตรงไหน​ดี​เป็นเรื่อง​ธรรมดา

นาง​เรียก​ไป๋​จื่อ​เข้ามา​ปรนนิบัติ​ฉัง​เคอ​แต่งหน้า​แต่งตัว​ใหม่​ ​ส่วนตัว​เอง​นั่ง​ส่ง​หวี​ส่ง​ปิ่นปักผม​ให้​ไป๋​จื่อ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​ข้า​อยาก​ถาม​เจ้า​ว่างาน​แต่ง​กับ​ตระกูล​หวง​นั้น​ ​เจ้า​อยาก​ช่วงชิง​กลับมา​หรือ​อยาก​ปล่อย​ให้​มัน​จบ​ไป​เช่นนี้​?​”

ฉัง​เคอ​มอง​สตรี​ดวงตา​แดงก่ำ​และ​บวม​เป่ง​ใน​กระจก​ ​กล่าวว่า​ ​“​ต่อให้​ข้า​ไร้ยางอาย​แค่ไหน​ ​ก็​ไม่มีทาง​ไป​ประจบประแจง​อยาก​แต่ง​เข้า​บ้าน​ของ​พวกเขา​ให้​ได้​อีกแล้ว​ ​แน่นอน​ว่างาน​แต่ง​ครั้งนี้​คง​ต้อง​ปล่อยไป​”

ส่วน​เรื่อง​ต้องการ​ไปร​้​อง​โวยวาย​หรือไม่​นั้น​ ​หาก​ให้​พูดจาก​ใจจริง​ของ​นาง​แล้ว​ ​นาง​รู้สึก​ค้างคา​ใจ​หาก​ปล่อย​ให้​มัน​จบ​ลง​เช่นนี้​ ​แต่​ถ้า​ไปร​้​อง​โวยวาย​จริงๆ​ ​คนที​่​ต้อง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ก็​ยังคง​เป็น​นาง​อยู่ดี​มิใช่​หรือ​ ​ต่อไป​นาง​ยัง​ต้อง​แต่งงาน​อยู่​ ​นาง​แบกรับ​ความเสี่ยง​ที่เกิด​ขึ้น​หลังจากที่​โวยวาย​เสร็จ​แล้ว​ไม่ได้​จริงๆ

ฉัง​เคอ​กัด​ริมฝีปาก​ ​รู้สึก​ลำบากใจ​ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา

หวัง​ซี​มอง​แล้ว​ลอบ​ด่า​อยู่​ใน​ใจ​ไป​ประโยค​หนึ่ง​ ​อด​ต่อว่า​สือฮู​หยิน​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เมื่อก่อน​ไม่เคย​ปฏิสัมพันธ์​กับ​นาง​มาก​่อน​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่านาง​จะ​เป็น​คน​ไม่น่าเชื่อ​ถือ​ขนาด​นี้​ ​คำ​ว่า​ประเมิน​แม่สื่อ​ ​หมายความว่า​ต้อง​ดู​ว่า​แม่สื่อ​เป็น​คน​เช่นไร​นี่เอง​ ​ตอนที่​นาง​มา​พูด​เรื่อง​ทาบทาม​ที่​บ้าน​ ​พวกเรา​น่าจะ​ไป​สืบ​ดู​ว่านาง​เป็น​คน​เช่นไร​ก่อน​”

ฉัง​เคอ​หน้าบูดบึ้ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เป็น​พวกเรา​ที่​รีบ​ตอบรับ​เร็ว​เกินไป​”

ต่อให้​ใน​ใจ​รู้สึก​ว่า​ไม่​ค่อย​น่าเชื่อถือ​ ​แต่​เมื่อ​คิด​ว่า​คุณสมบัติ​ของ​อีก​ฝ่าย​ไม่เลว​เลย​จริงๆ​ ​ทำให้​ยังคง​มองข้าม​ความรู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​นั่น​ไป​อยู่ดี

“​แล้ว​บ้าน​รอง​คิดเห็น​เช่นไร​”​ ​หวัง​ซี​รีบ​ถาม

การสู่ขอ​นั้น​ ​เมื่อมี​คน​มา​ขอ​ ​ก็​ต้อง​มี​คน​ตอบรับ​ด้วย​ถึง​จะ​ใช้ได้

ตระกูล​หวง​มาสู่​ขอ​ได้​ ​ตระกูล​ฉั​งก​็​ปฏิเสธ​ได้​เช่นกัน​!

ฉัง​เคอ​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าว​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ว่า​ ​“​ข้า​ทั้ง​โกรธ​และ​อาย​เกิน​จะ​รับได้​ ​จึง​เอาแต่​ร้องไห้​ ​ลืม​ถาม​ไป​เลย​ว่า​สุดท้าย​ทาง​ด้าน​โน้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​บ้าง​”

หวัง​ซี​รีบ​ให้​คน​ไป​สืบ​ข่าว​ ​ใช้​ไข่ต้ม​ประคบ​ดวงตา​ให้​ฉัง​เคอ​ด้วยตัวเอง

ฉัง​เคอ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ก่อนหน้านี้​หวัง​ซี​โยน​ไข่ต้ม​ร้อน​ๆ​ ​ไป​ให้​นาย​หญิง​รอง​เรื่อง​นั้น​ขึ้น​มา​ ​พลัน​รู้สึก​ว่า​หัวใจ​ไม่ได้​เจ็บปวดรวดร้าว​ขนาด​นั้นแล​้ว

นาง​จับมือ​หวัง​ซี​ไว้​ ​กล่าว​เบา​ๆ​ ​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ​“​ขอบใจ​มาก​”

หวัง​ซี​เม้มปาก​กลั้น​ยิ้ม​ ​กล่าวว่า​ ​“​พวกเรา​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​มา​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ดู​ห่างเหิน​เกินไป​แล้ว​ ​ชีวิต​คนเรา​นี้​มี​ใคร​ไม่เคย​ประสบ​พบ​เจอ​ปัญหา​อะไร​เลย​บ้าง​?​ ​ขอ​เพียง​เจ้า​อย่า​เข้าไป​ใน​ซอยตัน​แล้ว​ออกมา​ไม่ได้​ก็​พอ​”

ฉัง​เคอ​พยักหน้า

อา​หนา​นที​่​หวัง​ซีส​่ง​ไป​สืบ​ข่าว​วิ่ง​กลับมา

นาง​ยู่​ปาก​กล่าว​อย่าง​โกรธแค้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​บอกว่า​เรื่อง​นี้​ยัง​ต้อง​คิดดู​ก่อน​ ​แต่​นาย​หญิง​รอง​กลับ​ตอบรับ​ไป​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ตระกูล​หวง​เอา​แผนภูมิ​ดวงชะตา​ของ​คุณหนู​สาม​กลับ​ไป​ด้วย​อย่าง​ยินดี​ ​โหวฮู​หยิน​โกรธ​จน​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​นาย​หญิง​รอง​กำลัง​ปลอบโยน​โหวฮู​หยิน​อยู่​ตรงนั้น​เจ้าค่ะ​!​”

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ต่าง​ตกตะลึง​จน​แน่นิ่ง

ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​นาย​หญิง​รอง​กลับ​ตอบรับ​การสู่ขอ​ของ​ตระกูล​หวง​?​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่​ตบหน้า​สั่งสอน​นาย​หญิง​รอง​สัก​ฉาด​?​ ​นาย​หญิง​รอง​ยัง​มีหน้า​ไป​ปลอบโยน​โหวฮู​หยิน​อยู่​ตรงนั้น​?

นี่​มัน​ครอบครัว​แปลกประหลาด​อะไร​กัน​แน่​!

หวัง​ซีนั​่ง​ไม่​ติด​ที่​ ​เพลิง​โทสะ​ใน​หัว​พวยพุ่ง​ ​ลุกขึ้น​มาก​็​เอ่ยปาก​ด่า​ ​“​สุนัข​กิน​สมอง​ไป​หมด​แล้ว​หรือ​อย่างไร​!​ ​เกียรติ​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไร้ค่า​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​!​ ​ผู้อื่น​คิด​จะ​เหยียบ​ก็​เหยียบ​ ​คิด​จะ​สลัดทิ้ง​ก็​สลัดทิ้ง​ได้​ง่ายๆ​!​ ​ไม่​แปลกที่​จวน​เซียง​หยาง​โหวก​ล้า​เห็น​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เป็น​ของเล่น​!​”

นาง​นึกถึง​งานแต่ง​ของ​คุณชาย​สาม​ฉัง​ ​อด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​นี่​คง​ขโมย​ของ​ของ​ผู้อื่น​จน​ชิน​ไป​แล้ว​กระมัง​ ​เห็น​ว่า​ดี​ก็​อดใจ​ไม่อยู่​แล้ว​”

กล่าว​จบ​ ​นาง​ถลก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​หมาย​จะ​ไป​คิดบัญชี​กับ​นาย​หญิง​รอง

“​เด็กดี​ ​อย่า​พูด​อีก​เลย​!​”​ ​นาย​หญิง​สาม​ที่​ไม่รู้​ว่า​เข้ามา​ใน​สวน​ร่ม​วสันต์​ตั้งแต่​เมื่อไร​จับ​แขน​ของ​หวัง​ซี​เอาไว้​ไม่​ให้​นาง​ขยับ​ ​“​ถือ​เสียว​่า​ข้า​ได้​รู้จัก​คน​อย่าง​นาง​แจ่มแจ้ง​ดี​แล้วก็​แล้วกัน​ ​เอาเปรียบ​พวก​ข้า​อย่างไร​้​เหตุผล​ครานี​้​ไป​แล้ว​ ​ต่อไป​อย่า​หวัง​ว่า​บ้าน​สาม​ของ​พวก​ข้า​จะ​แอบ​ส่ง​เงิน​ให้​บ้าน​รอง​ของ​พวกเขา​อีก​เลย​”

หวัง​ซีฟัง​แล้ว​พบ​ว่า​ใน​ถ้อยคำ​นี้​มี​อะไร​ซ่อน​อยู่​ ​จึง​รีบ​ดึง​นาย​หญิง​สาม​มาก​ระ​ซิบ​กระ​ซาบ​ด้วย

นาย​หญิง​สาม​เล่า​ให้​หวัง​ซีฟัง​ว่า​ ​“​พวก​ข้า​ช่วยดูแล​กิจการ​ให้​จวน​โหว​ ​ย่อม​ต้อง​หยิบยืม​อำนาจ​และ​ชื่อเสียง​ของ​ท่าน​โหว​มาด​้ว​ยอย​่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ ​นาย​หญิง​รอง​มีสิน​เจ้าสาว​มาก​ ​พ่อบ้าน​ที่​ช่วยดูแล​สิน​เจ้าสาว​ให้​นาง​มักจะ​มา​ขอให้​นายท่า​นข​อง​พวก​ข้า​ช่วย​จัดการ​ธุระ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ให้​บ่อยครั้ง​ ​พวก​ข้า​เห็นแก่​ที่​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​ไม่​เพียง​ช่วย​จัดการ​ให้​พวกเขา​อย่างเรียบร้อย​เท่านั้น​ ​บางครั้ง​ยัง​เอา​เงินกองกลาง​ให้​พวกเขา​ใช้​ทำเป็น​สินน้ำใจ​หรือ​สร้างชื่อเสียง​อีกด้วย​”

นาง​ร่ำไห้​กล่าว​ ​“​ต่อไป​นาง​อย่า​ได้​หวัง​เรื่อง​พวก​นี้​อีก​เลย​!​”

คนดี​มัก​ถูก​รังแก​จริงๆ

หวัง​ซี​เดือดดาล​ ​ไม่ว่า​นาย​หญิง​สาม​จะ​พูด​อะไร​ ​ยังคง​กล่าวว่า​ ​“​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​จบ​ไป​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ได้​”

แต่​นาง​เป็น​คนที​่​ยิ่ง​โกรธ​มาก​เท่าไร​ก็​จะ​ยิ่ง​นิ่ง​สงบ​มาก​เท่านั้น

นาง​ถาม​นาย​หญิง​สาม​ว่า​ ​“​สรุป​ว่างาน​แต่ง​ของ​ฉัง​เหยี​ยน​กับ​ตระกูล​หวง​ถือว่า​ตกลง​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​?​”

นาย​หญิง​สาม​พยักหน้า​ ​กล่าวว่า​ ​“​แลกเปลี่ยน​แผนภูมิ​ดวงชะตา​กัน​แล้ว​ ​ยัง​จะ​ทำ​อะไร​ได้​อีก​”

มี​วิธีการ​มากมาย​ก็​จริง​ ​เพียงแต่ว่า​ฉัง​เคอ​ไม่​คิด​จะ​ช่วงชิง​งานแต่งงาน​นี้​กลับมา​แล้ว​ ​หวัง​ซี​เอง​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​ว่างาน​แต่งงาน​ครั้งนี้​วิเศษ​วิ​โส​อะไร​เหมือนกัน​ ​ทำให้​วิธีการ​บางอย่าง​นำมาใช้​ไม่ได้​แล้ว

นาง​ถาม​ฉัง​เคอ​ ​“​เจ้า​บอก​ข้ามา​ตามตรง​ว่า​ตกลง​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

ไม่มีทาง​เปลี่ยนคน​โดย​ไร้​สาเหตุ​อย่างแน่นอน​ ​ต้อง​มี​ลางบอกเหตุ​อะไร​บางอย่าง​ ​ต่อให้​ก่อนหน้านี้​มอง​ไม่​ออก​ ​แต่​มาท​บท​วน​อีกที​หลัง​เกิดเรื่อง​ไป​แล้ว​ ​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ไม่​พบ​ร่องรอย​อะไร​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

นาย​หญิง​สาม​เอง​ก็​มอง​บุตรสาว​เช่นกัน​ ​อยากรู้​ว่า​ระหว่าง​เรื่อง​นี้​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่

ฉัง​เคอ​เอง​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​เพราะอะไร​ ​กล่าว​อย่าง​ทบทวน​ว่า​ ​“​ก่อนหน้านี้​ทั้งสอง​ครอบครัว​ยัง​ไม่ได้​ตกลง​กัน​ ​ท่าน​แม่​กับ​ข้า​ล้วน​คิด​ตรงกัน​ว่า​ไม่​ควร​ป่าวประกาศ​ออก​ไป​ ​แม้แต่​ตอน​ไปดู​ตัว​ ​ก็​มี​แค่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กับ​โหวฮู​หยิน​เท่านั้น​ที่​รู้​ ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​รอง​กับ​พี่สาว​สาม​ไม่​เข้ามา​ยุ่ง​เลย​ตั้งแต่​ต้น​ ​มี​แค่​ตอน​เดินทาง​ไป​วัด​หลิง​กวง​ ​ระหว่างทาง​พี่สาว​สาม​ถาม​เรื่อง​ตระกูล​หวง​กับ​ข้า​เล็กน้อย​ ​ตอนนั้น​ข้า​ไม่ได้​ใส่ใจ​อะไร​ ​คิด​ว่า​เป็น​แค่​การ​สนทนา​ทั่วไป​ระหว่าง​พี่น้อง​เท่านั้น​”

ขณะที่​นาง​เล่า​ ​ก็​มีบาง​เรื่อง​ที่​ค่อยๆ​ ​เด่นชัด​ขึ้น​มา

“​เมื่อ​ไป​ถึง​วัด​หลิง​กวง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​สตรี​ของ​ตระกูล​หวง​กับ​สือฮู​หยิน​ก็​อยู่​ด้วย​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จึง​บอกว่า​ ​พวก​ข้า​ควร​ไป​กล่าว​ทักทาย​สักครั้ง​หนึ่ง​ ​เมื่อ​ข้า​…​แต่ง​ไป​แล้ว​จะ​ได้​ไม่​ลำบาก​ ​ท่าน​แม่​ได้ยิน​แล้วจึง​พา​ข้า​ไป​ที่​เรือน​พัก​ของ​ตระกูล​หวง​ ​ตอนนั้น​ตระกูล​หวง​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​ข้า​อย่างกระตือรือร้น​ ​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​ของ​พวกเขา​ยัง​ดึง​มือ​ข้า​ไป​คุย​ด้วย​ครู่หนึ่ง​”

นี่​จึง​เป็นไปไม่ได้​ที่​ตระกูล​หวง​ไม่​พึงพอใจ

หวัง​ซี​ถาม​ ​“​แล้ว​เจ้า​ได้​เจอ​คุณชาย​หวง​หรือไม่​”

“​ไม่ได้​เจอ​!​”​ ​ฉัง​เคอ​พูดถึง​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ ​ใบหน้า​ยังคง​แดง​เรื่อ​อยู่เล็ก​น้อย​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ตอน​ไปดู​ตัว​ครั้งนั้น​ ​ก็​เห็น​จาก​แค่​ไกลๆ​ ​เท่านั้น​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​ ​กำลังจะ​ถาม​ให้​ละเอียด​มากขึ้น​นั้น​ ​นาย​หญิง​สาม​กลับ​ตบ​โต๊ะ​ดัง​ปัง​ ​กล่าว​เสียงดัง​ว่า​ ​“​ข้า​นึกออก​แล้ว​ ​วันนั้น​ที่​วัด​หลิง​กวง​ ​หลังจากที่​พวก​ข้า​ออกมา​จาก​เรือน​พัก​ของ​ตระกูล​หวง​ ​นาย​หญิง​รอง​ดึง​มือ​ข้า​ไป​คุย​ด้วย​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​ข้า​ยัง​ถามถึง​หลาน​สาม​ด้วย​ ​นาง​บอกว่า​หลาน​สาม​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบาย​ ​จึง​ไป​พัก​ที่​ห้อง​ชั้นใน​แล้ว​ ​ตอนนั้น​ข้า​ยัง​คิด​ว่า​อาจ​เป็น​เพราะ​งานแต่ง​ของ​หลาน​สาม​ไม่​ราบรื่น​ ​นาง​ทุกข์ใจ​จึง​ไม่​อยาก​มาทัก​ทาย​พวก​ข้า​ก็​มี​ความเป็นไปได้​เหมือนกัน​ ​นอกจาก​ไม่​ถาม​อะไร​มาก​แล้ว​ ​ข้า​ยัง​ให้​สาวใช้​ส่ง​ขนม​ไป​ให้​นาง​ด้วย​…

…​ที่แท้​ข้า​เข้าใจผิด​ไป​นี่เอง​!​”

หวัง​ซี​ไม่เข้าใจ

ฉัง​เคอ​โกรธ​จน​หน้าแดง​ก่ำ​ ​กล่าวว่า​ ​“​วันนั้น​คำพูดคำจา​ของ​คน​ตระกูล​หวง​ล้วน​บอกเป็นนัย​ว่า​คุณชาย​หวง​ก็​อยู่​ที่​วัด​หลิง​กวง​ด้วย​ ​แต่​น่าจะ​ไป​คารวะ​เยี่ยมเยียน​ครอบครัว​ของ​พวกเรา​ ​ข้า​กับ​ท่าน​แม่​รอ​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ตั้ง​นาน​กลับ​ไม่เห็น​มี​ใคร​มาหา​ ​ตอน​เดินทาง​กลับ​ท่าน​แม่​ยัง​ขุ่นเคือง​เล็กน้อย​ด้วย​ ​บอกว่า​คุณชาย​หวง​ดูแคลน​ข้ามาก​เกินไป​แล้ว​ ​รู้สึก​ไม่​ชอบใจ​ยิ่งนัก​”

นาง​ยัง​ปลอบใจ​มารดา​ว่า​หาก​ตระกูล​หวง​ดูแคลน​นาง​จริง​ ​คง​ไม่​บอก​พวก​นาง​ว่า​คุณชาย​หวง​ก็​อยู่​ที่​วัด​หลิง​กวง​ด้วย​หรอก

ไม่แน่​ว่า​ปัญหา​อาจ​เริ่ม​มาจาก​ตรงนี้​ก็​เป็นได้

ฉัง​เคอ​มอง​หวัง​ซีด​้วย​ใบหน้า​ซีด​เล็กน้อย

ถ้า​เป็น​เช่นนี้​จริง​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​บ้าน​รอง​ขโมย​ไป​อย่าง​หน้า​ชื่นตา​บาน​แล้ว

หวัง​ซีกั​บนาย​หญิง​สาม​เข้าใจ​ทุกอย่าง​แล้ว​ ​หวัง​ซี​แสยะ​ยิ้ม​เย็น​ ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ต้องการ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่​นับว่า​เป็นเรื่อง​ยาก​ ​มิใช่​ว่า​สือฮู​หยิน​เป็น​แม่สื่อ​ให้​หรอก​หรือ​ ​พวกเรา​ไม่ต้อง​ไปหา​ผู้ใด​ ​ไปหา​สือฮู​หยิน​ก็​พอ​ ​อย่างไร​นาง​ก็​ต้อง​ให้​คำอธิบาย​กับ​พวกเรา​สัก​อย่าง​กระมัง​”

นาง​นึกถึง​เรื่อง​ของ​เฉินลั​่​วกับ​ตระกูล​สือ​ ​รู้สึก​ว่า​จำเป็นต้อง​บอกกล่าว​ให้​เฉินลั​่​วรู​้​เอาไว้​ ​ตระกูล​สือ​ไม่ใช่​คนที​่​สมควร​ผูกมิตร​ด้วย​ ​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​ต้อง​ระวังตัว​เอาไว้​ถึง​จะ​ถูก

นาย​หญิง​สาม​ฟัง​แล้ว​พยักหน้า​เห็นด้วย​ไม่​หยุด​ ​หลังจาก​พยักหน้า​แล้วก็​รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​จะ​ไปหา​สือฮู​หยิน​เพื่อ​คุย​เรื่อง​นี้​อย่างไร​ดี​ ​รีบร้อน​เกินไป​ ​อาจ​ทำให้​ผู้อื่น​หัวเราะเยาะ​ได้​ ​แต่​ถ้า​ช้า​เกินไป​ ​สือฮู​หยิน​อาจ​คิด​ว่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​นี้

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​หวัง​ซีก​ลับ​จัดแจง​ทุกอย่าง​เสร็จสรรพ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ด้าน​สือฮู​หยิน​ ​หา​คน​ไป​บอก​สัก​คน​หนึ่ง​ ​แต่​ทางฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ท่าน​คง​ต้อง​ไป​พูด​ด้วยตัวเอง​ ​เนื่องจาก​ท่าน​คือ​เจ้าทุกข์​ ​ให้​พวก​ข้า​ไป​พูด​อาจ​ดู​ไม่​ถูกต้อง​นัก​ ​ทำได้​แค่​ให้กำลังใจ​ท่าน​อยู่​ข้างๆ​ ​เท่านั้น​”

ใน​บ้าน​หลัง​นี้​ ​มี​ใคร​ไม่สน​แต่​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​เท่านั้น​บ้าง​ ​การ​ช่วย​ให้กำลังใจ​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​นับว่า​ดี​แล้ว

นาย​หญิง​สาม​ซาบซึ้งใจ​ยิ่งนัก​ ​จับมือ​ของ​หวัง​ซี​เอาไว้​กล่าว​ขอบคุณ​ครั้งแล้วครั้งเล่า

หวัง​ซี​เห็น​ว่า​เรื่องราว​ล้วน​ได้รับ​การ​จัดแจง​ไป​ไม่น้อย​แล้ว​ ​จึง​ปล่อย​ให้​นาย​หญิง​สาม​สอง​แม่​ลูก​ได้​คุย​เรื่องส่วนตัว​กัน​ ​ส่วนตัว​เอง​กลับ​ไป​ที่​สวน​ร่ม​หลิว

เพียงแต่ว่า​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​นั่งลง​ ​คุณหนู​พาน​ก็​มาหา

นาง​กล่าว​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​หาก​มีเรื่อง​อะไร​ที่​ข้า​พอ​จะ​ช่วยเหลือ​ได้​ ​ขอ​เพียง​เจ้า​เอ่ยปาก​บอก​”

นาง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​กับ​หวัง​ซี​ไม่​เหมือนกัน​ ​หวัง​ซี​เป็น​หลานสาว​ที่​ถูกต้อง​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​แต่​นาง​เป็น​เพียง​ญาติ​ที่​ดอง​กับ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เท่านั้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​อา​หญิง​ของ​นาง​ยัง​ควบคุม​จวน​แห่ง​นี้​ไม่ได้​ ​นาง​จึง​พูด​ให้​น้อย​ทำให้​น้อย​ ​ไม่​สร้าง​ปัญหา​เพิ่ม​ให้​อา​หญิง​จะ​ดีกว่า

แต่​เรื่อง​ของ​ตระกูล​หวง​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ขยะแขยง​เป็นอย่างมาก​ ​หลังจาก​รู้​ท่าที​ของ​หวัง​ซี​แล้ว​ ​นาง​ก็​อด​มาหา​หวัง​ซี​ไม่ได้​ ​ยัง​เสนอ​ความเห็น​ให้​หวัง​ซีด​้วย​ว่า​ ​“​สิ่ง​สำคัญ​ของ​เรื่อง​นี้​คือ​ท่าที​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ต่อให้​แลกเปลี่ยน​แผนภูมิ​ดวงชะตา​กัน​แล้ว​ ​แต่งาน​แต่ง​ไม่​เกิดขึ้น​เพราะ​ดวงชะตา​เข้ากัน​ไม่ได้​ก็​มี​ให้​เห็น​ถมเถ​ไป​”​

หวัง​ซีก​ลับ​กล่าว​อย่าง​รังเกียจ​ว่า​ ​“​จะ​ให้​ตระกูล​หวง​มา​หักหน้า​พี่สาว​สี่​อีกครั้ง​หรือ​อย่างไร​ ​พวก​นาง​รู้สึก​ว่า​ดีนัก​ไม่ใช่​หรือ​ ​เช่นนั้น​ก็​ให้​พวก​นาง​กอด​ขา​ของ​บุตร​เขย​เต่าทอง​คำ​ผู้​นั้น​เอาไว้​แล้ว​มีชีวิต​ให้​ดี​ก็แล้วกัน​ ​ไม่​คุ้มค่า​ที่จะ​มา​โมโห​คน​เช่นนี้​”​

คุณหนู​พาน​ถาม​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ตระกูล​หวง​มีปัญหา​อะไร​หรือเปล่า​”

……………………………………………………………………..

ตอนต่อไป

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

Status: Ongoing
เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล นางเติบโตมาท่ามกลางความรักและอบอุ่น ส่วนเขามีแต่ความเย็นชาและหวาดระแวง หัวใจของเขาพลันหลอมละลายเมื่อได้พบนาง…หวังซี บุตรสาวจากตระกูลพ่อค้าแสนร่ำรวยเดินทางมาพักอาศัยชั่วคราวที่บ้านญาติ ณ เมืองหลวงที่นั่นนางได้พบกับ เฉินลั่ว ชายหนุ่มแสนเย็นชาที่พักอยู่ข้างบ้านนางและเขามีนิสัยราวกับเป็นขั้วตรงข้าม นางสดใส เขากลับเย็นชา ชอบทำหน้าปั้นปึ่งทั้งวันแต่ด้วยเหตุบังเอิญหลายอย่างทำให้นางได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเฉินลั่วและเรื่องราวซับซ้อนในวังหลวงหลายครั้งพานพบ จากคนแปลกหน้ากลายเป็นผู้รู้ใจท่ามกลางคลื่นลมมากมายในเมืองหลวง บุปผางดงามกลับค่อยๆ ผลิบานในใจของคนทั้งคู่…เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท