สำรับมนตราของชายาอ๋อง [戏精王妃的魔力美食屋] – บทที่ 187 งานอภิเษกสมรสที่ยิ่งใหญ่

สำรับมนตราของชายาอ๋อง [戏精王妃的魔力美食屋]

บทที่ 187 งานอภิเษกสมรสที่ยิ่งใหญ่

“จะตบท่านไปทำไม หากมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่ในตำหนักแล้วท่านจะต้องถูกตบสองครั้ง ท่านก็คงต้องโดนหม่อมฉันตบทุกวัน แล้วเรื่องผิงเล่อเฮ่า ท่านต้องเข้าใจว่านี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับท่านอย่างยิ่ง และเตรียมพร้อมให้ท่านเข้ายึดอำนาจทางทหาร”

หมี่โม่หรู่ “…”

เขาเข้าใจเจตนาของพระบิดาดีแต่เขาก็ยิ่งไม่มีความสุข ในสายตาของเสี่ยวเข่อนั้น การแต่งงานกับท่านหญิงอี๋ฮวนเป็นที่ยอมรับได้อย่างสนิทใจหรือ?!

นางมองเรื่องนี้อย่างเป็นกลางและสงบโดยปราศจากอารมณ์ได้อย่างไร?!

มีน้อยครั้งมากที่หมี่โม่หรู่จะงอนนาง หลังจากกินอาหารไปเพียงเล็กน้อย เขาก็กลับไปที่ห้องอ่านหนังสือเพื่อทำงานของตัวเอง

ฉินปู้เข่อจ้องมองแผ่นหลังของเขาที่จากไปแล้วกลืนเนื้อเข้าไปหนึ่งคำอย่างแรง พลางระงับความเย็นยะเยือกที่สะสมอยู่ในใจของตนเอง

เอ๊ะ… เหตุใดการกินครั้งนี้ถึงไม่ค่อยได้ผล หรือว่ามีอะไรที่แก้ด้วยอาหารมื้อนี้ไม่ได้ หรือเป็นเพราะนางไม่เลิกกินเนื้อตั้งแต่เที่ยงวันนี้ เหตุใดหน้าของนางจึงยังคงบูดบึ้งอยู่

ในเวลาไม่ถึงสองวัน วันอภิเษกสมรสของท่านอ๋องกับท่านหญิงอี๋ฮวนก็ถูกกำหนด และมันเป็นวันมงคลในอีกครึ่งเดือน

ครึ่งเดือน รีบถึงเพียงนั้นเลยหรือ?! เป็นเพราะไม่มีใครต้องการสตรีผู้นี้เลยอยากให้แต่งงานเร็ว ๆ หรือเปล่า?!

ฉินปู้เข่อหยิบกรรไกรสีทองขนาดเล็กขึ้นมาตัดแสงเทียน มองดูท้องฟ้าสีเทานอกตำหนัก ก่อนจะล้างหน้าและผล็อยหลับไป

หมี่โม่หรู่กลับมาที่สวนเฉินอวี้ในยามไฮ่ด้วยร่างกายที่อ่อนล้า ลานตำหนักเงียบสงบ เมื่อซวงหวนเห็นเขามาแล้วก็พูดว่า “พระชายาพักผ่อนแล้วเพคะ”

“พักผ่อนหรือ?!”

ซวงหวนพยักหน้าและอธิบายว่า “เพคะ สตรีมีครรภ์ง่วงนอนมากกว่าคนทั่วไป และพระชายาก็หลับไปนานกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว”

เมื่อหมี่โม่หรู่ตื่นและออกไปในวันรุ่งขึ้น ฉินปู้เข่อก็ยังคงตื่นอยู่

หลังจากหายไปสองสามครั้งในตอนเช้าและกลางคืน บรรยากาศของตำหนักก็แปลกไป เมื่อเห็นว่างานรื่นเริงกำลังใกล้เข้ามา ตำหนักก็ยังคงเต็มไปด้วยหญ้าและไม่มีใครกังวลเรื่องการจัดเตรียมตำหนัก

พระชายาที่กำลังตั้งครรภ์ควรกินและดื่มตลอดทั้งวัน ตอนกลางวันเดินเล่นในสนามหญ้าและตอนกลางคืนสูดอากาศอยู่ในห้อง

ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างท่านอ๋องก็ไปอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ แม้จะดึกแล้วแต่แสงเทียนในห้องก็ยังคงไม่ดับ อารมณ์ของท่านอ๋องผู้อ่อนโยนและไม่แยแสมาโดยตลอดเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ฝีเท้าของเขาเร็วและไม่เป็นระเบียบขณะก้าวเดิน และมีความหงุดหงิดอยู่ในดวงตาของเขา แม้แต่องครักษ์ที่ใกล้ชิดที่สุดก็ยังถูกท่านอ๋องลงโทษให้คุกเข่าทั้งคืน เพราะยกชามาให้ผิดถ้วย

สิ่งนี้ทำให้เหล่านางกำนัลในวังมีความอึดอัด และพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวหลายครั้งว่า สตรีมีครรภ์จะมีอารมณ์แปรปรวนอย่างมากไม่ใช่หรือ แต่คนที่ดูเปลี่ยนไปน่าจะเป็นทั้งท่านอ๋องและพระชายา พระชายายังคงประพฤติตัวนิ่งเงียบและดูเหมือนท่านอ๋องจะเปลี่ยนไปด้วย

ห้าหรือหกวันก่อนจะหย่าร้างมีจดหมายมาจากจวนมหาเสนาบดี ความว่าอนุหลัวคิดถึงลูกสาวและเป็นห่วงสุขภาพ จึงต้องการจะรับนางไปอยู่ด้วยสักสองสามวัน

ฉินปู้เข่อตกลงอย่างง่ายดาย แล้วเก็บเสื้อผ้าสองสามชิ้นกลับไปบ้านพ่อแม่ของนาง

เนื่องจากตอนนี้หมี่โม่หรู่ได้ทำงานในราชสำนักอย่างหนัก ฉินเฉิงหย่งจึงต้อนรับลูกสาวของตนด้วยการเตรียมห้องที่กว้างขวางและสะดวกสบายในจวนมหาเสนาบดีไว้ให้ และห้องครัวด้านหลังยังได้เตรียมอาหารบำรุงตามความต้องการของสตรีมีครรภ์ราวครึ่งเดือนด้วย

ฉินปู้เข่อถือชามและมองสายตาที่ห่วงใยของอนุหลัว นางรู้สึกว่าคงดีที่จะอาศัยอยู่ในจวนมหาเสนาบดีในระหว่างตั้งครรภ์ อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีผู้หญิงแปลกหน้ามาปรากฏตัวในตำหนักเมื่อใด

วันนี้ฉินปู้เข่อพูดคุยกับอนุหลัวเล็กน้อยในตอนรับประทานอาหารเย็น จากนั้นจึงขอตัวกลับไปพักผ่อนที่ห้องของนางด้วยความเหนื่อยล้า อันที่จริงนางไม่ได้นอนหลับสบายมาสองวันแล้ว

หลังจากพลิกตัวไปมาบนเตียงสักพักก็พบว่านางยังคงนอนไม่หลับ และไม่ได้หลับตาลงเป็นเวลาสองวันสองคืนติดต่อกันแล้ว ตอนนี้เปลือกตาของนางหนักอึ้งแต่ใจของนางกลับไม่ยอมสงบ พรุ่งนี้จะเป็นวันแห่งความสุขของอ๋องหลี่ชิน

หมี่โม่หรู่กำลังจะได้สวมชุดแต่งงาน และนั่งบนหลังม้าสูงเพื่อแต่งงานกับหญิงอื่น

ความคิดนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉินปู้เข่อ ยามราตรีเงียบสงัดในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นางเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ

เมื่อคิดดูแล้วก็พบว่าดูเหมือนนางจะไม่มีงานแต่งงานที่ดีเลย

ในคืนนั้นนางถูกหมี่เซวียนกับฉินเฉิงหย่งชี้ให้จับคู่กับหมี่โม่หรู่โดยพลการ เย็นวันนั้นชุดแต่งงานของทั้งสองจึงไม่ได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

แม้แต่ผ้าคลุมหน้าสีแดงของนาง นางก็เป็นคนจับมือหมี่โม่หรู่เพื่อบังคับให้เขาเปิดมันออกบนรถม้า คิดดูแล้วก็ช่างน่าขันราวกับว่ากำลังซ้ำเติมตัวเองอยู่

ตอนนี้คิดว่าไม่มีเจ้าสาวคนใดน่าขายหน้ามากไปกว่านางแล้ว

นางลืมตาจนถึงรุ่งสาง เมื่อนางได้ยินเสียงอนุหลัวนอกห้องเรียกให้นางตื่น นางก็รีบหลับตาลงและแสร้งทำเป็นหลับ

“นายหญิง ได้เวลาตื่นแล้วเพคะ” ซวงหวนยืนอยู่ข้างหน้านางด้วยรอยยิ้ม และอนุหลัวก็มองดูนางอย่างจริงจัง

นางไม่ได้หลับมาสองสามวันแล้ว สองนาทีหลังจากหลับตาลงฉินปู้เข่อก็ผล็อยหลับไปจริง ๆ นางรู้สึกเหมือนกำลังจะเข้าสู่สภาวะหลับลึกและกำลังจะฝัน

ง่วงนอนสุดขีด ในเวลานี้นางแค่รู้สึกเหนื่อยและไม่อยากสนใจใครแล้ว

“ขอข้านอนต่ออีกหน่อยเถอะนะ” นางพลิกตัวหันหลังให้ทั้งสองคนพลางพึมพำขอชดเชยการนอน วันนี้ข้างนอกคึกคักมากแต่นางไม่อยากได้ยินเลย และคิดว่าใช้เวลานอนบนเตียงยังจะดีกว่า

อนุหลัวและซวงหวนยืนกรานที่จะดึงนางให้ลุกขึ้นจากเตียง “วันนี้มีเรื่องสำคัญจะต้องทำ เลิกนอนได้แล้ว”

“อะไรนักหนา ข้าไม่ใช่คนใหม่ที่หมี่โม่หรู่ต้องแต่งงานด้วยและถูกส่งตัวเข้าหอคืนแรกเสียหน่อย” ฉินปู้เข่อพึมพำโดยไม่ลืมตา

เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ อนุหลัวและซวงหวนก็ไม่บังคับนางให้ตื่นอีกต่อไป แต่ปล่อยให้นางหลับตาลงและพานางไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง คนหนึ่งทำผมของนางและอีกคนหนึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้

ในขณะที่ฉินปู้เข่อก้มศีรษะลงก็มีเสียงแผ่วเบาลอยเข้าหูนางว่า “ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้ว เจ้าสาวพร้อมหรือยัง”

“พร้อมแล้ว~~~” ใครบางคนตอบ

ฉินปู้เข่อตกใจ ให้ตายเถอะ นี่นางกำลังฝันถึงฉากการแต่งงานของหมี่โม่หรู่หรือ?!

ศีรษะของนางสั่นไปมาเล็กน้อยและมีคนมาจับหน้าผากนางอีกครั้ง อนุหลัวปลอบนางด้วยความกระวนกระวายระคนขบขัน “อย่าเพิ่งส่าย ขึ้นรถม้าแล้วค่อยหลับให้สบาย”

“ตกลง…”

ฉินปู้เข่อรู้สึกราวกับว่าตนถูกใครบางคนพยุงให้เดินโซเซออกไปด้วยความงุนงง ในมือของนางมีของทรงกลมเย็น ๆ ยัดใส่ไว้ด้วย

นางลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วดวงตาของนางก็เห็นเพียงสีแดงตรงหน้า สมองของนางถามตัวเองว่ายังคงฝันอยู่หรือไม่?!

เสียงฆ้องและกลองงานรื่นเริงยังคงดังก้องอยู่ในหูของนาง นางยกมือขึ้นปิดหูของนางเพื่อลดเสียง แล้วก็มีมือใหญ่จับมือของนางแล้วดึงไป

เสียงในหูของนางเงียบลง แล้วนางก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าตามมือใหญ่อันอบอุ่นนั้น

จากนั้นในที่สุดนางก็นั่งลงและทั้งร่างของนางก็เอนพิงผนังรถม้าด้านข้างทันที เมื่อได้พิงวัตถุที่แข็งแรง ฉินปู้เข่อก็ตกอยู่ในห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์

การโยกไปมาทำให้นางหลับสบายยิ่งนัก นางไม่รู้ว่าตนเองหลับไปนานเพียงใด แล้วการโยกไปมาเล็กน้อยก็หยุดลงกะทันหัน นางจึงบิดตัวเพื่อเอนกายให้สบายยิ่งขึ้น

………………………………………………………………….

สำรับมนตราของชายาอ๋อง [戏精王妃的魔力美食屋]

สำรับมนตราของชายาอ๋อง [戏精王妃的魔力美食屋]

Status: Ongoing
เธอแค่ออกมาหาอะไรกินแก้หิวตอนดึก แต่อยู่ดี ๆ ก็ทะลุมิติและฟื้นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ในร่างของชายาอ๋องขี้โรคผู้อ่อนแอ ไหนจะระบบบ้า ๆ ที่ติดตัวมาอีกหญิงสาวที่ออกมาหาอะไรกินยามค่ำคืน จู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุทะลุมิติมายังยุคจีนโบราณเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในร่างของ ‘ฉินปู้เข่อ’สตรีที่งดงามและปราดเปรื่องอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาท แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจับพลัดจับพูลได้แต่งงานกับ ‘หมี่โม่หรู่’ อ๋องเจ็ดผู้ขี้โรคแทนการทะลุมิติครั้งนี้นางไม่ได้มาตัวเปล่า แต่มาพร้อมกับ ‘ระบบวิเศษ’ ที่เมื่อเก็บแต้มได้ตามเป้าหมายจะสามารถแลก ‘อาหาร’ วิเศษไว้ใช้ในยามคับขัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน