ช่วงเวลาที่เกราะป้องกันเทพเจ้าของโจวเหว่ยชิงมีผลนั้นแทบจะไร้ที่ติ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สามารถปิดกั้นบอลอัคคีได้เท่านั้น ทว่ายังหยุดการโจมตีของศัตรูที่มีพลังยุทธ์ประเภทยืดหยุ่นได้อีกด้วย ในขณะที่ทำเช่นนั้น มือขวาของเขาก็ได้ฟาดลงไปบนไหล่ของจ้าวมณีสวรรค์ประเภทความแข็งแกร่งในคราวเดียวกันด้วย
ท่ามกลางประกายแสงวิบวับจากเกราะป้องกันเทพเจ้า แขนขวาของโจวเหว่ยชิงพลันถูกปกคลุมไปด้วยถุงมือหุ้มเกราะสีทองเหลือบดำ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ข้อศอกจรดฝ่ามือของเขา
ที่บริเวณชั้นนอกของถุงมือมีมณีฝังอยู่หลากสีเป็นรูปตาข่ายทึบ ทั้งทนทานและแข็งแรง นอกจากนั้น ที่บริเวณมือแต่ละนิ้วยังมีกรงเล็บยาว 1 ฉื่องอกออกมาด้วย
แม้จะมีความคล้ายคลึงกับปลอกแขนของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ แต่ปลอกแขนของเขาก็แตกต่างออกไปเล็กน้อย หญิงสาวมีมณียุทธ์แปรสภาพคู่และปลอกแขนของเธอก็ลากยาวไปจรดไหล่ แต่สำหรับศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าของโจวเหว่ยชิงนั้น แม้ว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนาน ทว่ามันก็ลากยาวไปจนถึงแค่ข้อศอกของเขาเท่า นั้น แต่กระนั้น มันก็ให้ความรู้สึกมั่นคงและทนทานดุจเหล็กกล้า กรงเล็บของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์นั้นยาวมากและสามารถใช้เป็นอาวุธโจมตีได้ ในขณะที่กรงเล็บยาว 1 นิ้วของโจวเหว่ยชิงนั้นกลับโค้งเข้าด้านในเล็กน้อยคล้ายกับกรงเล็บของสัตว์ร้าย
*ตูม* เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นและภาพอันน่าตกตะลึงเบื้องหน้าก็ทำให้ชายในชุดดำเหล่านั้นแน่นิ่งไป สหายชุดดำของพวกเขา ผู้ที่เคยใช้ผิวหนังหุ้มหินร่วมกับเกราะไหล่ศาสตรามณียุทธ์เพิ่งถูกอีกฝ่ายทุบเข้าที่ไหล่จนแตกละเอียดเป็นเศษเล็กเศษน้อย อีกทั้งกรงเล็บของโจวเหว่ยชิงยังเจาะทะลวงเข้าไปภายในไหล่ของเขาอย่างโหดเหี้ยม
ถุงมือออกศึกของโจวเหว่ยชิงคู่นี้เป็นชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานชิ้นที่ 2 ของเขา และมันก็หลอมรวมเข้ากับอุปกรณ์ชิ้นที่ 3 ในชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานที่เรียกว่าเกราะมือยักษ์วิญญาณหยินหยาง
มือขวาคือเกราะมือยักษ์วิญญาณหยาง ในทำนองเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาอีกทางหนึ่ง แม้ว่ามันจะไม่รุนแรงและเหี้ยมโหดเท่าค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตำนาน แต่พลังการเจาะทะลวงของมันก็เหนือกว่ากว่าค้อนคู่มาก
ขณะอยู่ในสถานะปีศาจกลายร่าง เดิมความแข็งแกร่งของโจวเหว่ยชิงก็อยู่ในระดับที่น่ากลัวมากแล้ว ตอนนี้ยิ่งได้รับการปรับปรุงให้เหนือไปอีกขั้นด้วยชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานและพลังทำลายล้างของเกราะมือยักษ์วิญญาณหยาง แม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ระดับ 6 ชุดก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้
ฝ่ามือที่มีแสนยานุภาพระดับสูงดังกล่าวทำลายกระดูกไหล่ขวาของศัตรูไปได้อย่างราบคาบ และพลังของเกราะมือยักษ์วิญญาณหยางก็ถูกส่งเข้าไปภายในไหล่ของอีกฝ่าย แรงดึงดูดอันทรงพลังพลันพุ่งออกมาจากฝ่ามือขวาของเขาตรงดิ่งเข้าไปในร่างกายของศัตรูทันที หลังจากรับการโจมตีครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้ ชายชุดดำก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เช่นนี้เขาจะควบคุมพลังปราณสวรรค์ของตนได้อย่างไร? และด้วยเหตุนี้ พลังปราณสวรรค์ของเขาจึงหลั่งไหลออกมาราวกับน้ำที่ทะลักจากเขื่อน พุ่งตรงเข้าสู่ร่างของโจวเหว่ยชิงทันที
เด็กหนุ่มงอแขนขวาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ออกแรงเหวี่ยงชายชุดดำออกไปอีกทาง โดยอาศัยร่างที่อยู่ในมือของเขาเป็นอาวุธฟาดใส่ชายชุดดำที่ที่มุ่งต่อสู้ระยะใกล้อีกคนจนกระเด็นออกไป จากนั้นก็โยนชายชุดดำในมือตามขึ้นไปในอากาศ
เมื่อโจวเหว่ยชิงมาถึงระดับมณี 4 ชุด ทักษะของเขาก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าเด็กหนุ่มจะกลืนกินพลังปราณเพียงไม่กี่วินาที แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะมันมอบพลังปราณสวรรค์จำนวนมากให้แก่เขา เมื่อเด็กหนุ่มเหวี่ยงชายในชุดดำขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก็ได้ปลดพลังปราณสวรรค์จำนวนมากจากการดูดกลืนของวิชาเทพอมตะพร้อมกับทักษะคำสาปลงทัณฑ์ก่อนหน้านี้และฝ่ามืออสนีบาตที่สดใหม่เข้าไปผสมผสานกันภายในร่างของชายชุดดำคนนั้นด้วย ทั้งหมดก็เพื่อเปลี่ยนร่างของชายชุดดำคนนั้นให้กลายเป็นระเบิดขนาดย่อมๆ ลูกหนึ่ง
สิ่งที่มาพร้อมกับการระเบิดครั้งใหญ่คือเลือดและเศษเนื้อที่กระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง โจวเหว่ยชิงพุ่งตัวถอยหลังไปด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวดุจพายุ ในขณะเดียวกันก็ขว้างอสนีบาตพันสายใส่ศัตรูของเขาด้วย
ด้วยระดับปัจจุบันของเขาและพลังปราณสวรรค์ที่เหลืออยู่ ทักษะอสนีบาตพันสายของโจวเหว่ยชิงจึงไม่เพียงพอจะสร้างความเสียหายให้กับชายชุดดำเหล่านั้นได้ ทว่าอย่างไรก็ตาม มันก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยถ่วงเวลาไว้ครู่หนึ่ง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นจ้าวมณีสวรรค์ระดับมณี 6 ชุด แต่ชายชุดดำเหล่านี้ก็มีพลังน้อยกว่าปีศาจน้อยเซินที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เธอจากมา ด้วยทักษะกลืนกินที่เขาใช้ในขณะนี้ โจวเหว่ยชิงจึงได้เติมเต็มพลังปราณสวรรค์ส่วนใหญ่ที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ไปเกือบทั้งหมดแล้ว
เห็นได้ชัดว่าชายชุดดำเหล่านี้มาจากอาณาจักรป่ายต้า เนื่องจากอาณาจักรคาลิเซไม่มีอำนาจหรือสถานะทางการเงินเพียงพอจะส่งยอดฝีมือเช่นนี้มาปราบเขาได้อยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อกลุ่มนักรบป่ายต้าเข้าร่วมงานประลองมณีสวรรค์ สมาชิกหลักส่วนใหญ่ต่างก็ถูกสังหารไปแล้ว สมาชิกส่วนที่เหลือจึงรีบกลับไปที่อาณาจักรป่ายต้าโดยเร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่รู้ว่ากลุ่มนักรบเฟยหลี่ได้กลายเป็นผู้ชนะงานประลองมณีสวรรค์แล้ว และเวลานี้พวกเขาก็ไม่เอะใจเกี่ยวกับความสำเร็จของโจวเหว่ยชิงในรอบชิงชนะเลิศเลย แม้ว่าป่ายต้าจะให้ความสำคัญกับโจวเหว่ยชิงเป็นอย่างมาก แต่อาณาจักรก็ประเมินเขาต่ำเกินกว่าความเป็นจริงอยู่ดี ทั้งยังกะเกณฑ์พลังของเด็กหนุ่มให้อยู่ในระดับที่เขาเคยแสดงออกมาในรอบอุ่นเครื่องเบื้องต้นเท่านั้น ในสายตาของพวกเขา การที่ส่งจ้าวมณีสวรรค์ที่ทรงพลัง 8 คนมาลอบสังหารเขาในคราวนี้ก็ถือว่าเกินความจำเป็นไปมากแล้ว
อนิจจา ป่ายต้าไม่คิดเลยว่าพลังของโจวเหว่ยชิงจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ในระดับมณี 3 ชุดอีกต่อไป และตอนนี้ก็อยู่ในระดับ 4 ชุดแล้ว! นอกจากนั้น ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเขาต่อสู้กัน โจวเหว่ยชิงก็ยังสามารถสังหารหนึ่งในบรรดาชายชุดดำไปแล้วอีกด้วย!
ขณะกำลังล่าถอยอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของโจวเหว่ยชิงก็ไม่ได้ชะลอลงเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่เด็กหนุ่มทะยานถอยหลังผ่านประตู ธนูราชันย์ก็ถูกอัญเชิญมาที่มือซ้ายของเขาแล้ว และลูกศร 2 ดอกก็พุ่งออกไปทางชายชุดดำ 2 คนบนท้องฟ้าในแทบจะทันที
ชายชุดดำทั้ง 2 ได้รับผลกระทบจากร่างที่ระเบิดออกของสหายในกลุ่ม และพวกเขาก็สูญเสียการทรงตัวไปเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของโจวเหว่ยชิงรวดเร็วเกินไป และพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการโจมตีเป็นการป้องกัน ถึงอย่างไรการโจมตีครั้งนั้นของโจวเหว่ยชิงก็ได้สังหารสหายคนหนึ่งของพวกเขาไปในชั่วพริบตาเดียว นั่นจึงทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึงไป เวลานี้พวกเขาจึงหวังเพียงว่าจะสามารถป้องกันการโจมตีนี้และเอาชีวิตรอดก่อน จากนั้นจึงค่อยคิดเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีอีกครั้งในภายหลัง
ในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำที่บุกจู่โจมระยะไกลอีก 2 คน นั่นก็คือจ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุลมและจ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุไฟก็ได้ปลดปล่อยการโจมตีรอบที่ 2 ของพวกเขาออกมาแล้ว เมื่อสหายของพวกเขาถูกฆ่าตาย ใครๆ ก็ย่อมจินตนาการได้ว่าตอนนี้พวกเขาจะโกรธขนาดไหน
จ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุลมโบกไม้เท้าของเขาไปที่โจวเหว่ยชิง และวงกลมแสงสีเขียวก็สะท้อนออกมาจากไม้เท้านั้น ไล่ขนาดจากใหญ่ไปหาเล็กและเร่งกำลังพุ่งเข้าหาโจวเหว่ยชิงในทันที
ทักษะนี้เรียกว่าวงแหวนปีศาจธาตุลมซึ่งเป็นทักษะที่หายากมาก ไม่เพียงแต่เป็นการผสมผสานระหว่างทักษะควบคุมและทักษะโจมตีเท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่มีระยะเวลาใช้งานนานอีกด้วย เมื่อโดนทักษะนี้เข้าไป การเคลื่อนไหวของเหยื่อก็ไม่เพียงแต่จะถูกจำกัดไว้ ทว่าวงแหวนพลังปราณธาตุลมก็จะยังคงกัดกร่อนร่างกายของเหยื่ออย่างต่อเนื่องจนกว่าเขาจะถูกสับจนละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตราบใดที่ผู้ใช้ทักษะมีพลังปราณสวรรค์เพียงพอจะส่งออกไปคงรูปทักษะนี้ไว้ พลังของมันก็จะดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ! ทักษะนี้ย่อมต้องเป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างแน่นอน!
จ้าวมณีสวรรค์ธาตุไฟก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เขายิงเปลวไฟสีม่วงออกมาจากไม้เท้าของเขา ดูเหมือนงูสีม่วงตัวเล็กๆที่เลื้อยเข้าหาโจวเหว่ยชิง จากรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายภายนอกของมัน เปลวไฟสีม่วงนี้ดูจะด้อยกว่าวงแหวนปีศาจธาตุลมที่ดูใหญ่โตและเจิดจ้ากว่า แต่ความจริงแล้ว เปลวไฟสีม่วงนี้กลับเต็มไปด้วยพลังไฟธาตุหยิน เมื่อมันปะทะเข้ากับร่างของศัตรู มันจะเจาะเข้าไปภายในร่างกายของเป้าหมายและกร่อนทำลายจากภายใน
น่าแปลกใจที่ชายชุดดำผู้ซึ่งมุ่งต่อสู้ระยะใกล้ที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวกลับมีปฏิกิริยาตอบสนองช้าเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ขณะเห็นโจวเหว่ยชิงฆ่าสหายของเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาที่เป็นผู้ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดก็ได้เห็นผลลัพธ์อันน่าสะพรึงกลัวจากกรงเล็บเหล่านั้นอย่างชัดเจน แม้กระทั่งพลังป้องกัน 2 เท่าจากผิวหนังหุ้มหินและเกราะไหล่ศาสตรามณียุทธ์รวมกัน กรงเล็บสีทองเหลือบดำนั้นก็ยังสามารถทะลวงเข้าไปได้อย่างง่ายดายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ชายชุดดำผู้นั้นตกใจมาก แม้จะเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์เช่นเขาก็ยังไม่ใช่ข้อยกเว้น
ขณะอยู่ในสถานะปีศาจกลายร่าง โจวเหว่ยชิงก็เข้าสู่ด้านมืดที่หัวใจตายด้าน ความเยือกเย็นที่แท้จริงภายในจิตใจทำให้ประสาทสัมผัสของเขาแผ่ขยายออกไปถึงขีดสุด แม้ไม่จำเป็นต้องใช้สายตาทอดมอง เขาก็สามารถสร้างภาพเสมือนจริงของสิ่งรอบข้างขึ้นมาในความคิดได้ รวมถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ กายเขาด้วย
ลูกศรทั้ง 2 ดอกที่เขายิงออกไปก่อนหน้านี้ไม่ได้ถูกเติมเต็มด้วยพลังปราณสวรรค์หรือทักษะใดๆ ทว่าถูกยิงออกไปด้วยทักษะการยิงธนูแบบบิดสาย ด้วยระดับมณี 4 ชุดของเขารวมกับพลังของธนูราชันย์ ทักษะการยิงธนูที่ทรงพลัง และอื่นๆ อีกมากมายจากลูกศรที่ถูกยิงออกไปในระยะประชิด แม้ว่าศัตรูของเขาจะอยู่ในระดับมณี 6 ชุด ทว่านั่นก็เพียงพอแล้วที่จะปิดกั้นพวกเขาเอาไว้ได้ชั่วคราว แม้ว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหายก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในขณะเดียว กันนั้นเอง มันก็จะเปิดโอกาสให้โจวเหว่ยชิงสามารถพุ่งไปข้างหน้าได้อีกครั้งโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ด้วย
ทักษะทักษะพายุสลาตันถูกเปิดใช้งานทันที ทำให้โจวเหว่ยชิงสามารถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าทั้งร่างของเขาถูกบีบอัดจนบิดเบี้ยวกลายเป็นสายฟ้าสีดำขณะพุ่งไปข้างหน้า ตรงเข้าหาชายชุดดำที่กระโจนเข้ามาต่อสู้ระยะประชิดเป็นครั้งสุดท้าย
เป้าหมายของเขาตกใจจนตัวแข็งทื่อ ก่อนหน้านี้ ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของโจวเหว่ยชิงทิ้งรอยประทับไว้ในใจของเขาอย่างลึกล้ำ ชายหนุ่มทำงานร่วมกับกลุ่มของตนมานานหลายปีแล้ว และเขาก็ไม่สามารถหลบหลีกในช่วงเวลาดังกล่าวได้ มิฉะนั้นเขาจะเปิดทางให้โจวเหว่ยชิงปลดปล่อยการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวใส่สหายอีกคนหนึ่งอย่างรุนแรง
ใบมีดสั้นคู่ในมือของเขาร่ายระบำบทเพลงแห่งความตายทันที ทักษะยุทธ์ประเภทยืดหยุ่นและทักษะธาตุลมของเขาประสานกำลังเข้าด้วยกัน หมายจะสร้างตาข่ายใบมีดแสงโปร่งเบาบางเพื่อปิดกั้นโจวเหว่ยชิงเอาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มตรงหน้าก็มีมณี 4 ชุดเท่านั้น และเขาก็มั่นใจว่าแม้อีกฝ่ายจะใช้ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้า ตราบใดที่พวกเขาสามารถใช้อาวุธ ทักษะ และพลังปราณสวรรค์ในการปะทะโดยตรงได้ เขาก็จะสามารถป้องกันตัวเองไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งหมดก็เพื่อถ่วงเวลาโจวเหว่ยชิงให้เพื่อนร่วมกลุ่มของเขาปลิดชีพเด็กหนุ่มในภายหลัง
อนิจจา เป้าหมายของโจวเหว่ยชิงกลับไม่ใช่เขา ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทะกันนั้นเอง วงแหวนปีศาจธาตุลมและเปลวไฟหยินม่วงก็มาถึงในเวลาเดียวกันด้วย แสงสีเงินพลันสว่างวาบออกมา และร่างของโจวเหว่ยชิงที่กำลังพุ่งเข้ามาก็หายวับไปกลางอากาศในทันที
ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา
เป็นทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาที่แสนเรียบง่าย ทว่าเกิดในจังหวะเวลาที่แสนจะเหมาะเจาะ โจวเหว่ยชิงปรากฏตัวขึ้นที่ระยะ 5 หลาด้านหลังจ้าวมณีสวรรค์ที่มุ่งต่อสู้ระยะประชิด แรงเฉื่อยจากการพุ่งจู่โจมของเขายังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยทักษะสนับสนุนที่เรียบง่ายทว่ามีระดับดาวสูง ทักษะธาตุมิติที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลเช่นนี้ เขาจึงสามารถหลบการโจมตีของศัตรูทั้ง 3 ได้อีกครั้ง
แน่นอนว่าการโจมตีระยะไกลก็ยังคงเล็งเป้ามาที่เขา แม้ว่าเขาจะหลบพวกมันได้ชั่วขณะด้วยทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา แต่การโจมตีทั้ง 2 ก็หมุนควงเป็นวงกลมและไล่ตามเขาต่อไป พลังทั้งสองสายพุ่งตรงไปที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มอีกครั้ง
ภายใต้ผลของทักษะพายุสลาตัน โจวเหว่ยชิงจึงมีความเร็วยิ่งยวด ในเวลาชั่วอึดใจเดียว เขาก็มาประชิดตัวศัตรูที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะไกลทั้งสองแล้ว
ชายชุดดำทั้ง 2 คนเป็นยอดฝีมือที่มีประสบการณ์โชกโชน และเมื่อเผชิญหน้ากับการกระโจนเข้ามาปิดช่องว่างอย่างกะทันหันของโจวเหว่ยชิง พวกเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ทั้งคู่ถอยร่นออกไปคนละทิศละทาง สร้างระยะห่างระหว่างกันและกันเพื่อดึงให้โจวเหว่ยชิงโจมตีพวกเขาได้เพียงคนเดียว ในเวลาเดียวกัน ไม้เท้าในมือของพวกเขาก็ถูกโบกขึ้นจนเห็นเป็นภาพไวๆ ชายหนุ่มปลดปล่อยโล่แสงออกมาเบื้องหน้าตนเองพร้อมๆกัน ผู้ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะไกลเช่นพวกเขามักจะเตรียมการป้องกันไว้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากทักษะป้องกันในมณีธาตุแล้ว พวกเขายังปลดปล่อยโล่ศาสตรามณียุทธ์ออกมาตรงหน้าอีกด้วย
………………………