จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 630 ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านมาก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 630 ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านมาก

หยุนถิงเห็นจวินหย่วนโยวอุ้มจวินเสี่ยวเทียนไว้ในอ้อมอก หัวใจที่บีบรัดถึงผ่อนคลายลง

เขาช่วยชีวิตลูกชายไว้แล้วจริงๆ บังเอิญปานนี้เชียว เป็นโชคชะตาของพ่อลูกที่ลึกซึ้งเสียจริง

ถ้าซื่อจื่อไม่รีบมา หยุนถิงไม่กล้าจินตนาการผลสุดท้ายด้วยซ้ำ

ซื่อจื่อตรงหน้าดูซูบผอมกว่าสองปีก่อนลงมากนัก สีหน้าก็ซีดเซียว เบ้าตาลึกลง พอมองก็รู้ว่าไม่ได้พักผ่อนดีๆ มาเป็นเวลานาน

แค่คิดก็รู้ว่า สองปีนี้ซื่อจื่อใช้ชีวิตมาอย่างไร

มือที่จวินหย่วนโยวอุ้มลูกไว้รัดแน่นขึ้น ฮึกเหิมยิ่งนัก “รั่วจิ่ง รีบพยุงข้าเข้าไป!”

รั่วจิ่งเพิ่งอยากยื่นมือ หยุนถิงก็ก้าวเท้าเข้ามาโดยตรง วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ท่านพี่!”

สองคำที่คุ้นเคย เป็นเสียงที่จวินหย่วนโยวคิดถึงทั้งวันทั้งคืน ยิ่งเป็นเสียงที่เขาหลงรัก และเป็นเสียงที่แม้แต่ในฝันเขาก็อยากได้ยิน

วินาทีนี้ในที่สุดจวินหย่วนโยวได้ยินแล้ว เห็นหยุนถิงที่เดินมาด้านหน้าตนเอง จวินหย่วนโยวดีใจจนน้ำตานอง และควบคุมไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตาไหลพรากลงมา

พูดกันว่าถึงผู้ชายมีน้ำตาก็ไม่ได้แสดงออกมาง่ายๆ เพียงเพราะไม่ถึงขั้นที่จะเสียใจ แต่จวินหย่วนโยวรักหยุนถิงเหลือเกิน ตามหานางมาสองปี ในสองปีนี้ความเชื่อเดียวที่ทำให้จวินหย่วนโยวยืนหยัดมีชีวิตต่อไปก็คือหยุนถิง

วินาทีนี้พบเจอหยุนถิง จวินหย่วนโยวยังอดกลั้นไว้ได้ที่ใดเล่า เขาไม่สนใจสายตาของเหล่าองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับ ปลื้มใจจนน้ำตาไหล

“สองปีมาแล้ว ถิงเอ๋อร์ในที่สุดข้าก็หาเจ้าจนเจอ” จวินหย่วนโยวพูดอย่างตื่นเต้น อยากยื่นมือไปกอดหยุนถิงไว้ เวลานี้ถึงสังเกตเห็นเด็กในอ้อมอกนาง

“ถิงเอ๋อร์ เด็กคนนี้คือ?”

“นี่คือลูกสาวของพวกเรา ชื่อจวินเสี่ยวเหยียน เป็นชื่อที่ท่านตั้ง ลูกรีบเดินทางมากับข้าเป็นเวลานานจึงเหนื่อยแล้ว ตอนนี้หลับอยู่” หยุนถิงอธิบาย

จวินหย่วนโยวฮึกเหิมอย่างยิ่ง มองลูกชายในอ้อมอกตนเองแวบหนึ่ง ยังมีลูกสาวในอ้อมอกหยุนถิงอีก เป็นเรื่องดีที่ลูกชายลูกสาวครบครันโดยแท้

“ซื่อจื่อเฟยขอรับ นี่คือจวิ้นจู่น้อยของพวกเราหรือ หน้าตางดงามเสียจริง” รั่วจิ่งพูดอย่างตื่นเต้น

“ซื่อจื่อมีลูกชายลูกสาวแล้ว ตอนนี้จวนซื่อจื่อคงครึกครื้นแล้ว” หลิงเฟิงพูดต่ออีก

“ยังยืนเฉยกันอยู่อีก รีบนำเด็กมาให้ข้า แม่หนูเจ้ามีชีวิตอยู่ช่างดีเสียจริง เจ้าหนูจวินสองปีมานี้เกือบจะบ้าไปแล้ว ยากที่พวกเจ้าสองคนจะอยู่พร้อมหน้ากันได้ คงต้องมีเรื่องราวมากมายอยากพูด ข้าจักอุ้มเด็กเอาไว้ให้!” ท่านลั่วอุ้มจวินเสี่ยวเทียนที่กำลังหลับเข้ามาอย่างเข้าใจดี

หลิงเฟิงก็รับจวินเสี่ยวเหยียนเข้ามาเช่นกัน เห็นใบหน้าจ้ำม่ำของยัยหนูน้อย ทำให้การกระทำของหลิงเฟิงอ่อนโยนขึ้นมา ดูระวังมาก ชอบจนแทบไม่ไหว

บางทีคงเป็นเด็กสองคนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน และง่วงนอนเหลือเกิน ท่านลั่วกับหลิงเฟิงอุ้มพวกเขาเข้ามา พวกเขาก็ยังไม่ตื่น

รั่วจิ่งรีบประคองท่านลั่วลงจากรถม้า จากนั้นไปอยู่ที่รถม้าคันด้านหลังแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางดึกเด็กหลับอยู่ ลมพัดมาจะเป็นหวัดเอาได้

หยุนถิงยื่นมือกอดจวินหย่วนโยวเอาไว้แน่น “ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านมาก!”

มีคำพูดมากมายสุดท้ายเปลี่ยนเป็นคำพูดประโยคเดียว นี่คือสิ่งที่หยุนถิงอยากจะพูดต่อจวินหย่วนโยวมากที่สุด และคิดถึงเขามากจริงๆ

วินาทีนี้ ทั้งสองคนกอดกันและกันแนบแน่น ไม่มีผู้ใดพูดจาทั้งนั้น กอดกันแน่นอยู่เยี่ยงนี้ ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาไปหมด

เหล่าองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับที่ด้านข้างต่างดวงตาแดงก่ำแล้ว ในที่สุดซื่อจื่อก็อยู่พร้อมหน้ากับซื่อจื่อเฟยแล้ว

สองปีแล้ว ในที่สุดพวกเขาอยู่พร้อมหน้ากันเสียที

รั่วจิ่งกอดหลงซานที่อยู่ด้านข้างไว้ ร้องไห้สะอึกสะอื้น หลงซานรังเกียจยิ่งนัก แต่ไม่ได้ผลักเขาออก

สองปีนี้ซื่อจื่อใช้ชีวิตอย่างไร ทุกคนเห็นมาด้วยตนเอง ล้วนปวดใจแทนซื่อจื่ออย่างยิ่ง ตอนนี้ความทุกข์ผ่านพ้นไปความสุขเข้ามาเยือนแล้ว ทุกคนปลื้มปีติและฮึกเหิมยิ่งนัก

จวินหย่วนโยวปล่อยมือที่กอดหยุนถิงไว้ออก ก้มหน้าแล้วจูบที่ริมฝีปากของหยุนถิง

กลิ่นอายอันคุ้นเคย รสชาติอันคุ้นเคย สัมผัสอันอบอุ่น ทำให้หัวใจของจวินหย่วนโยวเต้นตึกตักเร็วขึ้นไม่หยุด

อารมณ์ความรักช่างลึกซึ้งยิ่งนัก

จวินหย่วนโยวไม่ได้อ่อนโยนเช่นเมื่อก่อน เขาในวินาทีนี้ทั้งฮึกเหิมทั้งดีใจ ทั้งปลื้มใจทั้งประหม่า การกระทำแข็งกระด้างและรุนแรงอยู่บ้าง

จวินหย่วนโยวในเวลานี้เพียงอยากจูบนาง จูบนางอย่างรุนแรง ใช้การกระทำแสดงอารมณ์ของตนเองที่ได้พบเจอถิงเอ๋อร์ออกมา

ริมฝีปากบางของหยุนถิงรับรู้ถึงความเจ็บ นางขมวดคิ้ว กลับไม่ได้ผลักจวินหย่วนโยวออก ทว่ามือทั้งสองคล้องคอของจวินหย่วนโยวเอาไว้ ตอบรับจูบของเขา

หยุนถิงคิดถึงเขาเช่นกัน คิดถึงมากๆ

ก่อนหน้านี้จำไม่ได้จึงไม่มีความรู้สึกอะไร แต่หลังจากหยุนถิงจำทุกอย่างได้ อยากติดปีกลอยไปอยู่ข้างกายจวินหย่วนโยวใจแทบขาด เขาที่เป็นคนหยิ่งยโสปานนั้น เพราะตนเองเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก หยุนถิงที่เชี่ยวชาญทักษะทางการแพทย์ย่อมรู้ดี นี่ต้องเจ็บปวดถึงขีดสุดจนรู้สึกหดหู่ในใจ และแสดงออกมาเป็นการกระทำ

นี่คือสามีของนาง เป็นผู้ชายที่รักนางอย่างสุดซึ้ง ยิ่งเป็นบิดาของลูกนางด้วย และเป็นคนที่นางรักที่สุด

ทั้งสองคนกอดและจูบกันอยู่ นำคำพูดทั้งหมดละลายสู่ในจูบนี้ ราวกับเติมเต็มทุกสิ่งที่ขาดหายไปในสองปีนี้กลับมาหมด

จูบอยู่เป็นเวลานาน จูบจนชั่วฟ้าดินสลาย

เหล่าองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับที่อยู่ด้านข้างหมุนตัวไปอย่างรู้ตัวดี ช่างดีเหลือเกิน ในที่สุดซื่อจื่อเฟยก็กลับมาแล้ว ซื่อจื่อมีชีวิตรอดแล้ว

ผ่านไปตั้งนาน จนกระทั่งหยุนถิงใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว จวินหย่วนโยวถึงปล่อยนางออก มือสองข้างรีบดึงหยุนถิงขึ้นรถม้า

ทั้งตัวหยุนถิงอ่อนแรงลง ทั้งตัวแนบอยู่ในอ้อมอกของเขา หายใจหอบเฮือกใหญ่ๆ

“แม่คนโง่ ยังไม่พัฒนาขึ้นสักนิด” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเอ็นดู

หยุนถิงมองค้อนเขาทีหนึ่ง “ท่านไม่อยู่ ข้าจักพัฒนาได้เช่นไร?”

“เป็นความผิดข้าเอง ต่อไปพวกเราฝึกให้มากเสียหน่อย” จวินหย่วนโยวพูดอยู่ ยื่นมือกอดหยุนถิงไว้ เอาศีรษะมาวางไว้บนไหล่ของนาง

ดมกลิ่นอายอันคุ้นเคยบนตัวนางอยู่ หัวใจที่บอบช้ำหนักหนาราวกับเถ้าถ่านของจวินหย่วนโยวดวงนั้น ในที่สุดก็ฟื้นตัวกลับมาแล้ว หนำซ้ำเต้นอย่างมีพลังด้วย

หยุนถิงเพิ่งอยากตอบโต้ ข้างหูมีเสียงของจวินหย่วนโยวลอยมาอีกหน “ถิงเอ๋อร์ เจ้าปลอดภัยช่างดีเสียจริง”

เสียงแหบแห้งอยู่บ้าง และหนักหน่วงอยู่บ้าง

ได้ยินแล้วทำให้หยุนถิงปวดใจ “ข้ากลับมาแล้ว ต่อไปข้าจะไม่จากท่านไปอีก ข้ากับลูกจะอยู่ด้วยกันกับท่าน!”

มือที่จวินหย่วนโยวกอดนางไว้โอบแน่นขึ้น “ดี พวกเราทั้งครอบครัวไม่แยกจากกันอีก สองปีนี้ลำบากเจ้าแล้ว ดูแลลูกอยู่คนเดียว ล้วนเป็นเพราะข้าไม่ดี ที่ไม่ตามหาเจ้าให้เร็วกว่านี้”

“นี่จะโทษท่านได้เช่นไรเล่า สองปีนี้ท่านไม่ได้หยุดตามหาข้ามาตลอด แต่ที่นี่คือชายแดน พื้นที่กว้างใหญ่แต่ผู้คนน้อยนิด แม้แต่หลงยีพวกเขายังหลงทางแล้ว นับประสาอะไรกับคนอื่นเล่า

ก่อนหน้านี้ข้าลืมทุกอย่าง เพิ่งจำได้เมื่อเดือนที่แล้ว จากนั้นพยายามอย่างหนักถึงติดต่อกองทัพขนหงส์ทางนั้นได้ ฉะนั้นท่านพี่ท่านไม่ต้องตำหนิตนเอง ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราอยู่พร้อมหน้ากันแล้วหรือ” หยุนถิงโต้กลับ

“ใช่ ในที่สุดพวกเราก็อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวแล้ว ชาตินี้จะไม่แยกจากกันอีก ถิงเอ๋อร์เล่าให้ข้าฟังเสียหน่อยว่าสองปีนี้เจ้าใช้ชีวิตเช่นไร ยังมีทุกเรื่องของลูกๆ อีก เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า ยิ่งผิดต่อลูกๆ พวกเขาคลอดออกมาข้าก็ไม่ได้อยู่ข้างกายด้วย!” จวินหย่วนโยวพูดทอดถอนใจ

“ท่านพี่ ท่านอย่าพูดเช่นนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านอยากให้เกิดเสียหน่อย ลูกทั้งสองเป็นเด็กดีมาก เชื่อฟังมาก พวกเขาเกิดมาในเผ่า คนของเผ่าดีต่อข้ามาก มักจะช่วยข้าดูแลลูกๆ โดยเฉพาะป้าซาง พูดได้ว่านางเป็นผู้ที่ช่วยข้าเลี้ยงลูกโตขึ้นมา” หยุนถิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองปีนี้ออกมาหมดแล้ว

จวินหย่วนโยวฟังอย่างตั้งใจ ฟังความชอบและความสนใจของลูกทั้งสอง ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหยุนถิง ดูปวดใจมากนัก

หลงยีที่อยู่ด้านนอกรถม้าให้คนควบรถม้ามุ่งไปข้างหน้าต่อไป ซื่อจื่อเฟยและเด็กๆ กลับมาช่างดีเสียจริง แต่คนที่คิดร้ายต่อซื่อจื่อน้อยย่อมปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท