The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1236 – ท่านราชาอสูร

ตอนที่ 1236 - ท่านราชาอสูร
  เมื่อหมายเลขสามได้สติเขาก็กู่ร้องด้วยความโกรธ เขาเรียกเชือกทมิฬออกมาอีกเส้นและเหวี่ยงไปที่คอซือหยู
ฟึ่บ!
ฝ่ามือทองคำของซือหยูกำเชือกทมิฬไว้แน่นจากนั้นเขาก็ลากหมายเลขสามเข้าหาตัวด้วยพละกำลังมหาศาล
ร่างกายและวิญญาณของหมายเลขสามถูกฝ่ามือสีทองทะลวงอย่างน่ากลัว
หมายเลขสามล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและความไม่เชื่อสายตาที่แสดงผ่านแววตาอันไร้สีสัน
เมื่อโจรที่เหลืออีกสองคนได้สติทั้งคู่ก็ถามด้วยความตกตะลึง
“เจ้าเป็นใคร?”
อสูรตนนี้สังหารหมายเลขสี่และสามในกระบวรท่าเดียว  ซือหยูมองโจรทั้งสองอย่างใจเย็นและไม่พูดอะไรร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยลำแสงสีทองเก้าสาย มันดูเหมือนกับมีมังกรสีทองรัดตัวของเขาอยู่
“ถอย!เจ้านี่ไม่ใช่อสูรธรรมดา! มันจะต้องเป็นราชาอสูรที่ซ่อนตัวอยู่!”
โจรทั้งสองพูดด้วยความสะพรึงกลัวโลหิตในกายเย็นยะเยือก
ทั้งสองไม่คิดว่าจะได้เจอกับราชาอสูรที่ปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้ในที่แบบนี้
ซือหยูจ้องโจรทั้งสองมังกรทองทั้งเก้าพุ่งเข้าใส่ทั้งสองด้วยความรวดเร็ว
เสียงดังแผ่งเบาโจรทั้งสองกลายเป็นเถ้าถ่านสีทองสองกอง
ซือหยูสังหารโจรทั้งสี่ได้ในระยะเวลาอันสั้น
จากนั้นแสงสีทองบนร่างกายเขาสลายไปซือหยูกลับมามีรูปลักษณ์ของอสูรดังเดิม เขาเดินไปที่อสูรวัยกลางคนและเตะสมบัติอสูรคล้ายอิฐให้พ้นทาง จากนั้นจึงสะบั้นเชือกที่คอชาเอ๋อ
อสูรทั้งสองจ้องซือหยูด้วยความตกใจสายตานั้นทั้งตกตะลึงและยำเกรง
“เจ้าหนู…ไม่สิ!ท่านราชาอสูร! ข้าขอคารวะท่านราชาอสูร! ข้าหน่วยลาดตระเวนนามเฉียนจุน! ข้าไม่รู้จักท่านราชาอสูร! ข้าสมควรตายเสียหมื่นหน!”
อสูรวัยกลางคนได้สติและคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันทีเขาคารวะซือหยูด้วยเหยื่อเย็นที่ผุดมาจากหน้าผาก
ราชาอสูรคือฉายาของอสูรที่มีพลังในระดับเซียนขั้นสูงสุด
ในแดนอสูรที่พลังคือสิ่งน่ายกย่องราชาอสูรมักจะเป็นที่นับถืออยู่เสมอ แม้แต่อสูรผู้คุมดินแดนยังต้องแสดงความเคารพต่อราชาอสูร
เฉียนจุนหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเดินทางกับราชาอสูรมาหลายวัน
ในตอนนั้นเองเขาสังเกตเห็นลูกสาวที่กำลังเบิกตากว้างจ้องซือหยู เขาตะโกนและบังคับให้ลูกสาวคุกเข่าลงอย่างรีบร้อน
“คารวะท่านราชาอสูรสิ!”
เมื่อผู้เป็นพ่อเตือนชาเอ๋อจึงกลับมาได้สติ
“คารวะท่าน…ราชาอสูร…ข้ามีนามว่าชาเอ๋อ!”
นี่คือราชาอสูร!
ราชาอสูรนั้นมีอำนาจที่จะสั่งการหน่วยลาดตระเวนอย่างเช่นพ่อของนางนับหมื่นคน!
ชาเอ๋อหน้าแดงเมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนนี้นางพยายามคุยโวเรื่องการมีพ่อนางปกป้อง
เวลานี้นางรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงมักจะไม่สนใจและไม่สำนึกในบุญคุณนางกับพ่อ ชาเอ๋ออับอายมาก นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดซือหยูถึงเลือกที่จะหลอกนางกับพ่อ
“ท่านราชาอสูรข้าผิดไปแล้ว! พ่อข้าไม่เกี่ยวอะไรด้วย! โปรดลงโทษข้าคนเดียวเถอะ!”   เมื่อเห็นสีหน้าเป็นทุกข์ของชาเอ๋อซือหยูตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร!ข้าปกปิดตัวตนก็เพราะภารกิจลับ มิใช่ความผิดเจ้า!”
หากทั้งคู่เชื่อว่าซือหยูคือราชาอสูรเขาก็เต็มใจที่จะฉวยโอกาสนี้อย่างเต็มที่
“ท่านราชาอสูรเมืองท่านอสูรไร้กังวลพังไปแล้ว ท่านจะยังไปที่นั่นอยู่หรือไม่?”
ข้าจะไม่มีทางไปที่นั่น!ยักษ์ทะเลขมยังอยู่ใกล้เมืองอยู่เลย ข้าจะเอาปากไปกัดตะขอทำไมกัน?
“เมืองอสูรล่มสลายไปแล้วข้าไปก็ไม่มีค่าอันใด!”
ซือหยูส่ายหน้าด้วยความใจเย็น
“อสูรผู้คุมดินแดนคนที่อยู่ใกล้สุดอยู่ที่ใดรึ?เราต้องไปแจ้งเรื่องที่ยักษ์ทะเลขมอาจจะบุกเข้าไป!”
ซือหยูอยากจะสืบข่าวเรื่องเมฆากุหลาบและทางเข้าออกแดนอสูรจากอสูรไร้กังวลแต่เรื่องราวไม่เป็นดังหวัง เขาจะต้องหาอสูรผู้คุมดินแดนคนอื่น
“อสูรผู้คุมดินแดนที่ใกล้ที่สุดคืออสูรปราดเปรียว!”
เฉียนจุนโพล่งออกมาเพราะคิดว่าซือหยูพูดอย่างมีเหตุผล
ซือหยูพยักหน้ามองพ่อลูกที่บาดเจ็บหนักเขาพูด
“หากไม่มีที่ไปพวกเจ้าก็จงมากับข้า!”
หากทั้งสองเดินทางกับเขาซือหยูจะปกป้องทั้งสองได้ อีกทั้งยังใช้ทั้งสองในการพรางตัวเพื่อเลี่ยงปัญหาได้อีกต่อหนึ่ง
จากนั้นซือหยูจึงเก็บสมบัติอสูรและแหวนมิติของโจรทั้งสี่
เมื่อตรวจดูของข้างในซือหยูพบว่าทุกอย่างมีพลังอสูรแข็งแกร่งอยู่เต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เทียบไม่ได้กับวิชาของเขา
ดังนั้นเขาจึงโยนมันให้กับสองพ่อลูกจนทั้งคู่ดีใจมาก  โจรสี่คนมีสองคนที่เป็นเซียนขั้นสาม! ด้วยการปล้นฆ่าในอดีต แหวนมิติจึงมีแต่ของมีค่า ซึ่งมันมีค่าเกินกว่าหน่วยลาดตระเวนจะหวังมีได้
ซือหยูให้สิ่งที่เฉียนจุนต้องสะสมหลายร้อยปีอย่างหน้าตาเฉย!
“ขอบคุณท่านราชาอสูร!ท่านคือราชาอสูรผู้เอื้อเฟื้อ ตระการตา ทั้งยังหล่อเหลาที่สุดที่ข้าเคยพบเจอ! ข้ารักท่าน!”
ชาเอ๋อตาลุกวาวนางมองแหวนมิติในมือ สมบัตินั้นมากพอที่จะทำให้นางน้ำลายสอ
เฉียนจุนตะโกนด้วยความโมโห
“ระวังคำพูดเจ้าไว้!เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดกับราชาอสูรเช่นนั้น!”
เฉียนจุนประสานมือที่ซือหยูอีกครั้ง
“ท่านราชาอสูรท่านช่วยชีวิตและให้ของล้ำค่ากับเรามากมายเช่นนี้! พวกข้ามิอาจตอบแทนท่านได้เลย! พวกข้าขอรับใช้ท่านจากนี้เป็นต้นไป!”   เมืองอสูรแตกพ่ายเฉียนจุนมิใช่หน่วยลาดตระเวนอีกต่อไป ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่เขาจะมอบความภักดีให้แก่ราชาอสูรที่แข็งแกร่ง
ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ย่อมได้!ตอนนี้ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเจ้า!”
เฉียนจุนตื่นเต้นมากการได้เป็นคนของราชาอสูรที่เอื้อเฟื้อและทรงพลังนั้นดีกว่าเป็นหน่วยลาดตระเวนมากโข
เมื่อเฉียนจุนตรวจดูข้างในแหวนมิติอีกสองวงด้วยความตื่นเต้นอยู่นั้นเองสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“นี่มัน…”
“มีอะไรรึ?”
ซือหยูถาม
เฉียนจุนขมวดคิ้วเขาตรวจดูข้างในแหวนมิติในมือลูกสาวและพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด
“เป็นไปได้ยังไง?”   เขานำตราประจำตัวจากแหวนมิติทั้งสี่ออกมาให้ซือหยู
“จิงเสวียน!”
“นายท่านพวกมันไม่ใช่โจรธรรมดา! พวกมันคือหน่วยลาดตระเวนจากแดนจิงเสวียน!”
ซือหยูเลิกคิ้วแดนจิงเสวียนรึ? มันคือที่ใดกัน?
“เอ่อมันเป็นสถานที่พิเศษรึ?”
ซือหยูถาม
เฉียนจุนมองซือหยูด้วยความงุนงง
“นายท่านก็มาจากแดนจิงเสวียน!ท่านไม่รู้หรือว่าแดนจิงเสวียนขององค์หญิงหกมีความอาฆาตต่อแดนจิงหยูขององค์หญิงเก้า? ทำไมหน่วยลาดตระเวนจิงเสวียนถึงมาอยู่ในแดนจิงหยูของเรากัน?”
แดนจิงหยู?ซือหยูตกใจ ภาพใบหน้าอันงดงามของเซี่ยจิงหยูปรากฏในใจเขา
ไม่เจอเจ้านานเหลือเกิน…จิงหยู!   เราไม่ได้เจอกันตั้งแต่แยกกันที่แดนเฉินหลง!
ซือหยูส่ายหน้าสลัดความโหยหาเขาถามกลับ
“หรือว่ามันจะมีแผนอื่นกับที่นี่?”ฃ
“ข้าคิดเช่นนั้น!ก่อนหน้านี้มันพูดว่ามันมาปล้นระหว่างทางที่นี่ แสดงว่ามันจะต้องมีภารกิจอื่นอยู่ด้วย!”
เฉียนจุนกล่าว
“พวกมันเลยแข็งแกร่งและแตกต่างจากโจรทั่วไป!ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นหน่วยลาดตระเวน! ฮื่ม! บังอาจนัก! แดนจิงเสวียนมักจะส่งหน่วยลาดตระเวนมาเป็นโจรเช่นนี้!”
ซือหยูหยุดคิดเขาพูดต่อ
“ช่างเถอะข้าไม่สนใจแผนของพวกมัน ไปที่เมืองของอสูรปราดเปรียวกันเถอะ!”
จากนั้นทั้งสามจึงออกเดินทาง
หนึ่งเดือนต่อมาเมฆาทมิฬฝูงใหญ่มาถึงจุดเดิมที่พวกซือหยูเริ่มออกเดินทาง  อสูรมากกว่าร้อยตนแหวกเมฆาออกมาพวกมันเป็นเซียนกันทั้งหมด
ผู้ที่นำมานั้นเป็นราชาอสูรเซียนขั้นสี่เหมือนจะเป็นราชาอสูรเลือดบริสุทธิ์เสียด้วย
หลังจากตรวจดูซากโจรแววตาของเขาเยือกเย็น
“เพราะเช่นนี้ข้าเลยขาดการติดต่อกับมันเมื่อหลายวันก่อน!พวกมันถูกสังหารอย่างที่ข้าคิด ไม่รู้ว่าความลับถูกเปิดเผยแล้วหรือไม่!”
“แต่มันก็คุ้มค่าเราทำให้ยักษ์ทะเลขมไปถึงเมืองชมทะเลที่องค์หญิงเก้าคุ้มกันอยู่! พวกมันคงต่อสู้กันรุนแรงทีเดียว!”
พวกเขาหายตัวไปเหลือเพียงเสียงที่ยังดังสะท้อน
ที่ป่าไกลออกไปซือหยู เฉียนจุน และชาเอ๋อนั่งข้างกองไฟ
หลังจากเดินทางร่วมกันมาหนึ่งเดือนพวกเขาทั้งสามเริ่มที่จะรู้จักกันดีมากขึ้น
“เฉียนจุนเจ้าเคยได้ยินเรื่องธารดารานอกแดนอสูรหรือไม่?”
ซือหยูถาม
“ไม่เลยนายท่าน มีธารดาราอยู่นอกแดนอสูรอันไร้ที่สิ้นสุดนี่จริงหรือ?”
เฉียนจุนถาม
ชาเอ๋อเองก็เงยหน้ามองซือหยูดวงตาอันสดใสของนางมีความสงสัยและความยอมรับ
ดูเหมือนว่าราชาอสูรที่แปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ ผู้นี้จะไม่รู่อะไรเกี่ยวกับแดนอสูรเลย อย่างเช่น…การที่เขาถามเรื่องเมฆากุหลาบ
มันค่อนข้างแปลกที่เขาไม่รู้จักสนมเมฆากุหลาบเพราะนางคือสนมของจักรพรรดิอสูร!
บางครั้งราชาอสูรผู้นี้ดูจะรู้ไปเสียทุกเรื่องเขาบอกชาเอ๋อว่ามีธารดารากว้างใหญ่ที่นอกแดนอสูร
ซือหยูแอบถอนหายใจเพราะแม้แต่เฉียนจุนที่เป็นเซียนขั้นสามก็ยังไม่รู้เรื่องธารดารา!
แดนอสูรนั้นกว้างใหญ่ไพศาลจนอสูรมากมายมิอาจก้าวพ้นได้ในเวลาชั่วชีวิตแล้วพวกอสูรจะสนใจการท่องโลกภายนอกหรือ?
ในเดือนที่ผ่านมาซือหยูได้ข้อมูลเรื่องแดนอสูรหลายเรื่องผ่านการถามแบบไม่จงใจ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอสูรที่นี่แตกต่างจากอสูรที่เขาเคยเจอมาก่อน
ตัวอย่างเช่นเฉียนจุนและชาเอ๋อเป็นอสูรในหมู่บ้านที่เพิ่งจะบินผ่านมา และไม่เคยบ่มเพาะพลังโดยการกลืนกินสิ่งอื่นเลย อสูรในหมู่บ้านของพวกเขาก้าวหน้าโดยการดูดซับพลังอสูรจากแหล่งต่าง ๆ
ดังนั้นพวกเขาจึงต่างจากอสูรที่ซือหยูเคยพบเจอและอ่านมาตามบันทึกอย่างสิ้นเชิง
อีกทั้งอสูรยังมิได้ดุร้ายตามสัญชาตญาณแม้จะมีความก้าวร้าวอยู่บ้าง พวกอสูรก็มีทุกความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตในธารดารา
ถ้าเช่นนั้นแล้ว…เกิดอะไรขึ้นกับพวกอสูรดุร้ายที่กลืนกินทุกสิ่งในเส้นทางราวกับตั๊กแตนในธารดาราเล่า?   บางทีแม้แต่อสูรด้วยกันเองก็อาจไม่รู้คำตอบเขาจะต้องถามจากอสูรที่มีอำนาจเหนือกว่า
“นายท่านข้าคิดว่าท่านจะได้คำตอบจากอสูรปราดเปรียวที่รู้รอบและอ่อนโยน ข้าพนันว่านางจะต้องตอบคำถามท่านได้แน่!”
ถึงยามนี้ซือหยู เฉียนจุนและชาเอ๋อได้มาถึงอาณาเขตของอสูรปราดเปรียวแล้ว ในอีกห้าวัน พวกเขาจะไปถึงเมืองอสูรเพื่อพบกับอสูรปราดเปรียว
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันพวกเขาได้เห็นว่าท้องนภาเต็มไปด้วยแสงเทพอันตระการตาจากขอบนภา
พร้อมกันนั้นโลหิตสีทองยังหล่นมาจากท้องฟ้ารางกับห่าพิรุณ เฉียนจุนกับชาเอ๋อที่เกิดในเมืองชมทะเลรู้สึกโศกเศร้า
เทพตายแล้ว!
เป็นเทพที่ดูแลเมืองชมทะเล!
ซือหยูลุกขึ้นยืนด้วยความเคร่งเครียดเทพคนนั้นถูกยักษ์ทะเลขมฆ่าตายงั้นรึ?
The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน