The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1248 – อสูรขั้นกลาง

ตอนที่ 1248 - อสูรขั้นกลาง

   นี่พวกเจ้า… 

  อสูรเครายาวตัวแข็งทื่อเขาก้มลงมองไปยังสัมผัสเยือกเย็นที่อก

  กระบี่ยาวส่องแสงประกายทะลวงลำตัวหยดโลหิตครึ่งทองครึ่งแดงหลั่งรินออกมา

  เขาหันไปที่ด้านหลังอย่างไม่เชื่อสายตาเขาเห็นชายหนุ่มผมสีเงินที่มีแสงหลากสีรายล้อมยืนอยู่ที่ด้านหลัง

  ชายหนุ่มผมสีเงินจ้องมองเขาราวกับมองมดปลวก

   เราต้องสังหารพวกที่ขัดขวางความสงบ 

  ชายหนุ่มผมสีเงินพลิกฝ่ามือแสงห้าสีระเบิดแขนขาของอสูรเครายาว

  ร่างว่าที่เทพของอสูรเครายาวแตกสลายกลายเป็นอณูแสงแสงหลากสีและหายลับไปจากท้องนภา เหลือเพียงดวงวิญญาณที่กุมแหล่งพลังเทพเอาไว้

   อ๊ากกกก!! 

  เขากรีดร้องด้วยความสะพรึงกลัวอสูรเครายาวในร่างวิญญาณรีบหนีไปด้วยความตกใจ

  ช่ายหนุ่มผมสีเงินมาถึงด้านหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ยังไงกัน?แล้วแสงห้าสีที่ทำให้ร่างของว่าที่เทพกลายเป็นอณูแสงนั่นอีก!

  ว่าที่เทพอื่นที่เห็นด้านหลังของอสูรเครายาวแสงห้าสีควบรวมกันกลายเป็นตัวซือหยู แสงห้าสีนั้นเต็มไปด้วยพลังห้าธาตุและสามารถดูดซับอะไรก็ได้เข้าไป

  การฝึกฝนใช้ภูเขาห้าธาตุมิได้ทำให้ซือหยูใช้พลังของมันได้อย่างเดียวตัวเขาเองยังใช้พลังห้าธาตุได้ดีขึ้นอีกด้วย

  ทุกอย่างเกิดจากธาตุทั้งห้าตราบเท่าแยกธาตุทั้งห้าออกมาได้ สิ่งนั้นจะถูกลบหายไปจากโลกได้

  การก้าวพริบตานั้นเป็นการใช้พลังที่แปลกประหลาดอีกประเภทในตอนนี้ซือหยูทำได้แค่ระยะใกล้ เขามิอาจข้ามโลกได้เหมือนกับเทพ

  เขาสังหารทรราชย์คนแรกด้วยมือตัวเองเหล่าอสูรเจ้าดินแดนที่ได้เห็นกำลังหวาดกลัว

  ว่ากันว่าเจ้าเมืองคนใหม่เป็นเพียงอสูรเนรมิตรแต่หลังจากได้เห็นกับตา พวกเขาก็รู้ว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นเลย!

   หักหลังซะแล้ววันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้า! 

  ซือหยูเหลือบมองเหล่าอสูรเจ้าดินแดนหลายคนอย่างเย็นชาแสงกระบี่สีเงินส่องประกายตามด้วยเสียงร้องคำรามโศกเศร้า แสงกระบี่เงินฟันวิญญาณอสูรเครายาวที่่มีแหล่งพลังเทพ

  โหดเหี้ยมนัก!

  เหล่าอสูรเจ้าดินแดนใจสั่นวิถีการนั้นเด็ดขาด และซือหยูไม่ใช่คนที่พวกเขาจะแตะต้องได้!   เมื่อซือหยูเหลือบมองทุกคนจึงไม่กล้าที่จะอวดดี

  หรือเขาจะสู้กับศัตรูด้วยตัวคนเดียวได้?

  นี่มันเป็นไปไม่ได้…

  ตู้ม!ตู้ม! ตู้ม!

  เมฆาทัพอสูรปกคลุมท้องนภาทัพกระจายตัวให้แสงอาทิตย์สาดส่อง พลังเทพผสานกันส่องสว่างดวงวิญญาณนับพันล้านดวง

  เหล่าอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลตัวแข็งทื่อศัตรูแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานได้!

  หากเกิดการต่อสู้ขึ้นพวกเขาอาจจะไม่มีแม้แต่ทางหนี

  อึก…

  พวกเขากลืนน้ำลายด้วยใจที่สั่นระรัวพวกเขาพยายามถอย

  พวกเขายอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นเสียแล้ว   หึหึหึเจ้าพวกเมืองชมทะเล เจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ… 

  เสียงจากทัพด้านบนดังขึ้น

  เสียงสั่นสะเทือนพลังเทพผสานเผยให้เห็นว่าที่เทพร้อยคน!

  ผู้พูดคือหนึ่งในสองอสูรที่นำทัพมา

  อสูรเลือดบริสุทธิ์ก้มลงมองพวกเขาอย่างไม่แยแส

  อสูรที่เลือดบริสุทธิ์กว่าคือผู้ที่พูดนั่นเอง

  เมื่อมองทั้งสองเหล่าอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลแขนขาชาไปทั้งตัว

   ว่าที่เทพขั้นกลาง!!มีอสูรเลือดบริสุทธิ์อยู่ด้วย!!! 

  ทั้งทัพล้วนเป็นอสูรแต่อสูรเลือดบริสุทธิ์นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า!

  พลังของอสูรที่นำทัพทั้งสองนั้นเหนือกว่าพวกเขาหกสิบคนและตอนนี้ยังเหลือว่าที่เทพขั้นต้นเพียงห้าสิบเก้าคน   อะไรกัน?พวกเรายังไม่ทันมาถึง แต่เจ้าก็เริ่มฆ่ากันเองแล้วงั้นเรอะ? มังกรไร้เจ้านาย พวกเจ้าก็กลายเป็นแมลงไร้หัวรึ? 

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์เยาะเย้ยพวกเขา

  สุดท้ายทั้งสองก็หันมองซือหยู

   เจ้าคือเจ้าเมืองชมทะเลคนใหม่ที่ว่าสินะข้าคิดว่าเจ้าจะแข็งแกร่งที่ได้ช่วยองค์หญิงเก้า แต่เจ้ายังควบคุมคนของตัวเองไม่ได้เลย เจ้าต้องฆ่านับร้อยเพื่อให้พวกมันหวาดกลัวจนฟังเจ้า ช่างน่าสงสาร 

  เหล่าเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลสีหน้าแปลกไป…ซือหยูอยากจะสังหารพวกเขาซือหยูจึงสั่งให้พวกเขาไม่เคลื่อนไหวงั้นหรือ?

  เหล่าอสูรเจ้าดินแดนแอบคิดว่าพวกตนนั้นโง่เขลา

   ต่อให้เจ้าเคลื่อนกำลังทั้งหมดมาได้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ก็ไม่เปลี่ยนไป ส่งองค์หญิงเก้ามาซะแล้วเจ้าจะมีความสุข มิเช่นนั้น… 

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ยั่วยุ  ฟึ่บ!

  สายลมคมกริบแปดสายเข้าล้อมอสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์

  พร้อมกันนั้นกระบี่เงินในมือซือหยูยังพุ่งไปรวมกับกระบี่ทั้งแปด มันเข้าล้อมกำลังอสูรไว้เก้าตนรวมถึงเขา

  แสงสีเงินแล่นผ่านไปทั่วมันกลายเป็นค่ายกลแหสีเงิน

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ชักสีหน้าเล็กน้อยพวกมันปล่อยพลังอสูรและเผยร่างที่แข็งราวกับหินออกมา

  เสียงกระบี่กระทบร่างอสูรตามด้วยประกายไฟ

  ค่ายกลกระบี่มิอาจทะลวงกายหยาบได้สร้างได้เพียงความเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น

  แม้จะป้องกันตัวเองได้แต่อสูรอีกแปดตนนั้นไร้ผู้ปกป้อง

  เสียงเนื้อโดนฟันดังพร้อมกับโลหิตกระจายและเสียงกรีดร้องอสูรเจ้าดินแดนแปดตนถูกค่ายกลกระบี่ฟันขาดสะบั้นเหลือเพียงดวงวิญญาณที่หนีหัวซุกหัวซุน

  แต่อสูรเหล่านั้นก็มิอาจรอดพ้นจากค่ายกลกระบี่กระบี่กลืนกินดวงวิญญาณของพวกมันเข้าไป

  เสียงกรีดร้องจึงได้หยุดลง

  ไม่เหลือสิ่งใดนอกจากเสียงหอบของอสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ตามด้วยโลหิตสีดำของพวกที่ถูกสังหาร

  ทั้งพันธมิตรและศัตรูของซือหยูเงียบกริบ

  พริบตาเดียวอสูรเจ้าดินแดนแปดตนที่เป็นว่าที่เทพขั้นแรกก็ถูกสังหารตายหมด เนื้อหนังขาดสะบั้นไปพร้อมกับดวงวิญญาณ แหล่งพลังเทพถูกชิงไป ไม่มีใครเหลือรอด!

  ก่อนหน้านี้เหล่าอสูรเจ้าดินแดนฝั่งซือหยูโกรธแค้นเขา แต่ตอนนี้ความโกรธแค้นได้เปลี่ยนเป็นความกลัว!

  พวกเขาตระหนักแล้วว่าความตายของอสูรเครายาวนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร!

  ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจที่ซือหยูสั่งให้พวกเขาไม่เคลื่อนไหวแล้ว!

  เขายกมือกระบี่ทั้งเก้าร่ายรำดั่งมังกรเก้าตัวรอบตัวซือหยู เมื่อแสงกระทบใบหน้าเย็นชาของซือหยูยิ่งทำให้เขาดูทรงพลัง

  หลังจากสังหารให้ดูเป็นเยี่ยงอย่างซือหยูมองศัตรูด้วยตาแดงก่ำ

   พวกเจ้ามีเรื่องไร้สาระจะพูดอีกไหม? 

  อีกฝ่ายดูไม่พอใจคอของอสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์บิดเบี้ยว ความลักลั่นนี้ทำให้พวกเขาทรมาน

   ก็ได้!ดีมาก! ดีจริง ๆ! พรสวรรค์เจ้ายังไม่ถูกใครรู้ ไม่แปลกที่เจ้าจะช่วยองค์หญิงเก้าได้! ถ้าเช่นนั้นก็มีเหตุผลให้ข้าลงมือ! 

   ตายเพื่อข้าซะเถอะ! 

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ร้องคำรามเสียงแหลมเขาหายไปเหลือเพียงเงา

  ซือหยูยืนนิ่งเขายิ้ม   ดูเหมือนเจ้าจะไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือหากไม่ข้าแต่ถึงเจ้าจะเป็นรองแม่ทัพ เจ้าก็อย่าทำตัวเหมือนคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเลย! 

  เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรว่าที่เทพขั้นกลางที่มีร่างกายแข็งแกร่งซือหยูไม่ถอย ร่างของเขาเปล่งแสงสีทอง ซือหยูพูด

   วิชาร่างมังกร! 

  มังกรร้องคำรามด้วยความดุร้ายซือหยูกลายร่างเป็นมังกรทอง ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงหลากสีและปะทะเข้ากับอสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์

  ตู้ม!

  เสียงระเบิดดังลั่นคลื่นกระแทกจากแรงปะทะพัดพาไปทุกทิศทาง

  คลื่นกระแทกส่งแสงทำให้ทัพอีกฝ่ายถอยไปหลายร้อยศอก

  นี่คือกระบวนท่าใหม่จากการผสานพลังมังกรเข้ากับห้าธาตุ  วิชาร่างมังกรมีพลังปะทะมหาศาลแต่ยังขาดพลังในระยะยาว

  เมื่อรวมทั้งสองพลังเข้าด้วยกันจึงได้เป็นวิชาที่มีพลังครบเครื่อง

  ตู้ม!

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ตกใจในการปะทะนี้เขากลิ้งหลายตลบและกระอักเลือดหลายครั้งก่อนจะปะทะกับม่านพลังของทัพฝ่ายตัวเอง

  เมื่อมองกลับมาที่ซือหยูพลังมังกรสีทองของเขาสลายไปแล้ว เขากลับเป็คนที่มีแสงห้าสีปกคลุมดังเดิม เขายืนอยู่ที่จุดปะทะ ไร้ซึ่งรอยขีดข่วน

  ความต่างระหว่างพลังนั้นสูงจนเหลือบมองก็รู้ว่าใครแกร่งกว่า

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์กระอักเลือดออกมาอีกครั้งเขาตกตะลึง

   เจ้า… 

  เขาไม่อวดดีอีกต่อไปแล้วแววตาถูกความกลัวอันลึกล้ำเข้ามาบดบัง  ตั้งแต่แรกเหล่าอสูรเจ้าดินแดนฝ่ายศัตรูนั้นสบายใจไร้กังวล แต่ตอนนี้ทุกคนกลับมองซือหยูด้วยความสะพรึงกลัว

  เบื้องหน้าเขาเป็นอสูรเนรมิตรแต่ความจริงพลังของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าว่าที่เทพขั้นกลาง พวกเขาไม่คิดอีกแล้วว่าการฆ๋าซือหยูและชิงตัวองค์หญิงเก้าเป็นเรื่องง่าย

  ซือหยูกำลังนับจำนวนอีกฝ่าย

   มาแค่นี้เองรึ? 

  ฟึ่บ!

  ทันทีที่เสียงของซือหยูหายไปเขาก็หายตัวไปเฉย ๆ

  เขาไม่ได้เร็วแต่เขาใช้การก้าวพริบตาที่มีแต่เทพเท่านั้นที่จะทำได้!

  อสูรเลือดบริสุทธิ์เบิกตากว้างเขาหันหน้าอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า

   มังกรอสูรระวัง! มันกำลังไปหาเจ้า! 

  อสูรเลือดกึ่งบริสุทธิ์ตกใจก่อนที่จะได้ฟังคำเตือน เขาก็สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นจากด้านหลัง

  ก่อนที่จะตายเขาตะโกนทันที

   แปลงร่างอสูรศักดิ์สิทธิ์! 

  แสงสีแดงเปล่งประกายบนร่างราวกับเส้นเลือด

  บางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวในโลหิตของเขาตื่นขึ้นมา

  แสงสีแดงดั่งโลหิตซึมผ่านภายในร่างเกิดเป็นเกราะสีเลือดปกคลุมกาย

  ที่ภายนอกชุดเกราะมีแขนข้างหนึ่งที่มีดัชนีสีทองที่ปกคลุมไปด้วยแสงห้าสีมันมีพลังมหาศาลที่ทะลวงหัวใจของเขาเข้ามา

  เกราะสีเลือดถูกดัชนีเหล่านั้นเจาะทะลุมาถึงร่างมังกรแม้กระนั้นเกราะก็ต้านพลังสังหารไว้ได้

  มังกรอสูรร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดเขาพลิกตัว

  เมื่อหันมองอีกครั้งก็ได้เห็นโลหิตบนเกราะของตัวเองอสูรมังกรโล่งใจในสิ่งที่ได้เห็น

  เกราะเลือดนั้นสร้างจากพลังสายโลหิตประหลาดของเผ่าอสูรเลือดบริสุทธิ์มันยากที่อสูรทั่วไปจะทำลายได้ แต่ซือหยูเกือบจะทำลายมันได้

  พลังของมังกรร่วมกับห้าธาตุนั้นน่ากลัวมาก

  เขาจ้องมองตาซือหยูและได้รู้ซึ้งถึงความลกัวเขาไม่ใช่คู่มือของซือหยูเลย!

  ขณะที่เขาจะกลับไปหาแม่ทัพและร่วมมือกันซือหยูก็หายตัวไปอีกครั้ง!

  มังกรอสูรหวาดกลัวมากเขามองทั่วทิศอย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่เห็นอะไร เขาพยายามอย่างมากที่จะฟื้นเกราะของตัวเองกลับมา

  หากมีเกราะเลือดซือหยูจะฆ่าเขาไม่ได้ และเขาจะใช้โอกาสที่ได้กลับไปรวมตัวกับแม่ทัพเพื่อที่จะร่วมมือกันจัดการซือหยูอย่างง่ายดาย

  เมื่อคิดถึงพลังของแม่ทัพมังกรอสูรมั่นใจขึ้นมาก เขาตะโกน

   เข้ามา!คิดหรือว่าแม่ทัพจะกลัวเจ้า! 

  ซูม!

  พลังซัดมาจากด้านหลังอีกครั้งมังกรอสูรมิได้ตื่นตระหนกหรือดีใจ เขาพยายามที่จะต่อต้านดัชนีของซือหยูจนสุดพลัง

  แม่ทัพที่รีบเข้ามาช่วยเองก็รู้สึกถึงความเยือกเย็น

  ซือหยูอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งคู่หากเขาไม่ตายเพราะดัชนีซือหยู เขาจะซัดซือหยูกลับและสังหารได้ในทันที

  เมื่อแม่ทัพมองท่ามือของซือหยูเขาก็ชักสีหน้า

   ไม่นะ!มังกรอสูร หนีไป ไม่ต้องสวนกลับแล้ว! 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน