ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 46 สงครามอาร์คแลนด์ ③ ชัยชนะของกำลัง

ถนนสู่อาณาจักร

46 สงครามอาร์คแลนด์ ③ ชัยชนะของกำลัง

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

จากสันเขาของเนินเขา หน้าได้แอบมองออกมาเล็กน้อย เพื่อตรวจสภาพการต่อสู้ ทหารอาสาได้รับการโจมตีของการไล่ของศัตรูและถูกกำจัด มันดูเหมือนจำนวนผู้เสียชีวิต ไม่ใช่ไม่น้อย

แม้ว่ากองทัพสนับสนุนเหล่าทหารราบก็ได้ผสมเข้าไปในความสับสน ดังนั้นเราแค่ถอยระหว่างที่อุทิศตัวให้กับการป้องกัน อัศวินและทหารได้ออกมาจากประตูเมืองทีละคนทีละคน และกำลังทางทหารของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิมเข้าไปอีก

สภาพของการต่อสู้นั้นแย่ที่สุด และมันมุ่งหน้าไปสู่ทิศทางที่ไม่ดี และแค่ทุกอย่างนั้นตามที่วางแผนไว้

ทหารอาสาวิ่งหนีเร็วที่สุดเท่าที่เขาทำได้ และเมื่อพวกเขามาถึงจุดที่ต้องไต่ภูเขา ทหารม้าเบาหนึ่งคนและเป่าทรัมเป็ตของเขา แค่ตอนนั้นเอง กองร้อยที่ถอยได้หยุดเท้าของพวกเขา จัดรูปแบบที่สมบูรณ์แบบอย่างรวดเร็ว และยืนรักษาตำแหน่ง

ไม่อยากพลาดโอกาสของเราไป เราไล่ตามกำลังเสริมของสัตรูที่เพิ่งออกมา และเราได้สร้างการสู้ตัวใครตัวมันใต้เนินเขา

「「「บุก!!!」」」

ผู้บัญชาทุกกองร้อยตะโกนพร้อมกัน จากที่นี่ไป มันเป็นการแข่งกับศัตรู นักธนูไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นกำลังเสริมที่จะมีข้อมูลที่ละเอียด เราแค่ต้องไปถึงประตูเมืองให้เร็วกว่าศัตรู

ทันใด้นั้น ขณะที่ ทหาร 400 คนได้ควบลงมา ศัตรูที่รู้ว่าเราวางแผนอะไร เริ่มรีบอย่างชัดเจน และสำหรับทหารม้า 200 คนที่บุกเข้าตีมันได้เป็นความคลั่ง

ทหารม้ามีผมอยู่ตรงหน้าและผมกระโดดเข้าไปในทีมของศัตรู ระหว่างที่ผมสั่งการให้ที่เหลือของทีมจัดการแค่ศัตรูตรงหน้า แทงและแทงเข้าไปในกลุ่มของศัตรู เรามุ่งหน้าเป็นเส้นตรงสู่ประตูเมืองที่ไม่มีใครกันเราไว้อีกแล้ว

ส่วนใหญ่ของกองกำลังของศัตรูอยู่ข้างหลังเรา แบบนี้ เราโล่งใจได้ว่าประตูเมืองจะไม่ถูกปิด แต่ตรงกันข้ามกับการคาดเดาของเรา ประตูเมืองเริ่มปิดอย่างช้าๆ

「แม้ว่าพวกเค้าปิดประตูเมือง เมืองนั้นไม่มีคนอีกแล้ว พวกเขาน่าจะป้องกันเราไม่ได้…」

ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะผู้บัญชาการนั้นโง่ หรือกองกำลังตัดสินใจเอาเอง ทหารที่ออกมาจะกลับไปไม่ทันเวลา

「ชวาร์ซ ไปกันเถอะ!」

ผมทุ้งท้องของเขาด้วยเท้าของผม ม้าตัวใหญ่ได้เร่งความเร็วขึ้นทันที และทหารได้กลายเป็นเครื่องประดับข้างทาง ขณะที่ผมรีบไป

ประตูเมืองปิดอย่างช้าๆ และมันได้ปิดไปถึงจุดที่ว่าแม้แต่คนก็เข้าไปไม่ได้

แค่ก่อนมันจะปิดอย่างสมบูรณ์ ผมกระโดดจากอานชวาร์ซและใช้แรงส่งนั้น แทงหอกลงไป ผมจะไม่สามารถแต่ทะลุประตูเมือง และมีช่องเปิดนิดหน่อย ที่ผมเห็นทหารพยายามจะว่างไม้ล็อคประตูที่อีกฝั่ง

「ฮฮฮฮิ้ห์!」

「สัตว์ประหลาด!」

ทหารใส่ร้ายผม แต่ผมไม่มีเวลาที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมดึงแอ่งคู่ออกมาจากฝัก และฟันไปหนึ่งครั้งที่ช่องว่างของประตูเมือง แผ่นเห็นที่ได้จับไม้กั้นอยู่แยกเป็นสอง

「ล้อเล่นน่า! เค้าตัดเหล็ก..」

「พลังเหนือมนุษย์อะไรกันวะ…หรือมันเป็นดาบที่อันตราย!?」

ดั่งจะตอบทั้งสองคำตาม ผมดันประตูเมืองด้วยมือของผม ถ้าไม้กันไม่ได้ล็อคอยู่ งั้นมันก็เป็นเรื่องของกำลัง มีแค่ผมอยู่ที่ฝั่งนี้ และอีกฝั่งมีพวกเขาหลายคน แต่ประตูเมืองได้เปิดอย่างช้าๆ

「ฆ่าไอ้คนนั้น! มันจะจบถ้ามันผ่านเข้ามาได้!」

ทหารได้รีบกลับมาทั้งหมด ไล่ตามและพยายามจะโจมตีผม

「ท่ายืนนายแย่」

มันยากที่จะสู้ด้วยดาบระหว่างที่ผลัก แต่กำลังเสริมได้มาถึง

「เอเกอร์-ซามะ! หนูจะดูข้างหลังเอง」

ซีเลียที่ได้ตามมาบนหลังว่า ได้ปาดคอระหว่างที่ควบม้าต่อ เธอกระโดดลงมาจากหลังม้าและยืนต่อจากผม หลังชนมาด้วยดาบของเธอที่เตรียมพร้อม

「อย่ากดดันตัวเอง!」

ผมดันประตูเมือง แต่อีกฝั่งดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนคนจากก่อนหน้า ดังนั้นมันแทบไม่ขยับเลย จากข้างหลังผมได้ยินซีเลียปะทะกับคนอื่น ถ้าผมใช้เวลามากไปที่นี่ ซีเลียอาจจะไม่สามารถยืนไหว

「ชั้นจะทำมัน」

เสียงที่กล้าหาญใกล้เข้ามา ถ้าผมมองไป ตัวที่ใหญ่ที่เลย 2 ม. ไปง่ายๆได้ก้าวเข้ามาด้วยก้าวท้าวที่ยาว ระหว่างที่ศัตรูได้บินและเด้งออกมาจากเขา ผมคิดว่าครั้งแรกที่ออร์คปรากฏตัว แม็กดูเหมือนจะวิ่งมาเพื่อช่วย แต่ตั้งแต่ถูกทิ้งไว้ในเหล่าทหารช่าง เขายังไม่มีตาของเขาเลย มันร้อนและคนเยอะ แต่เขาเป็นคนดี

「ฟุนนนน!」

ด้วยเหตุผลบางอย่างแม็กถอดเกราะจากท่อนบนของเขา และได้เปลือยคลึ่งหนึ่งระหว่างที่วางมือไปบนประตูเมือง

「《อันก้าาาาาาาาาาาาาาาาา!!!》」

ในเวลาเดียวกันที่แม็กตะโกน กล้ามเนื้อของเขาปูดและเหงื่อได้กระจาย กลิ่นของชายที่เรียกเหงื่อทาให้คุณยู่จมูก แต่มันไม่ใช่ว่าผมพูดนั่นได้ ด้วยสองคนที่ดันประตูเมือง จากนั้นในท้ายที่สุด ทันทีที่ช่องว่างใหญ่พอที่จะให้คนหนึ่งเข้าไป ผมกระโดดเข้าไปข้างใน

「มันมาข้างในแล้ว!」

「ฆ่ามัน! เร็วๆเข้า!」

ถ้ามันเป็นแบบนี้ถ้างั้น มันเป็นบางอย่างที่ผมเก่ง

ทหารห้าคนที่ดันประตูเมือง ได้ถอยมาและเสียสมดุลย์ทันที พลังของแม็กดันประตูเมืองอย่างสมบูรณ์ ทหารต่อต้านจนถึงจุดจบ ถูกแซนวิชระหว่างประตูเมืองกับกำแพงเมือง และเหมือนกับเสียงของการบีบผลไม้ รอยเปื้อนเหมือนพรมแดงได้แผ่ออก

—————————————————————

「ทางเดินได้เปิดแล้ว เหล่าทหารม้าที่หนึง ไป บุก!」

ศัตรูที่วิ่งหนีได้ถูกลดจำนวนโดยการตีขนาบสองข้างจากทีมทหารราบ ที่เหลือของเราก็คือบุกไปให้ถึงแกนกลางของเมืองและมันจะจบ

「ซีเลีย เธอโอเคมั้ย?」

「ชั้นโอเค!」

แต่ถ้าผมมองเธอ เธอต้องถูกเฉี่ยวโดยดาบหรืออะไรบางอย่าง เพราะแก้มเธอมีแผล

「บางอย่างแบบนี้มันแค่รอยข่วน」

ผมจับไหล่ของซีเลียที่พยายามจะทำแกร่ง และเลียแผลของเธอ ตัวของซีเลียสั่นและเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นผมดมกลิ่นผู้หญิงและกลิ่นเลือดเพื่อทำให้จิตวิญญานของการต่อสู้สูงขึ้น

ทุกประตูในเมืองนั้นปิด; ยังมีบ้านที่มีสิ่งของกองขวางประตูบ้านไว้ ชาวเมืองพยายามจะป้องกันตัวเองอย่างสิ้นหวังจากเรา ผมเห็นเด็กชายที่แอบออกมา แต่ไม่นานแม่ของเขาได้ร้องไห้และบังเขาที่พื้น

「เอเกอร์-ซามะ! ตรงหน้า」

ระหว่างบนทางที่นำไปคฤหาสน์ลอร์ดศักดินา พวกเขาตั้งกำแพงกั้นด้วยบางอย่างเหมือนกล่องและเครื่องเรือนทับกันไว้ และข้างหลังเป็นชาวเมืองที่เรียงกันพร้อมอาวุธ

「พวกนายมีภาระผูกพันกับพระองค์ที่ให้เราใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้! ให้เราสู้เพื่อปกป้องเมืองนี้จนกว่าคนสุดท้าย!」

ข้างหลัง หลังคนเหล่านั้นมีชายที่อญู่บนม้าที่ดูเหมือนอัศวินที่กำกับดูแลพวกเขา เสียงที่กล้าหาญของอัศวินไม่เหมือนหน้าของชาวเมือง ที่ดูเหมือนจะร้องไห้

「อย่าให้พวกมันไปถึงคฤหาสน์เคานต์!」

สองคนบนหลังม้าที่เข้ามาหาเราไม่แกร่งเลยซักนิด คนนึงเสียหัวของเขา อีกคนเสียมือของเขา และพวกเขาหล่นจากหลังม้า มันรู้สึกแย่ที่จะฟันชาวเมืองขณะที่เราเดินหน้า แต่ทำไมเราไม่มาข่มขู่เขาเล็กน้อยล่ะ

「ถ้านายเปิดทาง เราจะไม่ทำอะไรกับนาย! ถ้านายไม่เปิด งั้นชั้นจะทำอย่างนี้!」

ระหว่างที่ขี่ชวาร์ซ ผมเรียกอัศวินที่เสียมือของเขาและร่วงไปที่พื้น

「หยะ-! อย่า! ได้โปรดช่วยชั้น–กกกุห์!!」

เสียงเหมือนการขยี้กรีดร้อง และเสียงที่ทนไม่ได้ดังก้องไปทั่วทั้งหมู่บ้าน อัศวินข้างหลังได้โกรธ ระหว่างที่ชาวเมืองตัวสั่น

「ยังไงซะ มันจะเป็นแบบไหน!」

「พวกนาย! ถ้าหันหลังให้พวกคนป่าเถื่อนเหล่านี้มันเหมือนกับทรยศองค์ราชา คนที่หนีจะถูกซ้อม!」

คนชัดเจนว่าอยากหนี แต่ด้วยอัศวินที่อยู่ข้างหลังได้กวัดแกว่งดาบของเขา – เขาหนีไม่ได้

ถ้ามันเป็นระยะนี้…ผมทำมันได้

ผมจับหอกของผมจะโยนมันเหมือนกับแหลน ทันที อัศวินที่รู้ว่าตกเป็นเป้าหมายนำโล่ของเขาขึ้นมา แต่หอก 15 กก. แทงอัศวินไปด้วยกันกับโล่เขาอย่างง่ายดาย ผมไม่ได้มั่นใจในการโยนมาก แต่มันไปได้ดีและผมปาโดนเป้า

「โยนอาวุธแบบนั้น…มัน…เล่นโกง…กุบบบุ-!」

อัศวินล้มลง ผมเข้าหาพร้อมชักดาบ ชาวนากระจายกันออกเหมือนรังแมงมุม

「คย้าาน!」

มันดูเหมือนผู้หญิง ที่ถือไม้สั้นๆที่เรียกว่าอาวุธยังไม่ได้ ล้มลง ขาของเธอยอมแพ้ตรงหน้าเราขณะที่เราเดินหน้า และเธอจับหัวของเธอระหว่างที่สั่น ผมไม่มีเจตนาจะทำอะไร แต่เธออยู่กลางถนนและบนทางของเรา ผมอุ้มผู้หญิง และเธอเตรียมตัวที่จะถูกฆ่า แต่เมื่อเธอเปิดตาที่มีน้ำตาของเธอ เธอค่อนข้างเป็นคนสวย

ผมมอบจุมพิตให้เธอและปล่อยเธอไว้บนสะพานไกลจากทาง

「ซ่อนซักพัก มันจะจบในอีกไม่นาน」

「เอ๋! อ้า-ค่ะ…ปากของชั้น..เค้าดูดมันเหรอ?」

มันดูเหมือนเธอไม่รู้ว่าอะไรเพิ่งเกิดขึ้น

「หนูนึกว่าท่านจะยื่นมือไปที่หว่างขาเธอหรือบางอย่าง」

ซีเลียได้อยู่ข้างผมและหัวเราะคิกคัก มันดูเหมือนเธอได้ชินกับสนามรบมาก จนเธอพูดมุขตลกได้แล้วตอนนี้ มันแปลกที่ว่าสาวที่ยังเด็กได้ชินกับสนามรบ แต่ผมเดาว่า ผมจะให้เธออยู่ข้างผมตลอดไป

เมืองดาโทรห์นนั้นไม่ใหญ่ขนาดนั้น ถ้ามันไม่มีสิ่งกีดขวางมันจะเป็นแค่ระยะทางสั้นๆจากประตูเมืองไปถึงคฤหาสน์ลอร์ดศักดินา

คฤหาสน์ที่ถูกยกสูงได้มีนักธนูพร้อมอยู่ข้างหน้า และพวกเขาพร้อมที่จะแสดงการต่อต้าน แต่จำนวนค่อนข้างน้อย อย่างที่คาด ทหารส่วนใหญ่ได้ออกไปจากเมืองเนื่องจากการบุกเข้าไปในเขตศัตรูก่อนหน้า

200 สู้กับไม่กี่คน มันแม้แต่เป็นการทรมารถึงตายก็ได้

แม้อย่างนั้น พวกเขาไม่ได้ดูเหมือนจะวิ่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มภารกิจของพวกเขา ที่จะพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของวินัยและกำลังใจของทหารอาร์คแลนด์

ดั่งจะเคารพความตั้งใจของพวกเขา พวกเราทุกคนฟันเขาตาย และขณะที่ผมวางมือไปบนประตูมันดูเหมือนว่าจะล็อคจากข้างใน ให้เราเรียกเขาสายขนาดนี้ ช่างหยาบคาย รูปลักษณ์ของเข้าต้องเป็นเหมือนหมูแน่ เหมือนหัวใจที่น่าเกลียดของเขา

「ให้ชั้นเผามั้ย?」

ถ้ามันเป็นแค่คฤหาสน์ลอร์ดศักดินา มันจไม่มีปัญหาที่จะเผามัน แต่มันเป็นอาคารที่งดงามที่ไม่เหมือนหมู่บ้านจนมาถึงตอนนี้ อาจจะมีของสำคัญที่ยึดได้ มันอาจจะเป็นการเสียของที่จะจุดไฟเผามัน แต่ผมรู้สึกพอแล้วกับการแข่งขันใช้กำลังและการแทรกเข้าไปในประตู

「ได้เลย มาใช้นี่กัน」

ในหมู่ทหารที่ตาย ผมแทงคนที่ตัวทรงดีที่สุดและใส่เกราะหนาที่สุดด้วยหอกของผม

「กุโออ้!」

โอ้ นายยังไม่ตาย ผมทำอะไรแย่ๆไปซะแล้ว

ผมกระแทกประตูด้วยกำลังทั้งหมดจากชายที่ผมแทงที่ยังอยู่บนหอกผม ด้วยกันกับหอก มันเป็นน้ำหนักที่ก้าวข้าม 100 กก. มันใช้แทนแท่นกระแทกประตูได้

บนการเหวี่ยงครั้งแรก ประตูเหมือนจะโดนขยี้ แต่ทันใดก็เปิดอย่างสมบูรณ์ ใช้การหมุนตัวและตีมันครั้งที่สอง ประตูหนาได้พังและล้มเข้าไปข้างใน

ถ้าเขายังรอดทีวิตหลังจากนั่น มันจะน่าทึ่ง แต่โชคร้าย มันดูเหมือนเขาหยุดหายใจแล้ว อัศวินสองคนรีบออกมาในความตื่นตนใจจากข้างในสถานที่ แต่ผมจะส่งทั้งสองคนไปนรกด้วยกันดังนั้นอย่างคิดร้ายกับผมเลย

ผมบอกลูกน้องของผม ที่ทึ่งและตกตะลึงกับภาพของงานชิ้นเอก ให้ลงจากหลังม้า แต่ชี้นิ้นเพื่อบอกให้เขารุกรานที่นั่น

「มันได้ถูกตัดสินใจแล้ว ยกเว้นพวกเขาจะต่อต้านด้วยอาวุธ อย่าฆ่าพวกเขาและจับทุกคน! แม้ว่าผู้หญิงต่อต้าน อย่าฆ่าพวกเธอ」

ถ้าพวกนายที่ใส่เกราะกันเต็มตัวถูกฆ่าโดยผู้หญิงที่เหวี่ยงมีดไปรอบๆ งั้นมันจะดีกว่าที่พวกนายตายไปแบบนั้น ทั้งหมดทีเดียว ลูกน้องของผมรีบเพื่อรุกรานคฤหาสน์ มันเป็นทีค่อนข้างใหญ่ แต่ด้วยคนมากขนาดนี้ มันจะจบโดยเร็ว

「สำหรับหนู หนูอยากจะฆ่าผู้หญิงแน่นอน」

「เธอจะทำอย่างนั้นแน่ๆ นั่นทำไมชั้นเก็บเธอไว้ข้างชั้น」

「ถ้าพวกเธอชี้ใบมีดไปทีเอเกอร์-ซามะหนูจะเฉือนพวกเธอซะ หนูจะไม่อนุญาตให้นั่นเกิดขึ้น」

ผมหวังว่าจะไม่มีผู้หญิงที่ต่อต้านอย่างไร้จุดหมายหน้าซีเลียนะ

—————————————————————

มันได้สงบแล้ว ศัตรูข้างนอกเมืองได้ถูกล้อมและกวาดล้าง ระหว่างคนที่ยังมีชีวิตยอมแพ้ พวกเขาได้ถูกมัดโดยเชือกและนำกลับไปข้างในเมือง และในสถานที่ หลังจากเสียงของอาวุธประทะกันได้เกิดขึ้น ชายที่ปิดหน้าของเขาได้ออกมา

「ชั้นคือ…คอร์ทอซ่า ดาโทรห์น…」

ลอร์ดศักดินาได้ถูกลากออกมาเหมือนที่ผมจินตนาการ หมูหน้าเกลียดตัวหนึ่ง มันอาจจะเป็นบางคนที่คุ้นเคยในอดีตแต่ผมจำไม่ค่อยได้ มีบุคคลที่สำคัญสามคนรวมถึงคนนี้ เจ้าหน้าที่รัฐสภาและลูกของชายคนนี้

มีทหารไม่กี่คนที่เชื่อว่าจะเป็นผู้ติดตาม แต่เมื่อถามชื่อขุนนางและเมื่อพวกเขากำลังจะยกดาบ มันดูเหมือนลูกน้องของผมได้แทงเขาซ้ำมันไม่ใช่ว่าพวกเขาชี้ดาบเพื่อจะฟันหรืออะไรบางอย่าง แต่ไม่มีลูกน้องหลายคนที่เข้าใจพิธีของขุนนาง ดังนั้นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ผมเดาว่าผมสอนพวกเขาได้นิดหน่อยครั้งหน้า ลีโอโพลต์จะทำ

「ชั้นเอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ บารอเนตของโกลโดเนีย เมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของโกลโดเนีย」

ผมหยุดพวกเขาจากการที่เขาจะประกาศชื่อ เพราะทั้งหมด ผมไม่อยากจะฟังบางอย่างที่ผมไม่สนใจ

「อย่างแรก เมืองนี้จะตกเป็นของโกลโดเนีย และพวกนายจะโดนประหาญ」

ทั้งสามคนถอยหน้าของเขากลับไป

「ที่จะประหาญผู้ที่ยอมแพ้แล้ว นายไม่รู้มารยาทของขุนนางใช่มั้ย!? ไอ้คนไร้อารยธรรม!」

「กองทัพเหนือจะขัดการกับนายและฆ่าพวกนายแน่นอน ถ้าพวกนายเก็บเราไว้ พวกเค้าอาจจะเห็นอกเห็นใจนาย!」

「กองทัพเหนือ..」

ผมอยากจะรู้สิ่งที่พวกเขารู้

「ถ้านายอยากจะรอดชีวิต นายต้องเสนอข้อมูลที่น่าสนใจให้ชั้น ถ้านายทำนั่นได้ หลังจากที่บอกชั้นทุกอย่าง ชั้นอาจจะรู้สึกอยากปล่อยนายไปฟรีๆ」

「ชั้นทำบางอย่างที่ทรยศแบบนั้นไม่ได้」

หมูดูเหมือนจะภักดี ตรงกับข้ามกับรูปลักษณ์ของเขา

「งั้นก็ ตามแผน มันดูเหมือนทุกคนจะถูกประหาญ ชั้นไม่มีได้ไม่มีเสีย ชั้นไม่ถือนะ รู้มั้ย」

สามคนได้เงียบ ลูกชายหมูกลัวอย่างเห็นได้ชัดแต่เขาดูจะโง่ภายนอก แม้ว่าถ้าเขาพูด เขาน่าจะไม่มีข้อมูลอะไรดีๆให้เรา

「พระอาทิตย์ได้ตกดินแล้ว อย่างน้อยชั้นจะให้พวกนายได้กินบางอย่าง ดังนั้นพวกนายสามคนควรจะคิดดีๆ ถ้านายอยากจะปกป้องความภาคภูทิใจ งั้น พรุ่งนี้เช้ามันจะเป็นการประหาญ」

หลังจากที่ผมบอกเขาอย่างนั้น ผมส่งสัญญานไปที่ลีโอโพลต์ที่ผมเจอ และออกจากที่นั่นมา ลีโลโพลต์และผมได้มั่นใจว่าพวกเขาทั้งสามคนจะยอมพูด

—————————————————————

「ได้โปรดดูทางนี้」

ผมก้าวเข้ามาในบางอย่างที่ดูเหมือนคลังใหญ่ที่เป็นของลอร์ดศักดินาที่อากอร์นำผมมา มีของหลากหลายอย่าง ข้าวและผักดอง เนื้อแห้ง และมากกว่าที่ตาจะเห็นได้ คิดจากสถานการณ์ของหมู่บ้านที่เรายึดมาจนถึงตอนนี้ มันเป็นจำนวนที่ไม่น่าเชื่อ

「บางทีเมืองนี้เป็นที่ที่รวบรวมของของอาร์คแลนด์」

ทีมแนวหน้าที่เรากวาดล้างไม่ได้นำทีมขนส่งมาด้วยกันกับเขา แต่พวกเขาหน้าจะเติมอาหารจากที่นี่และเดินทาง

「นี่ค่อนข้างเป็นจำนวนมาก ถ้ามันแค่เรางั้นมันจะเป็นอาหารสำหรับหลายเดือน แต่เราขนทั้งหมดไปไม่ได้」

มันจะดีที่สุดถ้าเรามอบมันให้กองกำลังหลัก แต่กองกำลังหลักก็ขนเสบียงของพวกเขาแล้วด้วย มันไม่เหมือนพวกเขาจะมีปัญหาที่มีเพิ่มขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญด้วย ตั้งแตทีแรก เศรษฐกิจของโกลโดเนียนั้นดีกว่าอาร์คแลนด์เป็นหลายเท่า มันโอเคโดยไม่ต้องพึ่งเสบียงของศัตรู

「งั้น ทำไมเราไม่ฉลองชัยชนะนี้และจัดงานเลี้ยงให้คนล่ะ」

「นั่นโอเคเหรอ? โดยไม่ถามกองกำลังหลัก」

เพราะทั้งหมดอากอร์จริงจัง

「ชั้นไม่ถือมัน มีแค่เมืองและเราที่รู้ว่าเรากินไปไร้สาระขนาดไหนในหนึ่งวัน ความรับผิดชอบมันเป็นของชั้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน」

นอกจากนี้ มันอาจจะเป็นชัยชนะที่ท่วมท้นในภาพที่ใหญ่ แต่ถ้าคุณดูทหารอาสามันค่อนข้างเป็นภัยพิบัติ มันอาจจะดีที่พวกเขาจะรู้สึกชื่นชมเรา

ผมควรจะไปเยี่ยมทหารอาสา

「เฮ้ พวกเธอยังอยู่」

「…มันเป็นแผนที่จำเป็นสำหรับสงคราม แต่หลายคนได้ตาย」

อย่างที่คาดย้อกลี่ย์ได้โกรธ เหมือนไปแหย่ม้าว่าพร้อมจะผสมพันธุ์หรือยัง การให้พวกเขาปะทะจะทำให้พวกเขาโกรธอย่างเป็นธรรมชาติ

「สำหรับกองทัพที่ก่อตั้งมาที่ถูกสั่งการ การจะแพ้ไปแบบนั้นมันน่าสงสัย และมันอาจจะถูกคิดว่าตั้งใจทำ แผนนี้สำเร็จเพราะทหารคือชาวนา」

มันไม่ได้โกหก แต่จากก้นบึ้งของหัวใจผม พวกเขาอาสามาสู้แล้ว และผมคิดว่ามันธรรมชาติที่มันจะมีความตาย แม้ว่าพวกเขาจะถูกพวกเรานำทาง

「ชั้นจะไม่พูดว่าชั้นขอโทษ ถ้าจำเป็น ชั้นอาจจะสั่งการให้เธอทำอย่างเดียวกันอีก」

ย้อกลี่ย์คิดเล็กน้อยและแสดงสีหน้าที่สดใส

「หนูรู้หนูจะทำเต็มที่ครั้งหน้าด้วย หนูจะกล่อมทุกคน! แต่…」

รอยยิ้มของเธอหายไปและเธอมองผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง

「เมื่อสงครามได้จบ โกลโดเนียชนะ และพวกท่านควบคุมดินแดนของอาร์คแลนด์ โปรดปฏิบัติแบบสิทธิพิเศษกับหมู่บ้านเรา…」

นี่ค่อนข้างตรงไปตรงมา มันง่ายทีจะเข้าใจมากกว่าบางคนที่พูดมันอ้อมๆ

「เราได้สู้ด้วยกันตั้งแต่แรกเริ่ม เราสู้ด้วยกัน และมีคนตาย นั่นทำไมเมื่อเราชนะพนัน เราควรได้ความรู้สึกดีๆบ้าง」

「ชั้นไม่รู้ว่าคนด้านบนจะทำอะไร แต่ชั้นจะปฏิบัติกับเธอและหมู่บ้านเธออย่างดี นั่นโอเคกับเธอมั้ย?」

「ใช่! อ้า แล้วก็ความบริสุทธิ์ของหนูก็มากับสิ่งนั้นด้วย ดังนั้นคิดเกี่ยวกับนั่นด้วย」

「แน่นอน เราต้องตัดจำนวนของผู้หญิงที่เอเกอร์-ซามะจะโอบกอด」

ซีเลียได้เขามาสนทนากระทันหันกับย้อกลี่ย์ และได้จ้องกัน มันดูน่าจะสนุก แต่มันมีความเป็นไปได้ที่ซีเลียจะฟันเธอจริงๆ ดังนั้นผมลูบหัวเธอและนำเธอไปกับผม

「ส่งผู้ส่งสาส์นรึยัง?」

「ค่ะ อย่างที่ท่านสั่งการ พวกเขาจะไปถึงพรุ่งนี้เช้า」

ผมรายงานกองกำลังหลักแล้วว่าเราได้ยึดครองเมืองที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฐานของการรุกราน กองกำลังหลักน่าจะเขาเมืองนี้ ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ มีอัศวินและทหารหลายคนที่สามารถจะหนีไปทางใต้ได้ ในอนาคตอันใกล้ พวกเขาจะรู้ว่าเมืองนี้ได้ถูกยึด

แค่จากการดูแผนที่ เราบอกได้ว่าการเดินหน้าต่อไปจากนี้ จะพาเราเข้าไปใกล้เมืองหลวงและเมืองป้อมปราการที่ล้อมอยู่ มันจะไม่แปลกที่ศึกตัดสินจะมีขึ้นในไม่นาน แต่เราจำเป็นหาความตึงเครียดเพื่อกดดันพวกเขาให้สูงมากกว่านี้อีก

「แต่วันนี้ ไม่มีภัยในรอบด้าน」

ประตูเมืองได้ปิดและถูกซ่อม และยามเมืองได้ถูกวางเป็นเฝ้าระวัน มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเมืองที่ล้อมโดยกำแพงจะถูกบุกอย่างลับๆตอนกลางคืน

「กระจายเสบียงอาหารให้ชาวเมืองและทหาร แล้วก็นักโทษสงครามพลทหาร อย่างงกนะได้ยินมั้ย? เอาให้พวกเค้าเยอะๆ」

ซีเลียได้สื่อสารคำสั่งของผมให้กับแต่ละทีมและพวกเขาเชียร์ตอบสนอง เสียงคำรามแพร่จากทหารไปถึงทหารอาสา จากนั้นชาวเมือง และบรรยากาศที่เหมือนเทศการในที่สุดก็เริ่มลอยอยู่ทั่ว

แม้ว่าผู้คนในเมืองนั้นดีกว่าบริเวณชนบท สถานการณ์ของอาหารไม่ได้ดีกว่าเลย ก่อนหน้านี้ ผู้หญิงที่ผมดูดปากก็ผอมและตัวเบา ภูเขาและกองของอาหารผ่อนคลายความกลัวที่ชาวเมืองของเมืองมีต่อทีมของผม ความภัคดีต่ออาร์คแลนด์ลดลง

ผมมองการมองข้างไปให้กลุ่มคนที่โห่ร้อง ขณะที่ผมมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ลอร์ดศักดินาเก่า มีบางอย่างที่ผมต้องทำ

—————————————————————

ข้างในคฤหาสน์ คนรับใช้ได้รวมกันอยู่ที่ห้องโถง มีหลายคนที่ใกล้ชิดกับลอร์ดศักดินา ดังนั้นมันใช้เวลาซักพักก่อนผมจะออกมาได้ มีผู้ชายและคนแก่น้อย พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

「อืม…อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา?」

หนึ่งในพวกเธอพูดแทนผู้หญิงที่สั่น อายุของเธอดูจะถึง 30 แต่เธอค่อนข้างสวย

ขุนนางทั้งหมดได้ใส่เสื้อผ้าที่ล่อตาล่อใจ มันชัดเจนว่าแทนที่จะเป็นงานบ้าน พวกเธอรวมกันเพื่อเป็นเครื่องบันเทิงทางเพศของลอร์ดศักดินา แล้วก็ มีมากมายที่มีแผล และแผลเป็นบนพวกเธอ มันดูเหมือนพวกเธอไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างอ่อนโยนเลยซักนิด

「ลอร์ดศักดินาได้ถูกตีด้วยเชือกและกลิ้งไป ทหารทั้งหมดตายหรือถูกจับ พวกเธอจะเสียสถานะที่เป็นคนรับใช้ ถ้าเธอมีครอบครัวรอเธออยู่ในเมืองเธอกลับไปหาพวกเค้าได้」

มันไม่มีผู้หญิงที่ทำหน้าตาเข้มงวด เพราะบางที่ไม่มีใครที่เลือกงานที่ด้วยความตั้งใจของตัวเอง

「คนที่ไม่มีที่จะกลับไปจะดูแลคฤหาสน์ ในท้ายที่สุด กองกำลังหลักเราจะมา แน่นอนว่าพวกเธอจะได้ถูกจ่ายเงินและได้รับอาหาร」

ผู้หญิงคนหนึ่งชูมือของเธออย่างขลาดๆ

「ท่านจะซ้อมเราหรือรัดคอเราถ้าเราหนีมั้ย?」

「ชั้นไม่มีงานอดิเรกที่จะทำร้ายผู้หญิง」

「แม้ว่าถ้าหนูเลือกที่จะกลับบ้าน ท่านจะไม่พยายามทำร้ายครอบครัวของหนู…?」

「ชั้นยังไม่รู้จักครอบครัวของเธอเลย」

ว้าาา! เสียเชียร์ได้ดัง พวกผู้หญิงรีบออกไปข้างนอก มีผู้หญิงที่วิ่งออกไประหว่างร้องไห้ออกมาดังๆ แน่นอนว่าทหารพยายามจะหยุดเพวกเธอ แต่ผมส่งสัญญานด้วยสายตาว่าให้ปล่อยพวกเธอไป

เมืองโดนหิมะถล่ม สาวๆและพวกผู้หญิงกลับไปหาครอบครัวของพวกเธอ มันดูเหมือนหมูนั่นปฏิบัติกับพวกเธออย่าแย่ๆ มีเพียงผู้หญิงห้าคนที่ยังเหลืออยู่ในห้องโถง ผู้หญิงที่ส่งเสียงตอนแรกก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย

「เธอเป็นคนที่เหลือหึ้ห์?」

「เราได้ถูกพามาจากบริเวณชนทห่างไกล เรากลับคนเดียวไม่ได้」

พิจารณาจากสถานการณ์ตอนนี้ เราส่งพวกเธอกลับไม่ได้ เราไม่มีทางเลือกนอกจากให้พวกเธออยู่ที่นี่

「งั้นอย่างที่ชั้นบอกตอนเริ่ม ชั้นจะปล่อยการดูแลคฤหาสน์ไว้ให้เธอ」

ผมจ่ายที่เธอสมควรได้ด้วยเหรียญเงิน

「นี่เป็นคำขอส่วนตั้ว แต่…ชั้นได้เครียดจากการต่อสู้ ชั้นจะไม่ปฏิบัติพวกเธออย่างรุนแรง ดังนั้นมีผู้หญิงคนไหนจะยินดีจะมอบความบันเทิงให้ชั้นมั้ย?」

สีหน้าของทุกคนแข็งไป มันดูเหมือนพวกเธอมีความกลัวของการถูกโอบกอดโดยผู้ชาย ดังนั้นไม่มีใครอาสา ผมเดาว่าผมจะต้องพึ่งซีเลียวันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากทิ้งปล่อยพวกเธอซักพัก มือได้ถูกยก อย่างที่คาดมันคือผู้หญิงในตอนเริ่ม

「หนูจะเป็นคู่ของท่าน ได้โปรดมากับหนู」

ทหารได้พูด ‘กัปตันเอาอีกแล้ว’ ระหว่างที่หัวเราะและโบกไว้โบกมือ มันไม่ใช่ธุระของพวกนายเลย; ถ้านายทำให้ผมรำคาญต่อ ผมจะส่งพวกนายไปที่แนวหน้ารู้มั้ย?

—————————————————————

ผู้หญิงนำทางโดยไม่รีรอ แต่หน้าของเธอยังแข็งอยู่ มันอาจเป็นเพราะเธอคิดว่าไม่มีใครพูดอะไร และอารมณ์ผมเสีย ถ้างั้นคนอื่นจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี มันไม่เหมือนกับเธอยอมรับผมอย่างจริงใจ แต่เมื่อเราไปถึงเตียงแล้วผมเขาหาเธอด้วยบางอย่างนอกจากคำพูดได้

ที่ที่เธอนำผมไปคือห้องนอนของลอร์ดศักดินา จินตาการว่าหมูนอนในที่แบบไหน มันทำผมเสียนิดหน่อย แต่ผมได้ถูกพาไปที่ที่ดีที่สุดดังนั้นผมบ่นมากไม่ได้ สาวคนอื่นได้ติดมาด้วยพร้อมหน้าตาที่ดูกังวล เธอเป็นผู้หญิงที่ป้องกันคนอื่น ดังนั้นเธอค่อนข้างถูกชอบ

「ยังไงซะ ชั้นจะเป็นคู่ของเค้า ดังนั้นเธอควรจะรอซักพักก่อนจะนำเครื่องดื่มเข้าไป โอเคมั้ย?」

เราปล่อยผู้หญิงคนอื่นอีกสี่คนไว้และเราเข้าไปในห้อง เธอถอดเสื้อผ้าของเธอทันที

「ขอโทษที่มันสายไปเล็กน้อย หนูชื่อริต้า หนูเป็นผู้หญิงที่มีกายที่เปราะบางดังนั้นได้โปรดปฏิบัตกับหนูอย่างอ่อนโยน」

เธอลดหัวของเธออย่างนอบน้อบ มันลามกแค่ไหนกันที่ผู้หญิงเปลือยทั้งตัวลดหัวของเธอแบบนั้น

「ยังไงซะ ถ้างั้น หนูควรจะบริการท่าน? หรือท่านจะลิ้มรสกายหนูก่อน?」

ก่อนอื่น ผมควรจะขจัดความกังวลใจของริต้า ผมจะแทนการทักทายเธอด้วยการให้เธอยืนอยู่และเลียทั้งตัวของเธอ

เธอของเธอโดยรวมแล้วอวบ หน้าอกของเธอเรียบร้อย และมากกว่านั้นตูดเธอใหญ่ มันไม่ใช่ว่าเธออ้วน แต่มีเนื้ออยู่เยอะบนตูดเธอดังนั้นมันรู้สึกดีที่จะจับ

และที่โดดเด่นที่สุดคือความจริงที่ว่าเธอมีแผลเป็นทั้งตัว มันไม่ลืกและมีการถลอกมากมาย และมีปานด้วย มันดูเหมือนหมูไม่รู้วิธีที่จะปฏิบัติกับผู้หญิง

「น๊าาาา!」

ผมฝังหน้าของผมไปที่ตูดเธอจากข้างหลังและยืดลิ้นของผมไปทีน้องหนูของเธอ การทำร้ายกายที่มหัศจรรย์ของผู้หญิงแบบนี้เป็นเรื่องที่โง่เขลา

「หนูจะบริการท่าน」

ลูบไล้เธอซักพัก ริต้าก็ได้ถอดเสื้อผ้าผมและนำหน้าของเธอไปใกล้หว่างขาผม

「อะ-!!」

เอ็นผมเด้งออกมาและเธอได้ตกใจวินาทีหนึ่ง แต่เธอไม่พูดอะไรและให้ลิ้นของเธอคืบคลานใส่มัน มันดูเหมือนเธอได้ค่อนข้างฝึกมา; การโจมตีของเธอค่อนข้างรุนแรงสำหรับชายที่อัดอั้นหลังจากการต่อสู้ ไม่สามารถจะอั้นต่อไปได้ ผมโยนริต้าขึ้นไปบนเตียงและขึ้นเธอ

「ชั้นจะใส่มันเข้าไปล่ะนะ นั่นโอเคมั้ย?」

「กรุณา อ่อนโยน」

แน่นอนว่าผมไม่มีเจตนาจะทำเธอพัง แล้วก็ทำมันเมื่อมีก้นใหญ่เท่าของเธอ มันควรจะโอเค

「ฟฟฟู่!」

「น๊าาาา!」

ด้วยเสียงที่ลื่นผมดันเอ็นผมเข้าไปในเธอ มันควรจะเปียกพอแล้วแต่เธอทำเสียงเอี๊ยด สำหรับเวลาที่ผมอั้นมาในการต่อสู้ มันอาจจะใหญ่กว่าปรกติ ข้างในผู้หญิงก็กระตุกเหมือนเธอตกใจด้วย

「เธอโอเคมั้ย?」

「ใช่…อุปกรณ์ของท่านค่อนข้างใหญ่ดังนั้นหนูค่อนข้างตกใจ ท่านตามสบายแล้วขยับได้เลย」

ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ผมจะไม่ยั้งมือ เสียงของเนื้อตีกันได้เริ่มขึ้นเมื่อผมแทง ในตำแหน่งมิชชันนารี ผมขี่ตูดริต้า และเมื่อมันโดนเอวของผม มันรู้สึกค่อนข้างดี

「กายของท่านทนทานและแกร่ง…เอ็นที่ใหญ่ของท่านก็รู้สึกดีด้วย นกกกุ!」

หน้าของเธอบิดเบี้ยวและเธอปล่อยเหงื่อยเย็นขณะที่เธอพูดมัน ดังนั้นมันชัดเจนที่ว่าเธอพยายามจะทำให้ผมพอใจ แต่สามารถที่จะรู้สึกดีตั้งแต่ตอนนี้ขณะที่เราทำมัน เป็นความต้องการที่หวงแหนที่แท้จริงของชาย

ไม่เพียงแต่แทง แต่ยังหมุนสะโพกของผมและมอบการจูบ และบางครั้งดึงออกและใช้ลิ้นของผมเพื่อเล่นกับน้องหนูและเม็ดถั่วของเธอ หลังจากประมานหนึ่งชั่วโมงหรืออย่างนั้น การตอบสนองที่เธอแสดงตอนแรกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

「อาาา! เลียที่แบบนั้น! มันรู้สึกดีมาก ได้โปรดขยับสะโพกของท่านต่อไป! หนูไม่เคยรู้สึกอะไรบางอย่างแบบนี้มาก่อน!」

อวดดีและโจมตีมากกว่าเดิม

「ทำมันอีก อย่าหยุด!? ใส่เข้าไปถึงโคน! มันโอเคถ้าท่านทำหนูพัง…ไม่ ได้โปรดทำให้หนูพังเลย!!」

เหตุผลและวิธีพูดที่สุภาพของเธอได้หายไปอย่างสมบูรณ์

「ไอ้หมูนั่นเทียบกับท่านไม่ได้เลย!!」

ขาของริกต้าห่อรอบผมอย่างแน่นๆ ผมดึงออกด้วยกำลังและถูจุดอ่อนเธอด้วยเอ็นของผม

「อ๊าาา-! หนูจะน้ำแตกแล้ว…ได้โปรดดู บางอย่างน่าทึ่งจะออกมาาาาาาา!!」

เสียงดังได้ทำให้ริต้าทรุดแต่ผมยังไม่แตกเลย ผมยังไม่หยุดเคลื่อนไหวแต่ริกต้าได้หายใจอย่างอ่อนแอขณะที่เธอกอดผม

「มันโอเค…ถ้าท่านจะไม่อ่อนโยนขนาดนั้น ได้โปรดอาละวาด จากก้นบึ้งของหัวใจ…ใช้เอ็นที่งดงามของท่านและแทงหนู…โอบกอดหนูและทำลายหนูได้โปรด!!」

ขณะที่ผมกำลังจะน้ำแตก ริกกะห่อทั้งแขนและขารอบผมอย่างแน่นมากจนไม่มีพื้นที่ระหว่างตัวของเรา แม้ว่าเธอจะยกเอวเธอเล็กน้อย เราจะไม่แยกจากกัน นั่นคือเราติดกันเป็นกาวมากขนาดไหน มากกว่านั้น ข้างในของเธอได้เป็นลูกคลื่นเพื่อเพิ่มความรู้สึกดีของผม รู้สึกดีมากๆ ผมสามารถจะปล่อยความปรารถนาของผมออกไป

—————————————————————

「ท่านเก่ง…」

หลังจากที่เราเสร็จ ผมดึงริต้าที่ยังเกาะผมออก

แม้ว่าเธอไม่เต็มใจที่จะปล่อยเมื่อผมดึงเธอออก ทันทีที่ผมเตรียมหมอนแขนให้เธอ เธอได้กระโดดใส่มันทันที และวางริมฝีปากของเธอไว้ที่ต้นคอของผม ตัวที่ประหน้าของเธอและใจของเธอได้ผ่อนคลาย ตาที่มีเสน่ห์ของเธอได้ขอให้ผมเอาใจเธอ และริต้าไม่ใช่ของของหมูอีกต่อไป แต่ได้เป็นผู้หญิงของผม

จากทุกอย่างที่ริต้าบอกผมเมื่อเธออยู่บนหมอนแขน ลอร์ดศักดินาสะสมพวกผู้หญิงหน้าตาดีและภายใต้หน้ากากของคนรับใช้ ทำให้พวกเธอเป็นทาสเซ็กส์ มันดูเหมือนเขาไม่มีมีเซ็กส์กับพวกเธอปรกติแต่ให้เธอไปบริการลูกชายและลูกน้องของเขา และมีความสุขกับการทำพวกเธอหยาบๆ พวกเธอไม่ได้รับยาคุมกำเนิด และถ้าพวกเธอซักคนได้ท้องหรือป่วย พวกเธอจะถูกโยนออกไป และทิ้งไว้ลำพัง และยังมีค่อนข้างหลายคนที่ถูกฆ่าในสถานที่นี้

คิดถึงการปฏิบัตของหมูนั่นและ เขาใช้นี่เป็นแหล่งอ้างอิงได้จะดี

「เทียบกับนั้น ฮาร์ดเลตต์ ซามะในฐานะคน และในฐานะผู้ชาย พวกท่านต่างกันเกินไป」

เธอยิ้มอย่างหวานระหว่างที่พักหัวของเธอบนหมอนแขน

「ท่านใจกว้าง กายของท่านค่อนข้างแข็งแกร่งและทนทาน และท่านรู้ว่าจะปฏิบัติกับผู้หญิงยังไง เทียบฮาร์ดเลตต์-ซามะกับชายคนนั้น เค้าเป็นเหมือนกันกับหมูสกปรกจากเล้าหมู…หมูคนนั้นพูดโอ้อวดเกี่ยวกับเอ็นเค้าา แต่เค้าแค่ครึ่งของท่านเอง」

มันเป็นการชมที่คัน แต่เธอมองผมด้วยหน้าที่คิดเหมือนผมอย่างคนรัก และเธอกอดผม ดังนั้นผมไม่คิดว่ามันแค่คำเยินย่อจากท่าทางของเธอ

「จูบกับคนนั้นเป็นความรู้สึกน่ารังเกียจเดียวกันกับการมีแมลงมีพิษคลานอยู่ที่สันหลัง… กับท่านมันเหมือนดื่มไวน์ระดับสูงของเทพเจ้า」

「จริงเหรอ?」

「ค่ะ และก็เอ็นที่ชายคนนั้นภาคภูมิใจมีแค่ความสามารถที่ทำให้ผู้หญิงทุกข์ทรมาน อุปกรณ์ของท่านใหญ่กว่ามาก และมันทำให้หนูไปถึงสวรรค์…อาาา ช่างรักใคร่」

เธอมุดเข้าไปในผ้านวมแล้วจูบเอ็นผม ผมพยายามจะผ่อนความเครียดของริต้า แต่มันดูเหมือนผมผ่อนคลายเธอมากเกินไป และเธอได้กลายเป็นบางอย่างที่แปลก เมื่อผมได้เริ่มที่จะเบื่อการชมที่หวานเกินไปและการคนบนหมอน มีเสียงเคาะประตู

「สาวที่นำน้ำมาได้เข้ามาในห้องอย่างขลาด ทั้งสี่คนเข้ามาด้วยกันเพราะความกลัวและความกังวลกับริต้า」

พวกเธอมาเตรียมตัวสำหรับริต้าที่ถูกทรมานโดยผม แต่ต่อตาของเธอมีสาวที่มีหน้าที่หวานและมีเสน่ห์ ที่ติดกับเสน่ห์ของผม

「ริต้า-ซัง? คุณอยู่กับเค้าเสร็จรึยัง?」

「ไม่มีทาง! มันน่าเสียดายสำหรับมันถ้าจะจบแบบนี้ แล้วก็ ความแข็งแกร่งของฮาร์ดเลตต์ซามะยังไกลจาก…」

「ฮฮฮิ้ห์!」

「อะไร- น่าทึ่ง!」

「นั่นอะไร!」

「ม้าเหรอ!?」

เมื่อริต้าเปิดผ้านวม สาวๆได้ส่งเสียงของความประหลาดใจ เอ็นของผม ที่มันกิจกรรมหลังเสร็จกิจ ข้างในผ้านวม มันยืนชูชันอีกครั้ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ตกใจเมื่อมองผม มันเป็นสัตว์ประหลาดขนาดนั้นจริงๆเหรอ?

「เธอจะอยากมีส่วนร่วมด้วยมั้ย? ทุกคนจะถูกพาไปสวรรค์ด้วยกันแน่ๆ」

สาวๆงง แต่บางทีพวกเธอคิดว่าไม่มีทางที่ริต้าจะโกหกได้ และเชื่อใจเธอ หรือ มันจะเป็นความได้เปรียบหลายอย่างถ้าสนิทดีกับมาสเตอร์ใหม่ สาวๆทั้งหมดส่งเสียงโหยหวนและประจบผม

ตอนแรกทุกคนได้แข็งทั้งผม แต่ขณะที่แต่ละคนได้ถูกพาไปถึงจุดสุดยอด ความกลัวของพวกเธอลดลง และความอิจฉาเพิ่มขึ้น หลังจากเอาชนะเธอสามคน คนสุดท้าย โดยไม่แม้แต่จะจับเธอ นำได้ออกมาไม่จบไม่สิ้นจากน้ำพุ ที่เธอมีเจตนาจะเปิดขาผมด้วยนิ้วและยินดีต้อนรับผมเข้าไป

ความต้องการทางเพศที่ถูกก่อมาในผมตั้งแต่การต่อสู้ ได้ถูกแก้ภายในคืนเดียวด้วยผู้หญิงห้าคน สาวๆ ไม่ได้กลัวผมอีกต่อไป แค่โดยการลูบต้นขาพวกเธอจะเปิดน้องหนูของเธอ เมื่อผมวางมือไว้บนก้นของพวกเธอ พวกเธอจะวางมือไว้บนกำแพง และแหวกรูตูดมากเท่าที่พวกเธอทำได้

เช้าวันถัดมา ผมหลับด้วยทั้งตัวของผมพันอยู่กับสาวๆ และซีเลียที่พุ่งเข้ามาเพื่อนำผมออกจากเตียงได้ทำเสียงที่แปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้

—————————————————————

เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19ปี ฤดูร้อน

ชนชั้น: กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม

ทีม: กองพลที่ 1 กองร้อยหทารม้า ทหารม้าหนัก 180 หน่วย, ทหารม้าเบา 20 หน่วย

กองร้อยทหารราบ 3 กอง แต่ละกองมี พลหอก, นักธนู, ติดปืนธนู 200 คน

เหล่าทหารช่าง 200 คน

ทหารอาสา 240 คน

รวม 1240 คน

ลูกน้องกองทัพ: ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ติดตาม-น้ำว่าว-นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร), ย้อกลี่ย์ (ผู้จัดการทหารอาสา)

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)

อุปกรณ์: เกราะเต็มตัวเหล็กระดับสูง, ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)

สถานที่ปัจจุบัน: ดินแดนของอาร์คแลนด์ส่วนเหนือ

ความสำเร็จ: ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)

ยึดหมู่บ้าน x8 , ยึดเมืองดาโทรห์น , ยึดเสบียงอาหาร

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท