The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1256 – แผนเบี่ยงเบน

ตอนที่ 1256 - แผนเบี่ยงเบน

   เจ้าเลือกข้าเพราะข้าคือรากเหง้าแห่งความวุ่นวายหรือ?หากเจ้ารู้ว่ามีอันตรายรายล้อมข้าอยู่และตายได้ทุกเมื่อ ข้าก็ไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้า 

  เทพอสูรเนตรม่วงแววตาลึกล้ำมันดูเปล่งประกาย

   รากเหง้าแห่งความวุ่นวายย่อมต้องก่อความวุ่นวายแต่มันก็เป็นผลดีต่อตัวเจ้า เช่นเดียวกับคนรอบข้างเจ้าด้วย! 

   เจ้าเองรู้ดีข้าเชื่อเช่นนั้น เจ้าทำลายล้างศัตรูจนสิ้นซาก แต่เจ้าและคนที่ติดตามเจ้าได้ผลประโยชน์อย่างไร้ขีดจำกัด ดูอย่างเทพสองคนที่อยู่กับตัวเจ้าสิ 

   ทั้งสองควรจะตายไปแล้วใช่ไหม?แต่เมื่ออยู่กับเจ้า ทั้งสองกลับได้ผลลัพธ์ดั่งฟ้าประทาน ทั้งสองได้จิตวิญญาณเทพกลับคืนมา วันที่จะกลับไปเป็นเทพอีกครั้งกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า     จากที่ข้าเข้าใจต้นตอแห่งความวุ่นวายทำลายล้างทุกสิ่ง แต่ก็คืนสิ่งที่ได้จากการทำลายมาเพื่อทำให้ตัวเองและคนรอบข้างกล้าแกร่งขึ้นด้วย เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าเจ้าผ่านอะไรมา! 

   ดังนั้นแล้วหากทายาทข้าได้อยู่ข้างกายเจ้า ประโยชน์อันไร้สิ้นสุดจะตกอยู่กับตัว หากทิ้งให้อยู่ลำพังในแดนจิงหยู ทายาทข้าคงจะเกิดเรื่องร้ายก่อนที่จะได้เติบโต! 

   จะอย่างไรเทพอื่นอีกแปดคนก็แทบจะทนเห็นเทพอื่นที่รู้ความลับตัวเองเติบโตไม่ได้ 

  เขาทำเพื่อรักษาวิถีเทพของตนให้คงอยู่และขัดขวางไม่ให้เทพอีกแปดคนกำจัดทายาทของเขานั่นเอง

   ย่อมได้หากเจ้าตายก่อนที่ทายาทเจ้าจะเติบโต ข้าจะดูแลแทนเจ้าจนกว่าเขาจะกลายเป็นเทพ 

  ซือหยูเลือกรับข้อเสนอ   แต่ข้าต้องพูดตามตรงอย่าคิดว่าข้าจะมอบทุกสิ่งให้กับทายาทเจ้า ทายาทเจ้าจะเป็นเพียงคนที่ติดตามข้าเท่านั้น 

   ดี… 

  เทพอสูรเนตรม่วงยอมรับด้วยความเต็มใจราวกับกลัวว่าซือหยูจะเปลี่ยนใจ

  ‘ตาเฒ่านี่…’

  ซือหยูคิด

  ‘มันมาเพราะได้เปรียบข้างั้นรึ?’

   ส่งทายาทเจ้าให้กับข้าในยามที่เจ้าดูแลไม่ไหวแล้วเท่านั้น… 

  ซือหยูกล่าวแม้เทพอสูรเนตรม่วงจะอ่อนแอ เขาก็ยังเหลือเวลาในชีวิตอีกหลายปีตราบเท่าที่ไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

  เทพอสูรเนตรม่วงตกลงด้วยความเต็มใจ

   ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้ากำจัดเทพที่เจ้าระวังอยู่ก็แล้วกัน ถือว่าเป็นความจริงใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้า    เทพอสูรเนตรม่วงหัวเราะเบาๆ

  ซือหยูใบหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย

   มันมาที่เมืองแล้วรึ? 

   ถูกแล้วกำลังเดินอยู่นอกตำหนัก 

  เทพอสูรเนตรม่วงที่เป็นเทพสัมผัสการมาของเทพตำราได้อย่างง่ายดาย

  ซือหยูตาเป็นประกาย

   เจ้าทำได้แค่ไล่มันไปสินะ? 

  เทพอสูรเนตรม่วงกลอกตา

   เจ้าจะหวังอะไรอีกเล่า?ดูสภาพข้าตอนนี้สิ ข้าแก่จนจะตายอยู่แล้ว 

  เทพอสูรเนตรม่วงไม่ใช่เทพที่มีพลังต่อสู้มากมายพลังอันยิ่งใหญ่ของเขาคือเนตรที่มี มันสามารถมองทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้

  ซือหยูไม่พอใจนักกับผลลัพธ์เพียงเท่านี้

  ซือหยูคิดต่อไป

   เจ้าหาจุดอ่อนมันได้หรือไม่? 

   ข้าจะลองดู    เทพอสูรเนตรม่วงหลับตาคลื่นพลังยิ่งใหญ่แผ่ออกมาจากหางตา

  ไม่นานเทพอสูรเนตรม่วงก็ลืมตาด้วยความตกใจ

   แปลกมากชายคนนี้ราวกับวายุวารีไร้ก้น เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เจอกับเทพเช่นนี้ 

  เมื่อคิดได้ว่าชื่อเสียงของตนกำลังเป็นภัยเทพอสูรเนตรม่วงกล่าวอีกครั้ง

   ขอข้าลองอีกที! 

   ไม่ต้องแล้วเจ้านี่น่ะไร้เทียมทาน 

  ซือหยูไม่ผิดหวังมันเป็นอย่างที่เขาคิด

  เขามักจะเห็นความน่ากลัวของเทพตำราอยู่ตลอดเรื่องประหลาดเกี่ยวกับเทพตำราไม่ได้แปลกประหลาดสำหรับซือหยู

   มาใช้วิธีที่โง่เง่าที่สุดกันดีกว่า… 

  ซือหยูพูด

   ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยลากตัวมันออกมา 

  เทพอสูรเนตรม่วงถาม   วิธีอันใดกัน? 

   มันจะกล้าลงมือก็ต่อเมื่อเจ้าออกไป… 

  เทพอสูรเนตรม่วงเข้าใจในทันที

   หมายความว่าข้าต้องแสร้งออกไป และพอมันลงมือ ข้าจะเข้ามาช่วยเจ้าจากด้านนอกสินะ? 

   ใช่แล้ว! 

  เทพอสูรเนตรม่วงพยักหน้ายอมรับเขาอยู่ในตำหนักซือหยูจนถึงครึ่งวันก่อนจะแสร้งออกไป เขาซ่อนอยู่ในจุดที่ห่างจากเมือง รอคำสั่งซือหยู

  ด้านในเมืองเทพตำราไม่ลงมือในทันที เทพตำรายังคงจับตาดูที่ตำหนัก

   คิดจะล่อข้าเข้าไปงั้นรึ? 

  เขาพ่ายแพ้ซือหยูมาหลายครั้งเทพตำราระวังซือหยูในทุกฝีก้าว

  หนึ่งวันผ่านไปและอีกสองวันหลังจากนั้น…  เทพตำรายังคงรอคอยอย่างเงียบเชียบด้วยความอดทน

  เวลาผ่านไปช้าๆ จนหนึ่งเดือนล่วงเลย

  ในตอนนั้นเองคลื่นพลังเทพปรากฏเหนือตำหนัก เทพอสูรเนตรม่วงกลับมาแล้ว

  เทพตำราคิดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้

   ข้าไม่โดนหลอกอีกครั้งแน่ซือหยู! 

  เทพตำราหายตัวไปจากเมืองชมทะเลไม่เหลือร่องรอยเอาไว้แม้แต่นิดเดียว

  ในตำหนัก…

  เทพอสูรเนตรม่วงถอนหายใจห้าซือหยู

   เจ้าเทพตำรานั่นยังใจเย็นอยู่ได้มันน่าจะรู้แผนเจ้านะ 

  ซือหยูขมวดคิ้วเบาๆ

   น่ารำคาญซะจริง 

   ชายคนนี้เจ้าเล่ห์ล่อให้ออกมาท้าทายยิ่งนัก 

  เทพอสูรเนตรม่วงกล่าวจากนั้นเขาก็ชักสีหน้า

   ช้าก่อนมันไปแล้ว! 

  ไปแล้วรึ?ซือหยูครุ่นคิด

   มันยอมแพ้แล้วรึ? 

  เทพอสูรเนตรม่วงถาม

  ซือหยูส่ายหน้าเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

   ไม่มีทาง!ข้ารู้จักมันดี มันจะต้องกลับไปคิดหาวิธีการอื่นไม่ผิดแน่ 

  มันคิดจะทำอะไรกันแน่?จู่ ๆ มันก็กลับไป มันจะไปไหนได้…

  ซือหยูปราดตามองเห็นเทพอสูรเนตรม่วงเขาจึงนึกขึ้นได้

   เทพอสูรเนตรม่วงมันไปที่เมืองของเจ้าแล้วล่ะ 

   อะไรนะ? 

  เทพอสูรเนตรม่วงตกใจ

   ถ้ามันเล็งเจ้าทำไมจะต้องไปที่ตำหนักข้าด้วยเล่า?     แผนเบี่ยงความสนใจยังไงล่ะ… 

  ซือหยูตอบด้วยความใจเย็น

   ก่อเรื่องวุ่นวายในเมืองเจ้าจนเจ้าต้องกลับไปนั่นเป็นอุบายลับของเทพตำรา…ไม่สิ มันจงใจทำอย่างเปิดเผย! ต่อให้มองแผนของมันออก เจ้าก็ยังต้องกลับไปที่เมืองของเจ้าอยู่ดี 

  เทพอสูรเนตรม่วงขมวดคิ้วแน่นที่เมืองไม่มีสิ่งใดที่เขาเสียไม่ได้นอกจากทายาท ซึ่งเป็นคนที่เขาห่วงใย

  หากเทพตำราเจอตัวทายาทมันจะร้ายแรงถึงตายแน่

  เทพอสูรเนตรม่วงตกที่นั่งลำบากหากเขากลับไปช่วย เขาจะต้องกับดักนั้น หากไม่มีเขาคอยช่วย ซือหยูจะจัดการเทพตำราไม่ได้ด้วยตัวเอง

  ในตอนนั้นเองซือหยูพูดขึ้นมา

   เทพอสูรเนตรม่วงเจ้ากลับไปซะ 

   แต่เจ้า…    เทพอสูรเนตรม่วงตกใจแต่เขาก็ได้เห็นเงายิ้มที่มุมปากซือหยู

   เจ้าจะต้องคิดเรื่อง… 

   เราจะเล่นตามแผนมันไปก่อน… 

  ซือหยูใบหน้าเรียบเฉย

   ตราบที่ควบคุมเวลาได้พอดีเราจะทำเทพตำราให้ตกใจได้หนักอึ้งทีเดียว! 

  เล่นตามแผนรึ?เทพอสูรเนตรม่วงรู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขามองซือหยูด้วยความชื่นชม

  ต่อมาเทพอสูรเนตรม่วงออกจากตำหนักและรีบกลับเมืองเนตรม่วงของตัวเอง

  ครั้งนี้เขากลับไปจริง ๆ

  สองวันต่อมาคลื่นพลังเทพก็ได้แพร่กระจายมาที่เมืองชมทะเล

  แสงเงาเทพส่องอาบตำหนักเจ้าเมืองอย่างสะดุดตา

  เทพตำราจ้องมองซือหยูที่กำลังดื่มอยู่คนเดียวในกระโจมอย่างไร้อารมณ์

  ทั้งสองมองหน้ากันจากระยะไกลจิตสังหารปะทุผ่านแววตา

  เทพตำรายืนมือไพล่หลัง

   เจ้าไม่มีใครให้พึ่งพาอีกแล้วสินะ?เก้าเทพจากพันธมิตรบูรพาไม่อยู่แล้ว เทพอสูรที่เป็นมิตรกับเจ้าช่วงนี้ก็มาช่วยเจ้าไม่ได้ บอกข้าสิว่าใครจะมาช่วยเจ้าอีก! 

  ซือหยูยิ้มเบาๆ

   จะกี่ครั้งเจ้าก็ยังมั่นใจต่อให้ต้องแพ้ข้ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง 

   ครั้งนี้จะไม่เหมือนก่อน! 

  เทพตำราเปล่งแสงเทพประกายรอบตัวเขาก้าวพริบตามาถึงตัวซือหยูในเสี้ยววินาที!

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน