ตั้งแต่กลับมาจากทะเลความสัมพันธ์ระหว่างกุ๊กไก่และอชิก็ยิ่งแนบแน่น กระทั่งเธอลืมไปเลยว่าตัวเองกับเขามีฐานะที่แท้จริงนั้นเป็นอะไร เหมือนต่างคนก็ต่างรู้อยู่ในอกแต่ไม่มีใครพูดออกมา ปล่อยให้ความสัมพันธ์แบบคู่รักดำเนินไปและต่างคนต่างปกปิดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
กุ๊กไก่เปิดคลิปเสียงที่เธออัดเอาไว้ฟังหลายรอบ เสียงไม่ค่อยชัดและเธอก็ฟังไม่เข้าใจ ทั้งยังมีเสียงรบกวนจนฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าวันนั้นเธอไม่ได้มึนเหล้าเธอคงทำได้ดีกว่านี้ และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์ต่อหน้าเธออีก
กรุ๊ปแชทสามสาว
กุ๊กไก่ : Hello มีใครอยู่บ้าง
Nacha : ฉันมีไร
ลูกเกด : อยู่ด้วยมีไร
กุ๊กไก่ : มีคลิปเสียงไม่ค่อยชัดแต่ช่วยแปลให้หน่อย ฟังไม่ออกอ่ะว่าเขาพูดไร
ลูกเกด : ส่งมาจิ
กุ๊กไก่ : ส่งคลิปเสียง
ลูกเกด : ไม่ค่อยชัดว่ะ แต่ถ้าจับใจความประมาณว่า ผู้ชายกำลังคุยกับลูกแล้วบอกให้เขากินยาให้ตรงเวลาอย่างอแง ส่วนคำอื่นฟังไม่ชัด
Nacha : ด้วย เหมือนไอ้เกด ได้ยินแค่นั้น ทำไมแกไปแอบชอบพ่อหม้ายลูกติดเหรอวะถึงไปแอบอัดคลิปเสียงใครมา
กุ๊กไก่ : เชี่ยแล้วมึง!
Nacha : ไอ้กุ๊ก อย่าบอกนะว่าจริง ๆ
ลูกเกด : ใคร เมื่อไหร่ สารภาพมา ที่หาย ๆ ไปนี่คือติดผู้ใหม่ใช่ป่ะ
กุ๊กไก่ : ไม่หรอกก็แค่เพื่อน ไม่มีไรแค่สงสัยเอาไว้ว่างเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ฉันกำลังดูร้านช่างมาแล้วแค่นี้ก่อนนะแก ต้องรีบคุยกับเขาเดี๋ยวเสียมารยาท
Nacha : เออ ๆ ลูกฉันก็ร้องแล้ว แกส่งข่าวด้วยนะมีไรชอบปิดพักนี้แปลก ๆ
ลูกเกด : เออ พักนี้ไอ้กุ๊กมันแปลก ๆ
Nacha : มันไปแล้วมั้ง
ลูกเกด : ถ้าว่างแกโทรมาหาฉันหน่อยนะ ไอ้กุ๊กด้วย ฉันต้องไปดูลูกเหมือนกัน
Nacha : ได้
กุ๊กไก่ยังอ่านข้อความในแชท เพื่อนของเธอทั้งสองคนเพราะต่างคนต้องเลี้ยงลูกเล็ก พวกเธอจึงมักไม่ว่างปัญหาของเพื่อนก็มากพอแล้วกุ๊กไก่ไม่อยากเอาปัญหาของตัวเองไปให้เพื่อนรู้อีก เธอจึงได้แต่ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง วิธีการแก้ก็ง่ายนิดเดียวคือการทำใจของตัวเองให้อย่าได้คิดเกินเลยเกินเพื่อน แต่เรื่องง่าย ๆ แค่นี้กลับดูยากขึ้นมาก
กุ๊กไก่เคยถามเขาเกริ่น ๆ แต่อชิกลับทำท่านิ่งและปฏิเสธทีเล่นทีจริง ยังย้ำถึงข้อตกลงว่าห้ามเธอถามมากจนทำให้เธอหงุดหงด
“ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย จะมีเมียมีลูกก็ช่างมันปะไรล่ะ อีกไม่นานก็คงได้หย่ากันแล้ว”
กุ๊กไก่เอาแต่คิดเรื่องนี้ เพราะแบบนี้ทำให้เธอถึงกับนอนไม่หลับไปหลายวัน แต่ว่ากุ๊กไก่เหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นจากประสบการณ์ที่ถูกทิ้งอย่างโชกโชนเธอจึงไม่ถึงกับต้องกลับไปพึ่งยานอนหลับอีก
วันนี้อชิมีงานที่ไม่จำเป็นต้องพาเธอไปด้วย กุ๊กไก่จึงมาที่ร้านคนเดียว ร้านของเธอที่อชิตกแต่งให้ใหม่ดูกว้างและน่านั่งมาก ร้านนี้ยังสามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม ดูน่ารักให้บรรยากาศเหมือนสวนดอกไม้ไม่แข็งทื่อเหมือนเดิม
ที่ตกแต่งร้านใหม่แบบนี้เพราะอชิบอกเธอว่า ร้านกาแฟแถวนี้มีรูปแบบที่เหมือนกันเกินไป เน้นความเรียบสวยหรูแต่ไม่ดูผ่อนคลาย โซนนี้เป็นโซนออฟฟิศผู้คนก็เคร่งเครียดมากพอแล้ว ร้านของเธอควรเป็นสไตล์สบาย ๆ เข้ามาแล้วเหมือนได้มาเดินเล่นในสวนผ่อนคลายความตึงเครียด
อชิยังส่งคนของเขามาช่วยคนหนึ่ง เรียกว่าเป็นเชพทำขนมกุ๊กไก่รับสมัครพนักงานใหม่เขาให้อบขนมง่าย ๆ ในร้าน โดยรับแป้งสำเร็จจากร้านดังเจ้าหนึ่งเป็นประจำ แค่เอาเข้าเตาอบในอุณหภูมิและเวลาที่กำหนด ก็จะได้ขนมแสนอร่อยและทำให้ร้านหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นขนมที่ทำเสร็จใหม่
บรรยากาศในร้านจึงมีทั้งความสวย ความสบาย รสชาติกาแฟ และกลิ่นขนมที่หอมอร่อย เรียกได้ว่าแค่วันที่เทสร้านเมื่อวานกุ๊กไก่ก็ตื่นเต้นยินดีจนน้ำตาไหล
กุ๊กไก่ยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้มทันทีที่เห็นร่างสูงของเก่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน
“พี่เก่งยังไม่พักเที่ยงเลยนี่คะ”
เก่งหัวเราะ
“บริษัทนี้พี่ยึดเอาไว้แล้ว ถ้าไอ้เคนมันมีปัญหาพี่ก็จะให้มันกลับมาดูแลเอง”
กุ๊กไก่หัวเราะ เมื่อฟังคำเก่งคุยโว แต่เธอเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเก่งผู้เป็นทุกอย่างให้เควิลคนนี้ทำได้ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยกระทั่งพาเควิลไปชอปปิ้งแพมเพิสให้ลูกกระทั่งบริหารบริษัทที่มีมากจนเธอปวดหัว
“ก็จริงค่ะ ถ้าไม่มีพี่เก่ง พี่เคนก็คงแย่ ยังไงก็ทำต่อไปนะคะเรื่องนี้มีผลต่อนาชาด้วยค่ะ กุ๊กเอาใจช่วย”
“ห่วงเพื่อนว่างั้น”
“แหงสิคะ ถ้าบริษัทเจ๊งขึ้นมาก็ต้องกระทบถึงฐานะทางการเงินของนาชาด้วย แบบนั้นไม่ดีค่ะกุ๊กไม่มีเงินเลี้ยงเพื่อนแล้ว”
เธอพูดเศร้า ๆ แต่ก่อนในเวลาที่นาชาตกอยู่ในความลำบาก ช่วงเวลานั้นเธอยังพอช่วยเพื่อนได้แต่ตอนนี้เธอไม่มีความสามารถอะไรพวกนั้นแล้ว
เก่งเดินดูในร้านทั้งชมว่าแต่งร้านได้สวยและแปลกน่าเข้า ลูกค้าต้องชอบแน่ ๆ กุ๊กไก่จึงยิ้มหน้าบาน
“ไอเดียอชิเขาน่ะค่ะ กุ๊กก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะคิดเรื่องพวกนี้ได้”
เก่งยิ้มทั้งพยักหน้า
“คุณอชิเก่งจริง ๆ พี่เองก็ยอมรับ กุ๊กโชคดีแล้วได้แต่งกับเขา”
“พี่อย่าแซวสิคะ อีกไม่นานก็หย่ากันแล้วกลายเป็นแม่หม้ายแล้วค่ะ”
เก่งมองเธอสายตาหวานซึ้ง ใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้แต่แปลกที่กุ๊กไก่กลับไม่รู้สึกใจเต้นเหมือนครั้งก่อนที่ได้เจอเขา
“ถ้ากุ๊กไม่ว่าลองคิดเรื่องพี่อีกหน่อยได้หรือเปล่า”
“พี่เก่ง”
กุ๊กไก่อึกอัก กระทั่งเสียงของใครคนหนึ่งกระแอมดังขึ้น ที่แท้เธอและเก่งไม่ได้อยู่ในร้านกันสองคน ยังมีพนักงานที่มาเก็บงานที่ร้าน คนทำความสะอาด และหญิงสาวตัวเล็กน่ารักที่เป็นบาริสต้ามือหนึ่งของเธอ
“พี่กุ๊กติ๊กลองอบขนมค่ะ แป้งนี่ดีมากเลยนะคะเยี่ยมเลยอบแป๊บเดียวเสร็จแล้วทาเนยที่หน้าของมัน พี่ดูสิหอมนุ่มยังกะเชฟมือหนึ่งทำเองเลยค่ะ”
ติ๊กถือจานขนมมาให้เธอชิม เป็นขนมปังและขนมครัวซองอีกหลายชิ้น ล้วนเป็นแป้งสำเร็จจากร้านที่อชิหามาให้ กุ๊กไก่ยื่นมือไปรับจานขนมแต่ติ๊กกลับยืนนิ่งและเธอกำลังอ้าปากค้าง
“เชี่ย หล่อฉิบหาย”
กุ๊กไก่ถึงกับหัวเราะออกมา ในขณะที่เก่งยิ้มและทำท่าขัดเขินเมื่อเห็นแม่หนูนี่เอาแต่จ้องเขาไม่วางตา และไม่มีหลบเลยสักครั้ง
“หมายถึงพี่เหรอคะ ถ้าหมายถึงพี่ก็ขอบคุณค่ะ”
เก่งชี้ตัวเองติ๊กพยักหน้า
“ขอโทษนะคะ ถ้าเสียมารยาทแต่พี่เป็นดาราหรือเปล่าคะ”
เก่งส่ายหน้าทั้งยิ้ม ๆ “ไม่ใช่ค่ะ หนูว่าพี่เหมือนดาราเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ เพื่อนพี่กุ๊กไก่ส่วนใหญ่ก็เป็นดารากันทั้งนั้น”
“พี่ไม่ถนัดสายนั้นค่ะ ว่าแต่หนูทำอะไรมาให้พี่กุ๊กไก่กินคะ”
เพราะติ๊กหน้าเด็กและยังตัวเล็กเก่งจึงคิดว่าเธอน่าจะอายุประมาณสิบห้าสิบหกปีเท่านั้น คำพูดของเขาที่ออกมาจึงเหมือนว่าเขากำลังคุยกับเด็กน้อยคนหนึ่งอยู่ เขายังหันมาถามกุ๊กไก่สีหน้าไม่สบายใจ
“กุ๊กจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีผิดกฎหมายไม่ใช่เหรอ”
กุ๊กไก่หัวเราะเสียงดังลั่น ทั้งเธอและติ๊กปฏิเสธแทบจะพร้อมกัน
“ไม่ใช่ค่ะ พี่เก่งคะติ๊กจะยี่สิบปีแล้วนะคะ สิบเก้าแล้วค่ะไม่กี่เดือนก็จะครบยี่สิบปีแล้ว”
เก่งหน้าเหลอ “อ้อ น้องเขาหน้าเด็กพี่ก็ยังนึกว่าเป็นเด็ก เรานี่ก็ช่างหาคนจริง ๆ”
กุ๊กไก่ยิ้ม
“เป็นเด็กของนาชาค่ะ ขยันอดทนมากเลยนะคะเป็นคนเดียวที่อยู่กับกุ๊กตอนที่ลำบาก”
เก่งไม่รู้เรื่องนี้เขาจึงมองเธออย่างสงสัย
“ลำบากอะไรกันคะ ตอนไหนที่กุ๊กลำบากทำไมไม่บอกพี่”
“อ้อ เปล่าค่ะ หมายถึงเด็กสมัยนี้เปลี่ยนงานบ่อยค่ะ มีแต่ติ๊กนี่แหละที่ยังอยู่กับกุ๊ก”
ว่าแล้วก็บอกติ๊ก
“เอ๊า นี่ก็มัวแต่มองคนหล่อเอาขนมมาพี่จะชิมแล้วพอได้หรือเปล่า”
ติ๊กยิ้มเขิน ๆ “ก็คนหล่อใคร ๆ ก็ชอบมองนี่คะ”
กุ๊กไก่จึงแนะนำตัวให้สองคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการ
“นี่พี่เก่งเพื่อนสามีของพี่นาชาและพี่ลูกเกด พี่นึกว่าติ๊กเคยเห็นแล้ว”
ติ๊กไหว้เขาอย่างนอบน้อม เก่งรับไหว้แทบไม่ทันเด็กคนนี้หน้าหวานผิวขาวตาของเธอไม่โตมากหน้าออกหมวยดูน่ารักดี แต่ก็น่ารักแบบเด็ก ๆ ซึ่งไม่ใช่สเป๊คของเก่ง ผิดกับกุ๊กไก่ที่ดูเป็นผู้หญิงเต็มตัวยังเซ็กซี่จนเขาเห็นแล้วต้องน้ำลายหกอยู่หลายครั้ง แต่สิ่งที่เรียกความสนใจของเขาได้คือ ติ๊กมีเสียงเล็กที่หวานน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่เคยเห็นค่ะ ก่อนหน้านั้นติ๊กก็อยู่หลังร้านคอยเก็บคอยล้างแก้วกาแฟไม่ค่อยได้ออกมาหน้าร้านนี่คะ”
“อ่อ มิน่าไม่เคยเจอ พี่เก่งก็มาออกบ่อย”
“พี่ลองทานดูค่ะ”
ติ๊กเร่งกุ๊กไก่อยากรู้ว่าฝีมือการอบขนมสำเร็จรูปของตัวเองจะเป็นยังไง “พี่เก่งด้วยนะคะลองชิมหน่อยค่ะ”
สองคนเริ่มชิมในขณะที่ติ๊กใจเต้นระรัว ถึงไม่ได้ทำแต่เธอก็อบเองกับมือเลยนะ
“อร่อยนะ ใช้ได้เลยสู้ขนมโรงแรมดังได้เลย”
กุ๊กไก่ชมและเก่งเห็นด้วย เขาเป็นคนไม่ค่อยกินขนมแยกแยะไม่ค่อยออก แต่ขนมที่ติ๊กอบมาก็อร่อยจริง ๆ
“มาติ๊กสอนพี่อบหน่อย ระหว่างรอคนมาสมัครงานพี่ต้องทำเองไม่งั้นติ๊กแย่แน่เลยไม่มีใครช่วย”
เป็นครั้งแรกที่กุ๊กไก่ดูกระตือรือร้นขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาด้วยความไม่ใส่ใจของเธอจึงทำให้ร้านเจ๊งมาแล้ว เก่งเองก็ไม่คิดจะกลับเข้าออฟฟิศอีก เขาเคลียร์งานเรียบร้อยเพื่อมีโอกาสได้มาอยู่กับกุ๊กไก่จึงอาสาช่วย
“พี่ช่วยนะครับ มาติ๊กสอนพี่ด้วย เผื่อว่าง ๆ พี่มาช่วยที่ร้าน”
กุ๊กไก่มองเก่งตาโต
“พี่เก่งจะว่างด้วยเหรอคะ งานเยอะขนาดนั้น”
“คนที่นี่พี่ไว้ใจได้ค่ะ แค่ต้องมาตรวจงานเท่านั้นเราวางคนไว้แล้วไม่จำเป็นต้องลงมือทั้งหมด กุ๊กไก่ก็เหมือนกันเทรนคนเก่ง ๆ และให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เราจะได้ไม่เหนื่อย คอยดูภาพรวมก็พอ”
กุ๊กไก่พยักหน้า เรื่องธุรกิจอชิเองก็สอนเธอเยอะยังมีเก่งที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือ เธอคิดว่าการเปิดร้านใหม่คราวนี้เธอต้องเอาอยู่แน่นอน ว่าแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ คราวก่อนที่เปิดร้านเพราะมีลูกเกดและนาชาอยู่ เธอแค่มายืนยิ้มอยู่หน้าร้านในขณะที่นาชาและลูกเกดวิ่งวุ่น เธอจึงไม่รู้ว่ามันลำบากแค่ไหน
ติ๊กสอนเจ้านายและกิ๊กของเจ้านายในสายตาเธออบขนม สามคนดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีเสียงหัวเราะจากความสุขดังขึ้นเป็นระยะ กระทั่งขนมได้ที่ติ๊กก็สอนให้พวกเขาทาเนยเคลือบบนผิวขนม
“ทาแบบนี้ขนมจะได้เงาน่าทานค่ะ ถ้าลูกค้ามาซื้อพี่ก็ถามเขาหน่อยว่าจะอบร้อนหรือเปล่าถ้าอบอีกมันก็จะกรอบขึ้นค่ะ”
ติ๊กอธิบายอย่างชำนาญ กุ๊กไก่รู้สึกว่าหลังจากอชิส่งติ๊กไปเรียนเป็นบาริสต้าเธอดูคล่องแคล่วและชำนาญขึ้น จนเธอเองก็อยากเรียนเหมือนกัน เธอถามติ๊กอีกหลายอย่างเกี่ยวกับการเรียนติ๊กก็อธิบายให้ฟังโดยละเอียด กุ๊กไก่จึงตัดสินใจที่จะไปเรียนเหมือนกัน
“หนูยังจะเรียนต่อค่ะ แต่คราวนี้จะเก็บเงินซื้อคร์อสเองค่ะไม่รบกวนพวกพี่แล้ว”
ติ๊กพูดขึ้นเก่งจึงเสนอ
“ถ้าลำบากพี่ออกเงินให้ก่อนดีมั๊ยคะ หนูจะได้เรียนและมาช่วยพี่กุ๊กไก่เต็มที่”
กุ๊กไก่ขอบคุณเขาแต่เธอเองก็เกรงใจ เพราะสถานที่มันค่อนข้างแคบจึงทำให้เก่งยืนซ้อนหลังผู้หญิงสองคนอยู่ โดยเฉียงมาทางกุ๊กไก่มองเผิน ๆ จึงเหมือนเขากำลังโอบซ้อนเธออยู่กระทั่งเสียงเข้ม ๆ ของคนมาใหม่ดังขึ้น
“ผมคงไม่รบกวนคุณเก่งครับ เด็กของเมียผมเดี๋ยวผมจัดการเอง”