กุ๊กไก่เดินมานั่งลงข้าง ๆ เขาที่ม้านั่งยาวตรงตำแหน่งที่เก่งเพิ่งลุกไปเก่งยังทิ้งความอบอุ่นเอาไว้ตรงนี้ แต่หัวใจของกุ๊กไก่ในเวลานี้กลับเย็นเยียบ
ดวงตาของอชิในตอนนี้พร่าเลือนแต่แปลกที่เขากลับเห็นใบหน้าของกุ๊กไก่อย่างชัดเจน
“มาแล้วเหรอ”
“อื้อ”
เพราะเอาแต่ร้องไห้ เพราะเอาแต่สะอื้นกุ๊กไก่จึงพูดไม่ออกสักคำ
“คิดถึงฉันมั๊ย หรือโกรธจนไม่คิดจะคิดถึงกันแล้ว ฉันคิดถึงเธอนะ คิดถึงมาก ๆ เลยล่ะ”
กุ๊กไก่สูดลมหายใจเข้าลึก เธอจับมือของเขาแน่น มือของเขาในตอนนี้ทั้งเย็นและผอมแห้งจนเรียกได้ว่ามีเพียงหนังหุ้มกระดูก แต่เธอกลับรู้สึกว่ามือนี้อบอุ่นมากเพียงใด
“คิดถึงและโกรธมากด้วย”
“จะทำยังไงดีล่ะ คราวนี้จะรีบหายโกรธได้หรือเปล่า”
น้ำเสียงนั้นช่างสลดและรู้สึกผิดจนเธอสะท้อนในอก
“หายโกรธแล้ว แต่เมื่อเจอหน้าก็คิดว่าจะโกรธอีก”
“ทำไมล่ะ ฉันทำผิดอีกแล้วเหรอ”
กุ๊กไก่พยักหน้า เธอไม่อยากมองหน้าเขาเพราะกลัวว่าตัวเองจะฟูมฟายออกมา
“โกรธที่กินข้าวน้อยแล้วผอมแบบนี้ อชิของฉันเป็นเด็กชายตัวอ้วนคนหนึ่ง คนที่ฉันสามารถวิ่งหลบหลังเวลามีคนมารังแก คนที่กินทุกอย่างที่ฉันทำและชมว่าอร่อยเสมอ คนที่ไม่เคยตะคอกฉันแม้ว่าจะโกรธแค่ไหน คนที่ปกป้องฉันเสมอเหมือนทหารองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ต่อเจ้าหญิงของเขา”
อชิยิ้ม ทุกสิ่งที่กุ๊กไก่พูดต่างผุดขึ้นมาในความทรงจำ แต่ก่อนเขาคิดว่าเขาทำเพราะจำใจ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทั้งหมดนั้นเรียกว่าความผูกพันธ์ และความรักที่เขามีให้เธอโดยไม่รู้ตัวและไม่เคยคิดหวังสิ่งตอบแทน
“ในใจของฉันหวังว่านายจะอยู่ดีมีสุข มีเมียกี่ร้อยกี่พันคนก็ได้ จะมีลูกกี่คนก็ได้เรื่องทั้งหมดนี้ฉันจะยกโทษให้นาย แต่นายใจดำมากที่ปิดปากเงียบ นายใจดำที่สุด แต่สุดท้ายแล้วฉันกลับไม่โกรธนายจริง ๆ ยังคงรอนายเสมอ รอคอยฟังคำอธิบายจากนาย”
เสียงสะอื้นดังขึ้นอีกครั้ง กุ๊กไก่ปาดน้ำตาทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เหมือนว่าน้ำตาของเธอยังคงไหลเป็นสาย ขอบตาบวมช้ำเธอร้องไห้ตั้งแต่รู้ข่าว และร้องไม่หยุดจนถึงตอนนี้
เธอสูญเสียคนในครอบครัวจนหมด เหลือเพียงอชิคนเดียวเท่านั้น เธอเคยคิดว่าจะไม่สูญเสียใครอีกแล้ว อย่างน้อยอชิก็ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ที่ไหนสักแห่ง ถึงจะโกรธเขาแต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถที่จะโกรธเขาได้นาน บางทีอาจจะบังเอิญพบกัน บางทีอาจจะเดินสวนทางกันในสักวันก็ได้ไม่ใช่เหรอ
เธอรู้ดีว่าสุดท้ายเธอก็ต้องให้อภัยเขา ความรู้สึกของเธอในตอนนี้กลับไปเหมือนวันนั้น วันที่แม่ของเธอจากไป ทำไมล่ะ ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องนี้อีก โดดเดี่ยวอ้างว้าง ไร้ญาติขาดมิตร และเหมือนว่าจะอยู่เพียงลำพังในโลกนี้อีกครั้ง
“อชิ นายเห็นฉันเป็นครอบครัวหรือเปล่า”
กุ๊กไก่ต่อว่าเขาด้วยประโยคที่คุ้นเคย เป็นคำถามที่เธอมักจะถามเขาบ่อย ๆ เมื่อตอนยังเด็กและเขาแอบทำอะไรลับหลังเธอ อชิยิ้มมองไปยังผืนน้ำที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ผิดกับเวลาของเขาในตอนนี้ที่มันสั้นลงทุกที
“ในชีวิตนี้มีเธอเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวจนกระทั่งตอนนี้ ทำไมถามแบบนี้ล่ะ”
กุ๊กไก่ที่เพิ่งปาดน้ำตาและมันคล้ายจะหยุดไหลไปแล้วกลับรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอีก
“โกหก ถ้าคิดแบบนี้จริงแล้วทำไมไม่บอก ทำไมปล่อยให้ตัวเองโดดเดี่ยวจนถึงตอนนี้ ทำไมต้องต่อสู้เพียงลำพังและคิดจะทิ้งฉันเอาไว้โดยไม่บอกฉันสักคำ”
“ฉันขอโทษ ฉันแค่อยากให้เธอได้พบกับคนที่จริงใจ และฉันวางใจได้ คุณเก่งเขาเตือนสติฉัน ความจริงฉันมันคนเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงใจของเธอเลยสักนิด เอาแต่คิดเองเออเอง ฉันในตอนนี้ขี้ขลาดจริง ๆ ที่จะเจอเธอในสภาพนี้”
สายลมพัดแรงจนกระทั่งผมยาวของเธอพันกัน อชิได้แต่มองอยู่แบบนั้น เขาสมเพชตัวเองที่ในตอนนี้แม้แต่อยากจะช่วยเธอจัดผมเขายังไม่มีแม้แต่แรงที่จะทำแบบนั้น
รืมฝีปากของกุ๊กไก่สั่นระริก น้ำตาของเธอร่วงเหมือนก็อกน้ำที่ใครบางคนลืมปิด เขาไม่ได้ปลอบให้เธอหยุดร้อง เพราะถึงจะพูดไปเด็กผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยทำตามที่เขาบอก
กุ๊กไก่เป็นประเภทที่ยิ่งปลอบก็ยิ่งร้อง
“ไม่หรอก นายกล้าหาญเกินไป กล้าหาญที่จะจากไปอย่างโดดเดี่ยวและคิดว่าทำทุกอย่างเพื่อฉัน ฉันรู้แล้วฉันซึ้งใจจริง ๆ ฉันรักนายและความรักนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหนความทรงจำและความรู้สึกของนายยังคงเป็นนิรันดร์”
อชิลูบผมของเธอด้วยเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว กุ๊กไก่เอนตัวซบที่ไหล่ผอมบางของเขา เธอรู้สึกว่าอชิหายใจหอบถี่และคล้ายลมหายใจจะสะดุดอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงประคองสติของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม
“ความรักของครอบครัว ย่อมไม่มีอะไรมาทดแทนและเป็นนิรันดร์ ฉันหวังว่าเธอจะรักคุณเก่งแบบครอบครัว ไม่ใช่แบบแฟน วางเขาเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเธอและใช้ชีวิตอยู่อย่างร่าเริงและมีความสุขแทนฉันจะได้หรือเปล่า”
อชิพูดไม่ออกอีกต่อไป เขาเหมือนจะหมดเรื่องที่จะพูดแล้วทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาคิดถึงเรื่องที่จะพูดกับเธอมากมาย แต่แล้วยังไงละ ในเมื่อเขาเห็นแล้วว่าคนที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วยเพียบพร้อมแค่ไหน และสามารถดูแลเธอได้ดีกว่าที่เขาคาดหวังไว้ซะอีก เขาจึงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
น้ำตาของกุ๊กไก่ไหลลงมาเป็นสาย กระทั่งซึมเข้าไปเปียกเสื้อตัวหนาของอชิ
เพียงแต่ตอนนี้เพราะน้ำตาของเธอ ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจที่สุดท้ายเขาก็เป็นคนที่ทำให้เธอร้องไห้เสียใจอีกจนได้ เขามันคนไม่ได้เรื่อง กระทั่งรอยยิ้มที่เขาอยากได้สุดท้ายแล้วก็ยังปนไปด้วยคราบน้ำตาสินะ
อชิปล่อยให้กุ๊กไก่ร้องไห้ เธอจับมือของเขาเอาไว้รับรู้ว่าเขาผอมลงมากแค่ไหน มือที่เคยมีเนื้อหนังในตอนนี้กลับกลายเป็นมือที่แทบจะมีแค่หนังหุ้มกระดูกอยู่แล้ว กุ๊กไก่เงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยหยดน้ำที่ไหลลงมาไม่หยุด
“ครอบครัว เหรอ นอกจากนายแล้วก็ยังมีพี่เก่งอีกเหรอ”
อชิยิ้ม น้ำตาของเขาไหลออกมาเช่นกันเขาปล่อยมันออกมาช้า ๆ เจ็บปวดแต่ก็สุขใจ
“เธอจำได้หรือเปล่า ตอนนั้นที่ฉันเคยบอกเธอ ไม่ว่าจะคำว่า Friend หรือ boyfriend ทั้งสองคำนี้ต่างลงท้ายด้วย end ซึ่งหมายถึงจุดสิ้นสุด แต่ฉันและเธอเราสองคนไม่ใช่ทั้งเพื่อนและแฟน แต่เราคือครอบครัว Family ที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุด ไม่ว่าเธอจะทำอะไรฉันก็ไม่เคยโกรธเธอเลย เธอก็เหมือนกันใช่หรือเปล่า”
“ถ้ายังงั้นเราลองกันอีกสักครั้งได้หรือเปล่า เรามารักษานายฉันจะอยู่ข้าง ๆ นายเอง ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหน ฉันจะไม่ปล่อยมือนายเด็ดขาด นายจะทำได้มั๊ย อย่าปล่อยมือของฉัน พยายามเพื่อฉันเพื่อครอบครัวคนเดียวของนายอีกครั้งได้หรือเปล่า มีหมอเก่งมาก ๆ เรื่องนี้คนหนึ่ง ฉันให้พี่เก่งติดต่อให้แล้วเขาพร้อมช่วยนาย”
อชิยิ้มเหมือนอย่างที่เขาเคยยิ้ม เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอีกแล้ว เขาไม่อยากเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลอีกเขาไม่อยากที่จะเสียเวลาทำเรื่องที่เปล่าประโยชน์อีกแล้ว
“ยัยโง่ ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าเธอไม่สามารถฝืนทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์ได้ มันเสียเวลาฉันไม่ต้องการ”
“อชิ อาจจะมีปาฏิหารย์”
“ฉันได้รับมันแล้ว ปาฏิหารย์ของฉันคือมีชีวิตจนได้เห็นเธออีกครั้ง ฉันได้รับมันมาแล้วถึงแม้ว่าฉันจะเจ็บปวดที่ทำเธอร้องไห้ก็เถอะ”
เขาอยากให้เวลานี้ผ่านไปอย่างช้า ๆ อยากให้หยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ ข้างหน้าคือผืนฟ้างดงาม มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาวสะอาดที่กุ๊กไก่ชอบและเขาอยากเห็นเธอมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข อยากเห็นอีกนานแสนนานแต่ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถเพียงพอ
“นายอยากทำอะไรอีกหรือเปล่า บอกฉัน”
“แค่นั่งอยู่ตรงนี้กับฉัน เธอทำได้หรือเปล่า ฉันไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่ขอมีเธอข้าง ๆ ก็พอ”
“อื้อ ได้สิ เราจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ดีหรือเปล่า”
อชิยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาของเขาแดงก่ำมีน้ำตาคลอที่กำลังจะไหลลงมา
“อย่าไปไหนนะ จะบ่นหรือเปล่าเธอไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ และมักจะบ่นฉันตลอดว่าเบื่อรำคาญ”
กุ๊กไก่สะอื้น “ไม่ไป จะอยู่กับนายในตอนนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ขอโทษด้วยที่ต่อไปจะไม่สามารถอยู่ให้เธอรำคาญได้อีกแล้ว”
สายลมพัดผ่านมาอีกครั้ง อชิมองนกน้อยที่พยายามจะบินต้านลมจนสุดกำลังและมันสามารถเอาชนะได้ด้วยแรงเล็ก ๆ นั่น แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเขาก็รู้สึกยินดีกับชัยชนะของนกน้อยที่ไม่ได้ถูกลมพัดนั่นด้วยใจจริง
อย่างน้อยในยามที่เขาหมดแรงจะสู้ บนโลกใบนี้หลายชีวิตก็ยังดิ้นรนอยู่ คนที่เอาชนะในวันนี้ได้พวกเขาเก่งจริง ๆ เขาเองก็อยากเป็นคนเก่ง แต่พระเจ้าไม่ให้โอกาสเขาอีกแล้วแม้ว่าจะดิ้นรนมากเพียงใดก็ตาม
“ฉันรักเธอนะครอบครัวที่น่ารักของฉัน”
“ฉันก็รักนาย ให้นายจำไว้ให้ดีครอบครัวของฉัน”
ความทรงจำของเขาแจ่มชัดและช่วงเวลาที่มีกุ๊กไก่อยู่นั้นเขาช่างมีความสุขเหลือเกิน
“ตอนนี้ฉันจะกอดเธอได้หรือยัง”
กุ๊กไก่ปาดน้ำตา เธอขยับตัวเข้าใกล้ ๆ เขา ในวันนั้นที่เจอกันครั้งสุดท้ายอชิก็ขอกอดเธอแบบนี้ แต่เธอเย่อหยิ่งเกินไป เธอแสนงอนเกินไป หากวันนั้นเธอสังเกตเขาสักนิด เธออาจจะเห็นอาการผิดปกติของเขาก็ได้
เธอมันโง่ เหมือนที่อชิเคยบอกไว้ไม่มีผิด
“เธอจะยิ้มให้ฉันอีกสักครั้งได้หรือเปล่า ในวันแต่งงานของเธอไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน จำไว้ว่าฉันกำลังมองเธออยู่ มองเธอกำลังมีความสุขกับคนดี ๆ ที่เธอรัก ฉันขออวยพรให้เธอมีความสุขตลอดไป”
“ฉันจะทำแบบนั้นเพื่อนาย”
อชิพูดแผ่วเบา
“อย่าทำเพื่อฉันเลย ให้ทำเพื่อตัวเธอเองและทำเพื่อคนที่อยู่กับเธอ เข้าใจนะ”
“อื้อ”
กุ๊กไก่รับปากเขา เธอเขย่างจูบที่แก้มของเขาและโอบกอดรอบเอวผอม ๆ ของเขาไว้ก่อนจะแนบแก้มลงบนไหล่ที่เคยหนาแต่ตอนนี้คงเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกจนเธอปวดร้าวในใจ เธอเสียใจมาก ๆ เสียใจที่ตัวเองรู้ช้าไปจนเกือบจะไม่ทันเสียแล้ว
อชิยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข เขาหลับตาลงช้า ๆ ปล่อยให้ตัวเองสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โชยออกมาจากร่างของกุ๊กไก่และยังมีกลิ่นทะเลอันสดใส ฟังเสียงนกนางนวลที่บินกลับรังในยามค่ำคืน และเสียงดนตรีคลอเบา ๆ จากร้านอาหาร
ในเวลานี้เขารู้สึกว่าใจสงบที่สุดแล้ว คนสองคนประสานมือกันและจับมือกันแน่น เรื่องที่อยากจะพูดก็ได้พูดออกมาจนหมดแล้ว แม้จะเป็นแค่ถ้อยคำที่ไม่มากมาย แต่หากเพียงมองตากันก็ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
ครอบครัวของเขา จะยังคงอยู่ตลอดไป
กระทั่งเวลาผ่านไป ความมืดเข้ามาปกคลุมพร้อมกับมือของอชิที่ตกลงมาช้า ๆ กุ๊กไก่ยิ้มทั้งน้ำตา เธอสะอื้นเมื่อรับรู้ว่าเขาได้จากไปแล้ว เธอกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกล้นจนแทบจะข่มไม่ไหว พูดกับเขาเบา ๆ
“ฝันดีนะอชิ ครอบครัวของฉัน เพื่อนรักของฉัน ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ไปไหน จะจับมือนายเอาไว้แบบนี้ ฉันทำดีใช่หรือเปล่า”
ที่สุดขอบฟ้าในเวลานี้ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม ยังคงมีทะเลและดวงจันทร์กำลังขับเคลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่ของมันเช่นเดิม แต่ในตอนนี้ไม่มีอชิอยู่ในโลกใบนี้อีกแล้ว….