Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25 – บทที่ 64 จับมือกันตลอดไป (ตอนจบ)

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

รีสอร์ทที่พวกเขาเลือกพักเป็นรีสอร์ทสวยแห่งหนึ่งในม่อนแจ่มเชียงใหม่ซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูราคาแพงจึงจำกัดคนเข้าพักและได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด

สามสาวพอใจมากกับพี่พักแห่งนี้แม้จะเทียบกับที่หรู ๆ ที่พวกเธอเคยไปมานับครั้งไม่ถ้วนที่ต่างประเทศไม่ได้ แต่เพราะที่นี่คือเมืองไทย คือที่บ้านเกิดเมืองนอนจึงให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด

เก่งพากุ๊กไก่แยกออกมาจากสองสามีภรรยานั่นแล้วจูงมือเธอมายังที่พักของพวกเขาทันที เขาวางกระเป๋าไว้ด้านหน้าที่พักและบอกกับกุ๊กไก่อย่างเร่งร้อน

“พี่ลืมคุยเรื่องงานกับไอ้เคนน่ะ กุ๊กเข้าไปก่อนนะคะถ้าเหนื่อยก็นอนสักหน่อยนะ”

“ค่ะ”

กุ๊กไก่พยักหน้า เก่งรีบกระทั่งกระเป๋ายังไม่ยอมถือเข้าไป

“กระเป๋าวางไว้ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่ให้พนักงานมาจัดการเอง”

“ได้ค่ะ”

เก่งดันเธอเข้าไปในบ้านพัก

“รีบเข้าไปเถอะค่ะอากาศเย็นมากแล้ว กุ๊กยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ด้วยพี่จะรีบกลับมานะคะ”

กุ๊กไก่พยักหน้ารับในขณะที่เก่งหันหลังเดินไปอย่างเร่งรีบ เธอไขกุญแจเปิดเข้าไปซึ่งระบบกุญแจของที่นี่ยังเป็นแบบเก่า แต่ให้ความรู้สึกคลาสสิกไปอีกแบบ

ที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นกระโจมที่ด้านบนทำด้วยกระจกใส สามารถมองดูดาวได้ในเวลากลางคืน และแบ่งเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัว กระทั่งห้องอาบน้ำยังเป็นวิวพาโรนาม่าหากว่าต้องการอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติ แต่หากว่าอายก็สามารถปิดม่านบังตาได้

กุ๊กไก่เดินไปมองรอบ ๆ ห้องนอนและสำรวจไปทั่ว ๆ มันสวยมากจนเธอตื่นเต้นเพราะเธอไม่ได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้หลายปีแล้ว เธอเดินไปดูกระจกแล้วแนบหน้าลงไป

“อ้อ ที่แท้กระจกก็เป็นกระจกแบบที่สามารถมองเห็นจากด้านในเท่านั้นนี่นา”

หญิงสาวพึมพำคนเดียว ถึงแม้เก่งจะบอกว่าเดี๋ยวจะมีคนมาจัดการกระเป๋าใบโตเองแต่กุ๊กไก่ก็คิดว่าตัวเองจัดการได้ เธอวางกระเป๋าถือใบเล็กลงไว้บนเตียงที่ทำเป็นรูปวงกลม และยังมีดอกกุหลาบกับผ้าที่พับเป็นรูปหัวใจวางอยู่กลางเตียง

“สวยจังเลย”

หญิงสาวนั่งลงบนเตียงนุ่มแล้วเอนตัวลงนอนกระทั่งระดับความนุ่มของเตียงก็ยังถูกใจเธอ อารมณ์ของกุ๊กไก่ที่หดหู่มาเนิ่นนานตั้งแต่อชิเสียกลับดีขึ้นอย่างประหลาด

นี่ละนะที่คนเขาบอกว่า การเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้างจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ยิ่งได้มากับคนที่ชอบและเพื่อนรักแบบนี้เธอรู้สึกมีความสุขมาก

เสียงประตูเปิดออก เป็นพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนำ welcome drink มาเสริฟ และยังมาคอยดูแลเรื่องกระเป๋าให้เธอจนเรียบร้อย และเสียงของสองสาวนาชาและลูกเกดก็ดังขึ้น

“ว๊าวไอ้กุ๊กห้องสวยนี่หว่า”

“แล้วของพวกแกไม่สวยเหรอวะ”

“สวยเหมือนกันแต่คนละแบบที่นี่แต่ละห้องเหมือนจะดีไซน์แตกต่างกันของไอ้ชาก็เป็นอีกแบบ ของฉันก็อีกแบบอ่ะ”

กุ๊กไก่รู้สึกหิวเพราะตอนนี้ก็มืดแล้วจึงมองไปที่ประตูอย่างกังวล

“ไม่รู้ว่าพี่เก่งคุยอะไรกับพี่เคนและพี่โน่นะ ยังไม่กลับมาอีกหิวแล้วอ่ะ”

นาชาหัวเราะ

“เออ ก็พวกฉันมาตามแกอยู่นี่ไง ไปมีนัดตอนหนึ่งทุ่มอากาศค่อนข้างหนาวแกใส่หมวกด้วยสุขภาพยิ่งอ่อนแออยู่ช่วงนี้”

นาชารื้อหมวกในกระเป๋าของกุ๊กไก่มาใส่ให้เธอจนได้ อากาศบนดอยค่อนข้างหนาวน่าจะไม่ถึงสิบองศาด้วยซ้ำ กุ๊กไก่จึงคว้าเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของเก่งติดมือมาอีกตัวเมื่อนึกได้ว่าเก่งสวมแค่เสว็ตเตอร์ตัวเดียวเท่านั้น

“กินข้าวที่ไหนอะ”

ลูกเกดชี้ไปที่ลานกว้างต้องเดินไปตามทางเล็ก ๆ ที่อยู่ฝั่งหนึ่ง

“นั่นเห็นมั๊ย มีแสงไฟดวงเล็ก ๆ และมีวงดนตรีอยู่นั่น แขกที่นี่มีไม่เยอะประมาณยี่สิบห้องมั้งคนกำลังดีไม่พลุกพล่าน”

ลูกเกดเองก็ชอบที่นี่มากเป็นพิเศษ สามสาวเดินจูงมือกันไปจนถึงร้านอาหารที่ประดับตกแต่งด้วยไฟดวงเล็ก ๆ ทำให้แสงไม่สว่างจ้ามาก เป็นเพราะเหตุผลว่าจะได้เห็นดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน

“ข้อดีของการอยู่บนเขาและสถานที่แบบนี้ทำให้เห็นดาวสวยกว่าอยู่ที่อื่น”

นาชาพูดขึ้นเธอขยับเก้าอี้สามสาวต่างเลือกนั่งกันคนละมุม โดยเว้นที่เอาไว้ให้สามีของตัวเองเพื่อให้นั่งข้าง ๆ

“สั่งอาหารก่อน หนุ่ม ๆ กำลังคุยกันเดี๋ยวก็มา”

ลูกเกดเองก็หิวเพราะเดินทางมาทั้งวันเธอกลังจะเวียนหัวเพราะต้องขึ้นเขาจึงไม่ยอมกินอะไรรองท้องมาก่อนเลย เมื่อสั่งอาหารเสร็จกระทั่งอาหารมาเสริฟเควิลและลูเซียโน่ก็มาถึงพอดี

กุ๊กไก่มองหาเก่งแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา

“พี่เก่งละคะ”

ลูเซียโน่ตอบชัดถ้อยชัดคำ

“เดี๋ยวมาค่ะ กุ๊กไก่กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอ”

ถึงลูเซียโน่จะบอกว่าไม่ต้องรอกุ๊กไก่ก็อดรอไม่ได้อยู่ดี ทั้งเควิลและลูเซียโน่ต่างตักอาหารให้ภรรยาของตัวเองอย่างเอาใจ เมื่อเห็นว่ากุ๊กไก่ไม่ขยับช้อนสองคนจึงเอาใจเธอและช่วยตักอาหารให้

“กินก่อนนะคะไม่ต้องห่วงมันไปเก็บของหน่อยเดี๋ยวก็มา”

เมื่อไม่เห็นหน้าเก่งอาการอยากอาหารของกุ๊กไก่ลดลงทุกที เธอยอมรับว่าเธอจิตตกตั้งแต่อชิตาย เธอกำลังติดเก่งแจ แต่เพราะเป็นอาหารที่สามีเพื่อนอุตส่าห์ตักให้ทานกุ๊กไก่จึงไม่ได้ปฏิเสธ เธอยังคงรักษามารยาทที่ดีเอาไว้

ตักกินได้สองสามคำ รู้สึกว่าอาหารอร่อยดีจึงกินไปอีกหลายคำเสียงดนตรีคลอเบา ๆ ไม่ได้เสียงดังมากจนรบกวนการพักผ่อน เพลงที่นักร้อง ร้องนั้นส่วนใหญ่เป็นเพลงสากลฟังง่ายสลับกับเพลงพื้นเมืองของภาคเหนือที่ฟังแล้วชวนให้คนยิ้มออกมา

กระทั่งเกิดเสียงฮือฮาขึ้น นาชาอุทานอย่างตื่นเต้น

“กุ๊กดูบนท้องฟ้าสิแก มีคนใช้โดรนแปลอักษรด้วย”

นาชาลุกขึ้นรวมทั้งลูกเกดด้วยสองสาวต่างเดินมาจับมือกุ๊กไก่คนละข้าง แล้วพาไปที่ระเบียงชมดาวเพื่อดูโดรนชัด ๆ

“มากุ๊ก สวยจังเลยดูสิ”

โดรนแปรอักษาเป็นรูปต่าง ๆ นาชารีบให้ทุกคนหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาและถ่ายวิดีโอเอาไว้

สามสาวจ้องมองท้องฟ้าอย่างมีความสุข กุ๊กไก่ถึงกับพูดออกมาด้วยความรู้สึกทึ่งและประทับใจ

“ที่นี่มีโดรนแปลอักษรด้วย เลิศว่ะพวกแกว่าปะ”

“อื้อ ที่สุดเลยแก”

ทั้งนาชาและลูกเกดต่างพูดขึ้นพร้อมกัน นาชากำลังถ่ายวิดีโอสีหน้ากุ๊กไก่ส่วนลูกเกดก็ถ่ายวิดีโอโดรนที่กำลังแปลอักษรอยู่บนท้องฟ้า

เริ่มจากทำเป็นแสงไฟข้อความยินดีต้อนรับ และขอให้มีความสุขที่ม่อนแจ่ม จากนั้นสิ่งที่ทำให้กุ๊กไก่ใจเต้นระทึกก็เกิดขึ้น

เมื่อโดรนกำลังแปลอักษรเป็นชื่อของเธอ

Hello Kookkai My daring

เธอหันไปมองเพื่อนสีหน้าค่อนข้างตกใจ

“หมายถึงฉันใช่ปะ”

นาชาอมยิ้มเหมือนรู้อะไรอยู่แล้ว “ใช่สิยะ รีบดูสิเร็วอย่ามัวมองฉัน”

กุ๊กไก่เงิยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอีกครั้ง รู้สึกตื่นเต้นจนมือเย็นเยียบ

I Love You

Will you marry me?

จากนั้นก็เป็นรูปกล่องของขวัญที่กำลังเปิดออก ก่อนจะมีแหวนลอยออกมาจากกล่องนั้น เสียงกรี๊ดของนาชาและลูกเกดดังขึ้นพร้อมเสียงกรี๊ดของสองสาว กระทั่งเควิลและลูเซียโน่ที่เดินมากอดภรรยาของตัวเองเอาไว้ยังพูดพร้อมเพียงกัน

“กุ๊กว่ายังไง ยินดีหรือเปล่า”

กุ๊กไก่นิ่งค้าง เธอเคยวางแผนจะแต่งงานกับเก่งแต่ก็ไม่ได้พูดกันจริงจังจนเกิดเรื่องของอชิขึ้นมาก่อนจึงทำให้ทุกอย่างไม่ได้พูดคุยกันต่อและหยุดชะงักไป

เสียงนุ่มทุ้มของเก่งดังขึ้นจากข้างหลัง

“กุ๊กไก่จะแต่งงานกับพี่ได้หรือเปล่าคะ”

กุ๊กไก่หันหลังไปทันใด ท่ามกลางเสียงเพลงแผ่วหวานที่คลอเบา ๆ และแสงไฟอ่อน ๆ ที่ส่องกระทบใบหน้าของเก่ง เขาดูหล่อมากในชุดสูทเป็นทางการ เขากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น และพูดกับเธอพร้อมถือกล่องแหวนในมือ

“แต่งงานกับพี่ได้หรือเปล่าคะ คนดีของพี่”

“พี่เก่งคะ กุ๊ก…”

เขาจับมือของเธอข้างหนึ่งเอาไว้ และดูเหมือนว่าตอนนี้รอบข้างจะเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าส่งเสียงแม้แต่คนเดียวรวมทั้งแขกที่มาพักคนอื่นด้วย ความสนใจที่คนพวกนี้มีต่อพวกเขาเกิดขึ้นตั้งแต่ทุกคนเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารแล้ว

เพราะพวกเขาต่างก็หน้าตาดีกันทุกคนจึงเป็นที่จับจ้องและสนใจของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาวสวยหรือหนุ่มหล่อก็ต่างมีคู่กันหมดแล้ว และดูจะรักกันมากจนไม่มีสายตาที่จะมองคนอื่น

กุ๊กไก่มองเก่งด้วยดวงตาไหวระริก เธอเม้มปากที่สั่นเทาเอาไว้ การแต่งงานที่แสนจะเซอร์ไพรส์และโรแมนติกเพิ่งจะเกิดขึ้นกับเธอ ท่ามกลางเพื่อน ๆ ของเธอและบรรยากาศอันงดงามและภายใต้แสงดาวที่ส่องประกาย

“ตั้งแต่เกิดมาพี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยคบใครจริงจังเลยสักคน เพราะที่กลัวการถูกผูกมัด แค่คิดว่าถ้าคบผู้หญิงคนนี้แล้วผู้หญิงทำท่าจะจริงจังพี่ก็มักจะถอยห่างเสมอ แต่ว่าตั้งแต่วันที่พี่ได้เจอกับกุ๊กในวันนั้นวันแรก หัวใจกลับเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พี่เคยบอกกุ๊กหลายครั้งแล้วว่าพี่เฝ้ามองกุ๊กมานาน และรอคอยโอกาสของพี่บ้าง นั่นคือเรื่องจริงที่สุดในชีวิตของพี่ พี่เฝ้าแต่สวดภาวนาว่าขอโอกาสให้พี่ได้เข้าใกล้กุ๊กแค่สักครั้งก็ยังดี พี่จะทำอย่างเต็มที่จนสุดความสามารถของพี่ พี่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงตกลงไปในหลุมแห่งความรักจนไม่สามารถที่จะถอนตัวได้อีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น สุดท้ายแล้วในชีวิตของพี่ที่คิดว่ามีทุกอย่างพร้อมแล้วกลับโหยหาเพียงแต่กุ๊ก ได้โปรดอนุญาตให้พี่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ได้เข้าไปเป็นคนปกป้องดูแล และเป็นครอบครัวของกุ๊กจะได้หรือเปล่าคะคนดีของพี่”

กุ๊กไก่พึมพำแผ่วเบา ดวงตากลมโตมีน้ำคลอจนแทบจะหยดลงมา

“ครอบครัวเหรอคะ”

เธอยอมรับว่าตั้งแต่เสียอชิไปเธอลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว และคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับเก่ง แต่เขากลับคอยอยู่เคียงข้างเธอมาเสมอ และยังยินดีรอจนกว่าจะถึงวันนี้ เก่งไม่ได้คิดที่จะมาเป็นสามีของเธอเท่านั้นเขายังคิดที่จะเป็นครอบครัวของเธอ เขาดีขนาดนี้เธอคงจะโง่มากหากไม่ตอบรับความรักของเขา

กุ๊กไก่ยิ้มทั้งน้ำตา เธอคุกเข่าลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเขา

“พี่เก่งไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้กุ๊กค่ะ แค่พี่คอยเคียงข้างกุ๊กและอยู่กับกุ๊กไปแบบนี้จนแก่เฒ่าก็พอแล้ว”

เธอยื่นมือให้เขา เก่งเบิกตากว้างอย่างยินดี

“กุ๊กรับคำขอของพี่แล้วใช่หรือเปล่าคะ”

กุ๊กไก่พยักหน้าติดกันหลายครั้งแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กุ๊กจะแต่งงานกับพี่ค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะที่รอคอยมานานขนาดนี้”

หัวใจของเก่งพองโต สิ่งที่เขาโหยหามาเนิ่นนานได้รับการตอบรับแล้ว เขาสวมแหวนให้กุ๊กไก่ที่นิ้วนางข้างซ้าย ก่อนจะค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาแล้วจูบเบา ๆ ที่ข้างแก้ม ก่อนจะไล้ริมฝีปากผ่าน ๆ มากระทั่งพบกลีบปากนุ่มนวล เขาจูบเธออย่างอ่อนหวานท่ามกลางพยานหลายสิบชีวิต กระซิบเบา ๆ ชิดใบหูของเธอ

“พี่รักกุ๊กมากเท่าที่ชีวิตของผู้ชายคนนี้จะสามารถรักใครได้”

“กุ๊กก็รักพี่เก่งมากค่ะ”

สองคนต่างถ่ายเทความรักให้แก่กันและกันด้วยอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นและอ่อนหวาน ไม่ว่าชีวิตนี้ของพวกเขาจะเหลือเวลาอีกสักเท่าไหร่ จากนี้ต่อไปคนทั้งคู่ต่างคิดที่จะแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ พวกเขาก็จะจับมือกันให้มั่นและไม่มีทางปล่อยมือจากกันอีกต่อไป

สำหรับคนสองคนแล้ว ความรักไม่จำเป็นต้องพร้อมทุกอย่างขอเพียงพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันก็พอ

จบบริบูรณ์

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Status: Ongoing
กว่าจะเจอรักแท้เธอก็โดนเทจนเกือบจะปิดตายประตูหัวใจ แผลที่หายยากที่สุดคือบาดแผลจากความรู้สึก สุดท้ายแล้วคนบางคนก็เป็นเพียงแค่คนรู้จักที่หลงเหลือในความทรงจำเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน