The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1265 – ผู้ยิ่งใหญ่จากแต่ละยุคสมัย

　　ลี่หยิงที่อยู่ไม่ไกลจากเมฆาอสูรพูดด้วยความตกใจ

　　 ไม่คิดเลยว่าเจ้านี่จะเจอกับอดีตจักรพรรดิอสูร! 

　　 ข้าได้ยินว่าวิบัติเทพขั้นหนึ่งคืออดีตจักรพรรดิอสูรที่กลับมาเกิดใหม่ซึ่งแข็งแกร่งถึงขีดสุดเพราะมีทุกวิชาจากอดีตจักรพรรดิอสูรอยู่กับตัว! 

　　เมฆาอสูรพยักหน้า

　　 นอกจากคนผู้นี้จะข้ามวิบัติที่แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิอสูรอื่นแล้วมันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะฝ่าวิบัติได้สำเร็จ! อีกทั้งมันยังเป็นเหตุผลที่จักรพรรดิอสูรในแดนอสูรจะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่ฝ่าวิบัติเทพไปได้จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิอสูรในอดีต! 

　　 คนผู้นี้กำลังท้าทายจักรพรรดิอสูรในอดีต!  　　ลี่หยิงตกตะลึง

　　 เขาจะผ่านวิบัตินี้ได้รึ? 

　　เขาถาม

　　เมฆาอสูรขมวดคิ้ว

　　 เขาอาจจะมีโอกาสเพราะมันคืออดีตจักรพรรดิอสูร!แต่ถ้าหากเจอจักรพรรดิอสูรวัยเด็กคนปัจจุบัน เขาจะต้องตายแน่นอน! 

　　ลี่หยิงนับถือจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันเป็นอันมาก

　　จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันคือยอดฝีมือหมายเลขหนึ่งแห่งแดนอสูรและเป็นจักรพรรดิอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลาหลายล้านปี ไม่มีผู้ใดแข็งแกร่งเท่ากับเขา

　　เขาสามารถทำให้เทพทุกคนในแดนอสูรหวาดกลัวได้เพียงแค่เหลือบมองครั้งเดียว!

　　เป็นไปไม่ได้ที่ชายคนนี้จะผ่านวิบัติที่แข็งแกร่งกว่าวิบัติที่จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันเจอ! 　　 ตอนที่จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันผ่านวิบัติเทพเขาเอาชนะอดีตจักรพรรดิอสูรในสามกระบวนท่า ข้าไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะเอาชีวิตรอดหลังจากต่อสู้สิบกระบวนท่าได้! 

　　เมฆาอสูรกล่าว

　　จักรพรรดิอสูรในวัยเด็กนั้นเป็นเซียนขั้นสูงสุดแต่เขาอันตรายยิ่งกว่าว่าที่เทพขั้นกลาง!

　　ซือหยูหรี่ตา

　　 เจ้านี่มาจากตระกูลราลวงศ์!มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง? 

　　โฮก!

　　จักรพรรดิอสูรวัยเด็กร้องคำรามร่างกายเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง

　　ซือหยูไม่แปลกใจเพราะสิ่งลักษณะเช่นนี้คือพลังสายโลหิตของเผ่าอสูร

　　แต่ร่างของจักรพรรดิอสูรวัยเด็กนั้นเป็นสีแดงทั้งร่างหมายความว่าเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกอสูรเลือดบริสุทธิ์อยู่มาก　　ยักษ์แดงขนาดเท่าภูเขาที่เกิดจากพลังสีแดงปรากฏออกจากร่างยักษ์แดงร้องคำรามปล่อยลำแสงสีแดงตรงเข้าหาซือหยู

　　ฟึ่บ!

　　ซือหยูที่มีแสงเทพหลากสีปกคลุมหลบการโจมตีจากนั้นจึงก้าวพริบตาไปที่ไหล่ของยักษ์

　　ต่อมาก็มีหอกหลากสีในมือของซือหยูซือหยูแทงหอกลงบนร่างยักษ์

　　ซือหยูแลปกใจที่พลังสีแดงของราชวงศ์คนนี้แข็งแกร่งจนพลังในหอกสลายพลังศัตรูได้เพียงเล็กน้อยหอกสร้างแปลเล็ก ๆ บนตัวยักษ์เท่านั้น

　　ยักษ์แดงร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและจู่โจมซือหยูด้วยหนวดหลายสิบเส้นที่งอกออกมาจากร่าง

　　ซือหยูก้าวพริบตาหลบ

　　 ราชวงศ์ทุกคนแข็งแกร่งเช่นนี้รึ? 

　　เขาไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ต่อสู้อยู่กับราชวงศ์อสูรทั่วไปแต่เขากำลังต่อสู้อยู่กับอดีตจักรพรรดิอสูรในวัยเด็ก!

　　หนวดแดงนับไม่ถ้วนปกคลุมท้องนภาราวกับทั้งเมืองชมทะเลถูกย้อมไปด้วยเลือด

　　ซือหยูก้าวพริบตาหลบต่อไปเพลงกระบี่เก้าสุริยาที่มีพลังย่อยสลายบินรอบตัวซือหยูตัดหนวดแดงเหล่านั้น

　　แต่ซือหยูทำได้เพียงเพ่งสมาธิต้านทานพลังของยักษ์เท่านั้น

　　เขาไม่ต่างกับแมงเม่าที่กำลังจะถูกไฟกลืนกิน

　　ไม่ว่าแมงเม่าจะต้านทานเท่าใดมันย่อมถูกเผาไหม้ในไม่ช้าก็เร็ว

　　ครืน…

　　หนวดแดงเส้นหนึ่งกำลังจะแทงทะลุร่างซือหยูเมื่อเขามิอาจหลบพ้น

　　ซือหยูตะโกนเรียกภูเขาห้าธาตุออกมาขวางได้ทันเวลาพอดี

　　ภูเขาห้าธาตุป้องกันหนวดได้แต่แรงปะทะอันรุนแรงก็ผลักซือหยูจนกระเด็นไปด้านหลัง

　　อั่ก!

　　ซือหยูเจ็บปวดรุนแรงเขาร้องคราง บาดแผลปรากฏบนร่าง โลหิตไหลรินออกมา

　　 เขาจะตายแล้ว!เขารอดได้เพียงสองกระบวนท่า ซึ่งนั่นก็ดีพอแล้ว! 

　　เมฆาอสูรหรี่ตาเขาคิดจะช่วยชีวิตซือหยู

　　แต่เมฆาวิบัติสี่สีได้ขยับอีกครั้งวายุขนาดยักษ์ปรากฏจากเมฆา

　　ในวายุนั้นปราชญ์ผิวซีดราวกับราชวงศ์ได้ปรากฏตัว

　　ซือหยูกระวนกระวายเต็มหัวใจเขาหวาดกลัว

　　เมฆาอสูรกับลี่หยิงที่ดูการต่อสู้จากระยะไกลอ้าปากค้าง

　　 นั่นมัน….จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันในวัยเด็ก!  　　จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันในวัยเด็กได้ปรากฏตัวออกมา

　　 เป็นไปได้ยังไง?จักรพรรดิอสูรวัยเด็กสองคนปรากฏตัวพร้อมกัน! หนึ่งคนเป็นจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันที่เป็นหนึ่งในใต้หล้า! 

　　เมฆาอสูรจ้องซือหยูด้วยความสับสนเขาเบิกตากว้าง

　　 เป็นไปไม่ได้!วิบัติเทพขั้นหนึ่งเรียกจักรพรรดิอสูรได้แค่ร่างเดียว! จะมีจักรพรรดิอสูรสองร่างพร้อมกันได้ยังไง? 

　　อดีตจักรพรรดิอสูรร่างเด็กก็เกือบจะฆ่าซือหยูตายอยู่แล้ว

　　ตอนนี้ยังมีร่างของจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันในวัยเด็กผู้น่าสะพรึงกลัวอีกนั่นหมายความว่าซือหยูจะตายเร็วขึ้น

　　แต่จากนั้นวายุยักษ์ก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง มันยิ่งใหญ่ตระการตาเมื่ออยู่พร้อมกับเมฆาวิบัติหลากสี　　จากวายุใหม่นักบวชหนุ่มที่มีพลังแห่งความตายปรากฏตัวออกมา เขาค่อนข้างสุขุมเยือกเย็น ราวกับมิใช่เผ่าอสูร

　　ลี่หยิงตกใจ

　　 นั่นคือใครกัน?เขาก็เป็นราชวงศ์รึ? 

　　ซือหยูเบิกตากว้างเมื่อเห็นนักบวชผู้นี้

　　เทพแห่งความตาย!!

　　พลังอันคุ้นเคยและรูปลักษณ์ของชายคนนี้บอกซือหยูว่าเขาคือเทพแห่งความตายจากโลกเสี้ยววิญญาณ!

　　ว่ากันว่าเทพแห่งความตายคือสุดยอดแห่งธารดาราที่ฝีมือพอๆ กับจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบัน

　　 เขาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง?นี่คือแดนอสูร ร่างอวตาลจากวิบัติเทพน่าจะเรียกได้แต่อสูร แล้วเทพแห่งความตาย…? 

　　ซือหยูตกใจจากนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา ถ้าเช่นนั้น หมายความว่าเทพแห่งความตาย…?　　ซือหยูตาลุกวาวราวกับคิดบางอย่างได้

　　แต่วิบัติเทพยังคงทำให้ซือหยูตกตะลึง

　　เขากำลังต่อสู้กับจักรพรรดิอสูรร่างเด็กสองคนและเทพแห่งความตายในร่างเด็กอีกคน!

　　หนึ่งคือจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันที่เป็นยอดแห่งแดนอสูรอีกคนคือเทพแห่งความตายที่มีพลังพอ ๆ กับจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบัน ส่วนคนสุดท้ายคืออดีตจักรพรรดิอสูรที่มีพลังเป็นที่สามในประวัติศาสตร์แดนอสูร

　　ตอนนี้สุดยอดฝีมือในร่างเด็กทั้งสามแห่งประวัติศาสตร์ธารดารากำลังจู่โจมชายหนุ่มที่เป็นเพียงแค่อสูรเนรมิตร!

　　นี่คือวิบัติเทพที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน

　　ซือหยูเช็ดเลือดที่มุมปาก

　　 เจ้าทำได้แค่นี้สินะ?ก็ได้! เบิกตามองซะ! 

　　เขามองไปยังเมฆาวิบัติเบื้องบน

　　ซือหยูตะโกนเขาประสานมือเข้าด้วยกันและขยับดัชนีอย่างรวดเร็ว

　　ต่อมาต้นไม้ยักษ์ก็ปรากฏที่ด้านหลัง ต้นไม้ยักษ์ฉีกท้องนภาสีเลือด เงาเขียวปกคลุมทุกสิ่งบนโลก

　　ยังมีร่างใหญ่ยักษ์อีกร่างที่ปรากฏหลังต้นไม้ใหญ่ผ้าคลุมดำบนแผ่นหลังโบยบินตามแรงลม ดวงตาสีดำสนิทมองทะลวงได้ทั้งเวลาและมิติ!

　　 สองอัตลักษณ์เทพ!!มัน…เป็นไปได้ยังไง? 

　　เมฆาอสูรตกตะลึงเขามองร่างต้นไม้และร่างทมิฬอย่างไม่เชื่อสายตา

　　ยอดฝีมือสามารถมีวิถีเดียวในการเป็นเทพซึ่งจะมีอัตลักษณ์เทพได้เพียงหนึ่งเดียว

　　ไม่มีใครสามารถมีอัตลักษณ์เทพสองอัตลักษณ์ได้พร้อมกัน

　　เมฆาอสูรจึงได้ตกตะลึงเพราะปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติครั้งนี้