อัตลักษณ์เทพทั้งสองที่อยู่ด้านหลังซือหยูไม่ต่างกับองครักษ์ที่แข็งแกร่ง
ข้าพร้อมแล้ว!เข้ามา!
ซือหยูจ้องมองอวตาลในวัยเด็กของเหล่าผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า
แม้วัยเด็กของจักรพรรดิและเทพจะมาจากวิบัติเทพทั้งสามก็มีลักษณะของตัวจริง
ซือหยูไม่หวาดกลัวแม้แตค่น้อยแววตามุ่งมั่นของเขาแสดงความต่อต้านด้วยความโอหังและเกียรติยศ
จักรพรรดิอสูรทั้งสองและเทพแห่งความตายมองซือหยูด้วยสีหน้าสงสัย
ฟึ่บ!
ต่อมาทั้งสามพุ่งเข้าใส่ซือหยูโดยหลงเหลือเพียงเส้นทางสายลมบนท้องภนา เพียงพริบตาเดียวทั้งสามก็มาถึงตัวซือหยู
อดีตจักรพรรดิอสูรปล่อยสายฟ้าอันน่ากลัวออกจากดวงตามันเป็นพลังสายฟ้าที่หลอมรวมกับพลังอสูร
เมื่อเห็นดังนั้นซือหยูไม่ก้าวถอยหลัง เขาเตรียมสร้างผนึกพลังในมือ ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังปล่อยเถาวัลย์ออกมาจู่โจมอดีตจักรพรรดิอสูร
มันเข้าจู่โจมตามคำสั่งซือหยูตามความเข้าใจในวิถีเทพของเทพไม้
ปั้ง!
สายฟ้าอสูรแล่นเข้าปะทะกับเถาวัลย์สายฟ้าถูกทำลาย พร้อมกับอดีตจักรพรรดิอสูรที่กลายเป็นเถ้าถ่านจากพลังเทพของอัตลักษณ์เทพ
หนึ่งในสามพ่ายแพไปแล้ว
เมฆาอสูรกับลี่หยิงที่ยืนมองจากระยะไกลตกตะลึงจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันและเทพแห่งความตายในร่างเด็กเองก็ตกใจเช่นกัน
ทุกคนตกตะลึงเพราะอดีตจักรพรรดิอสูรพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว
นั่นหมายความว่าชายที่กำลังฝ่าวิบัติเทพผู้นี้แข็งแกร่งพอๆ กับจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันที่เป็นสุดยอดแห่งแดนอสูรงั้นรึ?
เจ้านั่น…มันเป็นใครกันแน่?
ลี่หยิงถามด้วยเสียงสั่นเครือเขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นตำนานหน้าใหม่ที่ยิ่งใหญ่พอ ๆ กับจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันกับตาตัวเอง!
ขะ…ข้าจะพยายามสุดฝีมือเพื่อรับเขาเข้ามา!
เมฆาอสูรพูดกับตัวเองเขารู้ว่าชายที่เขากำลังมองดูจะได้เป็นใหญ่ในอนาคต เขาจะต้องรับชายคนนี้เพื่อไม่ให้ใครอื่นมีโอกาส
ในลานต่อสู้…
ฉึบ!
เถาวัลย์ซัดอย่างรวดเร็ว
ปั้ง!ปั้ง!
จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันและเทพแห่งความตายถูกเถาวัลย์ซัดใส่ซึ่งทำให้ทั้งสองหยุดการโจมตีและต้องแสดงตัวให้เห็น
แม้เถาวัลย์จะบดขยี้อดีตจักรพรรดิอสูรได้แต่จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันกับเทพแห่งความตายนั้นไม่มีแม้แต่รอยข่วน ทั้งสองจ้องซือหยูด้วยความเย็นชา
จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันถือกระบี่กระดูกดำที่มีพลังอสูรอยู่มหาศาล
ในมือของเทพแห่งความตายนั้นมีมีดสีเขียวที่เปล่งแสงงดงามแต่เต็มไปด้วยพลังความตาย
อาวุธทั้งสองคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์รูปแบบจักรพรรดิ
เถาวัลย์ทั้งสองกระเด็นกลับเกิดรอยเฉือนลึกสองรอยอย่างชัดเจน
การโจมตีอันแข็งแกร่งของซือหยูที่ได้จากการฝึกฝนพลังวิถีธาตุไม้มิอาจทำอะไรสองคนนั้นได้
เพราะทั้งสองนั้นแข็งแกร่งกว่าอดีตจักรพรรดิอสูรราวฟ้ากับเหว!
จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันและเทพแห่งความตายพุ่งเข้าใส่ซือหยูอีกครั้งด้วยความหยิ่งผยองในแววตา
ซือหยูหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเพราะความกลัวเขาไม่ต่างกับเรือลำเล็กที่แล่นในมหาสมุทรอันเชี่ยวกราก เขาพร้อมจะถูกคลื่นวารีกลืนกินในทุกเมื่อ
แต่แววตาเขายังคงมั่นคงไม่ว่าเขาจะเป็นกังวลสักแค่ไหน
ข้าไม่ยอมหรอก!
เขาไม่เคยยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร จิตใจอันแน่วแน่ของเขาช่วยให้เขาต่อต้านอยุติธรรม สวรรค์ และลิขิตฟ้า!
อัตลักษณ์เทพผมดำก้มหน้ามองจักรพรรดิอสูรและเทพแห่งความตายอย่างเยือกเย็น
ปั้ง!ปั้ง!
ทั้งสองรู้สึกว่าพลังของตนถูกพลังต่อต้านอันน่ากลัวสะท้อนกลับ
ริมฝีปากซือหยูเต็มไปด้วยเลือดแต่จิตสังหารของเขาทะยานไปสู่นภา
จักรพรรดิอสูรถือกระบี่กระดูกทมิฬไว้ตรงหน้าและพูดภาษาอสูรโบราณพลังเทพอันยิ่งใหญ่ระเบิดมาจากกระบี่
แสงอรหันต์ปกคลุมครึ่งซ้ายของเทพแห่งความตายในขณะที่ด้านขวาถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดจากมีดสีเขียวที่มือขวา เขาไม่ต่างจากอสูรและอรหันต์
ครืน…
สายฟ้าคำรามดังจากวิบัติเทพราวกับสัญญาณบอกการต่อสู้สุดท้าย
สายฟ้านับไม่ถ้วนผ่าแยกธรณีลาวาร้อนแรงปะทุจากใต้พิภพ
ลานต่อสู้เต็มไปด้วยสายฟ้าและลาวาในเวลาเดียวกัน
สอง…ไม่สิสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยกำลังจะต่อสู้เอาชีวิตโดยมีฟ้าดินเป็นพยาน การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว!
จักรพรรดิอสูรจู่โจมด้วยกระบี่กระดูกมันสังหารทุกสิ่งในเส้นทาง
เทพแห่งความตายพุ่งเข้าใส่ซือหยูด้วยมีดที่พร้อมจะเอาชีวิตซือหยูเขาไม่ต่างจากผีนักบวชในนรก
ซือหยูเจอพลังไร้ขอบเขตของทั้งสองกดดัน
ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังปล่อยเถาวัลย์นับไม่ถ้วนที่ปกคลุมท้องนภาได้ออกมาเสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นเมื่อเถาวัลย์นับไม่ถ้วนเหล่านั้นถูกตัดขาด
สองผู้ยิ่งใหญ่บินเข้าใส่เป้าหมายทำลายสิ่งกีดขวางบนเส้นทางไม่ต่างกับกระบี่คมที่กรุยทางไปข้างหน้า
ไม่นานเถาวัลย์ทั้งหมดก็ถูกทำลายสองผู้ยิ่งใหญ่กำลังเข้าประชิดตัวซือหยู
อัตลักษณ์เทพผมดำดา้นหลังซือหยูจ้องจักรพรรดิอสูรและเทพแห่งความตายจากนั้นร่างของทั้งคู่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังต่อต้านอันไร้ขอบเขต
แต่สองผู้ยิ่งใหญ่ยังคงเข้าใกล้ซือหยูต่อไปทั้งสองฝ่าพลังต่อต้านของวิถีเทพ ราวกับเรือลำเล็กสองลำที่กำลังแล่นทวนคลื่น
ในตอนนี้เองซือหยูที่ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อยตั้งแต่แรกเริ่มจึงได้ขยับตัว
แต่เขาไม่ได้ก้าวถอยหลังเขาเดินไปข้างหน้า
แววตาของเขาส่องแสงสี่สีอันงดงามออกมา
เกิดพลังสี่รูปแบบปั่นป่วนทั่วบริเวณ
บางอย่างที่ใหญ่ยักษ์ปรากฏบนท้องนภา
มันสูงจนแม้แต่ยักษ์ทะเลขมสูงไม่เท่า
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมานั้นยืนอยู่บนพื้นศีรษะนั้นสูงไปถึงสวรรค์ ไม่ต่างกับผู้ที่สร้างโลกขึ้นมา
มันเป็นเงามนุษย์ที่มีร่างกายเพียงครึ่งร่าง ร่างนี้มีเนตรสีม่วงใหญ่ยักษ์ปกคลุมพื้นที่หลายล้านลี้
สีของร่างใหญ่นั้นแดงดั่งโลหิตสีเข้ม
มือซ้ายที่ปกคลุมผืนนภาเป็นสีมรกต
ขาข้างซ้ายนั้นขนาดใหญ่และสีซีด
ร่างนี้ไม่ต่างจากผู้ที่จะกลืนกินโลก
แสงสีสี่เปล่งประกายจากร่างอย่างแปลกประหลาด
เมื่อซือหยูก้าวเท้าเดินร่างยักษ์ก็ทำแบบเดียวกัน
ทันใดนั้นพลังอันลึกล้ำทั้งสี่ก็ได้เคลื่อนไหวพร้อมกัน มันสั่นสะเทือนเป็นคลื่นออกมาเมื่อซือหยูก้าวเดิน
นี่คือพลังของซือหยูที่ได้จากพลังทั้งสี่ของหม้อเก้ามังกรมีพลังเวลา มิติ ดวงวิญญาณ และชีวิตผสานเข้าด้วยกัน
ต่อหน้าพลังมหาศาลนี้ยากที่สองผู้ยิ่งใหญ่จะรุดหน้าเข้ามาได้อีก ในขณะเดียวกันซือหยูเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขึ้นไปยังสองผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางพลังที่ปลดปล่อยออกมา
สิบลี้!หนึ่งลี้! เสี้ยวลี้!
เขากำลังเข้าใกล้!
ทั้งสามกำลังจะปะทะกันเป็นครั้งสุดท้าย
สามสิบศอก!
สามศอก!!
ตู้ม…
สายฟ้าดังสนั่นเกิดขึ้นในเมฆาวิบัติราวกับคนในโลกที่มองไม่เห็นร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวทั้งแดนจิงหยูสั่นสะเทือนภายใต้สายฟ้า สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอมากมายตายลง
เสียงระเบิดดังลั่นเกิดจากการปะทะสุดท้ายของทั้งสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย
ไม่มีใครเห็นการปะทะอย่างชัดเจนเห็นได้เพียงสิ่งที่หลงเหลือ กระบี่กระดูกในมือจักรพรรดิอสูรหักเขากำลังมองกระบี่ที่หักด้วยสีหน้าสับสน
มีดเขียวในมือเทพแห่งความตายหายไปร่างของเขาที่มีพลังอรหันต์และอสูรยุ่งเหยิง
เกิดรอยแผลเป็นรูขนาดใหญ่ที่ลำตัวของทั้งคู่หัวใจของทั้งสองหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่สิหัวใจของทั้งสองระเหิดไปจากพลังอันยิ่งใหญ่
ทั้งสองกระอักเลือดหายตัวไปช้า ๆ ในความว่างเปล่า
จักรพรรดิอสูรพ่ายแพ้!เทพแห่งความตายก็เช่นกัน
เหลือเพียงผู้ยิ่งใหญ่คนเดียวที่ยังยืนอยู่!
เขาคือผู้ชนะ!
เทพทุกคนเห็นฉากนี้พวกเขาได้เห็นผู้ชนะไร้เทียมทานที่สามารถเอาชนะสุดยอดฝีมืดแห่งประวัติศาสตร์แดนอสูรกับตาตัวเอง!
เมฆาอสูรสั่นกลัวเขามองซือหยูจากระยะไกล ข้าควบคุมชายคนนี้ไม่ได้แน่!
เขาพูด
เขารู้ว่าผู้ชนะไร้เทียมทานคนนี้มิอาจถูกผู้ใดควบคุมได้เลย!
แม้แต่จักรพรรดิอสูรคนปัจจุบันก็มิอาจควบคุมเขาได้!
เขามีพลังเหลือล้ำจนเมฆาอสูรได้แต่รักษาระยะห่าง
ลี่หยิงตกตะลึงความริษยาในใจหายไปจนสิ้น มันแทนที่ด้วยความเคารพนับถือและความกลัว!
ลี่หยิงรู้ดีว่าเขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะริษยาชายคนนี้ด้วยซ้ำ
เพราะชายคนนี้คือผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้าที่จะก้มลงมองทุกสิ่งบนโลกได้ในอนาคต!
เมื่อเหล่าร่างอวตาลจากวิบัติเทพพ่ายแพ้เสียงสายฟ้ายังคงดังออกมาจากเมฆาราวกับไม่อยากจะยอมรับความล้มเหลว แต่มันก็ได้แต่สลายไปอย่างช้า ๆ ในท้ายสุด วิบัติเทพจบลงแล้ว
ต่อมาแสงหนึ่งได้ส่องประกายลงมาจากวิบัติเทพที่สลายไป มันตรงเข้าสู่หน้าผากของซือหยู
เกิดแสงประกายอีกแห่งในจุดกำเนิดพลังของซือหยู
มันคือ…แหล่งพลังเทพ!
มันคือแหล่งพลังเทพที่สองในร่างของเขา
ไม่เคยมีผู้ใดบนโลกมีแหล่งพลังเทพสองดวงมาก่อน
ซือหยูมองเมฆาวิบัติที่กำลังสลายไปด้วยความเย็นชาในดวงตา
เจ้ามิอาจดับลมหายใจข้าได้!ข้าจะเดินไปข้างหน้าทีละก้าว และหาเจ้าให้เจอ!
เขาสาบานกับตัวเอง
บนโลกที่มองไม่เห็นเจตจำนงอันเยือกเย็นรู้ว่าจะต้องหาทางอื่นในการสังหารซือหยู มันรู้ว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว! วิบัติเทพหายไป
ต่อมาแสงอันอ่อนโยนได้ส่องมาจากฟ้า เข้าสู่ร่างกายของซือหยู
จิตวิญญาณตั้งต้นของซือหยูที่อยู่ในจุดกำเนิดพลังได้กลายเป็นซือหยูร่างเด็กซือหยูน้อยผู้นี้อายุยังน้อย แต่เขามีความมุ่งมั่นไม่จำยอมไม่ต่างกับเด็กหนุ่มในสำนักเซี่ยนหยู
เซียนขั้นสามรึ?
ซือหยูแปลกใจตามปกติ เมื่อจิตวิญญาณตั้งต้นกลายเป็นเด็กสามขวบ ซือหยูจะเป็นเซียนขั้นหนึ่ง
เมื่อจิตวิญญาณตั้งต้นกลายเป็นเด็กแปดขวบซือหยูจะเป็นเซียนขั้นสอง
ดังนั้นจิตวิญญาณตั้งต้นของซือหยูในตอนนี้กำลังบอกว่าเขาคือเซียนขั้นสาม
ข้ากลายเป็นเซียนขั้นสามหลังจากเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสูงสุดในคราเดียวเลยรึ?
เขาสงสัย
แต่เขาก็ไม่แปลกใจเพราะเขาเคยเป็นอสูรเนรมิตรจากที่เคยเป็นภูติจากการที่เขาผ่านวิบัติเทพคราวที่แล้ว
ดังนั้นจึงไม่ใช่ก้าวที่ใหญ่นักสำหรับซือหยูที่เคยเพิ่มพลังมาพร้อมกันหลายขั้น
จะอย่างไรก็ตามวิบัติเทพที่ซือหยูได้เจอครั้งนี้เป็นวิบัติเทพขั้นหนึ่ง
จิตวิญญาณตั้งต้นของซือหยูที่เป็นรูปลักษณ์เด็กไม่ได้เกิดจากพลังอสูรเนรมิตรแล้วมันคือพลังของเซียน!
มีก้อนพลังแสงสองพลังลอยอยู่รอบจิตวิญญาณตั้งต้นของเขา
มันคือแหล่งพลังเทพนั่นเอง!
เมื่อมีพลังระดับนี้ซือหยูจะใช้พลังเซียนเพื่อบ่มเพาะแหล่งพลังเทพจนสร้างพลังเทพออกมาได้ จากนั้นเขาจะบ่มเพาะแหล่งพลังเทพในแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
หึหึ!ในที่สุดข้าก็มีพลังเทพเป็นของตัวเองแล้ว!
ซือหยูตื่นเต้น