นครแห่งบาป City of Sin – ตอนที่ 155 การโจมตี ตอนที่ 1

นครแห่งบาป City of Sin

นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 155 การโจมตี ตอนที่ 1

กองทัพของฟอร์ซ่าเดินทางไปถึงโจเว่นได้โดยไม่เกิดเหตุการณ์ใดขึ้นเลย นี่ทําให้ในท์ที่เป็นผู้นําทัพนั้นรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ราบรื่นผิดปกติ เขาไม่รู้เลยว่าการที่แร็พเตอร์หนีหายเข้าไปในความมืดนั้นทําให้ริชาร์ดรู้ดีถึงเส้นทางของพวกเขา แต่ริชาร์ดไม่ได้มีแผนการซุ่มโจมตีใดๆในตอนนี้ เพราะเขามีเป้าหมายอื่นที่กระชั้นชิดมากกว่าทหาร 500 คนนั้น

ในเวลานั้นเองริชาร์ดยืนอยู่บนยอดเขาเล็กๆที่มองเห็น เมืองอันเจริญรุ่งเรือง ประชากรกว่า 10,000 คนในเมืองนั้น ทําให้เรียกได้ว่ามันเป็นเมืองขนาดใหญ่แม้แต่จะเทียบกับเมืองในหัวแลนด์เองก็ตาม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของเพลนนี้และการที่มนุษย์อยู่ในตําแหน่งที่เหนือกว่าทําให้บนเพลนมีประชากรที่อยู่ในเขตเมืองมากกว่าในหัวแลนด์

ทหารอีกประมาณ 500 คนคุ้มกันตัวเมืองอยู่โดยมีไนท์ที่มียศคนหนึ่งเป็นผู้นําทัพ อย่างไรก็ตาม ทหารเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 1 หรือ 2 เท่านั้นซึ่งก็เทียบเท่ากับคนธรรมดาที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้

เขาทําเครื่องหมายตําแหน่งที่แร็พเตอร์ส่งมาให้ลงในแผนที่และวาดเส้นทางหยาบๆ ที่จะตรงไปยังโจเว่น การคํานวณคร่าวๆ ทําให้เขารู้ว่ากองทัพของบารอนจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทางไปให้ถึงโจเว่น

เขาหันกลับไปหาทุกคนที่พักผ่อนอยู่ตามจุดต่างๆบนเนิน เขาก่อนประกาศขึ้นว่า “เราจะพักกันต่ออีกแค่ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้เตรียมพร้อมโจมตีทันที !” ถึงแม้ว่าทหาร 500 คนของอีกฝ่ายจะเป็นจํานวนที่ไม่ได้มากมายนัก แต่พวกเขาก็มีความอันตรายอย่างมากหากต่อสู้อยู่ในฐานที่มั่นของตัวเอง

โอล่าผิวปาก “มาสเตอร์ โปรดอ่อนโยนกับหญิงสาวใดๆ ที่งดงามและไว้ชีวิตพวกนางด้วย!” เอลฟ์แสดงรอยยิ้มที่เป็นที่รู้กันในหมู่ชายหนุ่มในกลุ่ม ขณะที่สีหน้าของโฟลว์แซนด์และวอเตอร์ฟลาวเวอร์ยังคงนิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยินคําพูดเหล่านั้น

ริชาร์ดเผยรอยยิ้มออกมา เขาเพิกเฉยต่อคําพูดไร้สาระของเอลฟ์ผู้นั้นแต่กลับจดจ่ออยู่กับการมอบหมายคําสั่งให้พวกแร็พเตอร์ที่กลับมาจากการลาดตระเวน นี่คือสิ่งที่ทําให้เขารู้ตําแหน่งของกองทัพเมื่อพวกเขาเดินทางออกจากค่าย และด้วยการเชื่อมโยงเดียวกันนี้ แร็พเตอร์ก็สามารถตามหาตัวเขาได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้พวกมันเทียบเท่ากับวอริเออร์ระดับ 6 แล้ว และความมืดกับความโกลาหลก็ทําให้ประสาทสัมผัสของพวกมันมีประโยชน์มากขึ้นหรือก็คือเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่กําลังจะมาถึง

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น แร็พเตอร์ทุกตัวก็กลับมาพร้อมเพรียงกันอยู่ข้างริชาร์ด บรัดมาเธอร์ได้ส่งข่าวกลับมาหาเขาเช่นกันนั่นก็คือหมีพวกนั้นได้ถูกมันกําจัดไปหมดแล้ว

ริชาร์ดอึ้งไปครู่หนึ่ง บรู้ดมาเธอร์มีแร็พเตอร์คอยช่วยเหลืออยู่ถึง 6 ตัว ดังนั้นการที่มันใช้เวลานานขนาดนี้ใน การกําจัดรังของพวกนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสงสัย เพราะเขาคิดว่าบรัดมาเธอร์เพียงลําพังก็น่าจะจัดการกับสิ่งใดก็ตามที่เทียบเท่ากับไนท์ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสําหรับคิดไตร่ตรองเรื่องนั้น นี่เป็นเวลา 4 ทุ่มที่กําหนดไว้สําหรับการโจมตี ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองท่าเรือหลับสนิทไปแล้วและผู้คน ที่ออกไปทํากิจกรรมรื่นเริงต่างก็ค่อนข้างเมาสุรากันไปหมด ริชาร์ดคิดว่าผู้รักษาความปลอดภัยที่คอยลาดตระเวนอยู่รอบๆคงจะมีจํานวนน้อยกว่า 50 คน ส่วนคนที่เหลือก็น่าจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนไม่ว่าจะเป็นที่ค่ายหรือที่บ้านของพวกเขา

ริชาร์ดโบกมือให้สัญญาณและกลุ่มของเขาก็เริ่มย่องเข้าไปในท่าเรือทันที ตัวเมืองนี้มีการเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านการป้องกันตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าในมุมมองของริชาร์ดนั้น มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้มีแนวป้องกันใดๆเลย

มีเดียมแรร์ซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นกําแพง มันมีหน้าที่คอยส่งเอลฟ์และไนท์ 3 คนขึ้นไปด้านบน ตัวกําแพงนี้สูงเพียง 5 เมตรเท่านั้น ดังนั้นเพียงแค่โอเกอร์ยกมือขึ้นสูง มันก็สามารถส่งคนขึ้นไปด้านบนได้อย่างง่ายดาย ส่วนวอเตอร์ฟลาวเวอร์และแกงเดอร์สามารถกระโดดเอื้อมจับขอบกําแพงก่อนกระโดดข้ามไปอีกฝั่งได้ด้วยตัวเองในขณะที่ริชาร์ดเพียงแค่ร่ายคาถาลอยตัวก็ทําให้เขาข้ามไปอีกฝั่งได้แล้ว

ห่างออกไป 100 เมตร กลุ่มทหารจํานวนหนึ่งกําลังลาดตระเวนบริเวณกําแพงเมืองด้วยความขี้เกียจ ริชาร์ดเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและวอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็รีบตามมาทันทีโดยยังคงมีเชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์อยู่ในมือ เท้าเปลือยเปล่าสีขาวของนางไม่ส่งเสียงใดๆ ขณะกระทบพื้นดินก่อนที่นางจะหายเข้าไปในเงาของความมืดมิด

เหล่าผู้คุ้มกันได้ออกลาดตระเวนและมุ่งความสนใจไปตามถนนโดยแทบไม่มีใครให้ความสนใจกําแพงสูงนี้ วอเตอร์ฟลาวเวอร์อยู่บนกําแพงขณะที่นางพุ่งตัวผ่านระยะทางหลาย 10 เมตรที่ห่างจากพวกเขา ซึ่งกว่าที่หน่วยลาดตระเวน จะมองเห็นตัวนาง นางก็เร่งความเร็วผ่านพวกเขาไปแล้ว และพวกเขาก็ไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรก่อนที่ดาบของนางจะส่งศีรษะของคน 5 คนลอยกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า

ม่านตาของริชาร์ดหดลงเมื่อเขาเห็นเลือดสดๆที่พุ่งออกมา หลังจากการฟาดดาบของวอร์เตอร์ฟลาวเวอร์ทําให้กลิ่นของความตายกระจายไปในอากาศทันที เขารีบก้าวไปยังประตูเมือง โดยมีโอล่า แกงดอร์ และไนท์ตามเขาไป ทว่าหญิงสาวคนนั้นรีบพุ่งออกมาจากป้อมยามอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันและสะกดรอยตามผู้คุ้มกันอีกกลุ่มหนึ่งไป ดาบของนางเกิดเสียงเบาๆสองสามครั้งในอากาศและนางก็เดินกลับออก มาโดยดูเหมือนว่าไม่ได้เพิ่งเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นเลย เว้นเสียแต่ว่ามีเลือดสดหยดลงจากปลายดาบของนางอีกครั้ง ผู้คนจะไม่สังเกตเห็นอะไรนอกเหนือจากใบหน้าที่งดงามและเข้ารูปของนาง และจะไม่มีใครรู้ถึงสิ่งที่นางเพิ่งกระทําลงไปด้วย

แกงดอร์ชะลอความเร็วลงอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่จำเป็นต้องรีบวิ่งไปอีกเพราะวอเตอร์ฟลาวเวอร์ได้จัดการกับทุกอย่างด้วยตัวของนางเองเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจ เพราะดูเหมือนว่าขวานเล่มใหญ่ในมือของเขาจะไม่ได้ใช้งานไปอีกพักใหญ่ ในขณะเดียวกันนั้น โอล่าและทหาร ราบเดินไปตามแนวกําแพงเมืองเพื่อกําจัดสิ่งกีดขวางออกก่อนที่พวกเขาจะทําการเปิดประตูเมืองได้ในที่สุด

โอเกอร์ทั้งสองนําม้าศึกไปที่ประตูเมืองขณะที่แร็พเตอร์เดนตามหลังไปอย่างเงียบๆ ริชาร์ดและทหารม้าคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปยังเส้นทางกว้างขวางซึ่งนําพวกเขาเข้าสู่เมืองที่เป็นที่ตั้งของวิหารอันยิ่งใหญ่ของเทพแห่งความกล้าหาญ

สิ่งแรกที่คนมาเยือนเมืองนี้จะสังเกตเห็นนั่นก็คือวิหารที่งดงาม บนยอดอาคารวิหารมีขวานขนาดใหญ่ถูกจับด้วยมือที่หงายขึ้นไปยังท้องฟ้าและมีคบไฟที่ถูกเผาไหม้ด้วยความหลงใหลอยู่บนนั้น นี่คือเป้าหมายของริชาร์ดในคืนนี้

ตอนนี้ดินแดนของบารอนอยู่ในสภาวะที่เปราะบางอย่างถึงที่สุด กองทัพที่มีก็ถูกส่งออกไปหมดแล้ว ส่วนการที่จะระดมพลพวกเขาได้อีกครั้งนั้นจะต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวัน บารอนเหลือไนท์ที่ทรงพลังอยู่เพียง 4 คนเท่านั้นภายในพื้นที่ปราสาทของฟอร์ซ่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่ท่าเรือ เขาจะห่วงเฉพาะความปลอดภัยของตนเองเท่านั้นเขาจึงเลือกไม่ส่งไนท์ 2 คนที่คอยคุ้มกันเขาออกไป

ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นการต่อต้านเดียวที่ริชาร์ดจะต้องเผชิญก็คือไนท์ 2 คน พรีสต์เอสเซียน พรีสต์ 2 คนที่อยู่ป ระมาณระดับ 8 พาลาดิน 30 คน สไควร์กว่า 100 คน และทหารกองหนุนอีกไม่กี่ร้อยคน ครั้งนี้ริชาร์ดพยายามอย่างเต็ม ที่เพื่อทําให้กองกําลังของบารอนแตกกระจาย โดยทําให้เกิดความสูญเสียอย่างหนักบริเวณท่าเรือ เขาต้องใช้ประโยชน์ของการทําลายล้างอย่างเต็มที่ มันเป็นเรื่องยากที่จะได้โอกาสแบบนี้อีกในอนาคตหากเขายังคงผลัดวันประกันพรุ่งต่อไป เพราะหากเขามัวรอช้า ศัตรูที่มีพลังมากขึ้นจะมาบรรจบกับเขาในที่สุด

เมื่อมองไปที่วิหารอันห่างไกลโดยถือดาบนิรนามอยู่ในมือ ริชาร์ดก็รับรู้ถึงความรู้สึกแผดเผาอยู่ภายในอกของเขา นี่จะเป็นการโจมตีครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลัง

นครแห่งบาป City of Sin

นครแห่งบาป City of Sin

Status: Ongoing
เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับสายเลือดของเอลฟ์และปีศาจ ต้องเดินบนสมรภูมิแห่งการทำลายล้าง เพื่อที่จะลากพวกที่สูงส่งให้ลงมา วันหนึ่งเมื่อเขาสำรวจรอบๆตัวเอง และจะพบว่า—-ไม่หลงเหลือศัตรูให้ฆ่าอีก

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน