The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1328 – ซากใต้วารี

ตอนที่ 1328 - ซากใต้วารี

ตอนที่ 1328 – ซากใต้วารี

   เขาอยู่ที่นี่…ในธารดาราเรอะ? 

  เทพตำราที่กำลังคิดหาทางหนีเงยหน้าขึ้นทันทีเขาตกใจกับคำถามที่ได้รับ

  เอ๋?ซือหยูสับสน การตอบสนองของเทพตำราบ่งบอกว่าหยุนหยาซือไม่ใช่ชาวธารดารา

  มีโลกที่เขาไม่รู้อยู่เหนือธารดาราด้วยรึ?

   ถ้าเจ้ารู้จักเขาแล้วพวกเจ้าเกี่ยวข้องกันยังไง? 

  ซือหยูแววตาเยือกเย็น

  เทพตำราลุกลี้ลุกลนเขามองซ้ายขวาไปมา ดูเหมือนจะยังตกใจที่ได้ยินนามหยุนหยาซือ

  ซือหยูยิ่งสงสัยใบหน้าเขาเยือกเย็นขึ้น

   ถ้าเจ้าไม่พูดข้าจะค้นดวงวิญญาณเจ้า! 

  เทพไม้ส่องแสงสีเขียวเถาวัลย์สองเส้นพุ่งเข้าจับตัวเทพตำรา

  เทพตำราอยากจะหลบเพราะตกใจแต่ก็ยากที่จะหนีจากเทพไม้

  แต่ทันทีที่เทพไม้จับตัวเทพตำรามาก็เกิดเสียงดังในสระสวรรค์เกิดคลื่นวารีสูงสามสิบศอกโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

  เส้นผมสีดำทะลวงผ่านคลื่นรัดตัวเทพตำราที่อยู่ถัดจากสระสวรรค์

  เทพตำรากรีดร้องขัดขืนเขาพยายามดึงเส้นผมสีดำให้ออกจากตัว

  ซือหยูตัวแข็งทื่อมีสิ่งที่ออกมาจากสระสวรรค์ได้อย่างไร?

  ซือหยูตะโกน

   เทพไม้รีบผลักเทพตำราลงไปเลย!! 

  มันมิใช่เส้นผมของยักษ์ทะเลขมหรอกรึ?ยาวนับหมื่นศอก ทั้งยังมีพลังกัดกร่อนที่เหมือนกับของยักษ์!

  แต่ยักษ์ทะเลขมอยู่ในแดนอสูรไม่น่าจะปรากฏตัวที่สระสวรรค์ได้  คำอธิบายเดียวก็คือเทพอสูรหกวิถีต้องใช้เส้นผมของยักษ์ทะเลขมเพื่อหาทางออกจากสระสวรรค์และตั้งใจจะใช้มันจึงตัวเทพตำรา

  เทพอสูรหกวิถียังติดอยู่กับเส้นผม!

  หากเทพตำราดึงเส้นผมขึ้นมาเทพอสูรหกวิถีจะเป็นอิสระด้วย!

  ซือหยูสั่นไปทั้งตัวเขาใช้ขอบเขตชีวิตไม่ได้อีกแล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาหนอนวิญญาณมรณะอีกตัว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ในการหาเทพที่เหมือนกับเทพอสูรเนตรม่วงที่เผาวิถีเทพเพื่อช่วยเขา

  ถ้าหากเทพอสูรหกวิถีออกมาจากสระสวรรค์ได้ทุกคนจะต้องตาย จะไม่มีใครหนีออกไปได้!

  เทพไม้เห็นท่าทางแย่นางใช้เถาวัลย์ที่จับตัวเทพตำราโยนลงสู่สระสวรรค์ทันที

  เส้นผมกำลังดึงและเถาวัลย์กำลังผลักเทพตำราไร้แรงต่อต้าน   เดี๋ยวก่อน!อย่าเพิ่ง ข้า… 

  ตู้ม!

  เทพตำราจมลงสู่สระสวรรค์เส้นผมไร้แรงจับจากเทพตำรา มันจึงไปจับเถาวัลย์ของเทพไม้แทน

  เทพไม้ตัดเถาวัลย์ทิ้งทันที

  เส้นผมดึงอย่างแรงแต่ก็ได้เพียงปลายเถาวัลย์ที่ขาดเท่านั้น

  เส้นผมไม่มีอะไรให้เหนี่ยวรั้งอีก

  แต่ในตอนนั้นเองเส้นผมก็ได้ยืดออกมาจากสระสวรรค์ มันกวาดธารดาราจากด้านข้าง

  เทพไม้กรีดร้องนางใช้พลังเทพป้องกันตัวและคว้าตัวซือหยูเพื่อหนีไปยังที่อื่น

  แต่เส้นผมนั้นเร็วเกินไปทันทีที่นางจะได้ก้าวพริบตา มันก็คว้าข้อเท้าของซือหยูเอาไว้ได้

  เทพไม้ดึงซือหยูอย่างแรกแต่เส้นผมที่รัดขาซือหยูนั้นรัดแน่นจนถึงไม่หลุด  เส้นผมใช้ซือหยูเป็นจุดยึดเหนี่ยวมันขยับขึ้นมาด้วยความเร็วสูง

  พลังของเทพอสูรหกวิถีค่อยๆ แผ่ออกมาช้า ๆ

  เทพไม้กระวนกระวายนางพยายามตัดเส้นผม แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร นางก็ตัดมันไม่ขาดเลย

  ใต้น้ำร่างสีแดงเข้มกำลังจะปีนเส้นผมขึ้นมา!

   สายไปแล้ว!ปล่อยข้า! 

  ซือหยูถอนหายใจเบาๆ เขามองเทพไม้

  ดวงตาสดใสของเทพไม้แสดงความตั้งมั่น

   ไม่ข้าปล่อยไม่ได้! ถ้าข้าปล่อย เจ้าจะไม่มีวันกลับมา! 

   ถ้าเจ้าไม่ปล่อยจะไม่มีใครกลับไปได้เลย 

  ซือหยูใจเย็นถึงที่สุดเมื่อเผชิญหน้าต่อความตายเขาสลัดตัวเองให้หลุดจากเทพไม้  ทันทีที่เขาปลดปล่อยตัวเองเขาสัมผัสได้ถึงแรงอันไร้ที่สิ้นสุดที่ลากเขาลงไป

  ที่ใต้น้ำเงาอสูรสีแดงเข้มที่กำลังจะถึงผิวน้ำตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

   ไม่! 

  ตู้ม!

  เมื่อซือหยูจมลงสู่สระสวรรค์แรงดูดลากเขา เทพอสูรหกวิถี และเส้นผมลงไป

   ไม่นะ! 

  เทพไม้กรีดร้องและรีบพุ่งลงไปแต่นางเห็นเพียงระลอกบนผิวสระ

   ซือหยู! 

  เทพไม้มองระลอกที่กำลังสงบลงน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง

  นางยืนข้างสระสวรรค์และร่ำไห้เป็นเวลานานนางโศกเศร้าสิ้นหวัง แต่สุดท้ายก็ยิ้มด้วยความเสียใจ

   เจ้าพาข้าออกมาจากจิวโจวข้าจะอยู่กับเจ้าให้ถึงที่สุด 

  นางตัดสินใจว่าจะลงสระสวรรค์เพื่อตามซือหยูไปไม่ว่าเขาจะอยู่แห่งไหน

  ฟึ่บ!

  ทันใดนั้นเองก็มีคนมาเห็นเหตุการณ์และหยุดนางจากการทำอะไรโง่ๆ

   เจ้าบ้าไปแล้วเรอะ! 

  องค์หญิงหกที่รีบกลับมาถึงสระสวรรค์เข้าหยุดเทพไม้

  เทพไม้ตอบ

   ซือหยูตกสระสวรรค์ไปแล้วข้าจะตามเขาไป 

  องค์หญิงหกตกใจราวกับถูกสายฟ้าฟาดซือหยู…

  ความรู้สึกมากมายก่อเกิดในใจองค์หญิงหกมองสระสวรรค์ด้วยแววตาว่างเปล่า นางไม่พูดออกมาแม้แต่คำเดียว

  ไม่นานองค์ชายหนึ่งเทพเจิ้ง และองค์หญิงสองก็มาถึงด้วย

  ทั้งสามนิ่งเงียบเมื่อได้รู้ว่าซือหยูได้ตกลงสู่สระสวรรค์

  พวกเขาคิดว่าเทพอสูรหกวิถีถูกจัดการไปแล้วใครจะคิดเล่าว่าเทพอสูรหกวิถีจะไม่เพียงแต่รอดชีวิตแต่ยังลากซือหยูลงสระสวรรค์ได้ด้วย?

   ข้าควรจะทำยังไง? 

  องค์หญิงสองตะโกนพวกเขารู้สึกเคว้งคว้างเมื่อไร้ซือหยู

  เทพไม้พูด

   พวกเจ้าควรมุ่งหน้าไปพันธมิตรบูรพาฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางอยู่ที่นั่น จัดการเรื่องที่นั่นให้สงบ ส่วนข้า พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้า 

  ทุกคนรู้ว่านางจะทำอะไร

  องค์ชายหนึ่งเงียบไปนาน

   ข้าไม่คิดว่าเราจะต้องมองในแง่ร้ายคิดดูสิ! เทพอสูรหกวิถียังไม่ตายในสระสวรรค์หลังจากจมลงไปเป็นเวลานาน บางทีซือหยูก็อาจจะไม่ตายเหมือนกัน! 

  ทุกคนมีหวังแววตาว่างเปล่าของเทพไม้กลับมามีแววอีกครั้ง

  องค์หญิงหกเองก็มีความหวังขึ้นมาด้วย

   ใช่แล้ว!คนอื่นอาจจะตายในสระสวรรค์ แต่ซือหยูไม่ใช่คนธรรมดา ยามที่ไปถึงแดนอสูร เขาเป็นแค่คนทั่วไป แต่แล้วเกิดอะไรขึ้นเล่า? ไม่เพียงแต่จะหนีออกมาได้ แต่ยังพลิกโลกได้ด้วยฝ่ามือ! 

   ขนาดในโลกอสูรของเรายังเข้าออกได้อย่างอิสระซือหยูคงจะทำเช่นนั้นได้ในสระสวรรค์ด้วยจริงไหม? 

  เทพไม้เบาใจลง

   เจ้าพูดถูกซือหยูจะไม่ตาย เขาหนีจากยักษ์ทะเลขมมาได้สองครั้งสองครา แค่สระสวรรค์จะไปทำอะไรได้เล่า? 

   เทพเจิ้งพาพวกเขากลับพันธมิตรบูรพา รวมพันธมิตรทั้งสองให้เป็นหนึ่ง รวมทุกโลกผ่านธารดารา ทำในสิ่งที่ซือหยูยังทำไม่สำเร็จเพื่อเขา! 

  เทพไม้กล่าว

   แล้วเจ้าล่ะ? 

  องค์หญิงหกถาม

  เทพไม้ยิ้มจางๆ นางมองน้ำในสระสวรรค์ รอยยิ้มนางอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

   ข้าจะรอจนเขากลับมาข้าจะรอไปหนึ่งปี หากยังไม่พอ ข้าจะรอถึงสิบปี หากสิบปีไม่มากพอ ข้าจะรอถึงร้อยปี ข้าคุ้นเคยกับการรอคอยแล้ว 

  องค์หญิงหกรู้สึกเห็นอกเห็นใจเทพไม้ที่รู้สึกสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

  นางพยายามกลั้นน้ำตาไม่ไหลรินลงมานางพูดอย่างไม่เต็มใจ

   เอาล่ะไปกันเถอะ 

  เทพไม้มองแผ่นหลังนาง

   ข้าจะรอเพื่อเจ้าด้วย     ขอบคุณมาก 

  องค์หญิงหกโค้งคำนับและก้าวพริบตาไปยังความเวิ้งว้างเหลือเพียงน้ำตาหนึ่งหยดที่รินไหล

  องค์ชายหนึ่งถอนหายใจยาว

   น้องข้าหยิ่งยโสดื้อด้านไม่เคยหลงรักผู้ใด แต่ถ้าหากนางรู้สึกเช่นนั้น มันจะคงอยู่ไปตลอดกาล 

  เมื่อทุกคนจากไปแล้วเทพไม้นั่งที่ริมสระสวรรค์ นางแปลงกายตัวเองเป็นต้นไม้ยักษ์เพื่อรอ

  ซือหยูถูกดึงลงสู่สระสวรรค์เขาได้ดื่มมันไปหลายจิบ

  น้ำในสระสวรรค์เย็นสุดขั้วมันเข้าสู่ร่างกายเขาจนร่างแข็ง

  ที่สิ้นหวังยิ่งกว่าคือใต้น้ำนั้นมีพลังมหาศาลไม่ว่าจะต้านทานอย่างไรก็ถูกดึงลงไปอย่างไร้ปรานี

  แรงดึงดูดลากเขาจมลงไปอีกครึ่งวันสระสวรรค์ไม่ต่างจากหลุมไร้ก้น

  ครึ่งวันต่อมาซือหยูได้เห็นถ้ำมืดที่ก้นสระ เขาเห็นว่าแรงดึงดูดนั้นมาจากถ้ำ

  สิ่งที่รายล้อมถ้ำนั้นเรียบลื่นไม่มีที่ซ่อนให้เขาเลย

  เขาตัดสินใจแปลงกายตัวเองให้กลายเป็นธาตุทองขณะที่ป้องกันตัวเองด้วยพลังเทพ

  เขาถูกถ้ำดูดกลืนลงไป

  ซือหยูถูกน้ำวนอย่างรวดเร็วพัดพาใช้เวลาสักระยะกว่าจะหยุด

  เมื่อกระแสน้ำเบาบางซือหยูลืมตาและพบว่าเขาอยู่ในโลกใต้น้ำลึก

  มีสิ่งปลูกสร้างโบราณทุกหนแห่งสิ่งปลูกสร้างโบราณถูกน้ำกัดเซาะ

   ซากเมืองใหญ่ยิ่งนัก! 

  ซือหยูอุทานซากเมืองที่เขาเห็นกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา  เขาเห็นเงามืดจากด้านบนมีบางอย่างว่ายน้ำอยู่เหนือเขา

  ซือหยูตกตะลึงมีบางอย่างอยู่เหนือศีรษะของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว!

  ซือหยูสัมผัสได้ถึงอันตรายเขารีบว่ายไปยังซากเมืองเก่า

  การว่ายน้ำนั้นช้ากว่าการบินอยู่แล้ว

  ที่ยิ่งแปลกก็คือพลังห้าธาตุใช้ไม่ได้ที่นี่พลังของธาตุน้ำที่พื้นผิวรุนแรงเกินไปจนห้าธาตุไม่มั่นคง ยากมากที่จะรวบรวมพลังห้าธาตุได้

   แย่แล้ว! 

  ซือหยูแอบคิดเขาโชคร้ายที่ถูกเทพอสูรหกวิถีลากมาสู่โลกใต้น้ำประหลาดแห่งนี้ แต่อย่างไรเขาก็ยังไม่ตาย

   อ๊ายยย… 

  เขาได้ยินเสียงบางเบา

  เอ๋?ซือหยูตื่นตัวถึงที่สุด เขาหันไปมองรอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอใครเลย  ถึงอย่างนั้นเขาก็เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง

  ดวงตาเปล่งแสงสีขาวซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองทะลวงทุกสิ่ง

  เขาได้เห็นบางอย่างในมุมซากเมืองเขาเจอสัตว์ประหลาด

  สัตว์ประหลาดนั้นมีรูปร่างเป็นครึ่งคนครึ่งปลาร่างส่วนบนเหมือนกับมนุษย์ แต่มีเกลียดและหางปลาแทนที่จะเป็นขา

  ดูจากใบหน้าทั้งสองเป็นสตรี

  หนึ่งในนั้นอายุราวยี่สิบปีส่วนอีกคนอายุราวสิบห้าปี ทั้งสองงดงามเป็นอย่างมาก

  โดยเฉพาะหญิงสาวที่อายุมากกว่านางมีเส้นผมสีทองอ่อนนุ่มยาวสลวย ดวงตาเขียวเหมือนใบไม้ ใบหน้างดงามปราณีต หากนำไปเทียบกับมนุษย์ นางจะเป็นสตรีที่งดงามที่สุด

  หญิงสาวที่อายุน้อยกว่านั้นมีผิวเรียบเนียนดูดีใบหน้ากลมเล็กน้อย ใบหน้าดูบริสุทธิ์ไร้มลทิน  ทั้งสองมีตะกร้าใบเล็กที่หลังทั้งสองกอดกันแน่นและมองซือหยูด้วยความกลัว

  ทั้งสองหยุดนิ่งด้วยความหวาดผวาเมื่อรู้ตัวว่าถูกซือหยูมอง

   เจ้าไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนข้ามองเห็นเจ้า 

  ซือหยูพูดอย่างใจเย็น

  ฟึ่บ!

  ทันทีที่เขาพูดนางเงือกทั้งสองสะบัดหางว่ายหนีไปทันที

  ซือหยูยิ้มเขารวบรวมพลังห้าธาตุสร้างโซ่ไล่ตามทั้งสองไป

  ไม่นานโซ่ก็กลับมาพร้อมกับนางเงือกทั้งสอง

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน