The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1336 – สุสานเหมืองเก่า

ตอนที่ 1336 - สุสานเหมืองเก่า

ตอนที่ 1336 – สุสานเหมืองเก่า

  ร่างเงาที่มีนัยน์ตาสีทองอ่อนยืนห่างจากทั้งคู่สิบศอก

  มันปล่อยรังสีพลังที่แข็งแกร่งมากออกมามันคือรังสีพลังที่มีสิ่งอันน่ากลัวอัดแน่นอยู่ภายใน

  ถ้าหากเขาไม่ปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเองซือหยูก็คงจะสัมผัสไม่ได้

  เขาคือจักรพรรดิเงือก!

  เขาไม่เน่าเปื่อยอีกแล้วเขากำลังเปล่งประกายด้วยชีวิตและปล่อยแสงอันสดใสออกมา

  ความต่างเดียวก็คือเนตรที่เป็นสีทองอ่อนแทนที่จะเป็นเนตรสีเขียวมรกต

   เจ้าไม่ใช่พ่อข้าเจ้าเป็นใคร? 

  หลูจูตะโกนเสียงดังนางใจเต้นแรง ในใจสับสนวุ่นวาย

  ไม่มีใครรู้จักพ่อนางดีกว่าที่นางรู้จักสิ่งที่อยู่ตรงหน้านางอาจมีลักษณะที่เหมือนกับพ่อนาง แต่ดวงวิญญาณนั้นไม่ใช่

   โอ้ลูกสาวที่รัก เข้ากับสามแม่ทัพขุดข้าขึ้นมาจากเมืองวิญญาณ เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครล่ะ? 

  จักรพรรดิเงือกหัวเราะเบาๆ

  หลูจูกำลังตกใจ

   เจ้าเป็นใครกันแน่?มาสิงร่างพ่อข้าได้ยังไง? 

  นางสั่นไปทั้งตัวนางมิอาจเชื่อว่าพ่อนางที่ผ่านการช่วยเหลืออย่างยากลำบากจะตายไปแล้วและถูกดวงวิญญาณอื่นชิงร่างไป

  ก่อนหน้านี้จักรพรรดิเงือกและราชายักษ์ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งสองแข็งแกร่งมาก เทพอื่นไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้

  เมื่อการต่อสู้จบลงพวกเขาได้พบกับร่างไร้วิญญาณของจักรพรรดิเงือกในเหมืองวิญญาณที่ถูกทิ้งร้าง

  แต่พวกนางไม่ได้คิดเลยว่าร่างของจักรพรรดิเงือกจะถูกยึดไปแล้ว

  นางและน้องสาวพยายามอย่างมากเพื่อที่จะหามุกวิญญาณไร้สิ้นสุดที่ไม่เคยพบเห็นทั้งคู่นำชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้ายเพื่อที่จะช่วยผู้เป็นพ่อ

  เมื่อครู่ก่อนนางกับซือหยูพยายามช่วยจักรพรรดิเงือกด้วยทุกสิ่งที่มี ปกป้องจักรพรรดิเงือกจากกบฏ

  สุดท้ายโชคชะตาก็พลิกผัน!

  ซือหยูถอนหายใจด้วยความเวทนาองค์หญิงเงือกหลูจูผู้นี้ช่างโชคร้าย

   หยุดถามได้แล้ว!มันคือจิตเฝ้าสุสานระดับเทพ มันแอบยึดร่างจักรพรรดิเงือกไป 

  ซือหยูมองจักรพรรดิเงือก

  หลูจูตกใจ

   จิตเฝ้าสุสานระดับเทพ…ถ้าอย่างนั้นท่านพ่อก็เหมือนน้องข้าน่ะสิ?ท่านพ่อยังไม่ตายใช่ไหม? 

  ซือหยูส่ายหน้าเบาๆ   ข้าคิดว่าคงจะไม่ใช่เหตุที่มันเลี่ยงสัมผัสข้าได้ก็เพราะว่ามันมาแทนที่ดวงวิญญาณของพ่อเจ้าไปแล้ว ข้าจึงคิดว่าเป็นดวงวิญญาณของจักรพรรดิเงือก ข้าถึงได้รักษาร่างของเขายังไงล่ะ 

   ฮ่าๆๆๆข้ารู้แล้วว่าเจ้ามันฉลาด! 

  จักรพรรดิเงือกแสดงความยอมรับ

   ข้าไม่อยากจะฆ่าเจ้าเลยจริงๆ แต่พวกเจ้ามันรู้มากไป 

  หลูจูอุทาน

   เจ้ายังคิดจะฆ่าพวกเราอีกเรอะ?ซือหยูช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้นะ! 

   เจ้าน่ะไม่รู้อะไรหรอกแต่เขาน่ะรู้ 

  จักรพรรดิเงือกยิ้มมองซือหยู

   ใช่ไหมเจ้าคนฉลาด? 

  ซือหยูจ้องกลับ

   เรื่องที่จิตเฝ้าสุสานระดับเทพได้ติดตัวองค์หญิงอีกคนข้าคิดว่าเป็นฝีมือของสามแม่ทัพที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ข้าประเมินมันสูงเกินไป คนที่อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริงจะต้องเป็นเจ้า จิตเฝ้าสุสานระดับเทพตอนนั้นคือหนึ่งในร่างเงาของเจ้าไม่ใช่รึ? ทีแรกเจ้าคิดจะทิ้งร่างจักรพรรดิเงือกและยึดร่างองค์หญิงแทน แต่แผนของเจ้าก็ถูกข้าพังเสียไม่เป็นท่า 

   ส่วนเรื่องจิตเฝ้าสุสานที่ไล่ล่ามาตลอดทางเจ้าก็แค่ควบคุมร่างองค์หญิงและหาโอกาสรวบรวมกำลังเสริมมาช่วยพิชิตทั้งเผ่าเงือกเท่านั้น 

   ข้าพูดถูกหรือไม่? 

  จักรพรรดิเงือกปรบมือด้วยใบหน้าเห็นด้วย

   ถูกเผง!ช่างน่าประทับใจ จากที่ข้าจับตาดูเจ้ามา ยากที่จะเชื่อว่าเจ้ามีปัญญาถึงเพียงนี้ 

  ต่อมารอยยิ้มของจักรพรรดิเงือกก็ได้หายไปใบหน้าของเขาน่ากลัวขึ้น   เจ้าคิดว่าข้าควรฆ่าเจ้ารึยังล่ะ? 

  ถ้าซือหยูไม่ตายเขาจะต้องเปิดเผยตัวตนปลอมของจักรพรรดิเงือก ถึงตอนนั้นก็ยากมากที่จักรพรรดิปลอมจะพิชิตเผ่าเงือก

   จากมุมมองของเจ้าก็คงใช่เจ้าควรฆ่าข้า! แต่ใครบอกเล่าว่าเจ้าจะทำสำเร็จ? 

  ภูเขาห้าธาตุปรากฏตรงหน้าซือหยูทันที

  ทันทีที่ภูเขาปรากฏก็ได้มีบางอย่างที่เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นซัดเข้าใส่ภูเขาห้าธาตุจนเกิดเสียงแหลมเล็ก

  เมื่อสังเกตให้ดีจะพบเส้นหนวดสองเส้นที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

  ถ้าไม่ใช่เพราะความตื่นตัวของซือหยูทั้งเขาและหลูจูคงจะถูกจัดการไปแล้ว

   โอ้?เจ้านี่มันขี้ระแวงจริง ๆ 

  จักรพรรดิเงือกขยับมือเรียกหนวดกลับมาเนตรสีทองอ่อนยังคงจ้องซือหยูต่อไป เขาค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้

   ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้ามาจากที่ใดกันแน่?ใยถึงสัมผัสพลังของเผ่าพันธุ์ข้าจากเจ้าได้มากมายเช่นนี้? แล้วพลังสายโลหิตเทพของเจ้าอีก? 

  เขาดูเหมือนถามคำถามแต่แท้จริงเขากำลังเบี่ยงเบนความสนใจของซือหยู เขาเข้าใกล้ยิ่งขึ้นและจู่โจมโดยไม่ทันให้ตั้งตัว

  เขาปล่อยเพลิงสีทองออกจากดวงตาเข้าล้อมรอบภูเขาห้าธาตุเขาคิดจะเผาทั้งภูเขาและพวกซือหยูทิ้งไป

  แต่ซือหยูรออยู่แล้วพลังของภูเขาห้าธาตุเปลี่ยนเป็นธาตุวารีในทันที พลังธาตุวารีได้ให้กำเนิดพลังน้ำแข็งและสร้างมังกรน้ำแข็งขึ้นมา มังกรอ้าปากกลืนกินเพลิงสีทองเข้าไป

   พลังห้าธาตุบริสุทธิ์นัก!มันเกือบจะถึงระดับวิถีเทพห้าธาตุแล้ว 

  จักรพรรดิเงือกหรี่ตาจากนั้นจึงส่ายหน้า

   น่าเสียดายสำหรับข้า มันก็แค่กลกระจอก 

  ตู้ม!   มังกรน้ำแข็งสลายไปเพลิงสีทองแผดเผามันราวกับกระดาษ

  เมื่อไร้สิ่งกีดขวางเพลิงสีทองได้ลุกลามไปยังซือหยูและหลูจู

   ผ้าคลุมเก้าจักรพรรดิ! 

  ซือหยูกางผ้าคลุมออกมันกลายเป็นชิ้นผ้าขนาดยักษ์ห่อหุ้มเพลิงสีทองไว้ภายใน

  จากนั้นผ้าคลุมจึงย่อขนาดลงเพลิงสีทองดับมอดจนหมด

  ซือหยูเรียกภูเขาห้าธาตุและผ้าคลุมกลับมาที่มีทั้งสองข้างเขารวบรวมพลังธาตุวารีมหาศาลออกมาอีกด้วย

   เกือบแล้ว! 

  ซือหยูคว้าหลูจูและคิดจะหนีไป

  จักรพรรดิเงือกยิ้มบางๆ

   คิดว่าจะหนีไปจากข้าได้รึ? 

  แต่ทันทีที่เขาไล่ตามเขาก็ขมวดคิ้วและมองไปที่ด้านหลัง  ที่ด้านหลังมีแสงเทพสามสายพุ่งตามมา

  แสงแรงเป็นของแม่ทัพมัจฉาทมิฬที่มีสีหน้านิ่งสงบเขารีบมาในทันทีที่รู้ว่าเงือกที่เขาไว้ใจตายเพื่อที่จะสืบหาความจริง

  แม่ทัพเสือกับแม่ทัพตะเพียนมิอาจอยู่เฉยเมื่อเห็นว่าจักรพรรดิเงือกได้กลับมาเกิดใหม่

  แต่ทั้งสามไม่คิดเลยว่าเมื่อมาถึงแล้วสิ่งที่ได้พบจะเป็นจักรพรรดิเงือก!!!

  เขาถูกชุบชีวิตขึ้นมาแล้ว!

  จักรพรรดิเงือกเหลือบมองทิศที่ซือหยูหนี

   นี่สินะคือเหตุผล…มันคิดอ่านไว้ได้แม่นยำไม่เลว! 

  ซือหยูไม่เคยคิดอยากจะต่อสู้กับจักรพรรดิเงือกโดยตรงเขาประเมินสถานการณ์และวางแผนล่วงหน้า เขาคิดอยู่แล้วว่าเมื่อเงือกที่มีรอยแผลเป็นตาย แม่ทัพมัจฉาทมิฬจะต้องตามมาดู

  ดังนั้นภายใต้การแสร้งป้องกันตัว ซือหยูได้ถอยในทันทีที่สามแม่ทัพตามมา

  ความสามารถในการวางแผนระดับนี้ทำให้จักรพรรดิเงือกไม่สบายใจนักเขาตระหนักได้แล้วว่าซือหยูนั้นอันตรายมาก

  ฟึ่บ!

  สามแม่ทัพมองจักรพรรดิเงือกตรงหน้าด้วยความไม่แน่ใจ

  แม่ทัพมัจฉาทมิฬถอยกลับช้าๆ เขาพูดกับแม่ทัพเสือและแม่ทัพตะเพียนเบา ๆ

   นี่ไม่ใช่เวลามาต่อสู้กันเองจักรพรรดิเงือกฟื้นคืนจากบาดแผลแล้ว พลังยังไม่เต็มที่ดังเดิม เรามีโอกาสที่จะฆ่ามันด้วยกัน 

  แม่ทัพเสือและแม่ทัพตะเพียนมองหน้ากันพร้อมกับพยักหน้าตกลงเมื่อคิดถึงส่วนได้ส่วนเสีย

   จักรพรรดิเงือกอย่าได้หาว่าพวกเราโหดร้าย จงโทษตัวเองที่ไม่รู้จักตายซะเถอะ! 

  สามแม่ทัพรวมพลังกันต่อกรกับจักรพรรดิเงือก  จักรพรรดิเงือกมองสามแม่ทัพและถอนหายใจแรงเขาก้าวออกมาข้างหน้า เพลิงสีทองลุกโชนไปทั้งกาย

  อ๊ากกก!

  เสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานสามเสียงดังขึ้นสามแม่ทัพถูกเพลิงทองคำแผนเผาจนแผดเสียงด้วยความเจ็บปวด

   เจ้าไม่ใช่จักรพรรดิเงือก!เจ้าเป็นใคร? 

  แม่ทัพมัจฉาทมิฬร้องคำราม

  แม่ทัพอีกสองคนเองก็รีบดับไฟและมองด้วยความหวาดกลัว

  จักรพรรดิเงือกตรงหน้าแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเงือกที่เคยรู้จัก!

  ทั้งสามรู้แล้วว่าจักรพรรดิเงือกถูกสิงร่าง

  จักรพรรดิเงือกวางมือไพล่หลัง

   ข้าเป็นใครน่ะรึ?พวกเข้ายังไม่คู่ควรที่จะรู้ หากอยากตายตอนนี้ ข้าจะจัดการให้ได้ แต่ถ้าหากอยากรอด จงลั่นคำสาบานว่าจะภักดีต่อข้าซะ    จักรพรรดิเงือกโยนตราหยกสามชิ้นที่มีอักษรโบราณเขียนเอาไว้ออกมา

  ตราหยกนี้เก่าแก่นานปีพลังจากอดีตยังคงแผ่ออกมา

   ตราสาบานนักรบเทพ?เจ้าเป็นใคร เจ้าได้ตราสาบานจากนักรบเทพแห่งฟ้าดินมาได้ยังไง? 

  แม่ทัพมัจฉาทมิฬผงะตราสาบานจากนักรบเทพแห่งฟ้าดินนั้นคือสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในยุคสุดยอดของแดนเทพโบราณ

  หากใครได้ลั่นวาจาต่อตรานี้และผิดคำสาบานผลสะท้อนกลับจะตามมาอย่างแน่นอน

  ใครก็ตามที่สาบานต่อตรานี้ไม่เคยหนีชะตาไปได้ถ้าหากผิดคำพูด

  ตราสาบานควรจะสูญหายไปตั้งแต่ความตายของเหล่านักรบเทพแห่งฟ้าดินไปแล้วใครจะไปคิดว่านักรบเทพจะมายึดร่างของจักรพรรดิเงือกเล่า?    หุบปากซะจะสาบานหรือจะตาย จงเลือก 

  จักรพรรดิเงือกกล่าว

  สามแม่ทัพแววตาขมขื่น

  ทั้งสามทั้งนับถือและหวั่นเกรงต่อจักรพรรดิเงือกคนเดิมที่มีพลังสูงสุดอยู่แล้วแต่จักรพรรดิเงือกในตอนนี้นั้นลึกลับและแข็งแกร่งยิ่งกว่า

  ทั้งสามมองหน้ากันและหยดโลหิตลงบนตราสาบานเพื่อลั่นวาจาว่าจะภักดีต่อจักรพรรดิเงือก

  จักรพรรดิเงือกยิ้มและเก็บตราหยกทั้งสามเอาไว้

   ดีมากตราบเท่าที่พวกเจ้าเชื่อฟังข้า ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ข้าตบรางวัลเจ้าได้มากกว่าที่เผ่าเงือกจะให้ได้เสียด้วยสิ… 

  น้ำเสียงจักรพรรดิเงือกนั้นมั่นใจมาก

   ลมปากท่านคือคำสั่งของข้าท่านจักรพรรดิเงือก     จักรพรรดิเงือกรึ?….ตั้งแต่ที่ข้าหนีมาจากที่นั่นข้าไม่มีทางเลือกนอกจากหากายาเทพที่อ่อนแอ ข้าคงต้องเป็นจักรพรรดิเงือกไปสักระยะ! 

  จักรพรรดิเงือกหัวเราะ

   ข้ามีสองคำสั่งให้เจ้าไปยึดเผ่าเงือกซะ ข้าจะรวบรวมน่านน้ำนี้ในเวลาหกเดือน เผ่ามนุษย์กบ เผ่ายักษ์ เผ่างูวารี…เผ่าอ่อนแอพวกนี้ไม่จำเป็นต้องคงอยู่ 

  สามแม่ทัพผงะตัวตนแบบใดกันที่กล้าวางแผนอันทะเยอทะยานแบบนี้?

  น่านน้ำแห่งนี้ดำรงอยู่มาหลายร้อยล้านปีเก้าสิบเก้าเผ่าในทางใต้เป้นเอกเทศต่อกัน ไม่มีเผ่าใดที่กล้าคิดจะรวบรวมแต่ละเผ่าเข้าด้วยกัน

   และจงไปจับตัวซือหยูกับหลูจูซะอย่าให้พวกมันหนีไปที่เหมืองวิญญาณที่มีสุสานอาจารย์ข้าฝังอยู่ 

  อาจารย์ของเขา?สามแม่ทัพแอบตกใจคนตรงหน้าแข็งแกร่งพออยู่แล้ว แล้วผู้ที่เป็นอาจารย์เล่า?

  เมื่อได้รับคำสั่งสามแม่ทัพเริ่มไล่ตามไปทางซือหยูทันที

  ซือหยูมุ่งหน้าไปสู่เทือกเขาเสวียนจิง

  เทือกเขาแห่งนี้อุดมไปด้วยพลังวิญญาณที่เข้มข้นหนาแน่นทุกหนแห่งพลังกระจัดกระจายเต็มไปหมด

  สมุนไพรและสมบัติหายากขึ้นอยู่เต็มไปหมดและไม่มีใครสนใจพวกมัน

   นี่คือเหมืองวิญญาณที่เผ่าเงือกกับเผ่ายักษ์ต่อสู้แย่งชิงมันคือเหมืองวิญญาณที่หาได้ยากในทางใต้ 

  ซือหยูเฝ้าดูมันอยู่นานเขาส่ายหน้าเบา ๆ

   ไม่ใช่เรื่องที่มันหายากมันแปลกเพราะมันน่าสงสัย หากข้าคิดไม่ผิด จะต้องมีสิ่งประหลาดอยู่ที่นี่ 

   พาข้าไปในที่ที่เจ้าเจอจักรพรรดิเงือก 

  ซือหยูสั่ง  หลูจูถามกลับ

   ทำไมท่านจะต้องไปที่นั่นล่ะ? 

   เพื่อทดสอบความคิดข้าว่าที่นี่มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ 

  ซือหยูได้แต่คิดเรื่องอาจารย์ที่จิตเฝ้าสุสานระดับเทพพูดถึง

  หากยึดร่างจักรพรรดิเงือกจากหลุมลึกซือหยูคิดว่าเขาควรจะหาเบาะแสจากที่นั่น

   มันจะมีอะไรให้สนใจอีก?ท่านพ่อไม่กลับมาอีกแล้ว 

   เจ้าไม่คิดจะล้างแค้นรึ? 

  ซือหยูพูดเบาๆ

   อยากสิข้าอยากแก้แค้น! 

  หลูจูแววตาเย็นชา

   ก็ได้ข้าจะพาท่านไป! 

  หลุมลึกตั้งอยู่กลางเหมืองวิญญาณแรกเริ่มเดิมที ทั้งสองเผ่าเจรจาการรวมเป็นพันธมิตรกันที่นี่ แต่สุดท้ามันก็เป็นแผนร้ายของราชายักษ์

  หลูจูถาม

   ท่านรู้ได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่พ่อข้า? 

  ซือหยูตอบ

   ข้ารู้จักพิษในร่างพ่อเจ้าในที่ที่ข้าจากมา มันคือพิษเทพอสูร มันมีพลังของอสูรอยู่ด้วย จักรพรรดิเงือกมีวิถีเทพสายฟ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะอ่อนแอลงเพราะพิษเช่นนี้ คำอธิบายเดียวก็คือสิ่งที่โดนพิษนั้นไม่ใช่พ่อเจ้า 

   อย่างนี้นี่เอง 

  หลูจูแววตาหม่นหมองพ่อนางตายไปตั้งแต่ที่ถูกไล่ต้อนไปยังหลุมลึกแล้วจริง ๆ จากนั้นจึงถูกสิงโดยจิตเฝ้าสุสานระดับเทพ

  ไม่นานทั้งสองก็ได้มาถึงสถานที่อันว่างเปล่า

  ร่องรอยการต่อสู้มีอยู่มากมายโดยเฉพาะหลุมลึกในส่วนกลางที่แทบจะป่นปี้

  ในหลุมลึกนั้นมีกลุ่มเศษโคลนที่ยังไม่สงบ  พลังเทพในการต่อสู้ครั้งก่อนยังไใ่สลายไป

  ที่นี่มันอะไรกัน?ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองลึกลงไปในกลุ่มโคลนที่ฟุ้งกระจาย

  เมื่อมองถึงก้นหลุมเขาก็หรี่ตา

   หลุมลึกนี่น่าสงสัยมากมีรอยแยกที่ก้นหลุม ข้าไม่รู้ว่ามันจะพาไปที่ไหน 

   รอยแยกรึ?ทำไมวันนั้นข้าไม่เห็นล่ะ? 

  หลูจูแปลกใจ

  ซือหยูชี้ไปยังจุดที่ยังมีพลังเทพหลงเหลืออยู่

   เจ้าถูกพลังเทพเบี่ยงเบนความสนใจในตอนนั้นรอยแยกเองก็คงจะเล็กมากกว่าตอนนี้ด้วย 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน