The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1254 – บังคับขู่เข็ญ

ตอนที่ 1254 - บังคับขู่เข็ญ

   เจ้า… 

  ทูตสับสนมึนงงเขามองซือหยูและมองรอบ ๆ เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนจู่โจมเขา

   เจ้าอะไร? 

  ชาเอ๋อยืนเท้าเอวนางพูดด้วยความโกรธแค้น

   ใครบอกให้เจ้ามากดดันท่านเจ้าเมืองให้ลงมือแบบนี้!เจ้าได้สิ่งที่อยากได้ไปแล้ว สมน้ำหน้า! 

  ทูตเบิกตากว้างมองซือหยูหัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อสายตา

   อะไรนะ?ฝีมือเจ้ารึ? 

  พลังเมื่อครู่เป็นพลังของว่าที่เทพขั้นกลางมันมาจากอสูรเนรมิตรได้ยังไง?

   เป็นไปไม่ได้! 

  ทูตตะโกนเสียงแข็ง   ฝีมือใครกัน?ออกมาเดี๋ยวนี้! 

  ซือหยูเดินไปหาด้วยความใจเย็น

   ไม่เพียงแต่หูหนวกซ้ำร้ายยังตาบอด 

  เมื่อพูดจบแสงห้าสีในจุดที่ซือหยูยืนได้หายไป

  กว่าที่ทูตจะรู้ตัวซือหยูก็ก้าวพริบตามาถึงเขาห่างกันเพียงสามศอก ซือหยูถือหอกพลังปีศาจในมือและปักมันลงบนอกเขา

  พลังที่ซ่อนอยู่ในหอกแผ่เข้าร่างทูตด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว

  เป็นฝีมือเขา!เป็นเจ้าเมืองที่จู่โจม!

  อสูรเนรมิตรเพียงคนเดียวสามารถเป็นภัยต่อเขาได้!

  เมื่อถูกบังคับให้ยอมรับความจริงทูตยังคงไม่ยอมแพ้ เขาคิดที่จะสู้ต่อไป

   ซุกซ่อนพลังเอาไว้ได้ดีเจ้ามีความสามารถอยู่บ้างไม่ใช่รึ! ถ้าอย่างนั้น ให้คนอย่างข้าให้ลิ้มรสพลังพิเศษของเจ้าหน่อย ท่านเจ้าเมือง!     ขุนศึกไร้พ่าย! 

  ทันทีที่หอกมาถึงตัวทูตร้องตะโกน ผิวกายของเขาที่เหมือนกับเต้าหู้หลายชิ้นประกอบกันกลายเป็นสีทองแดง

  เมื่อหอกปีศาจแทงไปที่ร่างทองแดงมันก็เหมือนกับมีดเล่มเล็กแทงไปยังศิลาแกร่งกล้า

  หอกกระเด็นกลับ

   หอกพลังปีศาจรึ…นี่รึทั้งหมดที่เจ้าี? 

  ทูตยั่วยุ

   พอคนอย่างเจ้าได้อำนาจขึ้นมาก็มัดจะตามืดบอกเพราะความโอหังแม้อาวุธจะมีคุณภาพดี แต่พลังของเจ้าทำให้ปลดปล่อยพลังของมันออกมาไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อันใด? 

  ฟึ่บ!

  ทูตพลิกฝ่ามือเขาเรียกกิ่งไม้เดินได้ที่เต็มไปด้วยโลหิตอสูรสีดำออกมา มันมีพลังเทพอยู่เล็กน้อย

  ว่าที่เทพนับไม่ถ้วนตายด้วยกิ่งไม้เดินได้นี้!

   ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสความยิ่งใหญ่ของเมืองเมฆาอสูรเจ้าจะได้ลืมตาตื่นรู้ว่าเจ้ามันยืนอยู่ตรงจุดไหน! 

  ทูตแสยะยิ้มที่มุมปาก

  ฟึ่บ!

  เขาเคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าเขาแทงกิ่งไม้ไปทางซือหยูราวกับเงา

  แต่สิ่งที่ได้สัมผัสกลับเป็นเพียงแค่เงาร่างของซือหยูที่ตัวจริงได้หายไปแล้ว

   ใช้วิธีเดิมๆ อีกแล้ว เจ้าหมดความคิดแล้วรึ? 

  ทูตไม่แปลกใจเขากลับดูพอเสียด้วยซ้ำ เขาหันหลังไปซัดกิ่งไม้และหัวเราะอย่างเยือกเย็น

   ตรงนี้! 

  แกร๊ง!

  เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นกิ่งไม้ได้ปะทะกับของแข็งบางอย่าง

  หอกปีศาจปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

  ทูตหลบอย่างไม่ยากเย็น

   เจ้ารู้อยู่แล้วว่ามันไร้ประโยชน์แต่ก็คิดจะทำอีกเจ้าไม่มีพลังอื่นแล้วรึไง? ข้าเริ่มจะรู้สึกผิดแล้วนะ… 

   งั้นหรือ? 

  ซือหยูถือกระบี่เงินด้วยมือซ้ายมันปกคลุมไปด้วยแสงอันตระการตา และจากนั้นหอกที่มือขวาก็เปล่งแสงแบบเดียวกันออกมาด้วย

  ทูตหยุดชะงักความเจ็บแปลบแล่นเข้าสู่ร่าง เขาก้มลงมองโดยไม่รู้ตัวและเบิกตากว้าง

   เจ้า… 

  หอกพลังปีศาจแทงทะลุตัวเขาอย่างง่ายดายราวกับกระดาษมันทะลุจากหน้าไปถึงหลัง!

  หอกปีศาจนั้นปักหัวใจทะลุออกมาจากร่างเสียงหัวใจเต้นอย่างแรงดังออกมา  ไม่นานหอกยาวของซือหยูก็สั่นหัวใจอสูรแตกเป็นชิ้น ๆ

  พลังปีศาจในหอกไหลเข้าสู่ร่างของทูตราวกับคลื่นกระหน่ำในมหาสมุทร

  ร่างเต็มไปด้วยพลังปีศาจแววตาเจ้าของร่างดำสนิท

  อ๊ากกกก!

  เขาร้องโหยหวนและสะบัดหอกให้หลุดจากร่างหวัใจกลับเข้าสู่อก แต่ถึงแผลจะฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว พลังปีศาจในร่างก็ถ่วงเวลาเอาไว้

  พลังในหอกปีศาจลดลงมากเมื่อใช้มาหลายครั้งมันมิอาจสังหารว่าที่เทพขั้นกลางในคราเดียวได้อีกแล้ว

  แต่ทูตที่มีพลังปีศาจทั่วทั้งร่างก็เสียพลังจำนวนมากไปเช่นกัน

   พลังห้าสีนั่นมันอะไร?มันเข้ามาร่างข้าเพียงพริบตาเดียว! 

  ทูตร้องคำราม  ปั้ง!

  ภูเขาห้าธาตุเข้าปะทะเขาแทนคำตอบเขากระเด็นออกไปจากแรงกระแทก ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด

  ชาเอ๋อมิได้เวทนานางฉีกยิ้ม

   ยังคิดจะสู้อีกเรอะหา? มันไม่ห่วงใยชีวิตตัวเองเลย! 

  ฟึ่บ!

  ภูเขาห้าธาตุลอยขึ้นอีกครั้งและพุ่งเข้าไปกระแทกอย่างแรง

  ทูตจ้องซือหยูด้วยความชิงชังฝังรากลึกเขาตะโกนขณะที่ถอย

   ก็ได้!ข้าจะจำวันนี้เอาไว้ ข้าจะบอกคำพูดของเจ้ากับท่านเมฆาอสูร หวังว่าต่อไปเจ้าจะไม่เสียใจ! ฮื่ม! 

  ปั้ง!

  พลังห้าธาตุอันกว้างใหญ่ปลดปล่อยออกมาจากภูเขาห้าธาตุเข้าปะทะกับทูตจนเขากระเด็นอีกครั้งครั้งนี้ กายหยาบของเขาแทบจะแหลกเป็นเสี่ยง ๆ

   พอสักที! 

  ทูตตะโกนด้วยความโกรธแค้น

   กล้าดียังไงมาขู่ข้าด้วยสมบัติแค่หยิบมือเดียว! 

  ซืหยูตอบอย่างไร้อารมณ์

   เป็นเจ้าที่ขู่ข้าไม่ใช่รึ? 

  ทูตตะโกนเสียงแข็ง

   ฮื่ม!ครั้งหน้าข้าจะเอาคืนความอัปยศนี้ให้สาสม! 

  เขาหันหลังกลับแต่พอเขาจะไป คลื่นพลังห้าธาตุก็หล่นลงมาจากสวรรค์ ระเบิดร่างของเขาจนเขากลิ้งไปกองกับพื้นอีกครั้ง

  ซือหยูถามตั้งแต่ที่ทูตจะมีโอกาสได้กรีดร้อง

   ใครอนุญาตให้เจ้ากลับ? 

  หา?!ทูตตัวแข็งทื่อ

   เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?ข้าเป็นทูตที่ท่านเมฆาอสูรส่งมา! ต่อให้ทำสงครามกันก็ไม่มีใครมีสิทธิ์สังหารทูต! 

  นี่คือเหตุผลที่เขาดูหมิ่นซือหยูได้อย่างไม่เกรงกลัวเพราะเขาคิดว่าเขาจะไม่มีทางตายอยู่แล้ว

  ซือหยูกล่าว

   ทูตรึ?ทูตจากดินแดนใดกันที่เข้ามาต่อสู้อย่างไร้เหตุผลและจะชิงตัวองค์หญิงกลับไป? 

   ฝ่าบาทพูดแล้วว่าไม่ยินดีไปเมืองเมฆาอสูรใครก็ตามที่ขัดคำสั่งจะต้องถูกประหาร! เจ้าขัดคำสั่งนางและยังคิดจะใช้กำลังเอาตัวนางไปอีก 

   เจ้าต่อต้านฝ่าบาทเวลานี้เจ้าคือทรยศที่ไม่มีที่ยืนในแดนจิงหยูอีกแล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ตัดหัวเจ้า! 

  ฟึ่บ!

  ภูเขาห้าธาตุกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรงพลังมหาศาลซัดทูตจนมิอาจขยับตัวได้  เขาพยายามต่อต้านแรงของภูเขาห้าธาตุอย่างหนักพร้อมตะโกน

   เจ้ากล้าดียังไง!ข้าคือเจ้าดินแดนอันดับหนึ่งในเมืองเมฆาอสูร ข้ายังได้รับคำสั่งมาจากท่านเมฆาอสูรโดยตรง รู้ผลที่จะตามมาหรือไม่ถ้าเจ้าฆ่าข้า? 

  เขากำลังร้อนรน

  ซือหยูกล้าฆ่าเขา!

   เมฆาอสูรมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ?แต่นี่คือเมืองชมทะเล มันจะยิ่งใหญ่มาจากไหน มันก็ไม่มีอำนาจเหนือข้า! 

  ซือหยูพูดอย่างเย็นชา

  ทูตหนักใจเขาตะโกนเสียงแข็งด้วยใบหน้าร้อนรน

   คิดให้ดี!ถ้าไม่มีท่านเมฆาอสูร เจ้าจะครองตำแหน่งเจ้าเมืองต่อไปได้รึ? ฝันไปเถอะ! 

  ชาเอ๋ออดทนมามากพอแล้วนางพูดเยาะเย้ย   พูดอะไรของเจ้า? 

   หรือว่าเจ้าจะหมายถึงอสูรเจ้าดินแดนคนอื่น?น่าเสียดายที่พวกมันก็เคยโอหังอย่างเจ้า แต่เมื่อได้เห็นพลังจากสวรรค์ของนายท่าน พวกมันทุกคนก็ยอมจำนนและสาบานว่าจะภักดี ตำแหน่งของนายท่านไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องกังวล 

  อะไรนะนางพูดจริงรึ? ทูตแอบตกใจ ด้วยพลังของซือหยู เป็นไปไม่ได้ที่อสูรเจ้าดินแดนเหล่านั้นจะยอมภักดี!

  ไพ่ใบสำคัญที่เขาคิดว่ามีอยู่ได้หายไปเสียแล้ว

   ฮื่ม!เจ้าจะภูมิใจอะไรนักหนา? เจ้าลืมที่ข้าพูดไปแล้วรึ? มีมือสังหารลึกลับมากายในเมืองชมทะเล พวกมันทุกคนมาเพื่อเอาชีวิตองค์หญิงที่ไม่มีท่านเมฆาอสูรปกป้อง ข้าไม่ได้คิดจะดูหมิ่นเจ้า แต่หัวพวกเจ้าพร้อมหลุดจากบ่าในข้ามคืน! 

   จากที่ข้ารู้พวกมันมีว่าที่เทพขั้นกลางอยู่ด้วยสองด้วย มีขั้นต้นอีกนับร้อย! หากไม่มีท่านราชาอสูร เจ้าจะรับมือพวกมันได้ยังไง? 

  ชาเอ๋อมองด้วยความเวทนา

   ข้ารู้สึกโศกเศร้ากับเจ้าซะจริง!เจ้าไม่ถามใครก่อนจะมาที่นี่รึ? มือสังหารลึกลับที่เจ้าพูดถึงไม่ใช่มือสังหารที่องค์หญิงหกส่งมารึ? ไอ้อสูรเลือดบริสุทธิ์กับกึ่งบริสุทธิ์ชื่อม่อหลงนั่นน่ะ ใช่ไหม? 

   เจ้ารู้ได้ยังไง? 

  ทูตผงะเขาลั่นวาจาอย่างไม่เชื่อหู เขายังไม่รู้ตัวจริงของคนจากองค์หญิงหกด้วยซ้ำ

   ข้าก็ต้องรู้อยู่แล้วพวกมันทุกคนตายเพราะนายท่านของข้า ส่วนว่าที่เทพขั้นต้นนับร้อยที่เหลือก็ยอมจำนนเป็นคนที่ภักดีต่อนายท่านจวบจนวันตาย! 

   อะไรนะ?! 

  ทูตสูดหายใจเข้าลึกว่าที่เทพขั้นกลางสองคนและว่าที่เทพขั้นต้นร้อยคนคือกำลังทัพอันยิ่งใหญ่ แต่กลับพ่ายแพ้จนหมดหรือ?

  ชาเอ๋อหัวเราะเหยียดหยาม   ตั้งแต่ที่เจ้ามาเจ้าทำตัวดั่งผู้มีน้ำใจ พูดว่าถ้าเรารับใช้นายของเจ้า นายท่านจะได้ครองตำแหน่งยาวนาน 

   แต่ความจริงแล้วข้ารู้สึกว่าเจ้าถูกเมฆาอสูรส่งมาเพื่อทำให้นายท่านได้รู้สึกสนุกสนานเสียมากกว่า 

  ทูตไม่มีอารมณ์จะตอบคำถากถางของชาเอ๋ออีกแล้วเหงื่อเย็นผุดออกมาบนใบหน้า

  ความมั่นใจที่เขาเคยมีแหลกสลายไปแล้ว

  คนโชคดีที่ได้เป็นเจ้าเมืองในข้ามคืนที่เขาดูถูกกลับเอาชนะเขาในด้านกำลัง

  ความอ่อนแอของเจ้าเมืองคนใหม่เป็นเพียงเรื่องตลก

  ถ้าเช่นนั้นเขาจะมีเหตุผลอื่นใดในการเจรจากับซือหยูอีกเล่า?

  เมื่อเห็นว่าภูเขาห้าธาตุกำลังเพิ่มน้ำหนักทูตก็แสดงความเป็นมิตร เขาแสดงความไม่จริงใจออกมา   ข้าดูหมิ่นท่านเสียแล้วโปรดอภัยให้ข้าด้วย ท่านเจ้าเมือง คิดเสียว่าข้าเป็นทูต ข้าหวังว่าท่านจะไม่ติดใจเอาความเรื่องผิดพลาดในอดีตของข้า 

  เขาพูดเหมือนจะยอมแพ้แต่ที่เคยพูดว่า ‘ครั้งหน้าจะเอาคืน’ ก็ยังไม่ทันถูกลืม

   ข้าไม่อภัยให้เจ้า 

   ท่านเป็นเจ้าเมือง! 

  ทูตอุทานเขาบอกว่าเจ้าเมืองควรจะมีความยิ่งใหญ่ของผู้นำ

   เจ้าไมได้พูดหรือว่าตามกฎของเมฆาอสูรพลังคือสิ่งสำคัญกว่าตำแหน่ง? ข้าไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเจ้าดินแดนอื่น ข้าไม่ควรถูกนับเป็นเจ้าเมือง ข้าไม่จำเป็นต้องอภัยให้เจ้าในฐานะเจ้าเมืองนี่ 

  ทูตหน้าซีด้วยความกลัวนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาบอกซือหยูตั้งแต่แรกรึ?

  เขาไม่นับซือหยูเป็นเจ้าเมืองเพราะเมืองเมฆาอสูรนั้นให้ความสำคัญกับพลังมากกว่าตำแหน่ง

  เขาเป็นคนที่ขุดหลุมขวางทางหนีของตัวเอง

  ซือหยูเดินไปหาทูตและพูดอย่างไร้อารมณ์

   เจ้าหยาบคายต่อข้าและยังดูถูกข้า ข้าไม่ได้ว่าอะไรเจ้า มีคนมากมายนักบนโลกใบนี้ คนที่ดูถูกข้าก็แทบจะนับไม่ได้ ถ้าต้องโกรธแค้นพวกมันทุกคนจะไม่เหนื่อยไปหรือ? 

   ดังนั้นข้าเลยให้โอกาสให้เจ้าได้กลับไป แต่เจ้ากลับยโสโอหังกลับคืน ข้าจึงไม่เมตตาต่อเจ้า 

  ภูเขาห้าธาตุเพิ่มน้ำหนักกดทับลงอีกครั้ง

  ทูตที่ไร้พลังไร้การป้องกันมิอาจขยับตัวได้่เลย

  ชาเอ๋อเดินเข้ามานางพอใจที่ได้ล้างแค้น

   นายท่านเราจะจัดการมันยังไงดี? 

  ��

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน