แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 418 ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิง

แต่งรักมัดใจบอส

ตอนที่มุกดาตื่นขึ้นมาอีกครั้งนั้น ก็อยู่ที่บ้านแล้ว ตอนที่เธอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่ามีดวงตาดำทมิฬสองคู่กำลังจ้องมองตนเองอยู่

“คุณแม่ คุณแม่ฟื้นแล้ว” ตอนที่อักลี่เห็นมุกดาฟื้นแล้ว เขาดีใจจนส่งเสียงออกมาทันที

“คุณแม่ คุณแม่ตื่นแล้วเหรอ?” ชลธีก็ดีใจตามอักลี่ ก่อนหน้านี้เขาเห็นท่าทางมุกดาหลับลึก จนเขารู้สึกไม่สบายใจมาก ตอนนี้มุกดาฟื้นแล้ว เขาก็รู้สึกตนเองโล่งใจได้แล้ว

“อื้อ พวกลูกมาเฝ้าอยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่แล้ว?” มุกดาไม่ได้คิดอะไรมากมายกับชลธีเลย เพราะรู้ว่าตอนนี้เขายังไม่รับรู้สภาพของตนเองเลย

“หนึ่งวันแล้ว คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรไปเหรอ? ตอนที่ธีรนัยน์พาคุณแม่มาส่ง คุณแม่เอาแต่นอนหลับอย่างเดียว คุณแม่ง่วงนอนมากเลยเหรอ?” อักลี่เอียงศีรษะจ้องมองมารดาของตนเอง เพราะเขาเห็นว่าใบหน้าของมารดาได้รับบาดเจ็บกลับมาด้วย

“คุณแม่หน้าของคุณมีทำไมจึงมีแผลด้วยล่ะ?” อักลี่ชี้ตรงบริเวณเขียวช้ำที่อยู่บนใบหน้าของมุกดา

“อ้อ แม่เดินชนประตู ตอนเดินไม่ทันระวัง เลยได้แผลมา” มุกดาไม่กล้าบอกกับคนในครอบครัวว่าตนเองถูกหมาลอบกัดมา ได้แค่พูดไปว่าตนเองเดินไม่ทันระวังจนได้รับบาดเจ็บมา แม้ว่าจะไม่มีคนเชื่อก็ตามเถอะ

“อ้อ คุณพ่อ คุณพ่อได้ยินหรือเปล่า ต่อไปเวลาเดินต้องระมัดระวังให้มากนะ อย่าเดินไปชนกับบานประตู คุณพ่อดูคุณแม่สิหมดสติไปตั้งหนึ่งวันแหนะ” อักลี่รีบสอนชลธีทันทีราวกับตนเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ชลธีรีบพยักหน้าทันที เขารู้สึกว่าต้องเป็นไปตามนี้ ต่อไปเวลาเขาเดินต้องระวังเอาไว้ ไม่งั้นก็จะเหมือนคนคนนี้ที่นอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ที่ทำให้หัวใจของคนอื่นต้องแตกสลายตาม

มุกดาอยากจะลุกขึ้น ชลธีรีบเข้าไปประคองเธอทันที เธอขยับปากเพียงนิดเดียวก็สะเทือนไปถึงใบหูแล้ว เจ็บระบมไปทั้งตัว การที่โดนพวกนั้นทำร้ายมาโชคยังดีที่ธีรนัยน์เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตแขนสั้นให้กับตนเอง จนคนในครอบครัวเลยมองไม่เห็นรอยแผลที่อยู่บนตัวของตัวเอง

“คุณแม่ คุณเป็นอะไรไปเหรอ?” ชลธีถามกลับ

“เปล่าค่ะ แค่มึนหัวนิดหน่อย” มุกดาพูดกลบเกลื่อน แต่ชลธีจับสัมผัสได้ว่ามุกดามีปัญหา แต่ว่าปัญหามันมาจากตรงไหนนั้น เขาเองก็ไม่ทราบ

“ช่วยประคองฉันไปห้องน้ำได้ไหมคะ” มุกดาพูดกับชลธี ชลธีประคองเธอค่อยๆ เดินไปยังห้องน้ำ ทว่ามุกดาเดินช้ามาก จนทำให้ชลธีที่มองอยู่เกิดอาการร้อนใจมาก จนอุ้มมุกดามาวางบนชักโครกในห้องน้ำแทน เขาก็หันตัวออกไปรอหน้าประตูทันที

อักลี่เอาแต่ดึงขาของชลธีอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเขาเป็นห่วงร่างกายของมารดามาก

“พอแล้ว พวกหนูไปเล่นกันเถอะ อีกเดี๋ยวแม่จะนอนแล้ว” ตอนที่มุกดาเอนหลังลงบนเตียง ก็ให้ชลธีกับอักลี่ออกไปเล่นกัน เพราะว่าทั้งสองต่างเป็นเด็ก มุกดาอดใจไม่ไหวที่ทำให้พวกเขาต้องพลอยมาเป็นห่วงตนเองด้วย

“งั้นตอนที่คุณแม่จะเข้าห้องน้ำก็เรียกผมนะ!” ก่อนที่ชลธีจะออกจากประตู ก็ยังพูดทิ้งท้ายกับมุกดา เพราะเขามักรู้สึกไม่วางใจเลย แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

อักลี่ปิดประตูให้ด้วยความรอบคอบ มุกดาโทรศัพท์หาธีรนัยน์ทันที

“ธีรนัยน์วันนี้ใครส่งคนพวกนั้นมา สืบจนแน่ชัดหรือยัง?”

“สืบจนแน่ชัดแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งให้เงินพวกเขามา ให้พวกเขามารอคุณอยู่ที่นี่ พวกเขาเป็นพวกอันธพาลกลุ่มหนึ่ง มีอาชีพจี้ปล้นหากินใช้ชีวิตไปวันๆ ” ธีรนัยน์ตอบกลับมา

“ผู้หญิงคนหนึ่งเหรอ? เป็นผู้หญิงหน้าตาอย่างไรถามมาแน่หรือยัง?” แวบแรกมุกดาคิดว่าเป็นรวินท์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่ซูเปอร์มาเก็ตในครั้งที่แล้ว เธอคงไม่ใจดีปล่อยไปง่ายๆ แน่

“พวกเขาแค่คุยผ่านโทรศัพท์กัน บอกว่าจะให้เงินกับพวกเขาก้อนหนึ่ง ให้พวกเขาบอกบัญชีมาและจะโอนไปให้ ไม่นานนักก็มีเงินโอนเข้าบัญชีมาทันที” ธีรนัยน์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เธอสามารถสืบเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานั้นได้เร็วมาก แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้หญิงอีกฝ่ายคือใครกันแน่

“เรื่องนี้โอนให้ไปลูซี่เพราะว่าเธอถนัดด้านนี้มาก” มุกดาให้ธีรนัยน์โอนเรื่องนี้ให้ลูซี่จัดการ ลูซี่กลับอเมริกาเพื่อไปจัดการเรื่องบางอย่าง วันนี้จะเดินทางกลับมาถึงพระนครแล้ว

“ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอเอง จากนั้นจะได้บอกเรื่องนี้กับเธอด้วย” หลังจากธีรนัยน์พูดจบแล้ว มุกดาก็ไม่มีเรื่องอื่นพูดต่อ ทั้งสองคนจึงกดวางสาย

ผู้หญิงคนหนึ่ง? ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นรวินท์แหละมั้ง? มุกดาอยากให้ลูซี่เริ่มสืบจากตัวของรวินท์เลย เพราะว่าบุคคลต้องสงสัยที่สุดก็คือรวินท์ และยังอยากให้ลูซี่ช่วยตรวจสองสถานะที่แท้จริงของรวินท์อีกครั้ง เพราะเธอไม่ใช่คนในตระกูลอิสริยานนท์อย่างแน่นอน ความคุ้นเคยมากมายอีกทั้งยังมีการแสดงออกบางอย่างของเธอ เหมือนจะเป็นที่คนมุกดารู้จัก เธอต้องรู้ให้ได้

ลูซี่ดีใจมากที่ตนเองกลับประเทศมาแล้วมีภารกิจให้ตนเองทำ เธอกลัวที่สุดว่าตนเองไม่มีอะไรจะทำ หลังจากที่ธีรนัยน์บอกธุระกับเธอแล้ว เธอก็ยิ้มให้ธีรนัยน์จนทำให้หัวใจของธีรนัยน์เกิดอาการกระวนกระวายขึ้นมา

“ธีรนัยน์ทำไมคุณถึงได้หน้าตาดีมากขนาดนี้เนี่ย? ฉันอิจฉาคุณชะมัดเลย” ลูซี่ดึงมือธีรนัยน์เอาไว้ จากนั้นเธอก็เอนศีรษะเข้าหา

“ลูซี่นี่คุณต้องการจะทำอะไรเนี่ย? ปล่อยมือฉันนะ!” ธีรนัยน์ตกใจจนผลักลูซี่ออก

“ฮ่าๆ ๆ ฮ่าๆ ๆ ที่รัก คุณลืมไปแล้วเหรอว่าฉันทำอะไรได้ที่ไหน? ผู้ชายคนหนึ่งจะขัดขืนกับหญิงสาวที่ถลาเข้าสู่อ้อมกอดของตนเองขนาดนั้นเลยเหรอ? ตัวตนของคุณนับวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ฉันรู้สึกว่าคุณควรเปลี่ยนมาใส่ชุดผู้หญิงนะ” ลูซี่เขยิบหน้าเข้าหาใบหน้าของธีรนัยน์และหอมแก้มเธอไปหนึ่งที

“ลูซี่ลูซี่นี่คุณ…” ธีรนัยน์ตกใจจนพูดไม่ออก

“ที่รัก คุณไม่ต้องกลัวไปนะ คนฉันชอบคือพี่ชายของคุณต่างหาก ฉันไม่สนใจคุณเลยสักนิด ฮ่าๆ ๆ ” ลูซี่หัวเราะเสียงดังลั่น เธอประสบความสำเร็จในการหยอกล้อธีรนัยน์ที่ทำให้เย็นชาดั่งน้ำแข็ง แถมยังสบายใจยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่เสียอีก

ธีรนัยน์หมดคำพูดกับเธอ สถานะของเธอ ผู้ชายน้อยคนนักที่จะมองออก ทว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเหล่านี้ต่างมองออกกันทั้งนั้น ดูจากสภาพแล้วตนเองต้องกลับสภาพเป็นผู้หญิงดั่งเดิมแล้ว

ธีรนัยน์จัดการส่งลูซี่ถึงบ้าน เธอจึงรีบกลับบ้านตนเองทันที และพุ่งห้องนอนตัวเองที่อยู่ชั้นบน และจัดการปิดประตูอย่างดี

“คุณหนู คุณหนูคะ คุณหนูเป็นอะไรไป?” แม่บ้านที่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของธีรนัยน์จนเธอต้องรีบมาสอบถามคุณหนูของตนเองอย่างร้อนรนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันขออยู่เงียบๆ สักพัก” ธีรนัยน์พูดผ่านประตูกับแม่บ้าน

แม่บ้านยังคงไม่วางใจอยู่มาก เธอรีบถามย้ำอีกครั้งทันที จนธีรนัยน์ยืนกรานว่าตนเองไม่เป็นไรแล้ว เธอถึงเดินออกมาอย่างห่วงหน้าพะวงหลัง

ธีรนัยน์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เธอจัดการปิดประตู และเดินไปยังตู้เสื้อผ้าของตนเอง จากนั้นก็เปิดและมองชุดกระโปรงสวยๆ เหล่านั้นที่มารดาเป็นคนซื้อมาให้ตนเอง มารดาเป็นพวกไม่ล้มเลิกความคิด ตนเองก็ไม่ชอบใส่ แต่เธอยังซื้อรุ่นใหม่ๆ มาให้ตนเองทุกปี และเอารุ่นเก่าๆ คืนไปแทน

เมื่อมองกระโปรงที่ประดับด้วยสิ่งของงดงามประดับประดาธีรนัยน์ยื่นมือออกไปแหวกทีละตัวพร้อมทั้งพิจารณาอย่างละเอียดทุกตัว

เสื้อผ้าเหล่านี้ตั้งแต่ซื้อมาจนถึงตอนนี้เธอยังไม่เคยดูด้วยซ้ำ และก็ไม่เคยสนใจสักนิดเลย

ทันใดนั้นก็มีชุดกระโปรงสีขาวเตะตาเธอทันที จนทำให้ธีรนัยน์รู้สึกว่ากระโปรงตัวนี้สวยมากจริงๆ เลย จนเธอเอาชุดกระโปรงตัวนั้นลงมา

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท