เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 88 นิสัยไม่เปลี่ยน

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

“ฉันทำเอง”หนานกงเฉินคว้าเยือกนมไปแล้วเท นมให้คนละแก้ว

ไป๋มู่ชิงมองเขาที่กำลังเทนมอยู่ เธอรู้สึกว่าต้องเป็นเพราะหนานกงเฉินรู้ว่าเธอมีแผลใต้แขนเสื้อเลยคว้าเยือกนมไปเท่แน่นอน

ไม่เพียงไป๋มู่ชิงที่ตกใจกับเรื่องนี้ คนอื่นๆบนโต๊ะล้วนรู้สึกตกใจเหมือนกัน ปกติหนานกงเฉินยังขี้เกียจที่จะเทนมดื่มเอง อย่าว่าเเต่เทให้คนอื่นเลย ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากหลังจากแต่งงาน

คุณผู้หญิงกระหึ่มเบาเบา ให้ทุกคนรีบกินข้าว

ถึงแม้ช่วงนี้คุณผู้หญิงอยากจะยุยงให้เขาสองคนอยู่ด้วยกัน แต่พอเห็นเขาสองคนเข้ากันได้ใจก็แอบรู้สึกเป็นห่วงกระทันให้ขึ้นมา ลูกสาวตระกูลไป๋คนนี้เดิมก็เป็นคนที่ไม่ได้ลิขิตไว้ว่าจะได้คู่กับเฉิน หากเขาสองคนเกิดมีความรู้สึกต่อกันและกันขึ้นมา มันจะส่งผลกระทบต่อเฉินที่จะหาคนที่ถูกลิขิตไว้หรือเปล่า

เพราะคุณผู้หญิงรู้ดี ถ้าหากหนานกงเฉินรักใครเข้า ก็จะรักจนฟ้าดินสลาย!

หนานกงเฉินกินข้าวเช้าเพียงเล็กน้อย แล้วปล่อยช้อนซ้อมไว้บนโต๊ะกำลังจะไป แต่คุณผู้หญิงสั่งไม่ให้เขาไปที่บริษัททุกครั้งหลังที่เขามีอาการป่วย

หนานกงเฉินคิดไปคิดมา กลับตกลง

ก่อนหน้านี้เขาอดไม่ได้ที่จะหนีออกจากบ้านนี้ไป หากว่ากลับไม่ได้ก็จะไม่กลับมา เพราะบ้านนี้มีแต่ยาที่ดื่มไม่หมดแล้วยังมียายและอาจารย์หวังที่ค่อยบ่นข้างหูตลอด และมีคำสั่งที่เขาไม่สามารถทำสำเร็จได้

แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรใดใด เป็นเพราะอะไร เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

เขาตอบรับอย่างไม่คัดค้านอะไร ทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกปลาบปลื้มขึ้นทันใด เมื่อก่อนอยากให้หนานกงเฉินพักผ่อนอยู่บ้านสักวัน ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่ยอมอยู่ คุณผู้หญิงโกรธมากจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดี

พี่เหอหัวเราะแล้วบอกกับคุณผู้หญิงว่า “คุณหญิงคะ ฉันคิดว่านายหญิงน้อยจะเป็นดาวที่พาโชคดีให้ตระกูลเรา คุณชายใหญ่เชื่อฟังคุณผู้หญิงแล้ว

คุณผู้หญิงกระหึ่มอย่างไม่สบอารมณ์แล้วบอกว่า “เสียดายอาจารย์หวังหาผิดคน เธอไม่ใช่คนที่คู่ควรกับเฉิน”

“อืม มันก็ถูกไปอีกอย่าง” คุณผู้หญิงทำสีหน้าอย่างเสียดายสุดๆ

หนานกงเฉินที่ถูกขังไว้ในบ้านรู้สึกเบื่อสุดๆ อยากไปห้องสมุดเพื่อจัดการงานเร่งด่วนสักหน่อย ห้องกลับถูกคุณผู้หญิงสั่งคนล็อกไว้

เขาเดินไปเดินมาในสวนหลังบ้าน เขากลับเข้าไปที่ประตูมาถึงห้องอีกฝั่ง

ไป๋มู่ชิงยังคงวาดภาพน้ำมันของเธออย่างตั้งใจ. ตั้งใจจนขนาดหนานกงเฉินเข้ามายังไม่รู้ตัว

หนานกงเฉินยืมพีงประตูข้างๆแล้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “เธอไม่รู้สึกว่าเธอต้องหาทำอะไรกับฉันหรอ?”

ไป๋มู่ชิงตกใจแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณจะมัวทำงานในห้องทำงาน เลยไม่กล้าเข้าไปรบกวน ”

“ห้องทำงานถูกคุณยายล็อกแล้ว”

“อ้อ.ไม่น่าคุณถึงมาเที่ยวเล่นที่ฉัน ” แล้วเธอก็พูดต่อว่า “อีกนิดฉันก็เสร็จแล้ว พอฉันเสร็จฉันก็จะไปกับคุณ”

หนานกงเฉินเห็นรูปวาดน้ำมันสีที่ตรงหน้าของเธอแล้ว มีความคิดที่จะจุดไฟเผามันทิ้ง ทุกวันนี้รู้แต่จะวาดอย่างเดียว จนมือตัวเองเป็นแผลยังวาดต่อ และอีกอย่าง ภาพที่วาดยังเป็นผู้ชายกับคนอื่น

ความจริงแล้วไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเธอวาดได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสีและเสน่ห์ของภาพวาดก็พอใช้ได้ และนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้ เขาสนใจว่าเธอเมื่อไหร่จะหยุดวาดรูปซักที

“คุณอยากให้ฉันทำอะไรกับคุณละ?”ไป๋มู่ชิงถามไปที่เขา

“เธอทำอะไรเป็นบ้างละ”

“ฉันหรอ? สิ่งที่ฉันทำเป็นเยอะเเยะมากมายเลยนะ”

“เทนนิสเป็นไหม?”

“แน่นอน ฉันถนัดเลย! ”ไป๋มู่ชิงพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวด ค่อยนึกได้ว่าปากตัวเองพร่อยไปเอง แน่นอนว่าหนานกงเฉินยิ้มทันที “งั้นเราไปตีเทนนิสกัน”

“”อะ……เออ ไม่เอาดีกว่า”ตีเทนนิส? เป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงเยอะ

“ทำไมไม่เอา”

“เพราะ?……”ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมาแล้ว แล้วยกมือที่มีแผลของเธอขึ้น :”เพราะมือฉันยังมีแผลอยู่ เล่นเทนนิสไม่ได้”

หนานกงเฉินพึ่งนึกได้ว่าเธอมีแผลที่มือ ดูแล้วคงเล่นเทนนิสไม่ได้

“งั้นเราไปเล่นโบว์ลิ่งไหม?”

“มันไม่ค่อยสะดวก”ไป๋มู่ชิงพูดอย่างลังเล

หนานกงเฉินทำได้เพียงยกเลิกความคิดนี้ มือของเธอมีแผล และไม่อยากจะบังคับเธอมาก ทำได้เพียงกลับไปห้องตัวเอง

ไป๋มู่ชิงรู้สึกได้ว่าเขาผิดหวัง ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอท้องอยู่ ไม่สามารถทำอะไรที่ใช้แรงเยอะ

ไป๋มู่ชิงแต้มสีจุดสุดท้ายแล้วว่างพู่กันลง

ใช้เวลาครึ่งเดือน เสร็จจนได้ เธอถอยไปข้างหลังก้าวหนึ่ง มองคู่รักที่มีความสุขในภาพ เธอรู้สึกภูมิใจกับฝีมือตัวเอง

เธอเก็บของทั้งหมดเสร็จ แล้วล้างมือให้สะอาด โทรหาหยวนกุย พอหยวนกุยได้ยินว่าเธอวาดรูปเสร็จแล้ว พูดอย่างดีใจว่า”จริงหรอ? ฉันอยากจะไปดูหน่อย”

“ฉันจะส่งให้เธอไปดูวันหลังนะ หวังว่าเธอกับเฟยหยางจะชอบ ”

“ชอบสิ ไม่ว่ารูปวาดจะเป็นยังไงพวกเราก็ชอบทั้งหมดแหละ ”หยวนกุยหัวเราะอย่างชอบใจ “งานเเต่งว่างแผนได้เกือบเสร็จแล้ว รอภาพของเธอเท่านั้นแล้ว”

“จริงหรอ? งั้นรอน้ำหมึกแห้งแล้วฉันจะส่งไปให้เธอเลย”

“ดีเลย ขอบคุณนะ”

“เธอเคยขอบคุณแล้ว “ไป๋มู่ชิงตอบด้วยเสียงหัวเราะ “งั้นแค่นี้นะ ฉันไม่คุยกับเธอละ ”

“ทำไม? พอเเต่งงานแล้วก็เอาแต่อยู่กับสามี ไม่สนใจกันแล้วเหรอ”

“ที่ไหนละ ฉันแค่กลัวเธอยุ่ง”

“ฉันจะยุ่งแค่ไหนก็มีเวลาคุยกับเพื่อนแหละ”หยานกุยหัวเราะคิกคิกคักคัก”ฉันล่อเล่นหน่า เอาละว่างสายละนะ”

พอว่างสายเสร็จ ไป๋มู่ชิงว่างโทรศัพท์ สายตามองลงพื้นอย่างไม่รู้ตัว เธอรีบว่างโทรศัพท์ขนาดนี้ หรือว่า เธอคิดว่าฉันจะไปอยู่กับสามี

เธอหัวเราะออกมาด้วยความอาย เดินออกจากประตูไป มาถึงหน้าประตูห้องของหนานกงเฉิน ยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วพลักเข้าไป

เขาอยู่คนเดียวต้องเหงาแน่ๆ ควรจะไปอยู่ข้างเขาบ้าง ไม่งั้นครั้งต่อไปคงไม่ยอมพักผ่อนอยู่บ้านแน่นอน

พอเธอพลักประตูเข้าไปแล้ว กลับไม่เห็นหนานกงเฉินอยู่ในห้อง เธอเดินไปที่ระเบียง พอมองจากระเบียงลงไปก็เห็นหนานกงเฉินนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างริมสระ

วันนี้อากาศสดชื่น ไม่มีลม เหมาะกับการไปพักผ่อนข้างนอกมากๆ

เธอหันหลังแล้ว เดินไปข้างล่าง

มีเพียงหนานกงเฉินที่อยู่ในสวนดอกไม้คนเดียว รอบข้างสงบเหลือเพียงแค่เสียงนก ตระกูลหนานกงอยู่ในพื้นที่กึ่งชานเมืองห่างจากเมื่องประมาน10กิโลเมตร อากาศและวิวดี สวยมากๆ เหมาะแก่การอยู่อาศัย

ปกติไป๋มู่ชิงก็ชอบไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้บ้าง แต่น้อยมากที่จะเห็นหนานกงเฉินอยู่อยู่ที่สวนดอกไม้

พอเธอใกล้ถึงตัวของหนานกงเฉิน เธอก็เดินช้าและเงียบลง เข้าไปนั่งยองๆข้างหลังเขาอย่างระมัดระวัง เพื่อแอบดูจอโทรศัพท์เขา

หนานกงเฉินเอียงจอไว้ และใส่หูฟังไปด้วย เธอคิดว่าหนานกงเฉินดูหนัง แต่เธอคิดผิด หนานกงเฉินไม่ได้ดูหนัง แต่กำลังเล่นเกมส์อยู่

ตอนนี้เขากำลังสู้กับคู่แข่งปิงโฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองคนไม่มีใครยอมแพ้ใคร

ไป๋มู่ชิงแปลกใจ ใจคิดปกติเขาไม่ได้เล่นเยอะ ทำไมสกิลเร็วขนาดนี้ และยังสามารถสู้กับกัปตันได้

พอสองคนสู้กันไปไปมามา ปิงโฟงถูกหนานกงเฉินฉวยโอกาศข้างหลัง เร็วมาก ฝั่งโทรศัพท์พูดออกมาว่า “รู้ไหมพฤติกรรมอะไรในเกมส์น่าเกลียดที่สุด? ฉวยโอกาศ!”

“ฉันคิดว่านายจะตอบว่า แย่งภรรยา”หนานกงเฉินตอบไปอย่างเร็ว “อ้อ ฉันไม่สนใจหรอกนะพวกเป็นเจ้าชายที่ใครเห็นใครก็รัก ฉันสนใจแต่จะแย่งภรรยา ”

“นายบอกว่านายเป็นสามีของเธอ มีหลักฐานอะไร”

“บอกสัดส่วนถือว่าเป็นไหม?”

“36,24,36”

“นายแน่ใจว่านายเป็นสามีเธอ…..”

ไป๋มู่ชิงพอได้ยินคำนนี้ รีบยืนไปหน้าเขา แล้วเอาโทรศัพท์หนานกงเฉินออกทันที

หนานกงเฉินมองมาที่เธอแล้ว เอาหูฟังออก”แอบฟังพอแล้วหรอ?”

ที่แท้หนานกงเฉินก็รู้ว่าเธออยู่ข้างหลังมาโดยตลอด ไป๋มู่ชิงอายจนหน้าแดง มองไปที่โทรศัพท์เขาแล้วพูดว่า “คุณไม่เล่นไม่ใช่หรอ?ทำไมเลเวลขึ้นเร็วขนาดนี้ละ?”

“ระดับสมองฉันแล้ว ต้องเหมือนเธอเล่นทุกคืนทุกวันเพื่อให้เลเวลขึ้นหรอ?”

เอาสะไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออก เป็นผู้ชายที่ขี่โอ้อวดจริงๆ!

“เธอกับเขาเป็นอะไรกัน?”หนานกงเฉินถามเธอกระทันหัน

“หมายความว่าไง? ฉันกับเขาเป็นคู่รักภรรยาในเกมแบบปลอมๆไง”

“ถ้าเป็นแค่นั้น ทำไมเขาถึงได้ใช้ใจกับเธอขนาดนี้? รู้จักสัดส่วนเธอได้ดีขนาดนี้ ?”เมื่อกี้หนานกงเฉินแค่พูดสัดส่วนไปงั้นๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับแบบนี้

เขาลุกขึ้นไปแล้วถามเธอว่า”พูดมาดีดี นอกจากเพื่อนในเกมส์แล้วยังมีอะไรอีก?”

ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมาแล้วพูดตะกุกตะกัก”กะ ก็แค่ศิษย์เก่าด้วยกัน เเต่เขาบอกว่าเขาคือรุ่นพี่ที่จบก่อนฉัน 3รุ่น เรียนหมอ ไม่ใช่คณะเดียวกัน และฉันก็ไม่เคยเจอเขาด้วย และยิ่งไม่รู้ว่าที่เขาพูดจริงหรือปลอมด้วย”

นี้เป็นความจริง ปิงโฟงเองที่ลากเธอเข้ากลุ่มเกมส์แล้วขอเธอแต่งงานในเกมส์เพื่ออับเลเวล

ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไร ยังไงผู้เล่นทุกคนก็ต้องตามหาคู่รักเพื่ออับสกิลตัวเอง เลยยอมตกลงเขาไป

หนานกงเฉินพยักหน้า ยิ้มจนหน้าแป้น”ที่เเท้ก็รักข้ามโลกนี้เอง”

“พูดบ้าบออะไร ”ไป๋มู่ชิงมองบนให้เขา “กัปตันปิงโฟงมีมารยาทมากเลยนะ”

มีมารยาทจนไม่เคยคุยเรื่องความรักกับเธอเลย แน่นอน ที่ปิงโฟงมีมารยาทกับเธอขนาดนี้ก็เพราะตอนนั้นเธอคบกับหลิงอันหนาน เธอเคยบอกเรื่องนี้กับปิงโฟงด้วย

ไป๋มู่ชิงตรวจดูการเข้าของเขาแล้ว เห็นว่าเขาเข้าทุกวันเลย แล้วหันกลับไปถามอย่างหาเรื่องว่า “ไหนบอกว่าตัวเองไม่ได้เข้าเล่นทุกวันทุกคืนเพื่อนขึ้นเลเวลละ ก็เห็นเห็นอยู่ๆ”

หนานกงเฉินแย่งโทรศัพท์เขาจากมือเธอ ไป๋มู่เฉินยิ้มเยาะเย้ยว่า”หรือว่าคุณชายเฉินเล่นเกมส์ในเวลาทำงาน? แบบนี้ไม่ดีน้าาาา”

“เธอคิดว่าฉันจะว่างขนาดนั้นเลยหรอ? ”หนานกงเฉินมองเขาด้วยหางตา

“ก็เห็นเห็นอยู่ว่าเข้าตอนเวลาทำงาน”

“ผู้ช่วยหวงเข้า”

ไป๋มู่ชิงหัวเราะคิกคักแล้วบอกต่อว่า”เรื่องแบบนี้ยังสั่งลงคอได้? พูดว่าไงละ?”

“ฉันบอกให้เขาทำแต้มให้เสร็จทุกวันแล้วไปสู้กับกัปตัน สู้ครั้งหนึ่งขึ้นเงินเดือนครั้งหนึ่ง”

ไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออก มีเงินก็ทำอะไรได้ มีเงินแล้วโรคจิต!

เธอลุกขึ้นไปนั่งที่ข้างๆเก้าอี้หนานกงเฉินแล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าไปที่เกมส์ กดรับคำขอที่คุณชายเฉินส่งมา

พอไป๋มู่ชิงกดรับเชิญแล้ว ก็เห็นตัวละครหนานกงเฉินถือดอกไม้ไว้ เป็นดอกกุหลาบที่วิบวับวาบวาบ ดูรวยสุดๆ ย่อเข่าข้างหนึ่งลงขอเธอแต่งงาน

เธอชะงักไปแปบหนึ่ง หันไปมองเขาแล้วกดปฏิเสธไปด้วย

หนานกงเฉินกดขอแต่งงานอีกครั้งหนึ่ง และเอาดอกไม้ยื่นไปที่หน้าเธอ พูดอย่างเห็นแก่ตัวว่า “กล้าปฏิเสธอีกละก็ คือนี้เธอโดนแน่”

ไป๋มู่ชิงก็ตอบเขาไปว่า”คุณกำลังแย่งคู่รักเขานะ”

“เธอจะทำความเข้าใจแบบนั้นก็ได้”

“แต่คุณจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นมือที่สามนะ หากว่าฉันแต่งงานกับคุณ ทุกคนก็จะด่าเอานะ”

“ฉันไม่แคร์”

“แต่ฉันแคร์”

“ฉันนับหนึ่งถึงสาม。”

เสียงหนานกงเฉินดังข้างหู:“หนึ่ง、สอง、สาม……。”

“ฉันจะเป็นนักเล่นที่ยึดมั่น”ไป๋มู่ชิงลุกขึ้นทันทีพูดเสร็จ

เธอจะไม่ยอมถูกเขาขมขี่ในชีวิตจริงแล้ว ยังจะถูกขมขี่ในเกมส์อีกด้วย จะไม่ยอมถูกเขาทำแบบนั่นเด็จขาด

แต่กลับเสียดายเธอยังไม่ทันลุกขึ้น หนานกงเฉินก็ใช้มือคว้าเอวเธอเข้ามากอดไว้ทันที

ไป๋มู่ชิงลมไปที่อกเขาเต็มๆ โทรศัพท์ในมือถูกเขาแย่งไป

“หนานกงเฉิน นายมัน…….!!”ไป๋มู่ชิงลุกขึ้นจะไปแย่งโทรศัพท์ หนานกงเฉินยกมือเขาขึ้นบนหัว เขาสูงและมือแขนก็ยาว ไป๋มู่ชิงเอื้อมไม่ถึงสักนิด

รอเธอเอาโทรศัพท์ขึ้น หน้าจอก็มีพุขึ้นมากมาย กำลังเฉลิมฉลอง

“หนานกงเฉิน นายมันขี้บังคับ! ”ไป๋มู่ชิงมองเขาด้วยสายตาที่โกรธมากๆ ครั้งนั้นบังคับให้หย่ากับในเกมส์ไม่พอ ตอนนี้ยังจะให้แต่งงานกับเขาในเกมส์อีก

ชีวิตของเธอต้องถูกเขาบังคับหมดๆเลยหรอ? ขี้เอาแต่ใจจริงๆ!

“เธอผิดแล้ว เธอไม่ใช่ภรรยาที่แสนดี แต่เป็นภรรยาที่เคยถูกทิ้ง ถึงแม้ว่าฉันเป็นคนแย่งเธอมาแต่งงาน แต่คนที่เสียงเปรียบคือฉัน ”หนานกงเฉินพูดทั้งที่กลับไปนอนอยู่บนเก้าอี้พร้อมเลื่อนโทรศัพท์ไปมาอย่างเฉยๆ

“นายเสียเปรียบ?”

“ได้ของมือสอง นี้ยังไม่เสียเปรียบหรอ?”

“นาย……”ไป๋มู่ชิงพูดอย่างโกรธ “ฉันไม่ได้พูดว่าจะแต่งงานกับนายสักหน่อย”

“เอาเหอะหน่า. ไม่ต้องพูดวนซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องนี้แล้ว ไปเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเธอเหอะ ”หนานกงเฉินกวาดใส่ตาไปทางเธอ

คู่อะไรก็ตามที่แต่งงานกันในเกมส์ระบบจะปิดดอกไม้ไฟโดยอัตโนมัติจากนั้นแจกจ่ายชุดเดรสให้กับคู่ใหม่ มันจะมีกลุ่มคนมุงคอยส่งเสียงเชียร์อยู่เสมอ แต่สำหรับหนานกงเฉินแล้วมีแต่คนรังเกียจ

เธอคุณหนูไป๋มู่ชิง และ คุณชายหนานกงเฉิน ได้กลายเป็นคู่รักที่ไม่มีใครชอบแล้วในตอนนี้

เธอมองไปที่หนานกงเฉินแล้วมองด้วยสายตาแค้นสุดๆ หนานกงเฉินที่เห็นไป๋มู่ชิงกำลังโกรธกลับไม่รู้สึกอะไรเลย “ถูกคนล้านกว่าคนรังเกียจ เธอไม่รู้สึกสนุกดีหรอ?”

ไปมู่ชิงเลือดแทบพุ่งออกจากปาก ยังจะมาสนุก?ต่อไปนี้เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มนี้อีกแล้ว

เมื่อนึกถึงชื่อเสียงของเธอถูกชายคนนี้ทำลายไปหมดแล้ว รู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกฉันจะไม่พาเขาเล่นเกมนี้!

สองคนพอเถียงกันเสร็จก็ต้องมาเก็บผลที่ตามมา ไป๋มู่ชิงถึงกับวิ่งไปลองชุด เนื่องจากชุดไม่ต้องเสียเงิน เพราะระบบไม่มีค่าใช้จ่ายรูปแบบจึงไม่ดี แต่มีหลายคนใช้อยู

ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมา “ให้ฉันแต่งงานด้วยก็ได้ แต่ฉันจะต้องแต่งตัวสวยๆและต้องจัดแบบอลังการงานสร้างไปเลย ”

หนานกงเฉินตอบอย่างไม่แคร์ว่า “ได้สิ งั้นฉันก็ไปซื้อแหวนที่ร้านค้า”

“ฉันฟังไม่ผิดใช่ใหม?เธอสองคนจะแต่งงาน ? ”เสียงดังมาจากไม่ไกล และต่อมาผู่เหลียนเหยาก็ปรากฏตัวมาจากข้างหลัง เดินเข้ามาอย่างเร็ว “จริงหรือปลอม?”

“ก็ต้องปลอมสิ”ไป๋มูชิงยิ้มแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้ แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นบอกว่า “แต่งานปลอมๆในเกมส์เท่านั้น”

“เกมส์ ?”ผู่เหลียนเหยามองไปที่โทรศัพท์ของเธอ หันไปถามหนานกงเฉินด้วยสีหน้าที่ตกใจมากๆ “ดูไม่ออกนะเนี้ย พี่ก็มีด้านแบบนี้กับเขาด้วย”

“เธอเป็นคนพาฉัน”หนานกงเฉินชี้ไปทางที่ไป๋มู่ชิงอยู่

ผู่เหยียนเหยาหัวเราะแล้วบอกว่า “อ้อ แท้จริงแล้วพี่สะใภ้นี่เองที่พากันไปเล่น ดูไปมาแล้วเข้ากันได้จัง”

“เขานั่นแหละที่ว่างจนมานั่งหึงหวง วิ่งไปบ้าที่เกมส์”ไป๋มู่ชิงบอกด้วยเสียงเบาเบา

ถึงแม้เธอจะพูดด้วยเสียงเบา แต่หนานกงเฉินที่อยู่ข้างๆก็ได้ยิน เขาเอื้อมมือไปหยิกหูของไป๋มู่ชิงเพื่อให้เธอพูดดีดี

ไป๋มู่ชิงสบัดมือเขาทั้งที่ยิ้ม “ฉันพูดผิดหรอ”

ทั้งสองพูดคุยอย่างหัวเราะ กลับไม่เหมือนกับที่อยู่กับคนอื่นหน้าตึงเคลียดตลอด ผู่เหลียนเหยาเห็นแล้วก็หัวเราะตามเขาสองคนไปด้วย

ไป๋มู่ชิงและหนานกงเฉินเล่นไปสักพักกลับนึกขึ้นได้ถามเหยียนเหยา “เอ้อ เหลียนเหยา เธอมาหาฉันหรือมาหาคุณชายใหญ่?มีเรื่องอะไรไหม?”

“ฉันก็ต้องมาหาเธอสิ”ผู่เหลียนเหยาเข้าไปกอดแขนเธอไว้แล้วบอกว่า “วันนี้ฉันพักผ่อนเซิ่นเกอไม่มีเวลาให้กับฉัน ฉันเลยจะมาชวนเธอไปเที่ยวเล่นนะ”

พอเธอมองไปที่หนานกงเฉินแล้วบอกต่ออีกว่า “แต่ฉันเห็นพวกเธอสองคนคุยกันสนุกสนานขนาดนี้แล้ว เธอคงไม่ไปกับฉันแล้วสิ”

“อืมม……..”ไป๋มู่ชิงมองไปทางหนานกงเฉิน รู้สึกเลือกไม่ได้เหมือนกัน

หนานกงเฉินกว่าจะมีเวลาอยู่บ้านวันหนึง หากว่าเธอออกไปเที่ยวเล่นละก็ หนานกงเฉินอยู่บ้านก็ยิ่งเหงาไปใหญ่สิ และอีกอย่างเธอก็ชอบเวลาที่ได้อยู่กับหนานกงเฉิน ยิ่งอยู่ยิ่งชอบแล้วด้วย

“นั้นไง ฉันก็รู้ว่าเธอไม่อยากไปจากพี่ฉัน “ผู่เหลียนเหยายืนขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ช่างเหอะ งั้นเธอสองคนก็จู๋จี๋กันไปเหอะ ฉันไปคนเดียวก็ได้”

“ฉันไปกับเธอ ”ไป๋มู่ชิงยืนขึ้นพร้อมพูดกับเธอ เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนแบบนี้เธอก็ทำไม่ลง รู้สึกไม่ค่อยดี

“ไม่ต้องหรอก กว่าพี่จะได้อยู่บ้านพักผ่อนสักวัน เธอไปแล้ว พี่อาจโกรธได้”

ไป๋มู่ชิงมองหนานกงเฉินที่กำลังก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ ใจคิด นายนี้ก็แสดงความคิดเห็นหน่อยสิ ต้องการให้เธออยู่หรือเปล่าเนี่ยย หากว่าต้องให้เธอยู่ละก็ จะยอมเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนครั้งหนึ่ง

“ฉันไปละน้า บาย”ผู่เหลียนเหยาหันหลังแล้วออกจากสระว่ายน้ำไป

พอผู่เหลียนเหยาไปปุ๊บ ไป๋มู่ชิงนั่งลงข้างๆหนานกงเฉินแล้วบอกว่า “นายไม่พูดอะไรแปลว่าอยากให้ฉันอยู่ด้วยใช่ไหม ”

“มานี้สิ จะบอกให้ ”หนานกงเฉินก็ไม่ยอมแพ้

ไป๋มู่ชิงขยับไปใกล้เขา

หนานกงเฉินกลับวางโทรศัพท์ เอามือเอื้อมไปที่ท้ายทอยเธอแล้วคว้าเธอเขามาจูบ

ไป๋มู่ชิงตกใจ ใจคิดอยากจะดันเขาทิ้ง แต่กลับถูกเขาเอามือจับที่ท้ายทอยอย่างเเน่น

แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ในสวน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่สาธารณะและผู่เหลียนเหยาก็ไม่ได้ไปไกลเกินไป และที่สำคัญเธอยังไม่เคยทำอะไรในที่ที่สาธารณะกับเขามาก่อน!

หนานกงเฉินเห็นสีหน้าที่เธออึ่งแล้ว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาเลื่อนปลายลิ้นของเขาไปที่ปากแล้วจูบอย่างลึกซึ้ง

เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม?อยู่ดีดีจูบเธอทำไมเนี่ย?ไป๋มู่ชิงสงสัย แต่ทักษะการจูบของหนานกงเฉินนั้นยอดเยี่ยมมาโดยตลอด และในไม่ช้าความคิดของเธอก็ถูกจูบจนยุ่งเหยิง และเธอก็ถูกเขาพาเข้าไปสู่จบที่นุ่นนวลอย่าเร็ว

หลังจากจูบกันเป็นเวลานานในที่สุดหนานกงเฉิน ก็ปล่อยเธอไปและพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ : “ฉันแต่งงานกับเธอ เกมนี้ก็ไม่มีความท้าทายใด ๆ สำหรับฉันแล้ว เข้าใจไหม”

ไป๋มู่ชิงพยักหน้าอย่างเบลอๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ตื่นจากจูบที่เธอเพิ่งได้รับ

“ไป ไปเที่ยวสะบ้าง”เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้

เห็นเธอช้า ถามอย่างขมวดคิ้วว่า “เป็นอะไร ไม่อยากไป?” ในความทรงจำของเขาเธอสนใจในการช็อปปิ้งมาก

“ไม่ใช่…..”

“แล้วทำสีหน้าอะไรของเธอ”

“ฉันกำลังคิดว่า …….” ไป๋มู่ชิงยิ้มแห้งแล้วตอบไปอีกว่า “ถ้าฉันได้พบกับคุณจูอีกครั้งล่ะ?”

เธอเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ

เธอออกไปข้างนอกเพียงไม่กี่ครั้งกับหนานกงเฉิน และได้พบกับเธอสองครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เธอก็ยังไม่คิดออก

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว สีหน้าของหนานกงเฉินหมองลงไปทันที

ไป๋มู่ชิงรีบพูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันแค่ไม่อยาก พอถึงครึ่งทางฉันก็ต้องตัวคนเดียวอีกแล้ว”

“เธอกำลังไม่เชื่อในสัญญาของฉัน” หนานกงเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

”ป่าว ฉันแค่รู้สึกว่านายใส่ใจเธอมากเกินไป……เกินจนนิสัยไม่เปลี่ยน“

“จริงเหรอ งั้นลองเปลี่ยนดู” หนานกงเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้: “ก็ต้องอย่างนี้แล้วละ”

อย่าบอกว่าเธอไม่อยากจะเชื่อ ในความเป็นจริงแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ไว้ใจเขา แต่เมื่อเขาตัดสินใจแล้วเขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ไป๋มู่ชิงยิ้มด้วยความพึงพอใจ: “แล้วเราจะไปไหนกัน?”

“ไปที่สวนสนุกไห่ซ้าง ถือว่าเป็นการขอโทษเธอแล้วกัน” หนานกงเฉินกล่าว

ตอนนั้นที่ไปกับเธอก่อนหน้านี้ พอกำลังจะเข้าไปที่สวนสนุกไห่ซ้าง เขาก็วิ่งออกไปเลย ทิ้งเธอไว้คนเดียวและทำให้เธอต้องประสบอุบัติเหตุ เขารู้สึกไม่สบายใจ

“ได้สิ ขอบคุณนะ”ไป๋มู่ชิงก้มหัวลงแล้วเหลือบมองตัวเอง: “งั้นฉันจะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

หนานกงเฉินพยักหน้า เธอเลยขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

เมื่อคิดว่าหนานกงเฉินจะพาเธอออกไป ไป๋มู่ชิงเดินอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอมีความสุข เธอกลับไปที่ห้องและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอก เมื่อเธอเดินลงไปชั้นล่างรถของ หนานกงเฉินก็จอดรออยู่ที่ประตูแล้ว

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท