ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 99 นำเธอขุดออกมา

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลใบหน้าสงสัยมากขึ้น “มาหาฉันมาเรื่องอะไรเหรอ?”

แต่เธอก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่จะมาพูดคุย ก็ดึง“โม่เจียเฉิน”เดินออกไปด้านนอก

โม่ถิงเซียวสีหน้าเรียบเฉยเมื่อถูกมู่นวลนวลดึงออกไป เพราะว่ารูปร่างที่สูง เขาเดินแค่ก้าวหนึ่งเธอต้องเดินสองก้าว ทั่วทั้งร่างกายเขาก็รั่วไหลกลิ่นอายของความสุขุมเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน

“นายมาหาฉันมีธุระอะไรไหม?” เมื่อออกมาจากมู่กรุ๊ป มู่นวลนวลก็ถามคำถามเมื่อก่อนหน้านี้อีก

เธอมองว่าถ้า“โม่เจียเฉิน”ไม่มีธุระก็คงจะไม่มาหาเธอแน่นอน

“โม่เจียเฉิน”ไม่ได้ตอบคำถามที่เธอถามทันที และยังระงับอารมณ์และคำพูดและมองสังเกตเธออย่างละเอียด

ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลร้องไห้มาแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้ดูไม่เห็นร่องรอยอะไรแล้ว แต่โม่ถิงเซียวก็ยังก็ใส่ใจรายละเอียดถึงดวงตาของเธอที่บวมเล็กน้อย ยังรั่วไหลสีแดงที่ไม่ค่อยปกติ

ร้องไห้?

เขาหรี่ตามอง แท้จริงแล้วไม่มีวิธีที่จะทำให้ “มู่นวลนวล”กับ“ร้องไห้”คำนี้มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังอยู่ในมู่กรุ๊ป เธอคงไม่ได้ร้องไห้กับมู่ลี่หยานหรอก?

เป็นแบบนี้อยู่หลายวินาที โม่ถิงเซียวจึงจะพูดออกมา “ผ่านมาทางนี้ เธอเลี้ยงอาหารฉัน”

น้ำเสียงที่ได้ยินก็คือกวนตีน

แต่ว่าถึงอย่างไร“โม่เจียเฉิน”ก็เป็นผู้มีบุญคุณของเธอ เขาเอ่ยขอให้ทำอะไรที่ไม่เกินไป มู่นวลนวลก็สามารถทำให้เขาพอใจ

มู่นวลนวลพาเขาไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ห่างจากบริษัทไกลนิดหน่อย ที่นี่ไม่ง่ายที่จะพบกับเพื่อนร่วมงานในบริษัท ก็สามารถทำให้ยุ่งยากน้อยลง

เมื่อมาถึงร้านอาหาร หลังจากทั้งสองคนนั่งลง ถึงแม้ว่า“โม่เจียเฉินไม่ได้พูดอะไร แต่มู่นวลนวลก็รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ชอบที่นี่

ความจริงมู่นวลนวลสามารถเข้าใจเขาได้

เขาเป็นคุณชายของตระกูลโม่ ปกติแล้วทานอาหารก็ไปที่ร้านอาหารจินติ่ง ทำให้ร้านอาหารจินติ่งเป็นห้องครัวของที่บ้าน

เป็นเขาเองที่อยากจะให้เธอเลี้ยงอาหารเขา ร้านอาหารแบบนี้ทานมื้อหนึ่งก็หลายร้อนหยวน ถ้าจะให้ฉันพูด…ก็ยังแพงอยู่ดี

มู่นวลนวลคิดมาถึงตรงนี้ ควบคุมตัวเองไม่อยู่ลูบกระเป๋าเงินของตัวเอง แสดงออกความรู้สึกออกมาอย่างเจ็บปวดใจเล็กน้อย

โม่ถิงเซียวใส่ใจสีหน้าท่าทางของมู่นวลนวล มุมปากควบคุมไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แน่นอนว่าเขารู้ว่าเธอยากจน

แต่กดขี่เธอให้เลี้ยงอาหารเขาอีก เอาเปรียบเธอ สำหรับเขาความจริงเป็นหนึ่งเรื่องที่สนุก

พนักงานผู้ชายเข้ามารับเมนู มู่นวลนวลนำเมนูอาหารผลักไปที่ตรงหน้าของ“โม่เจียเฉิน” “นายสั่งก่อนสิ”

“โม่เจียเฉิน”ก็ไม่เกรงใจ พลิกเปิดดูเมนูอาหาร ก็สั่งอาหารไปสามอย่าง

มู่นวลนวลรู้ เมนูอาหารด้านหน้าเป็นอาหารแนะนำของร้านอาหาร ทั้งหมดก็แพงเป็นพิเศษ

โม่ถิงเซียวก็พลิกกลับไปด้านหลัง ยังสั่งซุปหนึ่งอย่าง หลังจากนั้นก็เงยหน้ามองไปที่มู่นวลนวล พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันสั่งไปเยอะหรือเปล่า?”

มู่นวลนวลส่ายหน้า “ไม่เยอะ…”

เธอยังจำได้ครั้งก่อนอยู่ที่ร้านอาหารจินติ่งในเวลาที่พวกเราทานอาหาร ก็สี่ถึงห้าคนทานอาหาร อาหารเต็มโต๊ใหญ่

โม่ถิงเซียวพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน “งั้นฉันจะสั่งอีกสองอย่าง”

มู่นวลนวล “……”

โม่ถิงเซียวดูไปดูมา ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้น “ไม่มีอะไรน่าอร่อยแล้ว”

หลังจากนั้นเขาก็นำเมนูอาหารยื่นไปให้มู่นวลนวล

แนวคิดการใช้ชีวิตของมู่นวลนวลความจริงคือเรียบง่าย ทั้งสองคนกินอาหารสามอย่างและซุปหนึ่งอย่างก็พอแล้ว

แต่นึกถึงคุณชาย“โม่เจียเฉิน”ที่นั่งอยู่ตรงหน้า ก็เพิ่มอาหารอีกสองอย่างกับของกินเล่นหนึ่งอย่าง ไม่อย่างนั้นเธอก็รู้สึกว่าทำให้เขาลำบากใจ

หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว มู่นวลนวลก็ยืดตัวลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

โม่ถิงเซียวมองแผ่นหลังของเธอจนลับหายไป จึงเรียกพนักงานงานชายเข้ามา ยื่นบัตรเครดิตออกไป “เช็คบิล”

……

มู่นวลนวลออกมาจากห้องน้ำ ก็มองเห็นมู่หวันฉี

เพียงแต่มู่หวันฉีไม่ได้เห็นมู่นวลนวล เพราะว่าเธอกำลังเดินหันหลังตรงกันข้ามกับมู่นวลนวลมุ่งหน้าไปทางประตู

มู่นวลนวลค่อยๆก้าวเท้าเดินช้าๆอย่างสุดความสามารถ หยุดอยู่ด้าหลังมู่หวันฉี ก็คือไม่อยากให้มู่หวันฉีเห็นว่าเธอกับ“โม่เจียเฉิน”มาทานอาหารด้วยกัน หลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเกิดความวุ่นวาย

แต่ทว่ามู่หลันฉีเดินตรงไปทิศทาง คาดไม่ถึงว่าจะไปทางเดียวกับมู่นวลนวล มู่นวลนวลก็ทำได้แค่เดินช้าลง…

จนกระทั่ง มู่หวันฉีเข้าไปในห้องวีไอพี

ในเวลาที่มู่นวลนวลเดินห้องวีไอพีนั้น เท้าค่อยๆหยุดเดิน

ห้องวีไอพีของร้านอาหารปิดกั้นเสียงไม่ค่อยจะดี

เสียงทะเลาะกันด้านในดังออกมา

เสียงแหลมคมของมู่หวันฉี ดังกังวานออกมาจากห้องห้องวีไอพีลดลงไม่น้อย “ไม่สามารถเอาบัตรแพลทินัมคืนให้เธอ!”

“ไม่…มู่กรุ๊ป…เธอคิดอะไร…”

คำพูดด้านหลังเป็นของมู่ลี่หยาน เสียงของเขาเบากว่าเสียงมู่หวันฉีเล็กน้อย ดังนั้นจึงฟังไม่ได้ยินทั้งหมด

สองพ่อลูกนี้ คือกำลังทะเลาะกันเรื่องที่ไม่ยอมคืนบัตรแพลทินัม?

จากเรื่องราวของโรงงานถูกตีแผ่จนถึงตอนนี้ ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่มู่นวลนวลได้ยินมู่ลี่หยานกับมู่หวันฉีกำลังทะเลาะกัน

มู่ลี่หยานรักและทะนุถนอมมู่หวันฉีจริงๆ แต่มู่หวันฉีก็ตามใจจนเสียคนแล้วจริงๆ ตอนนี้มู่กรุ๊ปตกอยู่ในวิกฤต เธอไม่คิดจะหาวิธีช่วยมู่ลี่หยานแก้ไขวิกฤตบริษัท แต่เพื่อเรื่องส่วนตัวจึงทะเลาะกับมู่ลี่หยาน

มู่หวันฉีปฎิบัติต่อมู่ลี่หยานเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้จะปฎิบัติต่อเสี่ยวชูเหอ เธอก็ยิ่งไร้ความรู้สึกมากขึ้น?

มู่นวลนวลความรู้สึกภายในใจซับซ้อน เธอไม่อยากจะสนใจเสี่ยวชูเหออีกแล้ว

ไม่ว่าหลังจากนี้มู่หวันฉีจะปฎิบัติกับเสี่ยวชูเหออย่างไร นี้คือเสี่ยวชูเหอเป็นคนเลือกเอง

แม้แต่เรื่องที่เธอนำบัตรแพลทินัมแลกเปลี่ยนกับเสี่ยวชูเหอ คาดไม่ถึงว่าเสี่ยวชูเหอจะไม่ตื้นตันใจเลยแม้แต่น้อย กลับจะคิดเอาใจเธอ หลังจากนั้นก็สะดวกที่จะใช้ประโยชน์กกับเธอ…

มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าเต็มปอด ผ่อนคลายสภาพจิตใจ กลับไปถึงโตะอาหารที่“โม่เจียเฉิน”นั่งอยู่

ตอนนี้อาหารมาหลายอย่างแล้ว “โม่เจียเฉิน”ก็ยังไม่ขยับตะเกียบ กำลังดูโทรศัพท์ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร

รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามา เขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาหยุดอยู่ที่บนใบหน้าของมู่นวลนวลชั่วครู่หนึ่ง หลังจากนั้นวางโทรศัพท์ลง เปิกปากพูด “ฉันกำลังจะโทรศัพท์หาซือเย่”

มู่นวลนวลสีหน้ายากที่จะเข้าใจ “ทำอะไร?”

“โม่เจียเฉิน”น้ำเสียงจริงจัง “ให้เขาพาคนไปที่ห้องน้ำนำเธอขุดออกมา”

มู่นวลนวล “……”

โอเค เธอไปเข้าห้องน้ำใช้เวลาไปยี่สิบกว่านาที

มู่นวลนวลไม่ตอบรับ “โม่เจียเฉิน”อาจจะรู้สึกไม่สนุก ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่ก็ไม่ได้กินเยอะ

ในเวลาที่เช็คบิล พนักงานผู้ชายก็ส่งบัตรเครดิตไปให้มู่นวลนวล “สวัสดีครับท่าน สามีของท่านได้เช็คบิลเรียบร้อยแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหกร้อยแปดสิบหยวน”

“สามีฉัน?”

มู่นวลนวลยังไม่ได้โต้ตอบ คนแรกที่เธอคิดขึ้นได้คือโม่ถิงเซียว

เธอหันหน้ากลับมาถาม“โม่เจียเฉิน” “พี่ชายของคุณมากินข้าวที่นี่?”

เดิมที“โม่เจียเฉิน”ไม่ได้มีสีหน้าแสดงความรู้สึกอะไรออกมา ต่อมาจึงมืดครึ้มลง กวาดสายตามองเธออย่างเยือกเย็น หมุนตัวก้าวเดินยาวๆออกไปแล้ว

ก้าวเดินเร็วเป็นพิเศษ

โม่ถิงเซียวรู้สึกว่า ถ้าเขาไม่เดินเร็วหน่อย อาจจะอดไม่ได้ที่จะตีมู่นวลนวลแล้ว

พนักงานชายก็รู้สึกได้ว่าตัวเองทำให้แขกทั้งสองคนเข้าใจผิด รีบเข้าไปอธิบาย “ขอโทษนะครับ ผมนึกว่าเมื่อกี้คุณผู้ชายท่านนั้นกับคุณเป็นสามีภรรยากัน เมื่อกี้คุณผู้ชายท่านนั้นเพิ่งจะเช็คบิลไปครับ”

มู่นวลนวลชะงักไปเล็กน้อย เพิ่งจะหยิบบัตรเครดิตแล้ววิ่งตามออกไป

“โม่เจียเฉิน”ยังเดินไปได้ไม่ไกล ในเวลาที่มู่นวลนวลตามไปถึงเขา เขากำลังรับสายโทรศัพท์อยู่

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท