ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 122 พ่อเชื่อในความสามารถของลูก

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ประชุมเสร็จมู่ลี่หยานพูดกับมู่นวลนวล : “นวลนวลไปที่ห้องทำงานพ่อ”

“ค่ะ”

มู่นวลนวลรู้ดีว่าพ่อเรียกเขาไปทำไม

ในที่ประชุมตอนที่เสนอแนวคิดที่จะให้ซือเฉิงยวี่มาเป็นนายแบบรับรองสินค้าให้ มันชัดเจนมากว่ามู่ลี่หยานชอบข้อเสนอนี้

มู่นวลนวลเดินออกจากห้องประชุม มู่หวันฉีก็ยืนขวางเธอไม่ให้ไป

“พี่มีเรื่อวอะไรหรอคะ?” มู่หวันฉีฉีดน้ำหอมกลิ่นฉุนมาก ทำให้นวลนวลต้องเดินถ่อยออกห่างเพราะทนกลิ่นน้ำหอมไม่ได้

มู่นวลนวลไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเธอแต่อย่างใด แต่เธอกลับรู้สึกว่ามู่นวลนวลแสดงอาการเช่นนี้เหมือนรังเกียจเธอ

มู่หวันฉีสีหน้าเปลี่ยนไป เธอไม่พอใจพูดเสียงแข็ง : “มู่นวลนวล!เธออย่าคิดนะว่าโม่ถิงเซียวช่วยมู่กรุ๊ปให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ทำให้คุณพ่อชอบใจแล้วเธอจะได้หน้า อย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีตอนนี้ใครเป็นคนให้เธอ!”

ช่วงนี้เธอเหมือนไม่มีตัวตนเลยในบริษัท

พนักงานทุกคนหันไปชื่นชมมู่นวลนวล อีกทั้งมู่ลี่หยานยังทำให้เธอกลายเป็นคนไม่มีอำนาจอะไรเลยในบริษัท

มันทำให้เธอรู้สึกระแวงและไม่ปลอดภัย

“พี่ให้ฉันหรอ?”

มู่นวลนวลยิ้มแหยะๆ : “คำหมั้นสัญญาที่จะให้แต่งานกับคนตระกูลโม่คุณปู่เป็นคนให้ไว้ ชวิตของฉันคือคุณพ่อและคุณแม่ให้ฉันมา ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพวกเขา และแน่นอนว่าฉันไม่มีทางลืมว่าใครให้มันกับฉัน”

“มู่นวลนวล!” มู่หวันฉีเรียกด้วยความโมโห

ตั้งแต่เล็กจนโต มู่นวลนวลเป็นเพี่ยงแค่ของเล่นของเธอเท่านั้น

ในตอนแรก เธอบอกเสี่ยวชูเหอให้เอามู่นวลนวลไปเป็นสะใภ้ตระกูลโม่ เพราะหวังให้โม่ถิงเซียวที่คนอื่นมองว่าเขาไม่ปกติรังแกเธอ

มู่หวันฉีไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งมู่นวลนวลจะได้ดีกว่าเธอ

ทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม

ผู้หญิงที่ธรรมดาและน่าเกรียดไม่มีอะไรดีเลย มาวันนี้ทำไมถึงได้ดีกว่าเธอ

เธอโมโหมากจนหลุดปากพูด ฉันเกรียดเธอมู่นวลนวล!

“ทำไมพี่ต้องโมโหขนาดนั้นละคะ! กลับไปให้แม่เคี่ยวซุปที่ช่วยบำรุงและลดไฟในตัวให้นะคะ ”หลังจากที่มู่นวลนวลพูดจบเธอก็ผลักเธอออกไปเบา ๆ : “พ่อยังรอฉันอยู่ที่ห้องทำงาน ลาก่อนนะคะ”

มู่หวั่นฉีมองไปที่มู่นวลนวลอย่างคับแค้นใจ เธอกำมือแน่น โกรธถึงขั้นไม่รู้ตัวว่ากัดปากตัวเองจนเลือดออก

…………

ห้องทำงานมู่ลี่หยาน

“มีอะไรหรอคะคุณพ่อ?” ถึงเธอจะรู้อยู่แล้วว่าพ่อเธอเรียกมาทำไมแต่เธอก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

มู่ลี่หยานพูดเสียงเบา : “นวลนวล เป็นเพราะความช่วยเหลือจากลูกทำให้บริษัทผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ พ่อต้องขอบใจลูกมากจริงๆ ”

“คุณพ่อพูดกับหนูเองไม่ใช่หรอคะว่าหนูก็นามสกุลมู่ มันเป็นสิ่งที่หนูควรทำพ่อไม่ต้องของคุณหนูหรอกค่ะ” เธอลดเปลือกตาลงเพื่อปกปิดแววตาของตัวเอง

มู่ลี่หยานไม่ใช่คนโง่ เขารู้ตัวดีว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้ดีกับมู่นวลนวล ตอนนี้เลยกลัวว่ามู่นวลนวลจะจำฝังใจแล้วทำอะไรให้เขาเสียหาย

แต่นิสัยของคนเราถูกปลูกฝังสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูแลมู่นวลนวลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม จากที่มู่นวลนวลดีกับเสี่ยวชูเหอทำให้เขารู้ว่ามู่นวลนวลเป็นคนขี้ใจอ่อน

แต่เขาลืมไปว่าคนเราไม่ว่าจะเป็นคนใจออนแค่ไหนถ้าเกิดโดนทำรายโดนรังแกบ่อยครั้งมันก็อาจจะเปลี่ยนไปกลับกลายเป็นคนใจแข็งดั่งหิน

มู่ลี่หยานได้ยินมู่นวลนวลพูดเช่นนั่นก็รู้สึกพอใจมาก : “พอลูกแต่งงานแล้วลูกก็เข้าใจอะไรง่ายยิ่งขึ้น ข้อเสนอในที่ประชุมลูกมีความเห็นว่าอย่างไร?”

“เป็นข้อเสนอที่ดีค่ะ แต่หนูกลัวว่าจะยาก งานที่ซือเฉิงยวี่รับเป็นงานใหญ่ ตารางงานก็คงแน้นมาก อย่าพูดถึงงานที่พวกเราเสนอให้เลยค่ะ แค่งานนายแบบรับรองของสินค้าระดับนานาชาติและงานโฆษณาเขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาว่างทำอะไรแล้วค่ะ”

อีกอย่างไม่มีดารานักแสดงคนไหนที่จะเป็นนายแบบรับรองสินค้าขององกรค์ที่อาจจะมีผลเสียต่อตัวพวกเขา เพราะมันจะทำให้แฟนคลับไม่พอใจ

ยิ่งเป็นซือเฉิงยวี่แล้วยิ่งเป็นไปได้ยาก

มู่ลี่หยานเข้าใจในสิ่งนี้ดี

เพียงแต่ว่า ถึงแม้ว่ามู่กรุ๊ปจะทำให้ซือเฉิงยวี่ลดตัวลงมาเป็นายแบบรับรองสินค้าให้ไม่ได้ แต่ตระกูลโม่ทำได้

ถ้าหากว่ามู่นวลนวลไปขอร้องคนตระกูลโม่ให้ช่วย ให้คนตระกูลโม่ไปกดดันซือเฉิงหยี่ ซือเฉิงหยี่คงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

ความคิดของเขาประทุขึ้นมา ใบหน้าแสดงออกถึงความมั่นใจ

มู่ลี่หยานเดินเข้าไปตบไหล่มู่นวลนวล : “งานนี้มันยากที่คนอื่นจะทำสำเร็จ เพราะฉนั้นพ่อจะมอบหน้าที่นี้ให้เป็นหน้าที่ของลูก พ่อเชื่อว่าลูกทำได้!”

“คือ……….” มู่นวลนวลกังกล : “หนูไม่แน่ใจว่าจะทำได้ เพราว่า……….”

“ตอนนี้อย่าพูดว่าทำไม่ได้ แม้ว่าจะทำไม่ได้แต่ลูกก็มีโม่ถิงเซียวไม่ใช่หรอ……….” แล้วเขาก็ไม่พูดต่อ

มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อ “หนูจะพยายามค่ะ”

พยายามก็แปลกละ!

มู่ลี่หยานพบว่าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมู่นวลนวลได้ จึงกดดันเธอให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ

เขาไม่คิดถึงเลยว่ามู่นวงลนวลเคยขอให้โม่ถิงเซียวช่วยเหลือมู่กรุ๊ปให้ผ่านวิกฤตไปแล้ว ครั้งนี้จะไปขอให้เขาช่วยอีกมันจะสร้างความไม่พอใจให้กับมู่ถิงเซียว และอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของมู่นวลนวลและโม่ถิงเซียวได้

เขาคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง

มู่นวลนวลเดินออกจากห้องก็เจอกับมู่หวันฉี

มู่หวันฉีทำเสียงฮึ!ไม่พอใจ เบียดมู่นวลนวลออกแล้วก็เดินเข้าไป

ก่อนจะเดินจากไป มู่นวลนวลได้ยินมู่หวันฉีพูด : “เรื่องแค่นี้หนูก็ทำได้ ก็แค่ให้ซือเฉิงยวี่มาเป็นนายแบบรับรองสินค้าให้ ก็ไปหาเขาแล้วก็จับเขามา………”

พอมู่นาลนาลได้ยินเช่นนั้นเธอรู้เลยว่ามู่หวันฉีโง่แค่ไหน

แม้ว่าซือเฉิงหยี่ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียว แต่จากชื่อเสียงใยวงการของเขาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าใครที่จะสามารถจับตัวเขาได้

แค่ฐานะของเขาก็สามารถเที่ยบได้กับมู่กรุ๊ปทั้งองกรค์แล้ว

เซินเหลียงช่วงนี้ไม่ได้รับข้อมูลใหม่ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน

พอมู่นวลนวลเลิกงานเดินออกจากมู่กรุ๊ปก็เห็นรถของเซินเหลียง

สีแดงแสบตาเหมือนกับนิสัยของเซินเหลียงที่กระตือรือร้นมีไฟตลอดเวลา

มู่นวลนวลมองไปรอบๆดูให้แน่ใจว่าไม่มีปาปารัสซี่ แล้วก็เดินไปที่รถ

เธอเปิดประตูแล้วเข้านั่งในรถ : “ทำไมไม่โทรหาฉัน? มารอที่หน้าบริษัทโดนปาปารัสซี่ถ่ายรูปขึ้นมาจะทำยังไง?”

เป็นเพราะตระกูลมู่ตอนนี้มู่นวลนวลนับว่าก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ภาพลักษณ์ของเธอไม่ค่อยดีนัก ถ้าเกิดว่าเธอโดนถ่ายรูปตอนที่อยู่กับมู่หวันฉีสื่อคงได้เล่นข่าวเธอแน่

เฉินเหลียงก็เป็นคนในวงการที่กำลังจะดังมู่นวลนวลกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อเฉินเหลียงด้วย

เฉินเหลียงลดแว่นกันแดดลง ก็พบว่าตาเธอแดงมากจนทำให้มู่นวลนวลตกใจ

“เธอเป็นอะไร? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“บริษัทฉันขายฉันให้กับ Shengding Media!” เฉินเหลียงกัดฟันพูด : “พอเขาให้เงินนิดหน่อยก็ก้มหัวให้ บริษัทห่วยแตก!”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท