ฉินซุ่ยซานมาทำงานที่นี้ได้ไม่นานมาก และก็เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นร้อยยิ้มของโม่ถิงเซียว
โดยปกติแล้วสีหน้าของโม่ถิงเซียวจะเย็นชา ไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้ผู้คนทั้งกลัวและอดใจไม่ได้ที่จะเข้าใกล้ พอเห็นเขายิ้มออกมาจากข้างในทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากขึ้น อาร่าส่องสว่างใครได้เห็นเป็นต้องเข่าอ่อน
เธอปราบปรื้มใจและคิดในใจ ผู้ชายแบบนี้เท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับเธอฉินซุ่ยซาน
………..
โม่ถิงเซียวและมู่นวลนวลทานข้าวเย็นเสร็จก็กลับห้องนอน
ป้าหูก็ส่งผลไม้ตามขึ้นไป
มู่นวลนวลทานผลไม้เสร็จ อาบน้ำเสร็จก็ยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก เธอมองสำรวจตัวเองก็รู้สึกว่าตัวเองราวกับคนอ้วน
แค่แป๊ปเดี๋ยวเองนะ?อ้วนแล้วหรอ?
เธอควรจะทานให้น้อยลงไหม?
แต่ว่าถ้าเกิดทานน้อยเธอจะหิวบ่อย?
มู่นวลนวลสีหน้าจริงจั งแปรงฟันเสร็จแล้วเดินออกไปเธอก็เห็นโม่ถิงเซียวนั้งดูเอกสารอยู่บนโซฟา
เธอได้เห็นถึงความสง่าและความมีเสน่ห์ของเขาแล้วทำให้เธอรูสึกหงุดหงิด
แม้ว่าเรื่องวันนี้จะไม่เกี่ยวกับโม่ถิงเซียว แต่เธอกลับทนไม่ได้ที่เห็นเข้าแบบนี้
มู่นวลนวลเดินเข้าไปแล้วเอาเอกสารในมือของโม่ถิงเซียวโยนไว้ข้างๆ เอามือกอดอกแล้วมองไปที่เขา
โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองเธอ พอเห็นสีหน้าเธอเช่นนั้นทำให้เขาอดที่จะยิ้มไม่ได้ แล้วถามเธอ: “เป็นอะไร?”
ตาเขาเบิกกว้างและจริงจัง มู่นวลนวลกลับไม่รู้จะพูดอะไรดี
เธอหายหงุดหงิด ยื่นมืออกไปหยิกแก้มโม่ถิงเซียว
เธออดยิ้มไม่ได้: “ผู้ชายอะไรผิวดีขนาดนี้! สาวจริงๆ!”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้ว : “สาว!”
มู่นวลนวลเรียนแบบเขาขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่โม่ถิงเซียว
โม่งถิงเซียวยื่นมือไปดึงเธอเข้ามากอด
มือของเขาโอบไปที่เอวของมู่นวลนวลอย่างแน่น เสียงต่ำทำเสียงขู่เธอ : “สาวหรอ?”
มู่นวลนวลตอบ : “ไม่ใช่ คุณไม่เป็นสาว!”
โม่ถิงเซียวพอใจแล้วหอมหัวเธอ
แล้วก็ลืนไหลไปตามขั้นตอน ทั้งสองอยู่บนเตียงด้วยกัน
แต่…………….กลับทำอะไรไม่ได้
เพราะว่ามู่นวลนวลตั้งท้องอยู่
โม่ถิงเซียวที่คร่อมมู่นวลนวลอยู่ดวงตาของเขามืดสนิด น้ำเสียงสั่นรัวแล้วพูด: “ตอนนี้ทำอย่างไรดี?”
มู่นวลนวลยิ้มเล็กน้อยด้วยท่าทางไร้เดียงสา: “ฉันไม่รู้ นั่นเป็นธุระของคุณ ฉันไม่เข้าใจว่าผู้ชายเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร”
แต่รอยยิ้มในดวงตาของเธอได้ทรยศต่อเธอ
มู่ถิงเซียวพลิกตัวและนอนลงข้างๆ และจับเธอเข้ามากอดในอ้อมแขน เขาจ้องตาเธอเล็กน้อยพร้อมกับน้ำเสียงกระเส่า: “อย่าขยับ ให้ฉันกอดหน่อย”
“ปล่อยฉัน” ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้โม่ถิงเซียวกอดแต่ว่า…………
เสียงของโม่ถิงเซียวยิ่งทุ้มและน่ากลัวขึ้น: “อย่าขยับ”
มู่นวลนวลรู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆแต่ไม่กล้าส่งเสียง ให้เขากอดอย่างเงียบๆ
และรู้สึกถึงอารมณ์ของเขาที่แปลกไปเธอจึงเอ่ยปากถามเขา : “เป็นอะไร?”
“ถ้าเกิดไม่อยากเห็นหน้าฉินซุ่ยซานก็ไล่หล่อนไป” พอพูดจบเขาก็พูดแทรกขึ้นมาอีก: “ต่อจากนี้จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
โม่ถิงเซียวคิดไม่ถึงว่าเจ้าสัวโม่จะความคิดเช่นนี้
ตระกูลมู่มีหุ้นส่วนทางธุรกิจมากมาย และพ่อของฉินซุ่ยซานเป็นถึงผู้นำนวยการสถานีโทรทัศน์มีฐานะมีชื่อเสียง เจ้าสัวโม่เป็นคนที่ทำอะไรระมัดระวังและรอบคอบ เขาไม่คิดว่าเจ้าสัวโม่จะพลาดแค่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
และมันชัดเจนมากว่าฉินซุ่ยซานที่เข้ามาเป็นสาวใช้ที่นี้ได้เป็นเพราะเจ้าสัวโม่
มู่นวลนวลทำเสียงไม่พอใจ : “ฉันไม่อยากเห็นหน้าหล่อนก็จริง แต่ไม่อยากให้หล่อนจากไปง่ายๆแบบนี้ คิดว่าบ้านของเราเป็นตลาดผักหรอ อยากจะเข้ามาก็เข้ามาอยากจะออกไปก็ออกไป?”
บ้านของเรา
สามคำนี้ทำให้โม่ถิงเซียวรู้สึกพอใจมาก
………..
สุกท้ายเธอก็ไม่ได้หลบจากเขาและช่วยเขาอย่างประณีประนอม
หลังจากเสร็จธุระโม่ถิงเซียวก็เดินไปเข้าห้องน้ำ
พอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าบนเตียงมีผ้าห่มเพิ่มมาอีกหนึ่งผืน
มู่นวลนวลห่มผ้าอีกผืนและเอาหมอนมากั้นตรงกลาง: “ตอนกลางคืนห้ามล่ำเส้นนี้ ส่วนนี้เป็นของฉัน ส่วนนั้นเป็นของคุณ ห้ามข้ามมานะ! ไม่งั้นจะแยกห้องนอน”
พูดจบก็จ้องไปที่โม่ถิงเซียวว่าเขาจะมีปฏิกริยาอย่างไร
โม่ถิงเซียวกวาดสายตามองหมอนที่กั้นตรงกลาง และเดินเข้าไปชี้ส่วนของมู่นวลนวล: “ส่วนนี้เป็นของคุณ?”
“ใช่” มู่นวลนวลพยักหน้า เธอยังพูดไม่ชัดเจนหรอ?
โม่ถิงเซียวเอาหมอนที่กั้นตรงกลางไปวางไว้ข้างเตียง ล้มตัวลงไปนอนข้างๆเธอและห่มผ้าผืนเดียวกัน : “งั้นผมก็เป็นของคุณ”
มู่นวลนวล: “………….”
แค่เดินไปเข้าห้องน้ำโม่ถิงเซียวโดนอะไรเข้าสิงหรือเปล่า ทำไมถึงพูดอะไรแบบนี้ออกมา?
……………
กลางดึกเวลาเที่ยงคืน ตอนนี้เมืองเซี่ยงไฮ้หนาวอย่างมาก
เสี่ยวชูเหอนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างถนนจะเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหามู่ลี่หยานเพื่อให้เขาเรียกคนขับรถมารับ
หรือคืนนี้เธอจะนอนตรงนี้ข้างถนน?
ทันใดนั้น มีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดตรงหน้าเธอ
และลดกระจกลง หน้าของผู้ชายที่อายุน้อยก็ปรากฏขึ้น : “คุณป้า”