ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 229 พามู่หวีนฉีออกมา

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวเริ่มหงุดหงิดหันกลับไปจับคางเธอมาจูบ : “พอแล้ว”

“…………..” เธอไม่ได้ขอให้เขาจูบเธอสักหน่อย

โม่ถิงเซียวเห็นมู่นวลนวลที่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงจับมือเธอแล้วเดินต่อ

ฟู่ถิงซีและซือเย่รอพวกเขาอยู่

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง”

“ถิงเซียว”

มู่นวลนวลหันไปพยักหน้าตอบรับซือเย่แล้วหันกลับไปทักทายฟู่ถิงซี : “ทนายฟู่”

ฟู่ถิงซียิ้มตอบรับเธอและเดินไปข้างๆโม่ถิงเซียวพูดคุยเกี่ยวเรื่องคดี

“เพราะว่าคดีนี้เป็นคดีพิเศษ โทษสูงสุดคือตัดสินให้มู่หวันฉีจำคุก3ปี” ฟู่ถิงซีพูดจบแล้วมองมู่นวลนวล

มู่นวลนวลก้มหน้ามองตัวเอง : “มีอะไรหรอ?”

ยังไม่ทันได้เข้าไปข้างใน ฟู่ถิงซีหยิบผ้าก๊อซออกมาจากกระเป๋าเอกสารส่งให้กับโม่ถิงเซียว : “พันไว้”

และแน่นอนว่าไม่ได้ให้โม่ถิงเซียวทำแต่เป็นมู่นวลนวล

โม่ถิงเซียวขมวดคิ้ว : “ไม่ต้อง”

ฟู่ถิงซียักไหล่เพื่อผ่อนคลาย : “เดิมทีทั้งสองฝ่ายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คดีนี้มันไม่มีอะไรมาก ฉันจะสู้ยากหน่อย ให้ความร่วมหน่อยนะ”

โม่ถิงน้ำเสียงเย็นชา : “ไร้สาระ”

เขาไม่ได้คิดอะไรมากหันกลับไปหาซือเย่ : “ซือเย่พาคุณผู้หญิงกลับไปที่รถ”

“ครับ” ซือเย่ทำความเคารพ

“ถ้างั้นฉันไปรอที่รถนะ” มู่นวลนวลเธอเข้าใจในสถานการณ์จึงไม่ได้ถามอะไรมาก

ตอนที่แจ้งความมู่หวันฉี แจ้งความเธอด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา แต่มู่นวลนวลไม่มีบาดแผลตรงไหนเลย การที่เธอจะเข้าไปฟังการพิจารนาคดีก็เข้าไปได้แต่อาจทำให้สู้คดียากขึ้น

และฟู่ถิงซีเขาเป็นคนทำงานอย่างระมัดระวังรอบคอบ และเขาไม่ยอมให้มู่นวลนวลเข้าไปข้างในด้วยสภาพที่ปกติแน่นอน

มู่นวลนวลไม่เข้าไปข้างในเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

แต่โม่ถิงเซียวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ วันนี้คนตระกูลมู่อยู่ที่นี้หมด เขากลัวว่าพอพิจารณาคดีจบแล้วคนบ้านนั้นจะเสียใจอย่างหนักทำให้มู่นวลนวลรู้สึกไม่ดี

หลังจากครั้งก่อนที่เรื่องของมู่หวันฉีเกิดขึ้น เขาก็ไม่วางใจอีกเลย

และเพราเหตุผลนี้ที่เขาจึงไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปที่คฤหาสน์ได้ง่ายๆ

เขาปฏิเสธทุกอย่างที่อาจทำให้มู่นวลนวลเป็นอันตราย

มู่นวลนวลเดินไปขึ้นรถกับซือเย่ เดินไปครึ่งทางก็ได้หันหลังกลับไปมอง

ร่างสูงโปร่งของโม่ถิงเซียวแม้จะมองจากระยะไกล เธอยังสัมผัสได้ถึงความเป็นเอกลักษณ์และความน่าเกรงขามในตัวเขา

แม้ว่าบางครั้งเขาจะมีอารมณ์แปลกๆมู่นวลนวลก็ยอมรับว่าโม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายที่ทำให้เธอหนีไปไหนไม่รอด

บางครั้งมู่นวลนวลคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป และคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างไม่ใช่ความจริง

“คุณผู้หญิง?”

เสียงของซือเย่ทำให้เธอเรียกสติกลับมาและรู้ว่าตัวเองหันกลับไปมองโม่ถิงเซียวแล้วเหมอลอย

“ไปเถอะครับ” เธอเรียกสติกลับมาแล้วเดินไปขึ้นรถกับซือเย่

พอขึ้นไปนั่งในรถ เธอมองไปที่ประตูศาลแล้วถามซือเย่ : “มู่หวันฉีจะโดนพิจารณาคดีจริงไหม?”

“ครับ คุณฟู่ไม่เคยทำงานพลาดสักครั้ง” ซือแย่พูดด้วยความมั่นใจ

มู่นวลนวลส่งข้อความวีแชทไปหาเซินเหลียงเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง

เซินเหลียงตอบข้อความเธอทันที: “เวรกรรมตามทัน”

จริงด้วย เวรกรรมมีจริง

คนที่ทำความผิดต้องโดนลงโทษ

มู่นวลนวลนึกถึงเรื่องของแม่โม่ถิงเซียว เวลาผ่านไปหลายปีแล้วเธอจึงคิดว่าการที่จะหาตัวคนที่อยู่เบื่องหลังการตายของแม่โม่ถิงเซียวเป็นเรื่องที่ยากมาก

และโม่ถิงเซียวเคยพูดไว้ว่าคนที่อยู่เบื่องหลังการตายของแม่เขาอาจเป็นคนใน“ตระกูลโม่” ถ้าเกิดเจอตัวแล้วจริงๆ ถึงตอนนั้นเขาจะเจ็บปวดมากแค่ไหน?

มู่นวลนวลกำลังตั้งท้องจึงทำให้ชอบคิดอะไรต่างๆนานา

เธอเงยหน้าขึ้นเห็นซือเย่เล่นโทรศัพท์

มู่นวลนวลแอบเข้ามาใกล้ๆอย่างเงียบๆ เธอได้เห็นว่าซือเย่กำลังดูรูปอยู่ ในรูมีผู้หญิงคนหนึ่งและเด็ก

มู่นวลนวลแปลกใจและถามเขา : “ซือเย่ นายแต่งงานแล้วหรอ?”

ซือเย่ทำตัวไม่ถูกจึบรีบปิดหน้าจอโทรศัพท์: “ครับ”

“ลูกชายนายน่ารักนะ อายุเท่าไหร่แล้ว?” เธอไม่ค่อยรู้เรื่องของซือเย่เท่าไหร่นัก ที่เธอถามเพราะเพียงเห็นว่าลูกชายเขาดูน่ารักเท่านั้น

ซือเย่พูดถึงลูกชายและดูมีความสุข : “4 ขวบครับ เขาดื้อมาก”

มู่นวลนวลรู้สึกได้ว่าเวลาซือเยพูดถึงลูกชายน้ำเสียงเขาจะเปลี่ยนไปเยอะมาก

เธอจึงคุยเรื่องนี้กับเขาต่อ

“คงจะเข้าเรียนอนุบาลแล้วใช่ไหม”

“ใช่ครับ พึ่งจะเข้าเรียนปีนี้”

“…………”

มู่นวลนวลกำลังตั้งท้องเธอจึงสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กมาก

แต่หลังจากที่ซือเย่หยากัยภรรยาก็กลายเป็นคนไม่ค่อยพูด อีกทั้งทำงานกับคนที่ไม่ค่อยพูดเลยอย่างโม่ถิงเซียว จึงทำให้เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดถึงเรื่องลูกสักเท่าไหร่ พอมีโอกาสพูดเขาจึงมีอะไรจะพูดเยอะแยะ

ทั้งสองคุยกันจนกระทั่งโม่ถิงเซียวและฟู่ถิงซีออกมา

“พวกเขากลับมาแล้ว”

มู่นวลนวลเห็นพวกเขา

เธอเปิดประตูรถออกให้โม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวขึ้นรถมา เขานั่งดึงเนคไทด์ที่คอ สีหน้าไม่ค่อยดี

ฟู่ถิงซีนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ

มู่นวลนวลเห็นสีหน้าของโม่ถิงเซียวแล้วหันไปมองฟู่ถิงซี

ฟู่ถิงซีทำลักษณะมือที่สื่อว่าไม่รู้เรื่อง

พอเห็นสีหน้าของฟู่ถิงซีที่ปกติ ไม่เหมือนคนที่แพ้คดี แล้วโม่ถิงเซียวเป็นอะไร?

“เป็นอะไร?” มู่นวลนวลถามเขา

โม่ถิงเซียวส่ายหน้าไม่พูดอะไรสักคำ

ทันใดนั้นมีคนเคาะกระจกรถฝั่งมู่นวลวนล

เธอหันไปมองจึงเห็นใบหน้าที่อ่อนโยนไม่น่าเป็นอันตรายของซือเฉิงยวี่

มู่นวลนวลขมวดคิ้วแล้วเข้าใจทันทีว่าทำไม่สีหน้าของโม่ถิงเซียวถึงเป็นแบบนี้

มู่นวลนวลลดกระจกรถลงยังไม่ทันได้พูดอะไร ซือเฉิงยวี่ทั้งพูดแล้วก็ยิ้มออกมา : “นวลนวล ได้ยินว่เธอท้องแล้ว ยินดีด้วยนะ”

มู่นวลนวลสีหน้าเย็นชา “ขอบคุณ”

ซือเฉิงยวี่หันไปมองโม่ถิงเซียวแล้วพูด : “ถิงเซียว พอหลานคลอดได้ 1 เดือนแล้วอย่าลืมเชิญฉันไปงานเลี้ยงฉลองนะ”

โม่ถิงเซียวหันมามองเขาเพียงแค่หางตาด้วยความเย็นชา

มู่นวลนวลเลื่อนกระจกรถขึ้นแล้วเร่งซือเย่ : “ไปกันเถอะ”

เธอที่ตอนนี้เห็นเฉิงซือยวี่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้สึกว่าใบหน้าที่อ่อนโยนและดูไม่มีอันตรายของเขา น่ากลัวกว่าโม่ถิงเซียวมาก

“ถิงเซียว สรุปแล้วนายมีปัญหาอะไรกับวูปเปอร์สตาร์ซือ(ซือเฉิงยวี่)กันแน่?” ฟู่ถิงซีก็เป็นทนายความของ Shengding Media ด้วยงานของเขาจึงทำให้เขาไม่ค่อยรู้เบื้องลึกเบื่องหลังสักเท่าไหร่นัก

เรื่องคราวก่อนเขาได้ยินจากคนอื่น แต่ความจริงแล้วเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“กลับกันก่อนเถอะ” โม่ถิงเซียวไม่อยากพูดถึง ฟู่ถิงซีเห็นเช่นนั้นจึงไม่ถามต่อ

คราวก่อนที่มู่นวลนวลกลับไปที่บ้านก็เห็นว่าซือเฉิงยวี่และมู่หวันฉีมีท่าทางสนิท ที่มู่หวันฉีถูกพิจารณาคดีในศาลวันนี้ ซือเฉิงยวี่จะเข้าร่วมฟังด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ว่าแค่เห็นหน้าซือเฉิงยวี่คงไม่พอที่จะทำให้โม่ถิงเซียวต้องมีอาการอย่างนี้ได้

ทันใดนั้น มู่นวลนวลก็เข้าใจอย่างโจ่งแจ้ง ซือเฉิงยวี่ก็นับว่าเป็นคนในตระกูลโม่ โม่ถิงเซียวสามารถทำให้มู่หวันฉีมาขึ้นศาลได้ ซือเฉิงยวี่ก็มีวิธีที่จะพามู่หวันฉีออกมาได้!

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท